สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1135 สาวใช้ตัวแสบ 1039

ตอนที่ 1135 สาวใช้ตัวแสบ 1039
เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่น สุภาพบุรุษผู้นั้นก็ยืนขึ้น เผยมือออกไปแล้วยิ้มให้กับเซี่ยชีหรั่นพร้อมกับพูดขึ้นว่า:“สวัสดีคุณคือคุณเซี่ยใช่ไหม!ผมเป็นตัวแทนของสำนักงานกฎหมาย มีเรื่องอยากจะเจรจากับคุณ!”
คนๆนี้พูดจาสุภาพ ตรงไปตรงมา เมื่อได้ยินว่าเป็นคนของสำนักงานกฎหมาย แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็พอที่จะเดาได้ว่าเป็นเรื่องอะไร เรื่องที่ว่านี้จะต้องเกี่ยวข้องกับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเนี่ยนโม่อย่างแน่นอน
“ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรใช่ไหม!” เซี่ยชีหรั่นนั้นรู้ดีว่าฝู้เฟิ่งหยีนั้นรักหลานชายมาก เพียงแต่ว่าแต่ไหนแต่ไรไม่เคยสนใจความรู้สึกของเธอเลยเนี่ยนโม่นั้นเป็นสิ่งค้ำจุนเพียงสิ่งเดียวของเธอ หากไม่มีเนี่ยนโม่แล้วเธอนั้นจะยังเหลืออะไร?
“คืออย่างนี้นะครับคุณเซี่ย คุณนายเย่ท่านแจ้งกับผมว่าคุณนั้นกีดกันไม่ให้คุณเย่เชินหลินพบลูกชายในสายเลือดของเขาเนี่ยนโม่ ซึ่งการกระทำเช่นนี้นั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งเรื่องหนีภาษีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะที่คุณยังอยู่ในวงการอัญมณีนั้น เรื่องๆนี้นั้นกระทบกับเด็กคนนี้เป็นอย่างมาก ในทางกฎหมายมักจะมอบอำนาจในการเลี้ยงดูบุตรให้กับฝ่ายที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า!”ทนายความท่านนี้พูดไปพลางพลิกเอกสารไปพลาง
“อะไรนะคะ?” เมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินทนายความท่านนี้พูดจบ ร่างกายของเธอก็สั่นไปทั้งตัว เธอนั้นรู้เป็นอย่างดีว่าฝู้เฟิ่งหยีนั้นต้องการสิทธิ์ในการปกครองเนี่ยนโม่จึงใช้วิธีนี้ในการบีบบังคับเธอ!
จากนั้นไม่ว่าทนายท่านนั้นจะพูดอะไร เซี่ยชีหรั่นนั้นก็ไม่อยากที่จะฟังอีกต่อไปแล้ว เธอรู้เพียงว่า เธอจะปล่อยให้เนี่ยนโม่จากเธอไปไม่ได้ เพราะหากไม่มีเนี่ยนโม่แล้ว เธอก็ไม่รู้แล้วว่าโลกนี้ของเธอนั้นจะยังคงเหลืออะไร?
เย่เชินหลิน!หากจะโทษก็ต้องโทษความใจอ่อนของตนเอง รู้ทั้งรู้ว่าตนนั้นไม่ควรที่จะหลงเชื่อผู้ชายแบบนั้น เขานั้นเป็นคนรับปากแท้ๆว่าตนนั้นจะไม่เรียกร้องสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตร แต่ว่าตอนนี้กลับ ……
เมื่อทนายความจากไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ได้แต่ประคองตนเองนั่งลงบนโซฟา
“แม่ครับ แม่เป็นอะไรเหรอครับ?”เนี่ยนโม่เดินเท้าเปล่ามาจับมือของเซี่ยชีหรั่นที่กำลังนั่งเหม่ออยู่บนโซฟา
“เนี่ยนโม่!ทำไมถึงตื่นแล้วล่ะ?”เซี่ยชีหรั่นจ้องมองไปที่เนี่ยนโม่มองไปที่แก้มอวบอิ่มของลูกชาย จากนั้นพูดขึ้นด้วยความเศร้าเสียใจว่า:“เนี่ยนโม่ ลูกชอบคุณย่าไหมครับ?”
“ชอบครับ!”เนี่ยนโม่เหลือบมองไปที่เซี่ยชีหรั่น และพบว่าเมื่อเซี่ยชีหรั่นได้ยินประโยคนี้ใบหน้าของเธอก็แสดงความโศกเศร้าออกมา จึงรีบกลับคำว่า:“แต่ว่าลูกก็ยังชอบแม่ที่สุด รักคุณแม่ที่สุด”
“หากต่อไปลูกไม่ได้เห็นหน้าแม่อีก ลูกจะทำยังไงครับ?” เซี่ยชีหรั่นนั้นคิดว่า หากฝู้เฟิ่งหยีต้องการสิทธิ์ในการปกครองเนี่ยนโม่นั้น คงจะเป็นเรื่องที่เธอนั้นไม่อาจที่จะขัดขวางได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนี่ยนโม่นั้นจะมีความสุข
“แม่ครับ แม่จะไปไหนครับ?แม่ไม่ต้องการเนี่ยนโม่แล้วเหรอครับ?แม่จะไปไหนครับ?”เนี่ยนโม่เริ่มกระวนกระวายใจมือน้อยอันเอิบอิ่มของเขานั้นบีบมือของเซี่ยชีหรั่น
“เด็กโง่ แม่ก็อยู่ข้างๆลูกแล้วไม่ใช่เหรอ?จะไม่ต้องการลูกได้อย่างไรกัน?” เซี่ยชีหรั่นยื่นมือออกไปเช็ดคราบน้ำตาที่อยู่บนใบหน้าของ เนี่ยนโม่
ไม่ได้ เธอจะยอมปล่อยให้สิทธิ์การเลี้ยงดูเด็กน้อยที่น่ารักคนนี้ไปไม่ได้ ตอนแรกเย่เชินหลินก็รับปากกับเธอแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้กลับคำได้ล่ะ?
เซี่ยชีหรั่นนั้นตัดสินใจไปพบเย่เชินหลินด้วยตัวของเธอเอง
บริษัทเย่ซื่อตั้งอยู่บริเวณที่หรูหราที่สุดในเมืองนี้ สำนักงานของเย่เชินหลินนั้นอยู่ที่ชั้นแปดของตึกสูงขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึงสามสิบชั้น
ตลอดทั้งชั้นเน้นใช้สีเหลืองทองในการตกแต่ง ราวกับอยู่ในวัง
เมื่อเซี่ยชีหรั่นเดินใกล้จะถึงบริษัทเย่ซื่อ สายตาของคนจำนวนมากก็จ้องมองมาที่เธอ เสื้อคลุมบางๆห่อหุ้มร่างกายของเธอ ผมยาวสลวยที่ปกคลุมบ่าอย่างเป็นธรรมชาติ แม้เธอไม่สวมใส่เครื่องประดับใดๆ เลยแต่กลับมีความสง่างามอย่างเป็นธรรมชาติ
“สวัสดีค่ะ ท่านมาพบใครคะ?” พนักงานหน้าเค้าเตอร์ถามเซี่ยชีหรั่น
“ฉันมาพบเย่เชินหลิน!”เซี่ยชีหรั่นนั้นมองไปที่ผู้หญิงที่กำลังสนทนากับตน สิ่งแรกในตัวของผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าของตนที่ผ่านเข้ามาในสายตาของตนนั้นก็คือหน้าอกขนาดใหญ่ของเธอ อีกทั้งยังได้กลิ่นน้ำหอมอบอวลมาจากตัวของเธอด้วย
พนักงานที่อยู่ที่เค้าเตอร์นั้นรู้สึกประหลาดใจที่ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้านี้กล้าเรียกชื่อของท่านประธานเย่?อดไม่ได้ที่จะจ้องมองเซี่ยชีหรั่นตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่เซี่ยชีหรั่นที่อยู่เบื้องหน้าก็ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษ รูปร่างก็…… ไม่เลวนะ เย่เชินหลินนั้นชอบไร้เดียงสาแบบนี้เหรอ?มิน่าล่ะ แต่ไหนแต่ไรเย่เชินหลินนั้นไม่เคยเหลือบมองเธอเลยแม้แต่น้อย
“ท่านต้องนัดไว้ก่อนนะคะ!”ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้านั้นยิ่งคิดยิ่งโกรธ มองเซี่ยชีหรั่นผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความเหยียดหยัน
“รบกวนคุณบอกหน่อยได้ไหมคะว่าสำนักงานของเขานั้นอยู่ชั้นไหน?”เซี่ยชีหรั่นนั้นรู้สึกว่าพฤติกรรมของผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าของเธอนั้นเป็นเรื่องปกติ เธอนั้นสามารถเข้าใจได้ ผู้หญิงพวกนี้นั้นล้วนปักใจอยู่กับเย่เชินหลิน
“ชั้นแปด!” พนักงานที่อยู่เค้าเตอร์เบิกตากว้างมองเซี่ยชีหรั่น
“ขอบคุณค่ะ! เมื่อเซี่ยชีหรั่นพูดจบก็เดินไปทางลิฟต์ ตอนนี้เธอนั้นเพียงต้องการที่จะถามเย่เชินหลินว่าทำไมถึงได้กลับคำพูดก็เท่านั้น
“คุณ……” เสียงเรียกของพนักงานที่เค้าเตอร์นั้นลอยหายไปที่เบื้องหลังของเซี่ยชีหรั่น
ชั้นแปด
เมื่อลิฟต์มาถึงชั้นแปด ภาพเบื้องหน้าของเซี่ยชีหรั่นนั้นทำให้เธอตกตะลึง แต่ไหนแต่ไรมาเธอนั้นไม่เคยมาที่บริษัทเย่ซื่อเลย และก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าด้านในของที่นี่ตกแต่งหรูหรากว่าข้างนอกเสียอีก
เซี่ยชีหรั่นนั้นยืนอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงานอันเปล่าเปลี่ยวนี้ เธอนั้นตกตะลึงกับความหรูหราอลังการที่อยู่เบื้องหน้า ผนังกำแพงตลอดทั้งชั้นนั้นตกแต่งไปด้วยโคมไฟสว่างไสวตลอดทั้งชั้น
เมื่อมองไปรอบๆทั้งสี่ด้าน กลับไม่รู้เลยว่าห้องทำงานของเย่เชินหลินนั้นอยู่ที่ไหน เพราะไม่เห็นพนักงานเลยแม้แต่คนเดียว
ขณะนี้เย่เชินหลินนั้นกำลังตรวจเอกสารอยู่ที่ห้องทำงาน จากกล้องวงจรปิดทำให้เขานั้นเห็นเซี่ยชีหรั่นอยู่บริเวณทางเดิน เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว เธอมาที่นี่ทำไมกัน?
เย่เชินหลินนั้นเห็นสีหน้าที่ไม่สบายใจของเซี่ยชีหรั่น อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวแล้วยิ้ม จากนั้นลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินออกไปข้างนอก
เสียงรองเท้าตึกๆนั้นดังเข้าหูของเซี่ยชีหรั่น พอหันหลังกลับมา ก็เห็นเย่เชินหลินในชุดสูทอาร์มานีสีดำ กำลังยืนอยู่ด้านหลังของตนท่าทางเย็นชานั้นแสดงออกผ่านทางสีหน้าของเขา
สองมือของเย่เชินหลินนั้นล้วงกระเป๋า ลำตัวนั้นพิงผนังอยู่ มุมปากขยับเล็กน้อย คิ้วนั้นขมวด:“คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”
“ฉันมีธุระจะคุยกับคุณ!” เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลินพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เย่เชินหลินจ้องตาเขม็ง เขานั้นเห็นทั้งสายตาที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยแต่ก็เย็นชาแปลกหน้าของเธอ ประกอบกับความดื้อดึงของเธอ ทำให้คนที่ได้พบเห็นนั้นรู้สึกเจ็บปวดใจ ขาทั้งสองข้างของเขานั้นก้าวไปข้างหน้า หน้าอกของเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกันกับหน้าผากของเซี่ยชีหรั่นพอดี
เซี่ยชีหรั่นนั้นได้กลิ่นที่มีลักษณะพิเศษจากตัวเขา สมองของเธอนั้นจินตนาการไปถึงรูปร่างอันงดงามของเขา เฮ้อ เวลาเช่นนี้ทำไมถึงได้คิดถึงเรื่องเช่นนี้ได้นะ?
“นี่?เป็นอะไรไป?แล้วท่าทางเย็นชาเมื่อสักครู่นี้ล่ะ?” เย่เชินหลินยื่นมือออกไป จับที่ปลายคางของเซี่ยชีหรั่น
แค่นี้ก็ทำให้คนหลงใหลได้ขนาดนี้เลยเหรอ?เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว พยายามที่จะทำให้ตนนั้นได้สติกลับมา
“ตามผมมาที่ห้องทำงานเถอะ!” เย่เชินหลินกระซิบที่ข้างหูของเซี่ยชีหรั่น น้ำเสียงอันนุ่มนวลนี้ทำให้ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน
“อะไรนะ?” เมื่อเธอได้ยินเย่เชินหลินพูดเช่นนั้น ร่างกายก็เริ่มสั่น ผู้ชายคนนี้ กลับ……ไม่ใช่ว่าตอนกลางวันก็อยากจะมีเซ็กส์หรอกนะ?
เมื่อเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของเซี่ยชีหรั่น รอยยิ้มของเย่เชินหลินก็เผยขึ้น เขานั้นผลักเซี่ยชีหรั่นไปที่มุมกำแพง สองมือนั้นประคองใบหน้าของเธอ
“ทำไมเหรอ?คุณอยากเหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นถูกเขาเดาใจถูก ใบหน้าของเธอนั้นแดงก่ำ
มุมปากของเย่เชินหลินนั้นค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมา ไม่นานนักก็กลับมาสู่สภาวะเงียบสงัด “คุณอย่าหลงในเสน่ห์ของตัวผมอีกเลยคุณมีธุระมาหาผมไม่ใช่เหรอ?ไหนว่ามาซิ มีธุระอะไร”
ในเวลานี้เย่เชินหลินนั้นอยากจะรู้จริงๆว่า เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้เซี่ยชีหรั่นนั้นกลับสู่ห้วงของความรู้สึกแปลกหน้าอีกครั้ง
เธอนั้นเดินตามหลังเย่เชินหลิน เมื่อเขาเปิดประตูออกมา สิ่งที่เห็นนั้นช่างแตกต่างจากภายนอกโดยสิ้นเชิง สีดำขาวที่เรียบง่ายนี้ แม้ว่าจะเรียบแต่ก็อบอวลไปด้วยความรู้สึกสง่างามทันสมัย
เซี่ยชีหรั่นนั้นจ้องมองไปที่ดวงตาของเขาออร่าที่เผยออกมาจากตัวของเขานั้นแสดงให้เห็นว่าสไตส์ของห้องกับบุคลิกภาพของเขานั้นใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก รูปที่แขวนอยู่บนผนังด้านหลังเขานั้น เป็นรูปของเด็กผู้ชายสองคนจูงมือของแม่อยู่
“ว่ามาสิ มีเรื่องอะไร!” สองมือของเย่เชินหลินวางอยู่บนโต๊ะทำงาน สองตานั้นจ้องมองเซี่ยชีหรั่น อย่างไม่ละสายตา
เซี่ยชีหรั่นนั้นออกมาจากความรู้สึกและอารมณ์เมื่อสักครู่ จากนั้นมองไปที่เย่เชินหลิน และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“คุณไม่รู้จริงๆเหรอว่า ฉันมาที่นี่ทำไม?”
เย่เชินหลินเลิกคิ้ว เป็นเพราะว่าเมื่อคืนนี้ผมไม่ได้ไปเจอเธองั้นหรือ?เธอกลายเป็นคนที่ติดหนึบกับตนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?ก็แค่วันเดียวเท่านั้นเอง
“ก็แค่คืนเดียวเอง?” เย่เชินหลินรู้สึกดีใจเล็กน้อย เขานั้นชอบผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าที่มีท่าทีเช่นนี้เพราะเขา หากเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น ก็เกรงว่าเขานั้นคงจะถูกไล่ไปไหนต่อไหนแล้ว!
เขานั้นพูดอะไรกันแน่?ช่างไร้ยางอายจริงๆ!เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้นว่า:“คุณไม่รู้จริงๆเหรอว่าฉันพูดถึงเรื่องอะไร?ทำไมคุณจะต้องแย่งสิทธิ์การปกครองเนี่ยนโม่ไปจากฉันด้วย?ในตอนแรกพวกเราคุณกันเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ?แล้วทำไมคุณถึงกลับคำล่ะ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องของเนี่ยนโม่ เซี่ยชีหรั่นก็ไม่มีกระจิตกระใจที่จะมาครุ่นคิดว่าตอนนี้เย่เชินหลินนั้นคิดอะไรอยู่กันแน่ สายตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
เย่เชินหลินครุ่นคิดครู่หนึ่ง แม้ว่าเขานั้นจะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เซี่ยชีหรั่นพูด แต่แน่นอนว่าเธอนั้นจะต้องเข้าใจอะไรผิดเป็นแน่ เมื่อเขาเห็นเธอโกรธเช่นนี้ มันก็ทำให้เขานั้นรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง
ทำไมการกระทำทุกท่วงท่าของผู้หญิงคนนี้ถึงทำให้ตัวเขานั้นทุกข์ทรมานได้ถึงขนาดนี้นะ!
“คุณพูดมาสิ?คุณยอมรับแล้วใช่ไหม หากเป็นเช่นนั้นทำไมคุณถึงได้รับปากเนี่ยนโม่หล่ะ?ทำไมถึงได้รับปากที่จะเป็นพ่อของเขาล่ะ?”เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นด้วยความโมโห
ในเวลานี้ เย่เชินหลินก็ยิ่งทรมานใจมากยิ่งขึ้น ผู้หญิงคนนี้……เขาทุ่มเทความรู้สึกให้เธอขนาดนี้แล้ว แต่ในสายตาของผู้หญิงคนนี้ เขาก็ยังเป็นคนไร้หัวใจอยู่อีกเหรอ?ทำไมนะ……แม้ว่าจะเป็นการเข้าใจผิด แต่ทำไมเธอถึงได้เชื่อล่ะว่าทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของเขา?
จริงๆด้วย คุณทำจริงๆด้วย เหอะๆ เซี่ยชีหรั่นเริ่มยิ้มเยาะตนเอง เดิมทีนั้นคิดว่าเย่เชินหลินนั้นจะรักตน แต่ว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำให้เธอผิดหวังได้ขนาดนี้ มันก็แค่ความหวังลมๆแล้งๆก็เท่านั้น
“คุณพูดถึงเรื่องอะไร ทำไมผมไม่รู้เรื่อง!”เย่เชินหลินจ้องมองไปที่เซี่ยชีหรั่นที่กำลังเศร้าอยู่ เขานั้นแทบที่จะอยากกระโจนเข้าไปกอดเธอมาอยู่ในอ้อมกอด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset