สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1068 สาวใช้ตัวแสบ 972

ตอนที่ 1068 สาวใช้ตัวแสบ 972
สวีเห้าเซิงยิ้มแล้วเอ่ย “ถ้าฉันมาช้าไปแล้วเธอหาทางกลับบ้านไม่เจอจะทำไง”
พูดทีเล่นทีจริง คนอื่นฟังไม่ออกแต่เซี่ยชีหรั่นฟังออก เธอรับปากสวีเห้าเซิงว่าจะแต่งงานด้วย เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าจะตอบยังไง จึงตัวแข็งทื่อ
“พี่สวี คุณพักที่ไหน”
เซี่ยชีหรั่นแอบปวดหัวแต่ไม่สามารถปล่อยไปได้ นี่เป็นกรรมสินะ ทุกอย่างมีราคา ตามใจครั้งเดียวก็ปวดหัว
สวีเห้าเซิงเกือบจะโพล่งออกไปว่าพักที่เดียวกับเธอได้ไหม คำพูดชัดเจนแบบนั้นเขาพูดไม่ออก ต่อให้พูดไปแล้วไม่ได้ดังใจหวังก็ตาม
เขาหัวเราะตัวเองที่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้ ใครใช้ให้อีกฝ่ายเป็นเซี่ยชีหรั่นล่ะ แค่เป็นเธอ สวีเห้าเซิงไม่มีทางขัดได้
“เดี๋ยวพักที่โรงแรมไปก่อน”
สวีเห้าเซิงไม่รู้ว่าทำไมถึงบอกเซี่ยชีหรั่นไปแบบนั้น เพราะได้รับความเห็นใจเหรอ หรือเพราะอยากคุยกับเซี่ยชีหรั่นต่ออีกนิด
ไม่ว่าเหตุผลใดนั่นก็เพราะคนคนเดียว
“พี่สวีถ้าไม่รังเกียจ เชิญพักที่บ้านของผมได้” เย่เชินหลินเอ่ยเรียกคนอื่นว่าพี่เป็นครั้งแรก ต่อให้เสียเปรียบเขาก็ยอม
ไห่ลี่หมินมองเย่เชินหลินอย่างไม่อยากเชื่อ นี่คือเย่เชินหลินที่เขารู้จักเหรอ
เย่เชินหลินที่เย็นชาเย่หยิ่งก็มีวันนี้ ชีหรั่น ตำแหน่งของคุณในหัวใจของเขาเกินขีดจำกัดที่เขาจะทนได้
สวีเห้าเซิงปฏิเสธ “วันนี้พักที่นี่ไปก่อนละกัน”
เขาไม่แน่ใจว่าเซี่ยชีหรั่นพักที่ไหน เย่เชินหลินไม่ใช่คนอ่อนแอ หากชีหรั่นพักที่บ้านเย่เชินหลินจริง เขาไปบ้านตระกูลเย่จะไม่เห็นพวกเขาพลอดรักกันหรอกหรือ
หลินเจี๋ยเห็นทั้งสามคนแล้วก็เข้าใจ เซี่ยชีหรั่นกลายเป็นศูนย์กลางการต่อสู้อีกครั้ง เพียงแต่หลินเจี๋ยสงสัย สวีเห้าเซิงชอบเซี่ยชีหรั่นจริงๆเหรอ
“ฮัลโหล ว่าไง” ได้ยินที่ปลายสายพูดเซี่ยชีหรั่นก็ร้องเสียงหลง “อะไรนะ เนี่ยนโม่ร้องหาฉันเหรอ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
เนี่ยนโม่ บ้าจริง เธอลืมเนี่ยนโม่ไปได้ไง เธอเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ
“อี้ชิง ฉันจะกลับแล้ว”
โทรศัพท์สายนี้มีทั้งคนคนดีใจและเสียอารมณ์ผสมปนเป
“ชีหรั่น จะกลับแล้วเหรอ งั้นฉันจะกลับด้วย ดีเลยจะติดรถไปด้วย ดึกแล้ว ไม่รู้ว่าหมิงเย้าไม่เจอพวกเราจะร้องหารึเปล่า” จิ่วจิ่วเห็นแล้วก็นึกถึงลูกตัวเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มหวาน เผยลักยิ้มอย่างไม่ลังเล
ติดรถไปด้วย คำนี้ทำให้เย่เชินหลินดีใจมาก ผู้หญิงคนนั้นใช้ได้เลย เย่เชินหลินเริ่มคิดวางแผน จะให้จิ่วจิ่วพาเซี่ยชีหรั่นไปบ้านตระกูลเย่ยังไง เขาจะไปทำได้อย่างไรแต่เย่เชินหลินก็ยังมีความหวัง
“งั้นผมไปส่งเอง” เย่เชินหลินลากเซี่ยชีหรั่นออกไปจากห้อง สายตาร้อนรนของสวีเห้าเซิงเขาเองก็รับรู้ได้ แล้วชีหรั่นจะไม่รู้เชียวเหรอ
เขาไม่อาจให้โอกาสสวีเห้าเซิงแม้เพียงนิด
“เห้าเซิง พรุ่งนี้มาพักที่ห้องฉันแล้วกัน เราก็คนกันเองไม่ใช่เหรอ” หลินเจี๋ยเอ่ยชวนอย่างอ่อนโยน
ในเมื่อคนพวกนี้ปรากฏตัวพร้อมกัน ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์เป็นไง ให้อยู่ที่หลินเจี๋ย,ไม่รู้จะได้เจอเสี่ยวอ้ายมั้ย ถ้าได้เจอก็คงดี
“โอเค รอให้ส่งรุ่นพี่กลับไปก่อนแล้วจะไปพักกับนายนะ”
สวีเห้าเซิงพูดกับหลินเจี๋ยแต่สายตากลับมองแต่แผ่นหลังของเซี่ยชีหรั่น สายตาร้อนแรงแม้แต่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจ
“งั้นเราเล่นเกมส์แค่นี้ละกัน พี่เขยฝากส่งพี่ผมกลับบ้านด้วยนะ เดี๋ยวผมขอคุยกับเพื่อนเก่าสักหน่อย” หลินเจี๋ยไม่ชอบไห่ลี่หมิน แต่เมื่อรักใครแล้วก็จะรักสิ่งหรือคนที่เกี่ยวข้องกับคนคนนั้นด้วย หลินหลิงชอบใครคนนั้นก็คือคนที่เขาเคารพด้วย
“ได้สิ เดี๋ยวผมไปส่งหลินหลิงที่บ้าน นี่ก็ดึกแล้ว” ไห่ลี่หมินจูงมือหลินหลิงออกไป
หลินหลิงมองมือที่จูงกัน เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรไปชั่วขณะ เดิมทีเธอก็พูดไม่เก่งอยู่แล้ว ยิ่งเห็นผู้หญิงคนอื่นอยู่ในอ้อมกอดไห่ลี่หมิน เธอจึงโกรธมาก แต่โกรธก็เท่านั้นเธอจะไปทำอะไรได้ หย่าเหรอ ไม่ เธอไม่ทำแบบนั้นหรอก คิดถึงน้องชายที่ไปอเมริกาตั้งหลายปี หลินหลิงไม่อยากให้ลูกโตแบบบ้านไม่เป็นครอบครัว
หลินหลิงเงยหน้ามองไห่ลี่หมินอย่างตั้งใจ ไห่ลี่หมินกับเย่เชินหลินเทียบกันแล้วไม่ต่างกันนัก มิน่าผู้หญิงถึงวิ่งเข้าหา
ไห่ลี่หมินเปิดประตูให้หลินหลิงอย่างอ่อนโยนราวกับแฟนรักคนแรกของเธอ แถมยังโอบเอวให้ความรู้สึกปลอดภัย
หลินหลิงยังไม่วางใจ เห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วเธอก็กลัว
“ลี่หมิน เราไม่หย่ากันได้มั้ย” สายตาของหลินหลิงแทบจะอ้อนวอนไห่ลี่หมิน ใบหน้าที่ปกติเย็นชายามนี้ดูอ่อนแอ
“หลินหลิง คุณคิดอะไรอยู่ ชีวิตนี้ผมมีคุณเป็นภรรยา เธอคุณไม่หย่าไม่หนี ผมจะอยู่เคียงข้างคุณจนตาย” ประโยคนี้ไห่ลี่หมินพูดความจริง ความในใจ เขาตัดสินใจแต่งงานกับหลินหลิงวันนั้นแล้วก็ตั้งใจจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า
“ลี่หมิน ขอบคุณนะ น้องชายของฉันขี้อ้อนตั้งแต่เด็ก เป็นเพราะแม่ของฉัน ฉันไม่ต้องการให้ลูกเดินตามรอยเท้าของเราในอนาคต”หลินหลิงกล่าวอย่างพอใจ เธอก็ดีใจที่ได้อยู่กับไห่ลี่หมิน แม้ว่าไห่ลี่หมินจะมีคนอื่นซ่อนอยู่ในใจ เขาก็จะปฏิบัติต่อเธออย่างดี มันก็ยากที่จะสับสน ดังนั้นทำไมต้องคาดคั้น สุดท้ายแล้วก็มีแต่คนเสียใจ
“หลินหลิง สวีเห้าเซิงเป็นเพื่อนน้องชายของคุณจริงๆหรือ” ไห่ลี่หมินถามขณะขับรถ สวีเห้าเซิงเป็นเพื่อนหลินเจี๋ยแล้วสวีเห้าเซิงไปรู้จักชีหรั่นได้อย่างไร แถมมีความสัมพันธ์ที่คุ้นเคยกันมาก เขาสังเกตเห็นเมื่อชีหรั่นปรากฏตัว สวีเห้าเซิงมีความสุขมาก
“เท่าที่ฉันรู้ พวกเขาดูเหมือนจะเป็นเพื่อนที่ดี เสี่ยวเจี๋ย เคยบอกฉันเมื่อครั้งก่อน” หลินหลิงคิดถึงเสี่ยวเจี๋ยและบอกเธอว่าไม่ต้องกังวลเขาพบเพื่อนคนแรกในสหรัฐอเมริกาชื่อว่าสวีเห้าเซิง หลินหลิงไม่เคยเห็นคนๆนี้แค่ได้ยินชื่อ แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอตัวจริงในวันนี้
ไห่ลี่หมินคิดถึงการต่อสู้ระหว่างเย่เชินหลินและสวีเห้าเซิงในตอนนี้นี่เป็นการเผชิญหน้าครั้งแรก ไม่รู้ว่าสวีเห้าเซิงจะกลับไปเมื่อไร ถ้าเขาลงมาที่ตงเจียง ไห่ลี่หมินไม่รู้จริงๆว่าทั้งสองคนจะทำอะไร สวีเห้าเซิงไม่ใช่คนง่ายๆด้วย!
หลินเจี๋ยพา สวีเห้าเซิงไปที่ดาดฟ้าและมองไปที่ตงเจียงที่เงียบสงบในคืนที่เงียบสงบ
“เห้าเซิง ดูเหมือนนายจะชอบเซี่ยชีหรั่นมาก” หลินเจี๋ยหยิบบุหรี่ออกมาและยื่นให้สวีเห้าเซิงเขาต้องการตรวจสอบว่ามันเป็นภาพลวงตาของเขาเองหรือไม่
สวีเห้าเซิงหยิบบุหรี่ขึ้นมาดูสักสองสามนาทีแล้วยื่นให้ หลินเจี๋ย”ฉันไม่ได้สูบบุหรี่มาเกือบสามปีแล้ว”
ครึ่งปีที่แล้วเซี่ยชีหรั่นไปพบแพทย์กับเขา หมอบอกเขาว่าอย่าสูบบุหรี่อีก เขายังสอนด้วยความเคารพว่าถ้าคุณสูบบุหรี่คุณจะเอาควันบุหรี่มือสองมาให้ลูกๆและภรรยาของคุณ คุณก็เห็นว่าภรรยาของคุณสวยมาก ถ้าโดนบุหรี่มือสองมากเกินไปจะไม่สวยเอาซะเลย
สวีเห้าเซิงคิดอย่างกระวนกระวายว่าฉันควรจะสูบบุหรี่มากกว่านี้ แต่เมื่อเห็นเสี่ยวอ้ายกังวลและขัดใจ หัวใจของสวีเห้าเซิงก็อ่อนลง เขาเฝ้าดู เสี่ยวอ้ายกังวลเกี่ยวกับตัวเองและคนเหล็กก็อ่อนโยนและอ่อนหวานลงทันที
เซี่ยชีหรั่นมาทานอาหารกับสวีเห้าเซิงทุกวันเพื่อที่เขาจะได้ไม่สูบบุหรี่ ตราบใดที่เขาต้องการสูบบุหรี่เซี่ยชีหรั่นจะให้ขนม เขาเฝ้าดู เซี่ยชีหรั่นเข้าและออก ไม่เคยยอมแพ้ ในชั่วข้ามคืน เขาก็ลืมเรื่องสูบบุหรี่ไปเลย
“นายไม่สูบบุหรี่เหรอ” หลินเจี๋ยไม่อยากจะเชื่อเลย สวีเห้าเซิงสูบบุหรี่และดื่มเหล้าเก่ง เขามีแฟนแต่แฟนของเขาเกลียดกลิ่นบุหรี่ เขาจึงไม่ค่อยสูบบุหรี่ แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะเลิก
ในตอนนั้น สวีเห้าเซิงยังคงหัวเราะเยาะ สวีเห้าเซิงที่อยากอยู่กับบุหรี่ไปตลอดชีวิต แต่เขาไม่รู้ว่าเขาเลิกกันในเวลาสั้นๆ มันอาจเป็นเพราะเซี่ยชีหรั่น?
“หลินเจี๋ยถ้านายชอบใครสักคน เห็นเธอกลัวกังวล เห็นเธอพิจารณาสิ่งต่างๆเพื่อนาย ความชอบทั้งหมดของนายจะเปลี่ยนไป แม้ว่านายจะไม่ชอบก็ตาม” สวีเห้าเซิงพูดด้วยความซึ้งใจ เสี่ยวอ้ายเปลี่ยนเขาไปมากแค่ไหน สวีเห้าเซิงไม่สามารถบอกได้
“เห้าเซิง นายชอบเธอจริงๆหรือ” หลินเจี๋ยถาม เชื่อว่า สวีเห้าเซิงสามารถเข้าใจได้ว่าเป็นใคร
“ชอบสิ ทุกเมื่อเชื่อวัน อยู่ในใจฉัน” สวีเห้าเซิงกล่าวโดยไม่ลังเล เขาเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการและทำงานอย่างหนักเพื่อมัน
หลินเจี๋ยไม่ได้คาดหวังว่า สวีเห้าเซิงจะตอบเร็วขนาดนี้
“แล้วแฟนเก่าของนาย นายไม่ชอบเหรอ?” หลินเจี๋ยไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้ แต่เมื่อมองไปที่ สวีเห้าเซิงเช่นนี้ เขาต้องการดูว่าเขาเอาใจใส่หรือไม่หรือต้องการหาคนทดแทน แม้ว่าเซี่ยชีหรั่นกับแฟนเก่าเขาจะไม่เหมือนกันเลยก็ตาม
“หลินเจี๋ย ถ้านายได้ใกล้ชิดเสี่ยวอ้าย นายก็จะชอบเธอ เธอเป็นดวงอาทิตย์แสงที่เราอยากไล่ตาม แต่ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมีโอกาสเดินเคียงข้างเธอหรือไม่”
สวีเห้าเซิงถอนหายใจ เย่เชินหลินสาบานอย่างโจ่งแจ้งว่าความรักของเขาที่มีต่อเซี่ยชีหรั่นทำให้เขาเป็นกังวล เสี่ยวอ้ายตกลงที่จะแต่งงานกับเขา ปัญหาคือพวกเขายังไม่ได้แต่งงาน สิ่งที่ทำให้เขากังวลที่สุดคือ เสี่ยวอ้ายยังหวั่นไหวต่อเย่เชินหลิน แล้วพ่อของเนี่ยนโม่ ก็คือเย่เชินหลิน และพวกเขาเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก แต่เขากับ เสี่ยวอ้าย เป็นเพียงคำสัญญา สวีเห้าเซิงรู้สึกว่าอนาคตของเขากำลังมืดมน
“เห้าเซิงฉันมีความสุขมากที่นายสามารถออกจากสถานการณ์ได้ แต่นายกลับอยู่ในสถานการณ์อื่นอีก” หลินเจี๋ยหยิบบุหรี่ขึ้นมาและมองไปที่ไม่ไกล เซี่ยชีหรั่นมีลูกของเย่เชินหลิน เขาไม่ต้องการให้พวกเขาแยกจากกัน แต่เขาไม่ชอบความทุกข์ของผู้คนที่เขาพบเจอในโลกนี้
“เห้าเซิง ไม่เป็นไรตอนนี้ฉันอยู่ที่ตงเจียงแล้ว อย่างน้อยก็มีโอกาส”
ใช่แล้ว ในวันที่สี่ของการออกเดินทางของเซี่ยชีหรั่น สวีเห้าเซิงได้เข้าพบผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการและบอกเขาว่าผู้มีความสามารถจำนวนมากในประเทศจีนขอให้เขามาที่ประเทศจีนเพื่อจัดตั้งห้องปฏิบัติการเนื่องจากพวกเขาไม่มีเงินจ่าย สิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าในการทดลองของพวกเขา เขาจึงอยากช่วยเหลือ
สวีเห้าเซิงเดินตามคนในห้องทดลองไปที่ตงเจียง
เซี่ยชีหรั่นเพิ่งมาถึงบ้านตระกูลเย่ ไม่รอเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นก็รีบถอดเข็มขัดนิรภัยและวิ่งตรงไป
“แม่” เนี่ยนโม่ยืนอยู่ที่ประตูมองไปที่เซี่ยชีหรั่นแล้วมุ่ยปากเล็กน้อย “แม่ แม่ทิ้งผมไป” เขากำลังจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาในดวงตา
“เปล่า แม่แค่ไปเจอลุงสวี” เซี่ยชีหรั่นคิดว่า เนี่ยนโม่ และ สวีเห้าเซิงมีความสัมพันธ์ที่ดี ดังนั้นเธอจึงบอกข่าว เนี่ยนโม่
“จริงเหรอ แม่ ผมจะไปหาลุงสวี”
ดวงตากลมโตของเนี่ยนโม่เต็มไปด้วยประกาย
“เนี่ยนโม่ ไปนอนก่อนเถอะ พรุ่งนี้จะพาลูกไปเจอลุงสวี ถ้าไปตอนนี้จะรบกวนเขาเปล่าๆ” เซี่ยชีหรั่นไม่ได้คาดหวังว่าเด็กคนนี้จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสวีเห้าเซิง แต่ดึกขนาดนี้แล้ว สวีเห้าเซิงอาจจะพักผ่อนไปแล้ว ถ้าไปรบกวนอีกเซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกไม่ดี

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset