สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1111 สาวใช้ตัวแสบ 1015

ตอนที่ 1111 สาวใช้ตัวแสบ 1015
หลังจากที่สังเกตเห็น ฝู้เฟิ่งหยีก็ได้เดินเข้ามารับของขวัญแล้วยิ้มพูด “ฉันได้รับของขวัญแล้วนะ มานั่งก่อนสักพักค่อยไปสิ”
ในเมื่อได้รับของขวัญแล้ว เธอก็รู้สึกเกรงใจ เพราะฝู้เฟิ่งหยีเป็นคนรักศักดิ์ศรีอยู่แล้วและวันนี้มีแขกสำคัญอีกมากมายด้วย ถ้าวันนี้เธอทำให้จางชิงต้องขายหน้า เกรงว่าวันหลังคนอื่นจะหาว่าเธอเป็นคนจิตใจคับแคบ
เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าจางชิงจะมา เธอไม่เคยอยากให้เด็กคนนี้อยู่กับเย่เชินหลินเลย เพราะความทะเยอทะยานของจางชิงที่อยากเป็นลูกสะใภ้ของตระกูล ดังนั้นเธอไม่เคยชอบเธอคนนี้เลย ฝู้เฟิ่งหยีเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าวันนี้ทำไมเธอถึงมาร่วมงานฉลองวันเกิดด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณน้า วันนี้หนูแค่ตั้งใจส่งของขวัญวันเกิดมาให้เท่านั้นค่ะ คุณน้าเป็นเหมือนแม่คนหนึ่งของหนู หลายปีที่ผ่านมานี้ หนูต้องขอขอบพระคุณในความกรุณาของคุณน้านะคะ” จางชิงพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ “แต่หนูมีเรื่องอยากขอร้องอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณน้าจะรับปากหนูได้ไหมคะ?”
ฝู้เฟิ่งหยีขมวดคิ้ว “เธอพูดมาสิ”
จางชิงพยักหน้าและแสดงสีหน้าน่าสงสารทันที “หนูขอพบเชินหลินหน่อยได้ไหมคะ? ช่วงนี้ร่างกายของเขาน่าเป็นห่วงมาก ไม่รู้ว่าเขาดีขึ้นแล้วหรือยัง?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จิ่วจิ่วก็คิดจะปฏิเสธเธอทันที แต่ฝู้เฟิ่งหยีก็ได้ห้ามเธอไว้ “ได้สิ เขาอยู่ทางนั้น แต่เซี่ยชีหรั่นอยู่กับเขาด้วยนะ”
ในเมื่อตั้งใจมาที่นี่ จางชิงก็ได้เตรียมใจไว้แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเซี่ยชีหรั่นเธอไม่จำเป็นต้องมาก็ได้ จางชิงยิ้มพูด“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนนี้หนูมาในนามเพื่อนคนหนึ่ง แค่ตั้งใจอยากมาเยี่ยมเย่เชินหลินเท่านั้นค่ะ”
“เข้าไปสิ” ฝู้เฟิ่งหยีพูดและได้แต่ทำหน้าสงสัย เธอไม่รู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดเล่นกลอะไรอีก
เซี่ยชีหรั่นเห็นจางชิงค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเย่เชินหลิน เธอไม่รู้ว่าควรอยู่ต่อหรือออกไป สายตาของแขกทุกคนก็จับจ้องมาที่พวกเขา เธอรู้สึกอึดอัดมากที่ตกเป็นเหยื่อของสายตาคนเหล่านั้น
เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของเย่เชินหลิน จางชิงก็เกิดความทุกข์ใจเล็กน้อย “เชินหลิน เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นไหม?”
“อืม” เขายังคงตอบอย่างเย็นชา
“ดีแล้วล่ะ ได้เห็นคุณฉันก็สบายใจแล้ว หวังว่าคุณจะหายไว ๆ นะ ฉันต้องขอตัวก่อนแล้วล่ะ” จางชิงพูดจบก็เดินออกจากงานทันทีโดยที่ไม่ได้หันไปมองเซี่ยชีหรั่นเลย
เมื่อเห็นภาพนี้ ผู้คนรอบข้างก็หันกลับแล้วเริ่มซุบซิบกัน
จางชิงที่เพิ่งเดินออกจากประตูก็รีบหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรออก “คอนเฟิร์มแล้ว อยู่ข้างเขาเลย แต่อย่าให้เย่เชินหลินต้องเจ็บตัวไปด้วยล่ะ”
เมื่อพูดจบเธอก็กดวางสายลงแล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มอันดุร้าย หัวใจเธอเย็นชาและเจ็บปวดมากเมื่อเห็นสีหน้าเฉยเมยของเย่เชินหลิน ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ก็เพราะผู้หญิงที่ชื่อเซี่ยชีหรั่นคนเดียว!
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป เซี่ยชีหรั่นได้แต่มองจางชิงเดินออกไปแล้วรู้สึกหัวร้อนมาก!
ในขณะที่กำลังคิดถึงปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านี้อยู่ เซี่ยชีหรั่นเพียงแค่รู้สึกว่าร่างกายของเธอถูกกระแทกจากด้านหลังจนทำให้เธอเอนไปข้างหน้าอย่างบังคับไม่ได้ ซึ่งข้างหน้าเธอนั้นเป็นสระว่ายน้ำที่มีน้ำลึกอยู่
เสียง “ตูม” ดังขึ้น น้ำในสระกระจายไปทั่ว
เธอได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เย่เชินหลินรีบตะโกนอย่างมีไหวพริบ“ช่วยด้วย! เธอว่ายน้ำไม่เป็น!”
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ แม้ว่าเขาจะอยู่บนรถเข็นแต่ก็ยังกระโดดลงไปในน้ำโดยไม่คำนึงถึงชีวิต จิ่วจิ่วรู้สึกตกใจมาก เธอนึกภาพไม่ออกเลยว่าเย่เชินหลินตกลงไปในน้ำได้อย่างไร? เพราะขาของเขาใช้การไม่ได้เลย!
“มองอะไรกัน! รีบลงไปช่วยสิ!” ฝู้เฟิ่งหยีอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา ทุกคนต่างตื่นตระหนกไปชั่วขณะ หลาย ๆ คนรีบลงไปในน้ำเพื่อช่วยเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นออกมา
จนผ่านไปสักพัก เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นถึงได้รับการช่วยเหลือ
หลาย ๆ คนหยิบมือถือออกมาเพื่อถ่ายรูปในช่วงเวลาที่คับขันแบบนี้ จิ่วจิ่วรีบเข้าไปตะโกนด่าคนเหล่านั้นอย่างเหลือทน “ถ่ายอะไรกันนักหนา! เก็บโทรศัพท์ให้หมดเลยนะ!” คนพวกนี้น่าเกลียดจริง ๆ ไม่มีใจช่วยเหลือแต่ยังกลับมายืนถ่ายรูปอย่างสบายใจแบบนี้ได้!
ไม่มีกำแพงไหนที่ข้ามไม่ได้ในโลกนี้ งานเลี้ยงได้จบลงอย่างเร่งรีบในคืนนั้น เช้าวันที่สองข่าวพาดหัวในหน้าหนึ่งคือ : เย่เชินหลินกระโดดลงไปในน้ำโดยไม่คำนึงถึงชีวิตเพื่อช่วยแฟนเก่าของเขา
จางชิงที่ได้เห็นข่าวนั้นก็เครียดจนหัวแทบระเบิด! เธอไม่เคยคิดเลยว่าเย่เชินหลินจะกระโดดจากรถเข็นลงไปในน้ำเพื่อช่วยชีวิตเซี่ยชีหรั่น! มันเหนือความคาดหมายของเธอจริง ๆ! เมื่อเห็นซือซือที่ยิ้มอย่างสะใจอยู่ข้าง ๆ เธอก็ยิ่งโมโหมากขึ้น “บอกแล้วไงว่าให้ลงมือกับเซี่ยชีหรั่นคนเดียว ตอนนี้เอาไงล่ะ!”
“มันก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้ตายใจบ้าง ครั้งต่อไปลงมือเธอจะได้ไม่ต้องกังวลอะไรอีก”ซือซือค่อย ๆ อธิบายให้เธอ ต่อให้เย่เชินหลินไม่ช่วยเซี่ยชีหรั่น ข่าวมันก็รายงานของมันอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้พวกเธอได้รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นนั้นสำคัญกับเย่เชินหลินมากแค่ไหน
จางชิงพูดอย่างอึดอัด “ฉันเข้าใจแล้วล่ะ แล้วเธอล่ะพอใจยัง?”
ซือซือยิ้มพูด “รอให้สำเร็จก่อน วันนั้นฉันถึงจะพอใจได้” เมื่อพูดจบ เธอหยิบสัญญาฉบับต่อไปแล้วออกจากคอนโดที่เธอจัดให้จางชิง เพราะอย่างไรก็ตาม ทุกอย่างอยู่ในแผนการของเธออยู่แล้ว
ในบ่ายวันนั้น เซี่ยชีหรั่นถึงค่อย ๆ ฟื้นขึ้นจากการสลบ เธอรู้สึกหนาวจนตัวสั่นและรู้สึกสมองเบลอมาก เธอจำได้ว่าเธอถูกใครบางคนกระแทกอย่างรุนแรงจากด้านหลังจนทำให้เธอตกลงไปในสระน้ำและเธอก็จมน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็น
“ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นต้องใช้เวลานานกว่าจะมองเห็นจิ่วจิ่วที่อยู่ข้างเธอ ดวงตาของเธอแดงเล็กน้อย
จิ่วจิ่วพยุงเธอให้ลุกขึ้นนั่งแล้วห่มผ้าห่มนุ่ม ๆ ให้เธอ “รู้สึกดีขึ้นไหม?”
“ดีขึ้นแล้ว……ที่นี่คือ……” ถ้าจำไม่ผิด ที่นี่คือห้องนอนของเย่เชินหลิน เธอเห็นการตกแต่งและเครื่องเรือนที่คุ้นเคยในห้อง
จิ่วจิ่วพยักหน้าแล้วถอนหายใจพูด “เชินหลินให้เธอมาอยู่ที่นี่ เมื่อคืนเธอถูกคนผลักตกลงไปในสระว่ายน้ำ แล้วเธอก็จมน้ำ เขาก็เลยรีบกระโดดลงไปในน้ำเพื่อช่วยชีวิตเธอโดยที่ไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเองเลย ฉันก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาทำได้อย่างไรนะ”
ตอนนี้เพิ่งนึกขึ้นได้และยังคงรู้สึกใจหายอยู่!
เมื่อได้ยินคำพูดของจิ่วจิ่วแล้ว เซี่ยชีหรั่นรู้สึกใจหายมาก เย่เชินหลินช่วยเธอไว้หรือ?
“แต่ว่า เขา……”
“นั่นสิ ตอนนี้เขายังนอนอยู่ ขาของเขาขยับไม่ได้ทั้งสองข้างแล้ว เพื่อช่วยเธอ มันอันตรายมากเลยนะ ชีหรั่น เราเป็นเพื่อนรักกันนะ ฉันกลัวเหมือนกันว่าชีวิตนี้ของเย่เชินหลินจะไม่มีวันลุกขึ้นยืนได้อีก” จิ่วจิ่วพูดอย่างเป็นห่วง สิ่งที่หมอพูดไม่ใช่เรื่องตลกจริง ๆ
เป็นแบบนี้นี่เอง เซี่ยชีหรั่นใจหายอย่างมาก ถ้าหากนับจากนี้เย่เชินหลินไม่สามารถเดินได้เพราะเธอ เธอต้องโทษตัวเองมากแค่ไหน?
ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกวุ่นวายใจมากขึ้น เซี่ยชีหรั่นจึงลุกขึ้นเพื่อไปหาเย่เชินหลินทันที เมื่อจิ่วจิ่วเห็นก็รีบพยุงเธอไปอีกห้องหนึ่ง เมื่อเปิดประตูก็เห็นเนี่ยนโม่ยืนอยู่หน้าประตูและไม่ได้เข้าไปข้างใน
เนี่ยนโม่มีความสุขมากที่เห็นแม่ตื่นขึ้นมา “คุณแม่ครับ”
“หนู มายืนหน้าประตูทำไม ทำไมหนูไม่เข้าไปในห้องล่ะ?” จิ่วจิ่วถาม
“คุณย่าร้องไห้อยู่ครับ ผมก็เลยยังไม่อยากเข้าไป แล้วคุณแม่ดีขึ้นแล้วเหรอครับ?” เนี่ยนโม่กระซิบพูด เขาฉลาดมาก เขาเลือกที่จะไม่เข้าไปรบกวนย่า เพราะอาจจะกลัวตัวเองร้องไห้เสียใจไปด้วยแน่เลย
เซี่ยชีหรั่นเห็นใจเขามาก เธอพยักหน้าแล้วรีบพูดต่อ “คุณแม่ดีขึ้นแล้ว งั้นให้คุณแม่เข้าไปคนเดียวก่อนละกันนะ” เมื่อพูดจบเธอก็ส่งสัญญาณให้จิ่วจิ่วช่วยดูแลเนี่ยนโม่เพื่อให้เธอได้เข้าไปคนเดียว
เย่เชินหลินนอนหลับตาอยู่บนเตียงอันกว้างด้วยสีหน้าซีดเซียว ดูเหมือนเขาจะอ่อนเพลียมาก ใบหน้าอันนิ่งขรึมและขนตาที่โค้งงอนเล็กน้อยของเขาดูงดงามมาก
“เธอตื่นแล้วเหรอ? ดีขึ้นไหม?” ฝู้เฟิ่งหยีเห็นเซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามาจึงถามเธอด้วยความเป็นห่วง เธอกระซิบพูดเบา ๆ เพราะเกรงว่าจะรบกวนลูกชายของเธอ
“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ แล้วเขาล่ะ? หนูได้ยินจิ่วจิ่วพูด……” เซี่ยชีหรั่นกระซิบพูด เขาจะยืนไม่ได้จริง ๆ แล้วใช่ไหม?
ฝู้เฟิ่งหยีฟังแล้วกลั้นน้ำตาไว้ไม่หยุด “คงเป็นโชคชะตาของเขาแล้วล่ะ” ถ้าหากสวรรค์ตั้งใจจะพรากขาของเชินหลินไป แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะ? คนเป็นแม่กลัวที่สุดคือลูกของตัวเองต้องทนทุกข์ นี่เขายังหนุ่มยังแน่นอยู่นะ……
หลังจากได้ยินคำตอบแล้วเซี่ยชีหรั่นแทบจะขาดใจ เธอไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกนี้อย่างไร ได้แต่พูดคำเดียว “ฉันขอโทษ”
ขอโทษ ทั้งหมดนี้เพราะฉันคนเดียว ขอโทษจริง ๆ
เมื่อฝู้เฟิ่งหยีเห็นเด็กคนนี้รู้สึกผิดมาก เธอจึงดึงสองมือของเธอมากุมไว้ “ชีหรั่น นี่ไม่ใช่ความผิดเธอหรอกนะ แต่เรื่องเมื่อวานเธอก็เห็นแล้วว่าเย่เชินหลินคิดยังไงกับเธอ ถ้าเธอจะจากลูกชายของฉันคนนี้ไปจริง ๆ คนเป็นแม่อย่างฉันคงพูดอะไรไม่ได้แล้วล่ะ จริงเหมือนกันที่ผ่านมาเขาเคยทำให้เธอต้องเสียใจ แต่ฉันอยากให้เธอมองในแง่ดีบ้าง ลืมอดีตไปบ้าง แล้วใช้ชีวิตอนาคตอย่างมีความสุข มันก็เป็นทางเลือกที่ดีอยู่นะ”
เป็นคำพูดที่จริงใจมาก ฝู้เฟิ่งหยีเข้าใจดีว่าเซี่ยชีหรั่นสำคัญต่อลูกชายของเธออย่างไร ถ้าขาดเธอไป โลกของเชินหลินก็คงไร้ประโยชน์
เบ้าตาเริ่มร้อนขึ้น น้ำตาของเซี่ยชีหรั่นค่อย ๆ ไหลรินลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่……
“คุณป้าค่ะ หนูจะไปพิจารณาอย่างรอบคอบนะคะ”
“งั้นพวกเราออกไปกันเถอะ ให้เขาได้พักผ่อนต่อ เธอก็กลับไปพักผ่อนด้วยนะ ป้าเห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย” ฝู้เฟิ่งหยีพูดเบา ๆ แล้วจูงมือเซี่ยชีหรั่นออกจากห้องไป
เพียงแต่พวกเธอไม่ทันได้สังเกตเห็น เย่เชินหลินลืมตาขึ้นหลังจากที่พวกเธอออกไป เขารู้ดีว่าตัวเองอาจจะลุกขึ้นยืนไม่ได้อีกแล้ว แต่ว่าเมื่อกี้นี้……เซี่ยชีหรั่นร้องไห้เพื่อเขา เมื่อวานเขาก็ทำด้วยความเต็มใจเหมือนกัน
เขาจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เห็นเธอตกอยู่ในอันตราย มันอยู่เหนือการควบคุมของสัญชาตญาณของร่างกายแล้ว คุณรู้ไหมว่าคุณสำคัญกับผมมากแค่ไหน?
สามวันผ่านไป อาการของเซี่ยชีหรั่นเกือบหายดีแล้ว แต่อาการของเย่เชินหลินยังไม่ดีขึ้นเลย จึงทำให้คนอื่นต้องกังวลไปด้วย

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset