ตอนที่ 1088 สาวใช้ตัวแสบ 992
“คุณจ้าว ชายคนนั้นที่อยู่ใกล้ฉันตอนเกิดเหตุชื่อหลินเจี๋ย เขาแต่งกายชุดลำลอง คุณเห็นเขาไหม แล้วก็” เมื่อเขียนถึงตรงนี้เซี่ยชีหรั่นเพิ่งนึกได้ สวีเห้าเซิง ไม่รู้ว่าสวีเห้าเซิงจะเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
“คุณจ้าว ฉันต้องกลับไป ต้องกลับไปจริง ๆ ฉันต้องไปหาพวกเขา” เซี่ยชีหรั่นเริ่มเขียนเร็วขึ้น แม้ตัวหนังสือไม่สวยแต่ก็สามารถดูออก
“คุณเซี่ยต้องการหาใครบอกผมดีกว่าครับ ผมจะช่วยคุณหาเอง”
รถยังเคลื่อนไปข้างหน้าเรื่อย ๆ จ้าวซิงคิดว่าระหว่างที่พวกเขาสนทนากันอยู่แล้วรถขับไปถึงตงเจียงก็คงดี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคำนวณสถานการณ์ผิดไป
“กลับรถเดี๋ยวนี้นะ ถ้าไม่วนกลับไปฉันจะกระโดดลงจากรถ แม้ฉันจะขยับตัวไม่ได้แต่ฉันยังเหลือมือข้างหนึ่งนะ” เซี่ยชีหรั่นมองจ้าวซิงอย่างเด็ดขาด สายตาของเธอแน่วแน่มาก ถ้าจ้าวซิงไม่รับปาก เธอจะกระโดดลงรถจริง ๆ
เซี่ยชีหรั่นจับปากกาขึ้นแล้วจี้ไปที่เส้นเลือดใหญ่ที่คอของเธอ ด้วยรอยยิ้มบานเหมือนดอกไม้ ถ้าสวีเห้าเซิงตาย เธอไม่มีหน้าที่จะมีชีวิตอยู่อีก ถ้าเย่เชินหลินตาย เซี่ยชีหรั่นก็ไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร
จ้าวซิงกำลังคิดหาวิธีแย่งปากกาในมือเซี่ยชีหรั่นกลับมา เขาไม่ควรยื่นปากกาให้เธอเลย แต่ถ้าไม่ให้เขาก็ไม่รู้จะสื่อสารกับเธอยังไง ให้ตายเหอะ คิดว่าทำดีแล้ว แต่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวชัด ๆ
ดูปลายปากกาที่แหลมคมนั้นกดลงไปทีละนิด หัวใจของจ้าวซิงแทบจะทะลักออกมา
“โอเค ๆ ครับ ผมจะพาคุณกลับไป แต่คุณอย่าทำเรื่องโง่ ๆ เลยนะครับ”
จ้าวซิงมองว่าเซี่ยชีหรั่นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขาจึงได้แต่พาเซี่ยชีหรั่นวนกลับไปโดยดี หมดหนทางจริง ๆ
“คุณปล่อยมือเถอะครับ ทหารอย่างเราพูดคำไหนคำนั้น” จ้าวซิงมองแววตาความสงสัยของเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดให้เธอมั่นใจ
“มือถือของฉันอยู่ไหน” เซี่ยชีหรั่นจำได้ว่าครั้งหนึ่งเธอจะไปร่วมงานออกแบบแฟชั่นกับเพื่อนร่วมงานที่สหรัฐอเมริกา สวีเห้าเซิงไม่สามารถไปด้วยเพราะติดวิจัยที่ทำอยู่ เขาจึงเอาเบอร์โทรศัพท์ให้เธอเบอร์หนึ่งและบอกว่าเป็นเบอร์โทรคุณแม่ของเขา
เธอไม่รู้ว่าพี่สวีได้รับบาดเจ็บหรือไม่ แต่ทางที่ดีรีบติดต่อครอบครัวเขาก่อนจะดีกว่า
“นี่คือกระเป๋าของคุณเซี่ยครับ”
ขณะที่เกิดเหตุเซี่ยชีหรั่นได้ถือกระเป๋าและวางไว้บนใต้คานในบ้าน โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าและยังไม่ถูกทับจนแตก เซี่ยชีหรั่นรีบปลดล็อกแล้วค้นหาข้อความเก่าของสวีเห้าเซิง
“คุณช่วยโทรหาเบอร์นี้หน่อย บอกว่าสวีเห้าเซิงได้รับบาดเจ็บที่ประเทศจีน ให้พวกเขามาหาเห้าเซิงที่นี่ ขอบคุณ” เซี่ยชีหรั่นค่อย ๆ เขียนคำเหล่านี้ลงไปในสมุดบันทึก
แม้เซี่ยชีหรั่นไม่เชื่อว่าสวีเห้าเซิงจะตาย แต่แผ่นดินไหวนั้นมันไร้ซึ่งความปราณีอยู่แล้ว สิ่งที่เธอทำได้คือให้พ่อแม่ของสวีเห้าเซิงทราบข่าวนี้
จ้าวซิงป้อนตัวเลขนั้นเข้าไปในโทรศัพท์ นี่มันเบอร์โทรของประเทศอเมริกาไม่ใช่หรือ?
“ฮัลโหล สวัสดีครับ” หลังโทรติดจ้าวซิงก็กล่าวอย่างสุภาพ
แม่ของสวีเห้าเซิงรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับสายนี้ เพราะสายนี้โทรจากประเทศจีนและยังเป็นสายที่ไม่คุ้นเคยด้วย หรือว่าลูกชายโทรมา เธอได้ข่าวว่าลูกชายไปเข้าร่วมการประชุมวิทยาศาสตร์ที่ประเทศจีน
เมื่อได้ยินเสียงผู้ชายที่ไม่คุ้นเคยแม่ของสวีเห้าเซิงก็รู้สึกประหลาดใจมาก เบอร์ของเธอจะมีคนแปลกหน้าโทรเข้ามาได้ไง หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับเห้าเซิง? เมื่อความคิดแบบนี้แล้วแม่ของเห้าเซิงรู้สึกใจหายขึ้นมาทันที
“คุณคือ? เกิดอะไรขึ้นกับเห้าเซิงลูกชายฉัน?”
“ผมคือกองทัพทหารที่ได้รับหน้าที่ในการกู้ภัยครั้งนี้ครับ สวีเห้าเซิงอยู่ที่ประเทศจีน พวกคุณสะดวกมาหาเขาไหมครับ” จ้าวซิงพูดตามคำขอของเซี่ยชีหรั่น ดูเหมือนว่าคุณเซี่ยจะเป็นคนดี เธอไม่อยากให้ผู้ใหญ่สองท่านนี้ต้องกังวล
“ประเทศจีนเกิดเรื่องใหญ่เหรอ?” แม่สวีถามอย่างประหลาดใจ “ถึงต้องใช้ทหารเป็นหน่วยกู้ภัย?”
“เมือง A เกิดแผ่นดินไหวครับ” จ้าวซิงตอบอย่างรีบร้อน แผ่นดินไหวครั้งนี้มาอย่างกะทันหันเกินไป จึงทำให้ทุกคนไม่ทันตั้งตัว
แผ่นดินไหว เห้าเซิงคง ไม่นะ
“เห้าเซิงอยู่เมือง A ด้วยเหรอ? เขาไม่ได้อยู่ตงเจียงเหรอ?” แม่สวีถามด้วยความสับสน เพราะลูกชายของเธอจะไปที่ไหนทำอะไรเธอได้ตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว
“ผมไม่ทราบเหมือนกันครับ มีคนขอร้องผมโทรไปแจ้งข่าวให้พวกคุณทราบครับ” จ้าวซิงไม่รู้ควรตอบอย่างไร เซี่ยชีหรั่นก็ยังพูดไม่ได้ เขาจึงพูดได้เท่านี้
“ขอบคุณนะ ฉันจะโทรหาที่บ้านก่อน แล้วฉันจะติดต่อกลับไปนะ” แม่สวีรีบวางสายลง เธอยากที่จะคาดเดาสถานการณ์ของสวีเห้าเซิงและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรก่อน
“คุณพ่อคะ” แม่สวีรีบติดต่อคุณปู่ของสวีเห้าเซิง เพราะเขาอยู่ประเทศจีนและเนื่องด้วยฐานะตำแหน่งคุณปู่ของเห้าเซิงคงไม่ยากที่จะตามตัวเห้าเซิงได้
“เสี่ยวชิง ทำไมถึงโทรหาพ่อล่ะ?” ท่านปู่สวีกำลังคุยกับเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนเกี่ยวกับเรื่องอุทกภัยครั้งนี้พอดี
แม่สวีชื่อว่าโอวหยางชิง ท่านปู่สวีจึงเรียกเธอว่าเสี่ยวชิงมาตลอด
“คุณพ่อคะ เห้าเซิงอยู่ประเทศจีน หนูเพิ่งได้รับสายว่าเห้าเซิงอาจจะอยู่ที่เมือง A ด้วย ที่นั่นเพิ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหวขั้นรุนแรงไม่ใช่เหรอคะ?” โอวหยางชิงพยายามควบคุมอารมณ์แล้วพูดอย่างชัดเจนที่สุด
ท่านปู่สวีซึ่งมีหลานชายแค่คนเดียว เขาจึงลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน
“เสี่ยวชิง พวกเธอรีบมา เดี๋ยวพ่อจะออกไปหาเห้าเซิงเอง” ท่านปู่สวีรีบวางสายลง
“เหล่าสวี เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงดูแตกตื่นขนาดนี้?” คนพูดคือเพื่อนเก่าแก่ของท่านปู่สวี ซึ่งสถานะตำแหน่งของเขาไม่ต่ำไปกว่าท่านปู่สวี
“เห้าเซิงอยู่ในเมือง A”
คนเหล่านี้ล้วนรู้จักสวีเห้าเซิงดี
สวีเห้าเซิงกับซือซือบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งสองไม่เป็นไรมาก สวีเห้าเซิงกำลังตามหาหลินเจี๋ยเพื่ออยากไปหาเซี่ยชีหรั่น เขาอยู่ข้างนอกในขณะที่เกิดเหตุจึงไม่เป็นอะไรมาก ซือซือก็เช่นกัน ทั้งสองถือว่าได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุด
สวีเห้าเซิงกับผู้ที่บาดเจ็บเล็กน้อยถูกจัดให้อยู่ในเต็นท์ชั่วคราว แต่เขาจะอยู่ที่นี่อีกไม่ได้ เขาต้องไปหาหลินเจี๋ยกับชีหรั่น ซือซือสังเกตเห็นสวีเห้าเซิงกำลังมองหาอะไรอยู่ เธอรู้ว่าเขากำลังตามหาเซี่ยชีหรั่น
แผ่นดินไหวเอ๋ย เธอมาได้ถูกเวลาจริง ๆ เลยนะ เซี่ยชีหรั่นเอ๋ยเซี่ยชีหรั่น ตลกจริงที่ฉันไม่ได้ลงมือเอง ปล่อยให้เธอตายไปแบบนี้มันจะคุ้มที่ฉันมาไหมนะ
หลินเจี๋ยก็คงไม่น่ารอดแล้วล่ะ เย่เชินหลินก็หายตัวไปแล้ว ดู ๆ แล้วเธอโชคดีที่สุดที่ยังรอดชีวิตมาได้
ซือซือมองสวีเห้าเซิงด้วยสายตาที่เย็นชาในขณะที่เขาตามหาสามคนนั้นจนแทบทุกเต็นท์แต่กลับไม่เจอใคร เธอแอบมีความสุขในใจ แต่ก็รู้สึกไม่เต็มใจด้วย
“ผมต้องการพบหัวหน้าคุณ” สวีเห้าเซิงเดินไปคุยกับนายทหารคนหนึ่ง
“หัวหน้าของเรายังไม่สะดวกพบใครครับ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรครับ?” นายทหารคนนั้นตอบอย่างสุภาพ
“นี่คือนามบัตรของผม คุณช่วยเอาไปให้หัวหน้าคุณดูหน่อยครับ ผมเชื่อว่าท่านต้องยอมให้ผมไปพบ” สวีเห้าเซิงหยิบป้ายชื่อออกมาแล้วหาปากกาเขียนชื่อของปู่ลงไป “จริงด้วย รบกวนบอกหัวหน้าคุณด้วยว่าผมนามสกุลสวีนะครับ”
คิด ๆ แล้ว สวีเห้าเซิงก็เขียนเบอร์ของลุงจางที่อยู่กับปู่ของเขาลงไปด้วย “นี่คือเบอร์โทรของลุงจางครับ คุณช่วยโทรหาแกหรือว่ายืมโทรศัพท์ให้ผมโทรหน่อยครับ”
นายทหารมองนามบัตรนี้ด้วยความลังเล จะส่งดีหรือไม่ หัวหน้าก็ยังไม่ว่าง
“รบกวนคุณหน่อยครับ ผมมาเข้าร่วมประชุมวิทยศาสตร์ที่ประเทศจีน จากนั้นมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมของมูลนิธิกองทุน” สวีเห้าเซิงจำเป็นต้องเผยข้อมูลส่วนตัวออกมาบางส่วนเพื่อให้คนตรงหน้าทำตามคำขอของเขา
“รอสักครู่นะครับ” นายทหารหายไปพร้อมกับนามบัตรที่สวีเห้าเซิงมอบให้
“รายงานครับ”
“เชิญ” หลิวฉวนกุมขมับไว้ เพื่อที่จะสำเร็จการกู้ภัยครั้งนี้เขาลืมกินลืมนอน โชคดีที่คนหนุ่มสาวเหล่านี้ไม่เป็นอะไร มิฉะนั้น หลิวฉวนไม่กล้าคิดต่อ
“นี่คือนามบัตรของชายคนหนึ่งที่ชื่อสวีเห้าเซิงฝากผมส่งมาให้หัวหน้าครับ” นายทหารยื่นป้ายชื่อนั้นให้หลิวฉวนด้วยสองมือ “ด้านล่างนี้เป็นเบอร์ติดต่อลุงจางของแกครับ แกอยากให้เราติดต่อไปหรือว่ายืมโทรศัพท์ของเราให้แกติดต่อเองก็ได้ครับ”
นายทหารยังคงรายงานต่อไปโดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าความตกใจของหลิวฉวนที่ได้ยินชื่อนี้
“แล้วคนที่ชื่อสวีเห้าเซิงพูดยังไงต่อ” หลิวฉวนลุกขึ้นยืน ไม่ได้ เขาควรไปหาเขาเองจะดีกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่าคนหนุ่มสาวเหล่านั้นก็มาที่นี่กันหมดเลยสิ คนหนึ่งหลินเจี๋ย คนหนึ่งเซี่ยชีหรั่น ตอนนี้ยังมีคนที่ชื่อสวีเห้าเซิงคนนี้อีกด้วย
“พาผมไปพบเขาที” หลิวฉวนพูดอย่างรีบร้อน หวังว่าคุณชายสวีจะไม่เป็นไรนะ คนนามสกุลสวี เขาไม่กล้าผิดใจสักคน
“รับทราบครับ”
หลิวฉวนจึงเดินตามนายทหารคนนั้นไปหาสวีเห้าเซิง
“คุณสวี เราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันได้ไหมครับ?” หลิวฉวนถามสวีเห้าเซิงด้วยความเกรงใจ
“ได้ครับ” สวีเห้าเซิงก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้อีกสถานะหนึ่งของเขาเหมือนกัน
ซือซือได้แต่มองสวีเห้าเซิงกับหลิวฉวนเดินออกไปด้วยความสงสัย สวีเห้าเซิงก็แค่นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งไม่ใช่หรือ? แต่ทำไมหลิวฉวนถึงให้เกียรติเขาขนาดนี้? ดูท่าทีของหลิวฉวนที่เผยให้เห็นเขามีความเกรงใจอย่างมาก
สวีเห้าเซิง สรุปว่าคุณคือใครกันแน่? แต่ที่ซือซือสงสัยในสถานะของสวีเห้าเซิงเธอก็แค่อยากจะใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อแก้แค้นเซี่ยชีหรั่นเท่านั้น
สวีเห้าเซิงตามหลิวฉวนมาถึงที่ทำงานส่วนตัวของเขา
“เชิญนั่งครับคุณสวี”
สวีเห้าเซิงพยักหน้าและไม่ได้ถ่อมตัวอีก
“ขอถามคุณสวีหน่อยนะครับว่าคน ๆ นี้คือใครครับ” หลิวฉวนชี้ไปที่ป้ายชื่อที่สวีเห้าเซิงเพิ่งยื่นมาให้
ในที่สุดนามบัตรก็ถึงมือเขาจนได้ แต่ถ้าไม่ใช่เพราะชื่อนั้นเขาจะออกไปหาเขาด้วยตนเองได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่เหตุจำเป็นจริง ๆ สวีเห้าเซิงจะไม่ใช้เส้นสายในตระกูล แต่เพื่อเซี่ยชีหรั่น สวีเห้าเซิงยอมทำทุกอย่าง
“เขาคือคุณปู่ของผมเองครับ ผมชื่อสวีเห้าเซิง”
คุณปู่ งานเข้าแล้ว เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม หลิวฉวนมองสวีเห้าเซิงเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง เขาไม่ได้กลัวการแอบอ้าง เพราะชื่อนี้ไม่มีใครกล้าแอบอ้างอยู่แล้ว คนตรงหน้าก็นามสกุลสวีด้วย ร้อยละแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เขาจะเป็นหลานของท่านปู่สวี ยังดีที่สวีเห้าเซิงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก
ในเวลานี้เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น ซึ่งได้ขัดจังหวะคำพูดของหลิวฉวน
“สวัสดีครับ”
“หลิวฉวน คุณรู้ว่าผมคือใครใช่ไหม ครั้งนี้ผมจะลงพื้นที่กู้ภัยเอง แต่คุณต้องหาคนที่ชื่อสวีเห้าเซิงให้พบ”
หลังจากได้รับสายนี้ร้อยละแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่หลิวฉวนคิดก่อนหน้านี้ก็ได้กลายเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ที่คนตรงหน้านี้ก็คือหลานของท่านปู่สวี
“คุณสวีไม่เป็นอะไรมากครับ ตอนนี้แกอยู่กับผมพอดีเลย” หลิวฉวนยื่นโทรศัพท์ให้กับสวีเห้าเซิง “คุณสวีครับ สายจากท่านปู่สวีครับ”
เมื่อท่านปู่สวีได้ยินเสียงของหลานชาย ความกังวลในใจทั้งหมดก็หายไป
“เห้าเซิงเองครับคุณปู่” สวีเห้าเซิงรับสายนั้น เขาไม่ได้ติดต่อกับปู่มานานแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้ติดต่อกับปู่ในสถานการณ์แบบนี้
“เห้าเซิงเอ๋ย นายกลับประเทศจีนทำไมไม่แวะมาหาปู่บ้าง แล้วนายไปที่นั่นทำไม? แม่นายเป็นห่วงมากนะรู้ไหม ถ้าแม่นายไม่โทรมาบอก ปู่คงไม่รู้หรอกว่านายกลับมา ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนะ”
สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1088 สาวใช้ตัวแสบ 992
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด
Recommended Series
Comment
Facebook Comment