สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่1056 สาวใช้ตัวแสบ 960

ตอนที่1056 สาวใช้ตัวแสบ 960
หลี่เหอไท้พาจงหยุนซางมาดูจงหวีฉวนที่คุก ขอให้จงหวีฉวนยกจงหยุนซางให้แต่งงานกับเขา จงหวีฉวนตอบตกลงแล้วก็ยิ้ม
ตอนนั้นหลี่เหอไท้ดูไม่ออกว่ายิ้มนั้นหมายความว่ายังไง ต่อมาเขาถึงได้เข้าใจ จงหวีฉวนเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองขนานนั้น สามารถอยู่มาจนทุกกวันนี้ได้
คิดมาแล้วคงเป็นเพราะห่วงจงหยุนซาง จงหวีฉวนทำไมคุณไม่คิดถึงชีหรั่นบ้าง เธอก็เป็นลูกสาวคุณเหมือนกันนะ
หลังจากที่จงหยุนซางแต่งงานกับเขา จงหวีฉวนก็ตายไป เขาฆ่าตัวตายในคุก
หลังจากที่เยว่มู่หลานรู้ว่าจงหวีฉวนตายไปแล้วก็ป่วยมาโดยตลอด ปกติทะเลาะกัน เวลานี้ไม่มี จงหวีฉวนแล้ว ในใจของเยว่มู่หลานก็โหวงเหวง สุดท้ายเธอก็เลือกกินยาตาย
หลี่เหอไท้เห็นว่าพ่อแม่ของจงหยุนซางล้วนตายไปหมดแล้ว ชีหรั่นก็ไม่มีทางรักเขาได้ เขาเอาเธอมาเก็บไว้ในใจก็พอแล้ว หลี่เหอไท้พยายามดูแลจงหยุนซางให้ดีที่สุด แทนที่จะไปหาแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก ไม่สู้แต่งงานกับคนที่รู้จักดีกว่า หยุนซางเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง นี่ก็ถือว่าดีพอแล้ว
เช้ามืดเซี่ยชีหรั่นได้ตื่นขึ้นมา เธอเปิดประตูห้องออกไป ในใจยังคิดถึงจ้าวเหวินอิง สับสนอยู่ว่าจะกลับบ้านหรือว่าไม่กลับบ้านดี
“แม่คะ แม่ว่าหนูกลับบ้านดีไหม? ” เสียงแผ่วเบามีแค่เธอคนเดียวที่ได้ยิน
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่หน้าต่าง จ้าวเหวินอิงที่อยู่ไกลถึงประเทศจีนไม่สามารถตอบปัญหาของเธอได้
เดินเอื่อยๆไปที่ห้องโถง เซี่ยชีหรั่นลากเก้าอี้ออกมานั่ง
มีจดหมายมา ลายมือบนจดหมายนั้นคุ้นเคยมาก เป็นลายมือของสวีเห้าเซิง เขาทิ้งจดหมายไว้ให้เธอ เซี่ยชีหรั่นหัวใจกระตุก เขาไม่ได้ไปที่ไหนไกลสักหน่อยทำไมทิ้งจดหมายไว้? เธอเปิดซองจดหมายขึ้น เพราะอยากจะหาความจริง
“เสี่ยวอ้าย นี่คือตั๋วเครื่องบินไปตงเจียง ของคุณกับเนี่ยนโม่จองไว้เรียบร้อยแล้ว คุณกลับไปเถอะ ผมยังมีเรื่องทางนี้ที่ต้องจัดการ”
พออ่านประโยคสั้นๆไม่กี่คำนี้จบ เซี่ยชีหรั่นก็ร้องไห้ พี่สวี คุณดีกับฉันขนานนี้ จะให้ฉันตอบแทนคุณยังไง?
ที่เธอสับสนว่าจะกลับบ้านดีไหม เพราะว่าเธอรับปากเขาไว้แล้วว่าสองเดือน พี่สวี ของขวัญที่คุณให้ฉันในเวลานี้มีค่าเหมือนทองเป็นพันๆชั่งเลย
เธอกลั้นน้ำตาไว้และอ่านตัวหนังสือด้านล่างจนจบ พี่สวี คุณรอฉันก่อนนะ
พี่สวีนั่งอยู่ที่ห้องทดลอง ใจไม่อยู่กับตัวนานแล้ว
เสี่ยวอ้าย ตอนนี้คุณเห็นจดหมายรึยัง? คุณไปแล้วใช่ไหม? สวีเห้าเซิงไม่ได้ไปส่งเซี่ยชีหรั่น ไม่ใช่ไม่ว่างแต่เป็น เพราะว่ากลัว เขากลัวว่าเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ไม่อยากให้เธอไปตงเจียง
เขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นเสียใจไปตลอดชีวิต และเขาไม่อาจทนให้เธอต้องละอายใจไปตลอดชีวิตได้ ดังนั้นเขาจึงโหดร้ายกับตัวเอง และปล่อยให้เซี่ยชีหรั่นไป
สิบเอ็ดโมงแล้วเสี่ยวอ้ายคุณไปสนามบินหรือยังนะ? สวีเห้าเซิงมองออกไปยังนอกหน้าต่าง
เวลาบ่ายสองโมง เซี่ยชีหรั่นพาเนี่ยนโม่เดินผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยที่หรูหรา ในใจนั้นได้บินไปที่ตงเจียงตั้งนานแล้ว ที่นั่นเป็นเมืองที่คุ้นเคยจนไม่รู้จะคุ้นเคยยังไงแล้ว
“เนี่ยนโม่ พวกเรากลับบ้านกันนะ” เซี่ยชีหรั่นกล่าวด้วยความรู้สึกผิด หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็ตระหนักได้ว่า บ้านที่เธอคิดมาตลอดว่าเป็นบ้าน แท้จริงแล้วคือตงเจียง ซึ่งมันเป็นแบบนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง
“ แม่ฮะ ไม่ใช่ว่าเพิ่งออกจากบ้านมาเหรอฮะ”เนี่ยนโม่มองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างสงสัย วันนี้แม่ดูมีความสุขมาก นี่คือสิ่งที่เนี่ยนโม่เห็นชัดเจนที่สุด แม่บอกชัดเจนว่าจะไปเยี่ยนคุณยายนิ ทำไมถึงบอกว่ากลับบ้านล่ะ?
เซี่ยชีหรั่นลูบศีรษะของเนี่ยนโม่ ด้วยรอยยิ้มที่สดใส
เมื่อเห็นความวุ่นวายที่สนามบิน หัวใจของเซี่ยชีหรั่นก็สงบมาก ความเงียบฉีกทึ้งได้หัวใจของเธอ ผ่านมาสามปีแล้ว พวกเขาทั้งหมดยังสบายดีไหมนะ?
บ่ายโมงถึงเวลาที่จะต้องออกเดินทางแล้ว เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เมืองที่เธออาศัยอยู่เป็นเวลาสามปีด้วยความอาลัยอาวรณ์แวบหนึ่ง เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาสวีเห้าเซิงหลังจากโทรออกสามครั้งก็ไม่ติด เซี่ยชีหรั่นเมมริมฝีปากของตัวเองไว้ ในเมื่อสวีเห้าเซิงปิดเครื่อง ดูเหมือนว่าเขาคงจะไม่อยากบอกลากันแบบนี้
“ไปกันเถอะ เนี่ยนโม่ ” ตอนเจ็ดโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ก็จะถึงจีนแล้ว
เนี่ยนโม่นั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก เขามองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
บ้านตระกูลหลี่ที่ตงเจียง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบ
“พ่อ แม่” หลี่เหอไท้พาจงหยุนซางยืนขึ้น และทักทายผู้เฒ่าทั้งสองที่เข้ามา
“เหอไท้ หยุนซางอยู่ด้วยเหรอลูก! ” จ้าวเหวินอิงถามด้วยความอ่อนโยน พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่ มีเพียงชีหรั่น เท่านั้นที่ไม่อยู่ที่นี่ ลูกคนนี้มีชีวิตที่ดิ้นรนลำบากจ้าวเหวินอิงเป็นหนี้ในวัยเด็กของเธอไว้
“แม่ ตอนบ่ายผมจะไปซื้อผักกับหยุนซางนะครับ” หลี่เหอไท้กล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อมองไปยังพ่อแม่ของเขาที่ไม่ได้ดูอ่อนเยาว์อีกต่อไป ในใจหลี่เหอไท้จึงรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
“เด็กคนนี้ ที่บ้านมีผักอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ จ้าวเหวินอิงระงับความเศร้าในใจพลางพูดติดตลก
“ไม่ใช่เพราะว่าอยากออกไปเที่ยวกันสองคนหรอกนะ ผักให้คนใช้ไปซื้อ ถ้าพวกลูกต้องการออกไปเที่ยวก็ไปเถอะ! ”
“แม่ ผมไม่ได้โกหกแม่นะ ผมรู้สึกว่าวันนี้ครอบครัวของเราจะมีแขก” หลี่เหอไท้กล่าวโดยไม่ได้ตั้งใจ คนแรกที่จ้าวเหวินอิงนึกถึงคือเซี่ยชีหรั่น ชีหรั่นจะมาใช่ไหม? สามปีแล้ว ลูกทนได้ยังไงกัน
“ไปเถอะ” หลี่หมิงจุ้นจับมือภรรยาของเขาเดินออกไปจากสายตาของทั้งสองคน
จงหยุนซางเป็นแม่คนแล้ว เธอมองไปที่จ้าวเหวินอิง และสามารถเห็นความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของเธอได้ เธอกำลังคิดถึงชีหรั่น ถ้าตอนแรกเธอไม่ถูกผีดลใจ ไม่เห็นด้วยกับงานแต่งงานตอนนั้น ตอนนี้จะยังเป็นอย่างนี้ไหม? พ่อจะยังสบายดีใช่ไหม แม่ก็จะไม่ฆ่าตัวตายใช่หรือเปล่า ชีหรั่นเองก็จะไม่หายไป
“คุณคิดอะไรอยู่? ” หลี่เหอไท้เฝ้ามองจงหยุนซางจมอยู่ในความคิด ทุกครั้งจะแสดงสีหน้ารู้สึกผิดออกมา มันทำให้เขาทนไม่ได้ มันจบลงแล้ว หยุนซางไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง
จงหยุนซางยิ้มอย่างอ่อนแอ เธอรักเย่เชินหลิน หลายปีที่ผ่านมานี้ จงหยุนซางขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ได้พบเจอกับหลี่เหอไท้ เธอเชื่อเสมอว่าเธอติดค้างเย่เชินหลิน ตอนนี้เธอถึงได้เข้าใจ ว่าแท้จริงแล้วคนที่เธอติดค้างก็คือหลี่เหอไท้
“ไปกันเถอะ” จงหยุนซางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ไปที่ไหน? ”
“คุณบอกว่าจะไปซื้อผักไม่ใช่เหรอ?” จงหยุนซางกล่าวด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าคุณชายหลี่คิดได้ยังไง ถึงได้หาข้ออ้างมาแบบนี้
หลี่เหอไท้ยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาจับมือของจงหยุนซางเดินไปทางโรงรถ
“ทำไมคุณถึงมาที่นี่ตลอดเลย? ” จงหยุนซางมองดูฝูงชนที่กำลังผ่านไปมา และถามความสงสัยของตัวเองออกมา พวกเขาจอดรถอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาสิบห้านาทีแล้ว
หลี่เหอไท้เพ่งมองไปที่ป้ายรถเมล์ เขารู้ว่าจ้าวเหวินอิงอยากเจอชีหรั่น ความปรารถนานี้เขาไม่อาจช่วยเธอทำให้สำเร็จได้ หลี่เหอไท้หวังว่าจะได้เห็นด้านหลังที่คุ้นเคยจากป้ายรถเมล์นั้น
จงหยุนซางเห็นว่าหลี่เหอไท้ไม่ได้ตอบ เธอมองตามสายตาของเขาไปที่ป้ายรถเมล์ พลันหัวใจของเธอก็รู้สึกแปรปรวน สามปีแล้ว ลูกของพวกเขาก็อายุครบ หนึ่งขวบแล้ว จงหยุนซางยังได้เห็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหัวใจของหลี่เหอไท้ คนที่เขารักที่สุดก็คือเซี่ยชีหรั่น เพื่อที่จะช่วยทำให้เขาปล่อยวางได้ ก็คงต้องตามน้ำไป ในใจของหลี่เหอไท้ไม่เคยเปลี่ยนไป ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วเธอจะทำยังไงได้ อีกอย่างเธอก็เหมือนแต่ก่อนแล้ว ไม่ใช่จงหยุนซางคนก่อน
“เหอไท้ คุณดูนั้นสิว่าเหมือนชีหรั่นไหม ? ”
จงหยุนซางมองไปที่ผู้หญิงที่จูงเด็กอยู่ไม่ไกล ลูกของชีหรั่นยังอยู่อีกเหรอ? ชีหรั่นเป็นคุณใช่ไหม ?
หลี่เหอไท้ไม่พูดพร่ำทำเพลงเหยียบคันเร่งไปที่ประตูของป้ายรถเมล์ทันที เขาติดนิสัยอย่างหนึ่งมาโดยตลอด นั้นคือชอบมาดูที่ป้ายรถเมล์ คาดหวังเสมอว่าต้องมีสักวันที่ชีหรั่นจะเดินออกมาจากข้างในนั้น
“เนี่ยนโม่ จะถึงบ้านคุณยายแล้วนะ” เซี่ยชีหรั่นคิดพลางบอกเนี่ยนโม่ว่าถึงบ้านแล้ว
“แม่ฮะ ทำไมที่นี่ไม่เหมือนกับที่บ้านของเรา? ” เนี่ยนโม่มองไปที่ตงเจียงซึ่งแตกต่างจากปารีส บนหัวมีเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่อยู่เต็มไปหมด
“เนี่ยนโม่ นี่ต่างหากคือบ้านของลูก”
เซี่ยชีหรั่นเอ่ยบอกเนี่ยนโม่ว่า ที่นี่ต่างหากที่เป็นบ้านของเรา
“ชีหรั่น”
เสียงที่ขาดหายไปเป็นนานทำให้ร่างกายของเซี่ยชีหรั่นแข็งทื่อ เธอไม่กล้าที่จะหันหน้ากลับไป กลัวว่ามันจะเป็นเพียงความฝัน
“ชีหรั่น เป็นคุณจริงๆ” อีกเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอีกครั้ง จงหยุนซางเดินมาข้างหน้าและจับมือของเซี่ยชีหรั่นไว้
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่หลี่เหอไท้และจงหยุนซางดวงตาเต็มไปด้วยสีแดงๆ คนแรกที่พบหลังจากที่กลับบ้าน คาดไม่ถึงว่าจะเป็นทั้งสองคน แต่พี่หยุนซางไม่ใช่ว่าแต่งงานกับเย่เชินหลินแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วมาปรากฏตัวกับพี่เหอไท้ได้ยังไง เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ทั้งสองคนด้วยความสงสัย บนใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ไม่มีความรู้สึกอื่นเลย
“ พี่เหอไท้ พี่หยุนซาง” มือของเซี่ยชีหรั่นกำแน่นขึ้น เธอไม่กล้ามองจงหยุนซาง ไม่กล้าเผชิญหน้ากับหลี่เหอไท้
“แม่คิดถึงคุณมาก” หลี่เหอไท้เอ่ยเสียงเบา ใช่ เป็นจ้าวเหวินอิงที่คิดถึงเซี่ยชีหรั่นมาก เธอมักจะเอาเรื่องที่เซี่ยชีหรั่นออกจากตงเจียงมาเป็นความผิดของตัวเอง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ สามปีมานี้จ้าวเหวินอิงฝากเงินไว้ในบัตรใบนั้นที่จะให้เซี่ยชีหรั่นตลอด เธอหวังว่าชีหรั่นจะสามารถใช้มันได้
“ขอโทษ” เซี่ยชีหรั่นจับมือของเนี่ยนโม่ไว้แน่น ที่เธอพูดได้ในตอนนี้มีแค่คำว่าขอโทษ เธอไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก จะบอกว่าเธอรู้สึกผิดหวังที่เห็นเย่เชินหลินแต่งงานงั้นเหรอ? หรือบอกว่าเพื่อลูกที่อยู่ในท้องของเธอแล้วต้องไปอยู่โดดเดี่ยวในต่างประเทศ ไม่ว่าจะแก้ตัวแค่ไหนก็มีเหตุผล
“คนกันเองทั้งนั้น ขอโทษอะไรกัน”
หลี่เหอไท้ยิ้มตลอดเวลาและมีความสุขอย่างจริง
“เนี่ยนโม่มาเรียกคุณลุง คุณป้าเร็ว”เซี่ยชีหรั่นดึงเนี่ยนโม่มาใกล้ๆ เนี่ยนโม่ ยิ้มและเอ่ยเรียก“สวัสดีฮะคุณลุงคุณป้า”
“เนี่ยนโม่เก่งจริงๆ” หลี่เหอไท้และจงหยุนซางกล่าวพร้อมเพรียงกัน พวกเขาทั้งสองสบตากันพลางยิ้มให้กัน
เมื่อมองดูตัวเล็กที่คล้ายเย่เชินหลิน จงหยุนซางก็รู้สึกผิดน้อยลงมาก
“ชีหรั่น หลายปีมานี้ คุณเป็นอย่างไรบ้าง! ”
“ป่ะ ขึ้นรถเถอะ” หลี่เหอไท้ขัดจังหวะการตอบของเซี่ยชีหรั่น ผู้หญิงคนเดียวจะอยู่ได้ยังไง เขาไม่ต้องการฟังคำตอบของเธอ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีหลี่เหอไท้ก็ไม่อยากฟังคำตอบ
จงหยุนซางแอบมองท่าทางของหลี่เหอไท้ และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ชีหรั่น ขึ้นรถ ผมเดาว่าถ้าแม่รู้ว่าคุณกลับมาต้องดีใจมากแน่ ”
จ้าวเหวินอิงป่วยมาหลายวันพลางเพ้อละเมอถึงจงหยุนซางและชีหรั่น เธอเห็นอย่างชัดเจนว่าจ้าวเหวินอิงเพ้อชื่อชีหรั่นด้วยสีหน้ามีความสุข รอจนเธอตื่นขึ้นมาแล้วไม่มีเซี่ยชีหรั่น ความหวังทั้งหมดของเธอก็หายไป และมองไปที่จงหยุนซางด้วยความผิดหวัง จงหยุนซางก็รู้สึกผิดอย่างไม่มีเหตุผล
“ฉันไม่กตัญญูเอาซะเลยจริงๆ”
เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยเสียงแผ่วเบา และนิ่งมาก ดูเหมือนว่าเนี่ยนโม่จะรู้สึกถึงอารมณ์ของเซี่ยชีหรั่น เขาดึงเซี่ยชีหรั่นและให้กำลังใจเธอโดยไม่พูดอะไร
หลี่เหอไท้เปิดประตูและจัดแจงให้เนี่ยนโม่นั่งดีๆพลางคาดเข็มขัดให้อย่างใส่ใจ
เมื่อจงหยุนซางดูฉากนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกสงสัยว่าเธอควรจะมีความสุขหรือเศร้ากันแน่ ลูกของพวกเขาก็ไม่เห็นหลี่เหอไท้จะใส่ใจขนานนี้ เมื่อรักแล้วก็ต้องรักทั้งหมดของเขาด้วยงั้นเหรอ?

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset