สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1126 สาวใช้ตัวแสบ 1030

ตอนที่ 1126 สาวใช้ตัวแสบ1030
จางชิงปรับทุกข์กับฝู้เฟิ่งหยีอย่างร้องห่มร้องไห้ “คุณป้า เชินหลินเขา เขาไม่ยอมยกโทษให้หนู เขาไม่อนุญาตให้หนูกลับประเทศ และก็ไม่อนุญาตให้หนูไปถอนเงินในธนาคาร ตอนนี้หนูสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว และก็ไร้ญาติขาดมิตรอีกต่างหาก คุณป้า ช่วยหนูด้วยเถอะนะคะ……”
ฝู้เฟิ่งหยีนั้นยังไม่รู้เรื่องที่จางชิงยืมบริษัทแฟชั่นคิวบ์มาใช้ เพื่ออยากจะทำให้บริษัทของเซี่ยชีหรั่นล้มละลาย เพราะฉะนั้น เธอจึงขมวดคิ้วขึ้นแล้วพูดว่า “เจ้าเด็กเชินหลินนี่ เฮ้อ……งั้นเอาอย่างนี้ละกัน เธอต้องการเงินเท่าไหร่ เดี๋ยวฉันให้เธอเองก็แล้วกัน”
จางชิงรีบปฏิเสธอย่างร้อนรน “ไม่ ไม่ ไม่ใช่ค่ะ คุณป้า หนูไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ดูคุณป้าพูดเข้าซิคะ ทำให้หนูละอายใจมากเลยค่ะ ถึงหนูจะไม่มีความสามารถอะไร แต่ก็เอาเงินคุณป้าฟรี ๆ ไม่ได้หรอกค่ะ”
ฝู้เฟิ่งหยียังฟังความหมายของจางชิงไม่เข้าใจ เธอจึงถามขึ้นว่า “งั้นความหมายของเธอคือ?”
จางชิงรีบเช็ดน้ำตาให้แห้ง แล้วพูดกับฝู้เฟิ่งหยีอย่างยิ้ม ๆ ว่า “คุณป้า หนูมาเป็นไกด์ให้คุณป้าดีไหมคะ ที่ประเทศKนี้ หนูคุ้นเคยดีเลยนะคะ เมื่อก่อนหนูเคยมาที่นี่ แล้วคุณป้าก็ให้เงินค่าตอบแทนหนูตามที่เห็นสมควรก็แล้วกันนะคะ”
อ๋อ ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง
ฝู้เฟิ่งหยีถึงได้กระจ่างแจ้งขึ้นมานี่เอง
ฝู้เฟิ่งหยีคิดในใจ ในเมื่อจางชิงก็ได้กลับตัวกลับใจแล้ว และก็ยังตกอับมาจนถึงขั้นนี้ ก็ถือได้ว่าได้รับโทษที่หนักหนาสาหัสมามากพอแล้ว อะไรที่อภัยกันได้ก็ต้องให้อภัย ที่จริงเย่เชินหลินก็ทำเกินไปหน่อยจริง ๆ
เพราะฉะนั้น ฝู้เฟิ่งหยีก็ได้ตอบตกลงกับจางชิงไปอย่างสั้น ๆ ง่าย ๆ “เอาอย่างงั้นก็ได้ เธอก็เป็นไกด์ให้ฉันกับเนี่ยนโม่ไปละกัน เธอวางใจได้เลย ฉันจะไม่เอาเปรียบเธอแน่นอน”
“ขอบคุณคุณป้ามากเลยนะคะ หนูรู้อยู่แล้วว่าคุณป้าจะต้องเป็นคนดีที่สุด และมีเมตตาที่สุดเลยค่ะ”
คำพูดไพเราะของจางชิงเหมือนอย่างกับว่าไม่ต้องเสียเงิน เอาทุ่มใส่ตัวฝู้เฟิ่งหยีไม่ยั้ง จนหลอกล่อให้ฝู้เฟิ่งหยีนั้นปลาบปลื้มอย่างมากมาย
ไม่พูดก็ไม่ได้ ว่าผู้หญิงอย่างจางชิงนั้น ถือได้ว่ามีความสามารถอยู่บ้างจริง ๆ ใช้เวลาแค่ไม่ถึงครึ่งวัน ก็ทำให้ฝู้เฟิ่งหยีกลับมาสนิทสนมกับเธออีกครั้งแล้ว แม้แต่จุดประสงค์ที่ตัวเองออกมาเที่ยวก็ยังไม่ปิดบังเธอเลย
“ลูกชายของฉันคนนี้ก็เป็นแบบนี้ เรื่องที่ทำไปตั้งเยอะตั้งแยะ แต่ปากกลับไม่ชอบพูดคำพูดดี ๆ ผู้หญิงนั้นมีใครไม่ชอบฟังคำหวานบ้าง? แต่ว่าเขาก็คือไม่ยอมไปเอาใจชีหรั่นบ้าง”
ใบหน้าของจางชิงมีรอยยิ้มแย้ม เธอตั้งใจฟังฝู้เฟิ่งหยีพูดถึงเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลิน และยังคอยตอบกลับเธอบ้างเป็นครั้งคราว
แต่ว่า ในใจของจางชิงนั้นกลับเกลียดจนแทบทนไม่ไหวตั้งนานแล้ว
ยัยแก่ที่สมควรตายนี่ กลัวว่าใจเธอยังทุกข์ไม่พอเหรอ? ต่อหน้าคนที่ไม่สมหวังอย่างเธอนี้ กลับพูดถึงหญิงชายสองคนที่กำลังจะกลับมาคืนดีกัน มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?
ถึงแม้ในใจของจางชิงจะเกลียดถึงขีดสุด แต่เธอก็ไม่กล้าปล่อยให้มันหลุดรอดออกมา เพราะกลัวว่าฝู้เฟิ่งหยีจะเห็นความคิดที่แท้จริงในใจของเธอเข้า
จะต้องรู้ว่า ที่เธอมาในครั้งนี้นั้น บนบ่ายังมีหน้าที่ใหญ่หลวงแบกรับอยู่
หลังจากที่จางชิงนั่งเป็นเพื่อนกับฝู้เฟิ่งหยีไปสักพัก ก็เริ่มเกริ่นถึงเนี่ยนโม่ขึ้นมา “คราวก่อนหนูทำเรื่องผิดพลาดไป ก็รู้สึกผิดจนไม่กล้าเผชิญหน้ากับพวกคุณป้ามาตลอด โดยเฉพาะกับเนี่ยนโม่ เด็กคนนี้น่ารักขนาดไหน หนูไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนั้นตัวเองคิดยังไงอยู่”
ฝู้เฟิ่งหยีชอบให้คนอื่นชื่นชมหลานของตัวเองมาก ถึงแม้จางชิงจะเคยทำเรื่องผิดพลาด แต่ว่าในเมื่อเธอรู้ตัวว่าทำผิดไปแล้ว ตัวเองก็จะไม่ถือโทษโกรธเธออีก
“เนี่ยนโม่กำลังนอนหลับอยู่ข้างบน เดี๋ยวฉันไปเรียกเขาลงมานะ”
แล้วฝู้เฟิ่งหยีก็ให้คนรับใช้ไปพาเด็กลงมา
เนี่ยนโม่เพิ่งนอนตื่น แววตายังคงสะลึมสะลือ พอเขามาถึงห้องรับแขก แล้วเห็นจางชิงที่ใบหน้ายิ้มแย้มนั่งอยู่ข้าง ๆ คุณย่า ก็ตกใจจนตาโตขึ้นมาทันที “คุณย่า ผู้หญิงชั่วร้ายคนนี้ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ละครับ?”
อย่านึกว่าเนี่ยนโม่อายุยังน้อยอยู่ แต่ว่าเขาก็ยังคงจำความแค้นได้อยู่นะ เขายังจำได้ว่าเพราะผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ทำให้แม่ของเขาต้องเสียน้ำตามาตลอด
จางชิงกำลังด่าเด็กคนนี้อยู่ในใจ แต่ปากกลับพูดว่า “เนี่ยนโม่ มาเร็ว มาให้น้าอุ้มหน่อย”
เนี่ยนโม่จะยอมไปให้เธออุ้มได้ยังไงกัน? เขามองจางชิงย่างระแวดระวัง แล้วค่อย ๆ เดินไปอยู่ข้าง ๆ ฝู้เฟิ่งหยี
ฝู้เฟิ่งหยีมองเนี่ยนโม่อย่างรักใคร่เอ็นดู แล้วถามเขาขึ้นว่า “เนี่ยนโม่ นอนหลับสนิทดีไหมจ๊ะ? หิวหรือยัง? จะกินอะไรไหม?”
เนี่ยนโม่พยักหน้า “นอนหลับดีมากครับ ผมอยากกินนม แล้วก็เอาแซนด์วิชด้วยครับ”
ฝู้เฟิ่งหยีสั่งให้คนรับใช้ไปชงนมมาให้เนี่ยนโม่ จางชิงนั่งมองท่าทางที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของสองย่าหลานอยู่ข้าง ๆ แล้วสองมือก็กำเข้าหากันแน่นแทบตาย
เธอจะต้องหาวิธีให้เด็กเปรตคนนี้หายไปจากโลกนี้ให้ได้
ในอนาคต คนที่จะสามารถเรียกฝู้เฟิ่งหยีว่าย่าได้ จะต้องมีแค่เด็กที่เป็นลูกของเธอจางชิงกับเย่เชินหลินเท่านั้น!
จางชิงเสแสร้งทำเป็นตีสนิทเพื่อเข้าใกล้เนี่ยนโม่ จึงพูดอย่างอ่อนโยนกับเขาว่า “เนี่ยนโม่ ที่น้ามาวันนี้ ก็เพราะว่าจะมาขอโทษหนูเป็นพิเศษเลย เรื่องเมื่อคราวก่อน น้าไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะ หนูสามารถให้อภัยน้าได้ไหมจ๊ะ?”
เนี่ยนโม่ลืมตาโต แล้วพูดเสียอ่อนเสียงหวานขึ้นว่า “งั้นคุณไปพูดขอโทษกับแม่ผมได้ไหมล่ะ? แม่ของผมเสียใจมาก และร้องไห้อยู่ตั้งนานแน่ะ”
จางชิงโดนเนี่ยนโม่พูดดักทางไว้ จนเกือบจะระเบิดอารมณ์ออกมาแล้ว นี่กล้าให้เธอไปขอโทษยัยผู้หญิงชั้นต่ำเซี่ยชีหรั่นเชียวเหรอ! ฝันไปเถอะ!
ยังดีที่เธออดไว้ได้ทันเวลา ไม่งั้นก็จะมีพิรุธโผล่ออกมาแล้ว เธอได้แต่ตอบกลับเสียงอ่อนหวานต่อไปว่า “ได้ น้ากำลังมีความคิดนี้อยู่พอดีเลย รอถ้าพวกเธอกลับประเทศ น้าก็จะกลับไปพร้อมพวกเธอด้วย แล้วค่อยไปขอโทษต่อหน้าแม่หนูเลยดีไหม? ”
พอเป็นแบบนี้แล้ว เนี่ยนโม่ถึงได้ยอมเรียกคุณน้าออกมาคำหนึ่งอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
ฝู้เฟิ่งหยีมองเนี่ยนโม่อย่างภาคภูมิใจ เห็นได้ชัดว่าหลานของเธอเข้าใจเรื่องส่วนใหญ่ และยังใจกว้างอีกด้วย ในอนาคตจะต้องสมบูรณ์แบบมากกว่าพ่อของเขาอีกแน่นอน
รอจนเนี่ยนโม่กินอาหารเสร็จแล้ว จางชิงก็เสนอความคิดว่าจะพาฝู้เฟิ่งหยีกับเนี่ยนโม่ออกไปเที่ยวเล่น
พวกบอดี้การ์ดสองคนเตรียมตัวจะตามไปด้วย แต่จางชิงก็รีบพูดกับฝู้เฟิ่งหยีขึ้นว่า “คุณป้า คุณป้าดู ถ้าคนสองคนนี้คอยตามพวกเราอยู่ พวกเราไปถึงไหนก็จะกลายเป็นจุดสนใจของคนอื่นไปได้ ในเมื่อพวกเราออกมาเที่ยวเล่นกันแล้ว ก็จะต้องทำตัวให้ปกติทั่วไปซิ แล้วอีกอย่าง อยู่ในประเทศนี้ก็ไม่มีใครรู้จักพวกเรา แล้วจะไปมีอันตรายได้ยังไงกันคะ?”
ฝู้เฟิ่งหยีคิดทบทวนดี ๆ แล้วเหมือนว่าหลักการนี้มันก็เป็นจริงอยู่
ปกติเธอก็เบื่อที่จะต้องเข้า ๆ ออก ๆ พร้อมกับบอดี้การ์ดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเย่เชินหลินยังคงยืนกรานแบบนี้เสมอเท่านั้น
ฝู้เฟิ่งหยีสะบัดมือ ให้พวกบอดี้การ์ดไม่ต้องตามพวกเขาอีก
บอดี้การ์ดทั้งสองคนต่างก็ลำบากใจ แต่ว่าก็ไม่กล้าขัดขืนความหมายของคุณผู้หญิง จึงได้แต่รออยู่ที่คฤหาสน์เท่านั้น
เมื่อจางชิงเห็นเป็นเช่นนี้แล้ว ในใจก็แอบดีใจขึ้นมา
เรื่องที่เธออยากจะทำ ถ้ามีบอดี้การ์ดอยู่ด้วยคงทำไม่ได้
เนี่ยนโม่นั่งอยู่ในรถ แล้วมองจางชิงที่คอยพูดคุยกับฝู้เฟิ่งหยีอย่างเอาอกเอาใจ และไม่รู้ว่าทำไมกลับรู้สึกว่า ไม่ว่าเขาจะดูยังไงคุณน้าคนนี้ก็เหมือนมีอะไรแปลก ๆ อยู่
เหมือนหมาป่าตัวหนึ่งที่กำลังรอกินลูกแกะอยู่ยังไงอย่างงั้น มันทำให้เขามีความรู้สึกกลัวขึ้นมา
เนี่ยนโม่อดไม่ได้ที่จะเอวตัวไปชิดใกล้ฝู้เฟิ่งหยีไว้แน่น ๆ อย่างไม่รู้ตัว และไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
ฝู้เฟิ่งหยีไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติของเนี่ยนโม่เลย เธอยังคงตั้งใจฟังจางชิงแนะนำสถานที่ต่าง ๆ แถมยังฟังจนได้อรรถรสมากอีกด้วย
ในใจของจางชิงนั้นร้อนรนมากเลย ถึงแม้ว่าฝู้เฟิ่งหยีจะกันบอดี้การ์ดสองคนนั้นออกไปแล้ว แต่ว่าคนขับรถก็ยังคงตามพวกเขาอยู่
เธอจะต้องทำยังไง ถึงจะสลัดคนขับรถออกไปได้นะ?
คนขับรถพาพวกเขามาถึงสวนสาธารณะประจำประเทศของประเทศK ในช่วงโอกาสที่คนขับรถขับรถไปจอดที่ลานจอดรถ จางชิงก็รีบพูดกับฝู้เฟิ่งหยีขึ้นว่า “คุณป้า คุณป้าจะไปเข้าห้องน้ำไหมคะ? เดี๋ยวหนูพาไปค่ะ”
เมื่อกี้ฝู้เฟิ่งหยีนั่งอยู่ในรถไปประมาณชั่วโมงกว่า ก็รู้สึกว่าอยากจะเข้าห้องน้ำจริง ๆ แล้วด้วย
เธอพยักหน้า “ไปซิ”
เนี่ยนโม่ดึงแขนเสื้อของเธอไว้ “แต่ว่า คุณลุงคนขับรถยังไม่กลับมาเลยนี่ครับ”
ฝู้เฟิ่งหยีจิ้มจมูกเขาเบา ๆ ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ลุงคนขับรถสามารถโทรหาเราได้จ้ะ แล้วพวกเราไปห้องน้ำกันก่อน แบบนี้จะสามารถประหยัดเวลาได้ด้วย ไม่งั้นถ้าพอเขากลับมาก็ยังต้องมารอพวกเราอีก”
เนี่ยนโม่ทำได้แค่คอยเดินตามพวกเขาไปทางห้องน้ำด้วย
ตำแหน่งที่ตั้งของห้องน้ำนั้นค่อนข้างห่างไกล รอบข้างก็ไม่มีคนแม้แต่คนเดียว
ฝู้เฟิ่งหยีกลับยังไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอะไรเลยสักนิด แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำหญิงตัวคนเดียวอย่างไม่มีการระวังตัวเลยสักนิด
พอเธอเพิ่งจะเดินเข้าประตูไป ก็โดนคนเอาไม้ตีจากข้างหลังทีหนึ่ง แล้วก็เข้าสู่การสลบไสลไปในทันที
จางชิงและเนี่ยนโม่ยืนรอฝู้เฟิ่งหยีที่หน้าประตู รอไปหลายนาที ก็ไม่เห็นคนเดินออกมา
เนี่ยนโม่เริ่มรู้สึกร้อนใจ เขาอยากจะพุ่งเข้าไปดูว่าฝู้เฟิ่งหยีเป็นยังไงบ้างแล้ว
จางชิงรีบดึงตัวเขาเอาไว้ แต่กลับโดนเนี่ยนโม่สะบัดออกแรง ๆ
ไอ้เด็กเปรตนี่!
จางชิงไม่ชอบใจในตัวเนี่ยนโม่มานานแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขายังมีประโยชน์อยู่ละก็ เธออยากจะฟาดทีเดียวให้เจ้าเด็กเปรตนี่ตายไปเลย
ในเวลานี้ ในห้องน้ำหญิงกลับมีผู้ชายร่างสูงใหญ่สองคนเดินออกมา ที่บนตัวผู้ชายคนหนึ่งยังคงประคองฝู้เฟิ่งหยีที่ไม่มีสติรับรู้อะไรแล้วไว้ด้วย
พอเนี่ยนโม่เห็นฝู้เฟิ่งหยีตัวอ่อนปวกเปียกพิงอยู่บนตัวผู้ชายแปลกหน้าคนนั้น ก็ร้องตะโกนขึ้นว่า “คุณย่า! คุณย่าครับ!”
เขาร้องไปด้วย จะพุ่งตัวไปด้วย แต่กลับโดนจางชิงจับตัวไว้อย่างแน่นหนา
เนี่ยนโม่หันหน้ากลับไป ก็กัดมือของจางชิงเลย พอจางชิงรู้สึกเจ็บ ก็ใช้มืออีกข้างหนึ่งเหวี่ยงลงไปที่แก้มของเนี่ยนโม่อย่างไม่มีเยื่อใยสักนิด
“เพี๊ยะ” เสียงหนึ่งดังขึ้น เนี่ยนโม่ก็ล้มลงไปกับพื้นอย่างน่าอนาถ ใบหน้าที่อ่อนใสมีรอยนิ้วมือห้านิ้วประทับไว้อย่างเห็นได้ชัดเจน
น้ำตาของเนี่ยนโม่ร่วงหล่นลงมาทันที แต่ว่า เขาไม่ได้สนใจความเจ็บ กลับยังคงมองไปทางฝู้เฟิ่งหยีเช่นเดิม
เขากลัวคนชั่วร้ายพวกนั้นจะทำร้ายฝู้เฟิ่งหยีเข้า แต่ว่า ตอนนี้เขายังเป็นเด็ก อะไรก็ทำไม่ได้ และไม่มีทางที่จะไปช่วยคุณย่าได้
เนี่ยนโม่แอบสาบานอยู่ในใจลึก ๆ ว่า เขาจะต้องรีบเติบโตให้ได้ ในอนาคตจะต้องปกป้องคุ้มครองคุณย่าให้ดี ๆ และก็ยังมีคุณแม่ด้วย
หลังจากที่จางชิงตีเนี่ยนโม่เสร็จแล้วนั้น ในใจก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้นมา
เธอส่งสัญญาณให้ผู้ชายอีกคนหนึ่งมาจับตัวเนี่ยนโม่ไว้ จากนั้นก็ข่มขู่เขาอย่างดุดันว่า “เจ้าเด็กแสบ เธอทำตัวดี ๆ ให้ฉันหน่อยนะ ไม่งั้น ฉันก็จะไม่มีทางเกรงใจเธอแล้วนะ!”
เนี่ยนโม่โกรธจนเอาเท้าไปเตะเธอ แต่ปรากฏว่ากลับโดนจางชิงตบหน้าอีกทีหนึ่ง
แก้มของเด็กบวมแดงขึ้นมาในทันที ถ้าหากฝู้เฟิ่งหยีตื่นขึ้นมาตอนนี้ แล้วเห็นหลานที่เธอแสนจะรักและเอ็นดูที่สุดโดนคนอื่นตบตีแบบนี้ เธอจะต้องคลุ้มคลั่งแน่ ๆ
จางชิงมองเนี่ยนโม่ที่ทั้งร้องและโวยวายอย่างได้ใจ เซี่ยชีหรั่น ตอนนี้ลูกชายของเธอถือได้ว่าตกอยู่ในมือของฉันแล้ว
และในเวลานี้ โทรศัพท์ของซือซือก็โทรเข้ามา
จางชิงรับสายโทรศัพท์ “ฮัลโล?”
“ทำสำเร็จหรือยัง?” ซือซือถามขึ้นในสายโทรศัพท์อีกฝั่ง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset