สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1125 สาวใช้ตัวแสบ 1029

ตอนที่ 1125 สาวใช้ตัวแสบ 1029
เนี่ยนโม่นั่งตัวตรงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ พอเห็นการปรากฏตัวของเซี่ยชีหรั่นแล้ว เขาก็ทักทายอย่างตื่นเต้น “แม่ครับ แม่เห็นหนูไหมครับ?”
“เห็นแล้วจ้ะ มองเห็นแล้ว แม่มองเห็นเนี่ยนโม่แล้ว หนูสบายดีไหม? ระหว่างทางราบรื่นไหม? ไปอยู่ต่างที่คุ้นเคยหรือเปล่าจ๊ะ?”
เซี่ยชีหรั่นอย่างกับเป็นประทัดที่ดังติด ๆ กัน พอได้พูดก็ถามขึ้นมาหลายคำถามเลย
เนี่ยนโม่ค่อย ๆ ตอบทีละข้ออย่างยิ้มแย้ม “แม่ครับ ระหว่างทางของพวกเราราบรื่นมากครับ คุณย่ายังชมหนูว่าเป็นเด็กดีด้วย ตอนนี้พวกเราอยู่ที่คฤหาสน์ ที่นี่อากาศดีมาก แล้วหนูก็ชอบมากครับ”
ฝู้เฟิ่งหยีก็พูดเสริมอยู่อีกข้างว่า “เธอวางใจเถอะ พวกเราอยู่ที่นี่มีคฤหาสน์ สิ่งแวดล้อมก็ดีมาก ยังมีพ่อบ้านและคนรับใช้คอยดูแล เนี่ยนโม่ก็เป็นเด็กดีมาก ๆ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะพาแกไปเที่ยวสวนสนุกด้วย”
อารมณ์ของเนี่ยนโม่นั้นตื่นเต้นมาก นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาแยกกับแม่มาท่องเที่ยวตัวคนเดียวอีกด้วย
“แม่ครับ รอแม่มีเวลาแล้ว ก็มาเที่ยวที่นี่บ้างนะครับ ดอกไม้ของที่นี่สวยมากเลย หนูไม่เคยเห็นมาก่อนเลยครับ”
เนี่ยนโม่แนะนำสิ่งที่เขาเจอมาในวันนี้อย่างดีอกดีใจกับเซี่ยชีหรั่น รวมทั้งเจอเด็กคนหนึ่งที่ตัวโตประมาณพอ ๆ กับเขาตอนอยู่บนเครื่องบินด้วย ทั้งสองคนยังถ่ายรูปร่วมกันใบหนึ่งด้วย
บนใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นมีรอยยิ้ม แล้วมองลูกชายอย่างสมปรารถนา และฟังลูกชายพูดไป
เธอผ่านวันนี้มาอย่างมึน ๆ งง ๆ เหมือนอย่างกับว่าขาดสิ่งสำคัญอะไรไป ในใจนั้นทุกข์ใจมาก
หลังจากที่เนี่ยนโม่พูดไม่ยอมหยุดไปช่วงหนึ่ง ในที่สุดก็เหนื่อยแล้ว ฝู้เฟิ่งหยีก็เลยพาเขาไปนอนพักผ่อน
หลังจากที่ปิดคอมพิวเตอร์ไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็หายใจโล่งได้ทีหนึ่ง
เย่เชินหลินเห็นว่าในที่สุดเซี่ยชีหรั่นก็มีรอยยิ้มออกมาแล้ว ในใจก็ดีใจเป็นหมื่น ๆ ส่วน
ตลอดทั้งวันมานี้ เขาได้คิดหาวิธีต่าง ๆ เพื่อมาทำให้เซี่ยชีหรั่นดีใจขึ้นมา แต่ว่าก็ไม่สำเร็จ
ยังดีที่เนี่ยนโม่โทรมาทันเวลา ไม่งั้น คืนนี้เซี่ยชีหรั่นคงจะนอนไม่หลับแน่ ๆ
เนี่ยนโม่และฝู้เฟิ่งหยีที่อยู่ไกลถึงอีกฝั่งของมหาสมุทร เพราะว่าการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อย ก็เลยเข้านอนอย่างรวดเร็วเลย
หลังจากที่ฝู้เฟิ่งหยีพาเนี่ยนโม่นอนหลับแล้ว ก็ปิดประตูลง แล้วเดินกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง
เธอหาวยาว ๆ ทีหนึ่ง ข้างในใจยังคงคิดว่า คราวนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่น น่าจะมีความคืบหน้าอะไรบ้างแล้วมั้ง?
ทางที่ดีที่สุด รอตอนที่เธอกลับไปแล้ว ทั้งสองคนได้คืนดีกันแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นได้เธอก็สมปรารถนาแล้ว
ฝู้เฟิ่งหยีพกภาพความคาดหวังแบบนี้ เข้าสู่แดนนิทราที่หอมหวาน
แต่ฝู้เฟิ่งหยีกลับไม่รู้ว่า เริ่มตั้งแต่วันแรกที่เธอมาถึงประเทศKนี้ ทั้งเธอและเนี่ยนโม่ก็โดนคนจับตามองไว้แล้ว
จางชิงที่โดนเย่เชินหลินผลักไสให้มาถึงต่างประเทศนั้น ต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากมาก เงินของเขาโดนเย่เชินหลินอายัดไปหมดแล้ว เย่เชินหลินเหลือเงินเพียงเล็กน้อยไว้ให้เธอใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น
เงินเหล่านี้ ทำให้เธอที่ต้องอาศัยอยู่ในต่างแดน แค่จะใช้ชีวิตธรรมดา ๆ ยังเป็นปัญหาเลย ได้แต่ต้องคอยไปทำงานทุกที่เพื่อการดำรงชีวิตอยู่
เย่เชินหลินกลับไม่ได้กระทำกับจางชิงอย่างโหดเหี้ยม ไม่งั้น เขาสามารถที่จะตีแขนขาเธอให้หัก แล้วเอาไปโยนเป็นขอทานอยู่ต่างประเทศได้
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ จางชิงก็ยังคงโกรธเกลียดเซี่ยชีหรั่นอยู่เต็มอก เธอตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างยากลำบากไปด้วย และแอบวอนขออยู่ในใจไปด้วยว่าให้ วันหนึ่งข้างหน้าจะสามารถกลับประเทศได้อย่างสง่าผ่าเผย แล้วกลับไปแก้แค้นเซี่ยชีหรั่น ให้เขาไม่ได้ตายดี
วันนี้ จางชิงกลับมาถึงห้องอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่กลับพบว่าในห้องมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่
เป็นผู้หญิงที่ชื่อซือซือคนนั้น
จางชิงมองเธออย่างระแวดระวัง และไม่ได้พูดอะไร
ซือซือเงยหน้าขึ้นมาอย่างสบาย ๆ เธอมองสำรวจทั่วทั้งห้องที่ธรรมดามาก ๆ ที่จางชิงอาศัยอยู่
“ทำไมเธอถึงได้ตกอับถึงขั้นนี้ได้? อาศัยอยู่ในที่ที่คนระดับร่างอยู่ และยังเป็นที่ไม่ปลอดภัยแม้แต่กลอนประตูก็ยังไม่มีอีก?”
น้ำเสียงของซือซือยังคงอ่อนหวานเช่นเดิม ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเห็นใจต่อจางชิง
สำหรับตัวของซือซือนั้นจางชิงค่อนข้างเข้าใจมาก ๆ รู้ว่าเธอเป็นคนที่หน้าเนื้อใจเสือ และไม่รู้ว่าที่เธอมาที่นี่ตอนนี้ จะมาเพราะว่าตัวเองตกน้ำแล้วมาโยนก้อนหินใส่อีก หรือว่ามาเพื่อจุดประสงค์อื่นกันแน่
เพราะฉะนั้น เธอก็เลยพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีขึ้นว่า “นี่ก็เป็นเพราะเธอเป็นคนมอบให้ไม่ใช่เหรอ เย่เชินหลินให้คนอายัดเงินของฉันไปหมดแล้ว ในตัวฉันไม่มีเงินแล้ว ไม่ต้องไปนอนข้างถนนก็ดีแค่ไหนแล้ว”
พอพูดมาถึงตอนนี้ จางชิงก็ยิ้มประชดขึ้นอีกครั้ง “ไม่รู้ว่าลมอะไร ที่พัดคุณหนูซือซือมาถึงข้างในศาลผุพังนี้ได้ ที่ฉันอยู่นี้ทั้งพังทั้งยุ่ง คงไม่กล้าให้แขกผู้มีเกียรติอย่างคุณเหยียบเข้ามาหรอก”
ซือซือไม่ได้โดนน้ำเสียงเหน็บแนมเย็นชาของเธอทำร้ายเอาเลย เพียงแต่หาที่ที่ยังถือได้ว่าสะอาดอยู่นั่งลงไปเองโดยไม่สนใจอะไร
แม้แต่น้ำจางชิงก็ไม่เทให้เธอ เขายืนกอดอกอยู่ข้างหนึ่ง และมองซือซืออย่างเย็นชา
“พูดมาเถอะ ที่เธอมาหาฉันนั้นเพราะว่าอะไรกันแน่? คงจะไม่ใช่เพราะว่าคิดถึงฉันห่วงหาฉัน ถึงได้มาเยี่ยมฉันหรอกนะ?”
จางชิงรู้สึกกับซือซือผู้หญิงคนนี้นั้นไม่มีความรู้สึกดีสักนิดเลย ตอนแรกเขายุยงตัวเองอยู่ข้างหลัง ให้ตัวเองไปทำร้ายเซี่ยชีหรั่น แต่พอตอนที่เย่เชินหลินลงมือทำโทษตัวเองนั้น ผู้หญิงคนนี้กลับวิ่งหนีไปเร็วกว่าใครเลย
คนแบบนี้ ก็เหมือนกับงูที่ผิวลื่น ๆ ตัวหนึ่ง
จางชิงนั้นรู้สึกกลัวเขา แต่ก็อดไม่ไหวที่อยากจะยืมพละกำลังของเธอไปแก้แค้นเซี่ยชีหรั่น
แน่นอนว่าซือซือนั้นรู้ความคิดของจางชิงอยู่แล้ว และที่สำคัญที่เธอหาจางชิงในครั้งนี้ ก็เพราะว่าอยากจะหลอกใช้ให้จางชิงไปทำเรื่องที่เธออยากจะทำ
ซือซือล้วงเงินออกมาจากกระเป๋าปึกหนึ่ง และวางลงบนโต๊ะเบา ๆ จากนั้น เขาก็ยิ้มแล้วพูดกับจางชิงขึ้นว่า “จางชิงที่ฉันมาในครั้งนี้ก็เพราะว่ามีข่าวข่าวหนึ่งจะมาบอกกับเธอ”
เมื่อจางชิงเห็นเงินปึกนั้นแล้ว ก็อดที่จะกลืนน้ำลายไปอึกหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว
ช่วงนี้นั้นเธออยู่อย่างยากลำบากมากจริง ๆ ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เห็นเงินเยอะแยะขนาดนี้มานานแค่ไหนแล้ว
แต่ว่า เงินของผู้หญิงคนนี้นั้น ไม่ได้จะเอาได้ง่าย ๆ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ข่าวอะไร?” จางชิงยังคงไม่ค่อยเชื่อซือซือซะเท่าไหร่ คนแบบเธอนั้นจะมาดีกับตัวเองอย่างไม่มีเหตุผลได้ยังไงกันล่ะ?
ซือซือยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วหยิบรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋าใบหนึ่ง
เธอเอารูปถ่ายยื่นให้กับจางชิง
จางชิงรับมาอย่างสงสัย แล้วเห็นคนสองคนในรูปถ่าย คนหนึ่งคือเนี่ยนโม่ ส่วนอีกคนหนึ่งคือฝู้เฟิ่งหยี ดูท่าแล้วพวกเขาน่าจะเพิ่งลงเครื่องบินมา เพราะบรรยากาศของภาพคืออยู่ในสนามบิน
“ต้องรู้จักแน่นอนอยู่แล้ว” จางชิงกัดฟันพูดขึ้น
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าคนสองคนนี้ ตอนนี้เธอคงยังจะดีกับเย่เชินหลินอยู่ และเธอก็ยังคงจะได้เสวยสุขอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเย่ แล้วก็ได้ดื่มด่ำกับสายตาอิจฉาของผู้อื่นอีกด้วย
ความโกรธเกลียดของจางชิงนั้นทำให้ซือซือรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก เธอพูดกับจางชิงว่า “คนสองคนนี้ ตอนนี้กำลังพักร้อนอยู่ที่ประเทศK ฉันสามารถทำให้เธอไปถึงประเทศKได้ แล้วเธอก็ไปคิดหาวิธีไปเข้าใกล้พวกเขา”
จางชิงกำลังพลิกรูปถ่ายในมือเล่น แล้วถามขึ้นว่า “เข้าใกล้พวกเขา? เธอคิดจะทำอะไรอีกแล้วใช่ไหม?”
ซือซือทำท่าเอามือขึ้นมาปิดปากอย่างมีเสน่ห์ทีหนึ่ง และพูดอย่างเว่อร์วังว่า “ฉันไม่ได้อยากจะทำอะไรสักหน่อย น่าจะเป็นเธอที่ต้องลองถามตัวเองดูว่า เธอสามารถทำอะไรได้บ้าง จางชิง ลองคิดดูเองเถอะ แม่และลูกของเย่เชินหลินมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่างโดดเดี่ยว เรื่องที่เธอสามารถทำได้นั้นมีตั้งเยอะตั้งแยะ”
หลังจากที่จางชิงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งแล้ว ต่อมาก็คือเกิดความรู้สึกดีอกดีใจขึ้น
ใช่แล้วซิ เรื่องที่เธอสามารถทำได้นั้นมีอยู่เยอะแยะไป……
จางชิงตัดสินใจร่วมมือกับซือซืออย่างเด็ดขาดไป
“ได้ งั้นเธอก็คิดหาวิธีให้ฉันไปให้ได้ก็แล้วกัน”
ซือซือโทรศัพท์ออกไปอย่างรวดเร็วสายหนึ่ง แล้วจัดแจงตั๋วและเที่ยวบินของจางชิงให้เรียบร้อย เพื่อให้เธอสามารถไปถึงประเทศKได้อย่างรวดเร็วที่สุด
จางชิงขยำรูปถ่ายในมือให้กลายเป็นก้อนหลุดลุ่ย แล้วยิ้มให้เศษรูปถ่ายพวกนั้นอย่างชั่วร้าย
รอไปเถอะเซี่ยชีหรั่น รอบนี้ฉันจะต้องให้เธอได้เห็นดีแน่!
เช้าวันที่สอง ฝู้เฟิ่งหยีเพิ่งจะตื่น พ่อบ้านก็มาหาเธอและรายงานว่า “คุณผู้หญิงครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาคุณครับ”
ฝู้เฟิ่งหยีรู้สึกแปลกใจ “ใครกันนะ?”
เธอเพิ่งมาถึงเมื่อวาน และที่สำคัญในประเทศนี้เธอก็ไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักนี่
พ่อบ้านพูดอย่างเคารพขึ้นว่า “เขาบอกว่าเขาแซ่จางครับ”
แซ่จางเหรอ?
คนที่แซ่จางนี่เป็นใครกันนะ?
ในใจของฝู้เฟิ่งหยีนั้นรู้สึกสงสัย จึงกำชับกับพ่อบ้านขึ้นว่า “งั้นคุณให้เขารอฉันแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวฉันลงไป”
ฝู้เฟิ่งหยีแต่งหน้าอย่างเรียบง่าย จากนั้นก็ลงตึกไปเจอกับแขก
ผู้หญิงที่ยืนโด่อยู่กลางห้องรับแขกนั้น คือจางชิงผู้หญิงคนก่อนของลูกชายเธอ เพราะวางวางยาพิษทำร้ายหลานของเธอก็เลยโดนเย่เชินหลินไล่ออกจากบ้านไป
พอจางชิงเห็นฝู้เฟิ่งหยีลงจากตึกมา เธอก็รีบยิ้มอย่างเอาใจกับฝู้เฟิ่งหยีขึ้นมา “สวัสดีค่ะคุณป้า”
ที่จริงตั้งแต่แรกฝู้เฟิ่งหยีก็ค่อนข้างประทับใจในตัวจางชิง เพราะว่าผู้หญิงคนนี้มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อลูกชายเธอมาตลอด จึงทำให้เธอเกลียดไม่ลง
แต่ว่าต่อมา ไม่รู้ว่าจางชิงไปกินยาอะไรผิดมา ถึงได้มีความกล้ามาลงมือกับเนี่ยนโม่ได้ และนี่ก็คือสิ่งที่ทำให้ฝู้เฟิ่งหยีทนไม่ได้อีกต่อไป
“อ๋อ ที่แท้คือเธอหรอกเหรอ เธอมาที่นี่ มีเรื่องอะไรเหรอ?” ฝู้เฟิ่งหยีถามขึ้นอย่างเรียบ ๆ
จางชิงไม่ได้โดนความเย็นชาของฝู้เฟิ่งหยีทำให้ตกใจจนถอยหนี บนใบหน้าของเธอมีสีหน้าที่น่าสงสารโผล่ออกมา “คุณป้าคะ หนูมาเพราะว่าจะมารับผิดกับคุณป้าค่ะ”
ฝู้เฟิ่งหยีเห็นว่าน้ำตาของจางชิงเกือบจะไหลออกมาแล้ว ใจก็เริ่มอ่อนลงมา น้ำเสียงก็ถือได้ว่าดีขึ้นมาบ้าง “รู้ตัวว่าผิดก็ดีแล้ว ฉันก็ว่าอยู่ เด็กอย่างเธอปกติก็จิตใจดีงามมาตลอด อาจจะเป็นเพราะความคิดชั่ววูบเท่านั้น ถึงได้ทำให้เธอทำเรื่องผิดพลาดไป”
จางชิงพูดขึ้นอย่างรีบร้อน “ยังคงเป็นคุณป้าที่เข้าใจหนู ตอนนั้นหนูไม่รู้ว่าผีอะไรมาเข้าสิงจริง ๆ หนูไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ หนูจะไปทำร้ายเด็กคนหนึ่งด้วยความตั้งใจได้ยังไงกันคะ?”
ฝู้เฟิ่งหยีรู้สึกว่าจางชิงช่างน่าสงสาร เธอจึงปลอบใจจางชิงว่า “ฉันรู้ว่าเธอก็เป็นเด็กที่ดีคนหนึ่ง ที่จริงฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอจะได้อยู่กับเย่เชินหลินดี ๆ แต่ว่า เจ้าเด็กอย่างเชินหลินนี่ เธอก็รู้นี่ว่าฉันพูดอะไรเขาไม่ได้อยู่แล้วนี่”
จางชิงรีบพูดต่อขึ้นว่า “อย่าโทษเชินหลินเลยค่ะ เพราะว่าหนูไม่ไขว่คว้าไว้ให้ดี ๆ เอง ทำเรื่องที่เขาชอบออกมาไม่ได้ คุณป้าค่ะ พวกคุณป้ามาพักร้อนที่นี่ ให้หนูมาดูแลพวกคุณป้าเองดีไหมคะ?”
ฝู้เฟิ่งหยีลังเลไปครู่หนึ่ง แล้วก็ปฏิเสธไป “ไม่ต้องลำบากหรอก พวกเราอยู่ที่นี่มีพ่อบ้านและคนรับใช้ ไม่จำเป็นต้องใช้เธอหรอก”
อยู่ ๆ จางชิงก็ร้องไห้ออกมาทันที “คุณป้า หนูไม่อยากโกหกคุณป้าหรอกนะคะ ที่หนูมาในครั้งนี้ จริง ๆ แล้วเพราะว่ามีเรื่องจะมาขอร้องคุณป้าค่ะ……”
พอฝู้เฟิ่งหยีเห็นจางชิงร้องไห้อย่างเสียอกเสียใจขนาดนั้นแล้วก็ตกใจขึ้นมา เธอจึงรีบถามขึ้นว่า “ทำไมเหรอ? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธอเหรอ”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset