ตอนที่ 1127 สาวใช้ตัวแสบ 1031
“สำเร็จแล้ว ฉันทำงาน เธอยังไม่วางใจอีกเหรอ?” จางชิงพูดอย่างได้ใจและโอ้อวดกับซือซือว่าเธอหลอกให้ฝู้เฟิ่งหยีเชื่อใจได้ยังไง แล้วก็ความคุมเนี่ยนโม่ไว้ในมือได้ยังไง
ซือซือพูดขัดการคุยโวโอ้อวดของเธอ และสั่งกำชับขึ้นว่า “ฝู้เฟิ่งหยีไม่มีประโยชน์ในการหลอกใช้แล้ว ไม่ต้องพาเขามาด้วย ไม่งั้นก็จะวุ่นวายกันมาก เธอพาแต่เนี่ยนโม่มาก็พอแล้ว ฉันรอเธออยู่ที่ที่พักของเธอ”
จางชิงกดวางโทรศัพท์ลง แล้วก็เบ้ปากพูดขึ้นว่า “เธอยังจะนึกว่าตัวเองเป็นนางพญาจริง ๆ เหรอ?”
แต่ว่า จางชิงกลับไม่กล้าขัดขืนคำสั่งของซือซือ เธอรู้สึกหวาดกลัวผู้หญิงคนนี้มาจากก้นบึ้งหัวใจเลย
จางชิงหาที่ราบเรียบที่หนึ่งวางตัวฝู้เฟิ่งหยีลง แล้วพาแต่เนี่ยนโม่จากไป
พอเนี่ยนโม่มองเห็นว่าคุณย่าโดนทิ้งเอาไว้ ก็ใจร้อนรีบร้องตะโกนขึ้นมา จนทำให้จางชิงโกรธแล้วตีเขาอีกหลายที ถึงได้ทำให้เขาสงบเงียบลงไปได้
ดวงตาทั้งคู่ของเนี่ยนโม่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น เขาอยากเติบโตขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย แล้วจะจับผู้หญิงคนนี้ไปโยนลงทะเลให้ปลากิน
จางชิงพาเนี่ยนโม่กลับมาถึงที่ที่พักของตัวเอง ซือซือมารออยู่ที่นี่นานแล้ว
น้ำตาของเนี่ยนโม่ไหลจนเหือดแห้งไปนานแล้วตั้งแต่ระหว่างทางที่มา เขาพิงอยู่บนตัวผู้ชายคนนั้นอย่างเหนื่อยอ่อน ขยับก็ไม่ยอมขยับ
ซือซือไม่มีเวลาไปสนใจเนี่ยนโม่ เธอจับมือของจางชิงเอาไว้ แล้วยิ้มอย่างญาติดีมาก ๆ กับเธอ “ฉันดูคนไม่ผิดจริง ๆ โอกาสที่เธอทำงานสำเร็จได้มีสูงมากเลยนี่”
จางชิงพยักพเยิดอย่างได้ใจเอามาก ๆ แล้วก็ชี้ไปที่เนี่ยนโม่และพูดขึ้นว่า “เจ้าเด็กนี่ เธอกะว่าจะจัดการยังไงกัน?”
ถ้าหากเอาตามความหมายของเธอก็คือ ยาพิษแก้วหนึ่งโดยตรง เอาให้ถึงตายไปเลย
ซือซือยิ้มเย็น “เขานะเหรอ เขายังมีประโยชน์อย่างมากอยู่”
พูดจบ ซือซือก็ยื่นน้ำให้จางชิงแก้วหนึ่งอย่างคาดหวังมาก ๆ แล้วพูดกับเธอว่า “วันนี้เธอคงเหนื่อยมามากแล้ว มาดื่มน้ำสักแก้วหนึ่ง พักผ่อนก่อนสักหน่อยดีกว่า ”
จางชิงรู้สึกว่าคอแห้งแล้วจริง ๆ ด้วยเหตุนี้เธอจึงดื่มสิ่งที่ซือซือยื่นมาให้เธอลงไปอย่างไม่มีข้อสงสัยใด ๆ
และก็เป็นเพราะว่าแบบนี้ จางชิงถึงได้ไม่เห็นความชั่วร้ายและความสมหวังที่กะพริบผ่านไปในดวงตาของซือซือ
หลังจากที่จางชิงดื่มน้ำหมดแล้วนั้น อยู่ ๆ ในหัวก็รู้สึกมึน ๆ ขึ้นมา
“เธอให้ฉันดื่มอะไรไป?” พอถึงเวลานี้จางชิงถึงจะเพิ่งรู้สึกตัวขึ้นมา ในน้ำที่ซือซือยื่นมาให้เธอ จะต้องโดนผู้หญิงคนนั้นใส่อะไรลงไปแน่
ซือซือหัวเราะ ฮา ฮา ออกมา แล้วเธอก็หยิบแก้วขึ้นมาไว้ในมือ แล้วยิ้มและพูดกับจางชิงว่า “อันนี้ ก็เป็นยาอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้เธอเชื่อฟังได้ยังไงล่ะ ฮา ฮ่า เธอนี่โง่จริง ๆ เลย”
จางชิงกุมขมับไว้อย่างโมโห เธอรู้สึกว่าหนังตายิ่งอยู่ก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นหนักขึ้น แม้แต่ความคิดก็ยังกลายเป็นเรื่องเปลืองแรงขึ้นมา“ฉันไม่เชื่อฟังตรงไหน? ฉันก็ทำงานตามความหมายของเธอมาตลอดเลยนี่ ทำไมเธอยังจะ……ยังจะทำกับฉันอย่างนี้อีก!”
“นั่นเป็นเพราะว่า ฉันรู้สึกว่าวางยามันน่าจะแน่นอนกว่านะซิ หรือเธอว่าไง?”
ซือซือไม่ได้รับการตอบกลับจากจางชิงแล้ว เพราะว่าจางชิงในเวลานี้ ได้กลายเป็นหุ่นเชิดตัวหนึ่งไปหมดแล้ว
จางชิงได้สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปหมดแล้ว เธออยู่ภายใต้การบงการของซือซือ แล้วโทรศัพท์ไปหาเย่เชินหลิน
ในเวลานี้ เย่เชินหลินได้รู้เรื่องการหายตัวไปของลูกชายแล้ว
หลังจากที่มีคนพบเห็นฝู้เฟิ่งหยีแล้ว เธอก็ได้รายงานกับลูกชายเธอเป็นอันดับแรกเลย
“ฮือ ฮือ……เนี่ยนโม่ เขาโดนคนลักพาตัวไปแล้ว ต้องโทษฉัน เพราะว่าฉันไม่ได้ดูเขาไว้ดี ๆ เอง……”
แม้แต่มือที่ถือโทรศัพท์อยู่ของเย่เชินหลิน ก็ยังถือไว้ไม่นิ่งแล้ว “พวกแม่เจอกับอันตรายตอนไหนครับ? อย่าเพิ่งร้อนรนครับแม่ แม่ค่อย ๆ พูดนะครับ ผมจะต้องหาตัวเนี่ยนโม่กลับมาให้ได้นะครับ”
ความสงบนิ่ง และมั่นคงในน้ำเสียงของเย่เชินหลินค่อย ๆ ถ่ายทอดไปยังฝู้เฟิ่งหยี เธอพยายามอดกลั้นความร้อนใจเอาไว้ และเริ่มเล่าเรื่องต่าง ๆ ของเหตุการณ์ให้กับเย่เชินหลินหนึ่งรอบ
“……แล้วต่อมา จางชิงก็บอกว่าจะพาฉันไปเข้าห้องน้ำ ฉันก็เลยไป แต่ปรากฏว่าพอฉันเพิ่งเดินเข้าไป ก็โดนคนตีจนสลบไปเลย พอฉันตื่นมาอีกทีที่ข้างกายฉันก็มีแต่คนต่างชาติ และฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนี่ยนโม่โดนใครจับตัวไป”
จางชิง!
พอได้ยินชื่อที่คุ้นเคยนี้แล้ว ไฟโกรธในใจของเย่เชินหลินก็ลุกโชนขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่
ผู้หญิงคนนี้ ถึงเวลาแบบนี้แล้ว จะตายอยู่แล้วยังไม่รู้จักกลับใจอีก
ดูท่าแล้ว ครั้งนี้เขาคงจะปล่อยไปแบบง่าย ๆ ไม่ได้อีกแล้ว
“แม่ แม่วางใจเถอะครับ ผมจะต้องพาเนี่ยนโม่กลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้ แม่อย่าเพิ่งบอกเซี่ยชีหรั่นนะครับ ผมกลัวว่าเธอจะรับไม่ไหว”
ฝู้เฟิ่งหยีพยักหน้าติด ๆ กัน “ใช่ ใช่ ใช่ ฉันจะไม่บอกเขา เชินหลิน ไม่ว่ายังไงเธอจะต้องพาเนี่ยนโม่กลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้นะ ไม่งั้น ฉันจะเอาความตายมาลบล้างความผิดจริง ๆ ด้วย……”
พูดไปพูดมา ฝู้เฟิ่งหยีก็เริ่มร้องไห้ขึ้นมาอีก เย่เชินหลินได้แต่คอยปลอบโยนเธออยู่ตั้งนาน จากนั้นค่อยวางสายโทรศัพท์ลง
หลังจากที่เย่เชินหลินวางสายโทรศัพท์ไปไม่นาน สายโทรศัพท์ของจางชิงก็โทรเข้ามา
“เชินหลิน ไม่เจอกันนานเลยนะ คุณยังจำได้ไหมคะว่าฉันเป็นใคร?”
น้ำเสียงที่อ่อนโยนและมีเสน่ห์ของจางชิงดังขึ้นมา
เย่เชินหลินยิ้มเย็นทีหนึ่ง แล้วถามเธอไปตรง ๆ ว่า “จางชิง ลูกชายของผมอยู่ในมือคุณใช่ไหม?”
จางชิงหัวเราะ เอิก เอิก เอิก ขึ้นมา แล้วถามขึ้นอย่างงอน ๆ ว่า “เชินหลิน คุณไม่คิดถึงฉันเลยเหรอคะ? ฉันคิดถึงคุณมากเลยนะคะ ฉันนอนไม่หลับทั้งวันทั้งคืน และมักจะฝันเห็นคุณอยู่ข้างกายฉันเสมอ…… เชินหลิน เราอย่าทะเลาะกันอีกเลยดีไหมคะ?”
น้ำเสียงของจางชิงต่ำ ๆ เหมือนอย่างกับว่าเธอและเย่เชินหลินนั้นแค่ทะเลาะกันธรรมดาจริง ๆ อย่างกับเป็นคู่รักธรรมดาคู่หนึ่ง
เย่เชินหลินรู้สึกเบื่อหน่ายจางชิงเอามาก ๆ เขาตะคอกเสียงต่ำขึ้นว่า “คำพูดไร้สาระไม่ต้องพูดเยอะ เธอรีบปล่อยตัวลูกชายของฉันออกมานะ ไม่งั้น ฉันจะไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่ !”
“เชินหลิน…… ทำไมคุณถึงได้ดุดันขนาดนี้ คนเขากลัวจังเลย……”
บนใบหน้าที่หล่อเหล่าและเยือกเย็นของเย่เชินหลินนั้นมีแววอำมหิตกะพริบขึ้น
ผู้หญิงอย่างจางชิงคนนี้นี่ ความตายมาถึงตรงหน้าแล้วยังไม่รู้ตัวอีก
อาจจะเพราะว่าจางชิงสัมผัสถึงความไม่พอใจของเย่เชินหลินแล้ว ในที่สุดเธอก็หยุดยั้งความออดอ้อนเอาไว้ และเริ่มพูดเรื่องจริงจังกับเย่เชินหลินขึ้นมา “เชินหลิน ลูกชายของคุณอยู่ในมือฉันจริง ๆ ค่ะ ”
“พูดมาเถอะ เธอต้องการข้อเรียกร้องอะไร” น้ำเสียงของเย่เชินหลินนั้นสงบนิ่งมาก ๆ แต่ว่า มีเพียงตัวเขาเองที่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว ฝ่ามือของนั้นมีเหงื่อซึมออกมาตั้งนานแล้ว
เนี่ยนโม่จะต้องห้ามเป็นอะไรทั้งนั้น ไม่งั้น เขาไม่อยากจะคิดจริง ๆ ว่าเซี่ยชีหรั่นจะเป็นอะไรตามไปด้วยหรือเปล่า
ไม่ได้ เขาเย่เชินหลินจะไม่มีทางอนุญาตให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแน่นอน!
“เชินหลิน ฉันไม่มีข้อเรียกร้องอะไร ฉันแค่อยากจะกลับไปอยู่ข้างกายคุณ ได้ไหมคะ?”
จางชิงพูดกับเขาอย่างขอร้อง น้ำเสียงนั้น จะพูดว่าน่าสงสารแค่ไหนก็น่าสงสารแค่นั้น
เย่เชินหลินพึมพำเสียงเย็นว่า “คำขอนี้ เธอช่างกล้าขอจริง ๆ นะ ถ้าหากฉันพูดว่า ฉันไม่ตกลงล่ะ?”
จางชิงอยู่ที่ปลายสายอีกฝั่ง อยู่ ๆ ก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา เสียงที่แสบหูลอยเข้ามาในโทรศัพท์ เปลี่ยนเป็นยิ่งไม่น่าฟังมากยิ่งขึ้น
“ถ้าอย่างงั้น คุณก็คงจะไม่มีวันได้เห็นเนี่ยนโม่อีกแล้วล่ะ” หลังจากที่จางชิงพูดจบแล้ว ก็กดวางสายโทรศัพท์ไปเลย
เย่เชินหลินถือโทรศัพท์เอาไว้ สีหน้ามืดขรึม แล้วถามลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นว่า “แกะรอยเบาะแสได้หรือยัง?”
“ยังขาดอีกนิดหน่อย ต้องรอก่อนครับ”
“รีบ ๆ ทำเร็ว ๆ ฉันจะต้องรู้ตำแหน่งเบาะแสของลูกชายฉันให้เร็วที่สุด”
“ครับ”
ที่เย่เชินหลินกังวลไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เขาสามารถฟังได้จากในโทรศัพท์ว่า จางชิงนั้นได้บ้าคลั่งไปแล้ว มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เธอจะเรื่องอะไรที่ไม่ดีต่อเนี่ยนโม่ออกมา
พอคิดมาถึงตรงนี้ เย่เชินหลินรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองนั้นกระตุกขึ้นทีหนึ่ง เจ็บจนยากที่จะทนไหว
เทวดาน้อยคนนั้น เมื่อหลายวันก่อนยังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงของตัวเองอยู่เลย แต่วันนี้กลับตกไปอยู่ในมือของคนชั่วร้ายโหดเหี้ยมแล้ว
เย่เชินหลินนั้นรู้สึกผิดเอามาก ๆ เลย เขาไม่ได้ปกป้องคุ้มครองลูกชายให้ดี เขาไม่มีหน้าจะไปเจอเซี่ยชีหรั่นแล้ว
เซี่ยชีหรั่นนั้นไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้วยซ้ำ เธอแค่รู้สึกว่า วันนี้เย่เชินหลินมีอะไรที่แปลก ๆ ไม่เหมือนปกติ
เขาไม่กล้าสบตากับตัวเอง แถมเวลาคุยกับเธอ ก็คุยแบบผ่าน ๆ อีกด้วย
เหมือนกับว่า เขากำลังรอเรื่องอะไรอยู่อย่างงั้นแหละ
เซี่ยชีหรั่นได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของเย่เชินหลินไปด้วย จึงเริ่มคิดฟุ้งซ่านตามขึ้นมา แม้แต่เอกสารที่เธอนำกลับมาจากบริษัทก็ยังไม่มีกะจิตกะใจดู
เซี่ยชีหรั่นเริ่มซึมเศร้าเพราะคิดไปถึงว่า ในที่สุดเย่เชินหลินก็เริ่มทนตัวเองไม่ไหวแล้วใช่ไหม ไม่อยากจะเห็นหน้าตัวเองอีกแล้วใช่ไหม?
ถึงตาเธอจะต้องจากไปอย่างเศร้าสลดแล้วใช่ไหม……
แต่ทางด้านเย่เชินหลินนั้น ในที่สุดก็หาตำแหน่งที่แน่นอนของเนี่ยนโม่เจอสักที
“รีบไปจัดแจงเครื่องบินส่วนตัว ฉันจะรีบไปประเทศK” เย่เชินหลินรีบร้อนพุ่งตัวออกไปนอกประตู แล้วก็เจอกันเซี่ยชีหรั่นที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกพอดีเข้า
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นอย่างมีเรื่องจะพูดแต่ก็ไม่พูด สุดท้ายก็ยังไม่กล้าจะบอกข่าวนี้กับเธออยู่ดี
“ผมมีธุระจะต้องไปต่างประเทศ คุณอยู่บ้านคนเดียว ต้องดูแลตัวเองให้ดี ๆนะ”
เวลาของเย่เชินหลินนั้นเร่งรีบ ก็เลยไม่มีทางที่จะได้พูดคุยอะไรกับเซี่ยชีหรั่นมาก เขารีบร้อนพาคนจากไปเลย
ทิ้งเซี่ยชีหรั่นให้คิดฟุ้งซ่านอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว เธอมักจะรู้สึกว่า ตัวเองจะต้องจากไปอีกครั้งถึงจะถูก
เย่เชินหลินนั่งเครื่องบินส่วนตัวมา ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงกว่าจะมาถึงประเทศK
เขาพาบอดี้การ์ดมาด้วยสิบกว่าคน แล้วค่อย ๆ เข้าใกล้บ้านพักของจางชิงอย่างเงียบกริบ
ในตอนนี้ ที่ข้างในบ้านของจางชิง เนี่ยนโม่ถือโอกาสที่คนเฝ้าประตูไม่ทันระวัง จึงค่อย ๆ ขยับตัวไปทางหน้าประตู
ซือซือได้จากไปแล้ว ส่วนจางชิงนั้นเพราะว่ากินยาของซือซือเข้าไป สมองก็เลยเบลอ ๆ บางเวลาสงบนิ่ง บางเวลาก็บ้าคลั่ง และตอนนี้กำลังหลับอยู่
ผู้ชายสองคนที่รับผิดชอบเฝ้าเนี่ยนโม่นั้น กลับไม่ได้เอาเนี่ยนโม่มาอยู่ในสายตาเลยสักนิด พวกเขาสองคนแค่ปิดประตูลง แล้วก็ไปนั่งดื่มเหล้าพูดคุยกันอยู่ข้างนอก
เนี่ยนโม่เปิดประตูออกเบา ๆ เห็นเพียงคนสองคนที่เฝ้าตัวเองกำลังเมามายอยู่ ต่างก็ไม่มีใครสังเกตเห็นตัวเองเลยสักคน
เขาก้าวขาออกด้วยจิตใจที่ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แล้วค่อย ๆ ขยับออกมาจากข้างในห้อง
หนึ่งก้าว สองก้าว สามก้าว……
ในที่สุด ก็เข้าใกล้ประตูมากขึ้นทุกทีแล้ว!
จิตใจของเนี่ยนโม่กำลังเต้นตึกตัก ตึกตักอย่างแรง เขากลัวคนที่เฝ้าเขาจะพบเข้า แม้แต่หายใจยังเงียบกริบ
โชคดีที่ คนที่เฝ้าดูเขาไม่ได้พบเขาเข้า จึงทำให้เขาไปถึงหน้าประตูได้อย่างราบรื่น
ในใจของเนี่ยนโม่กำลังดีใจ เขาเปิดประตูออก แล้วก็มุดออกไปทันทีราวกับบินก็ไม่ปาน
ในเวลานี้ คนที่เฝ้ายามได้ยินเสียงขยับเข้า ทั้งสองคนก็รีบร้อนหันไปดูทางหน้าประตู
“แย่แล้ว เจ้าเด็กนั่นหนีไปแล้ว!”
หนึ่งในคนเฝ้ายามตะโกนขึ้นว่า “เจ้าเด็กเปรตนี่ แกกลับมาเดี๋ยวนี้นะ! ไม่งั้น ถ้าฉันจับตัวแกได้นะ ฉันจะตีขาแกให้หักให้ได้ !”
สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1127 สาวใช้ตัวแสบ 1031
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด
Recommended Series
Comment
Facebook Comment