สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1136 สาวใช้ตัวแสบ 1040

ตอนที่ 1136 สาวใช้ตัวแสบ 1040
“ไม่รู้งั้นเหรอ? จะไม่รู้ได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ทนายจะรีบมาพูดเรื่องพวกนี้ที่บ้านตั้งแต่เช้าได้ยังไง? ที่เขาพูดเรื่องพวกน้นก็เพื่อจะแย่งเอาสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเนี่ยนโม่ไปก็เท่านั้น เขาบอกว่าแม่ของคุณมอบหมายให้เขามา ฉันคิดว่าคุณคงให้เขาใช้ชื่อแม่ในการมาที่นี่ใช่มั้ย? ”เซี่ยชีหรั่นนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนเช้า แล้วยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น
ทันใดนั้นเย่เชินหลินก็เข้าใจว่าทำไมเซี่ยชีหรั่นถึงได้มาหาเขาอย่างผิดวิสัยแบบนี้ เมื่อนึกย้อนถึงความแปลกไปของแม่เขาในเมื่อวาน ในที่สุดเขาก็รู้ว่าจุดประสงค์ที่เซี่ยชีหรั่นมาหาเขาคืออะไร
“ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้ทำ คุณจะเชื่อไหม?” เย่เชินหลินเดินเข้าใกล้เซี่ยชีหรั่น เขาทนเห็นความเศร้าของเธออีกต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงยื่นมือออกไปโอบกอดเธอไว้แน่น
สำหรับผู้หญิงคนนี้ เขาไม่เคยอยากจะเห็นเธอต้องมีท่าทางเสียใจเลย
“ปล่อยฉันนะ”เซี่ยชีหรั่นเกิดความน้อยใจพลางทุบตีอกแกร่งของเย่เชินหลินไม่หยุด
ชิบ! ทำไมเขาถึงได้เกิดความอยากในเวลานี้… เย่เชินหลินพยายามห้ามความอยากที่ถูกจุดขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้มักจะกระตุ้นความต้องการของเขาได้อย่างง่ายดายเสมอ เขายื่นมือใหญ่ของเขาออกไปพลางกอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขน
เธอเริ่มหายใจเร็วขึ้น แรงที่เขาใช้ก็มาก จนแก้มของเธอแดงขึ้น เธอเริ่มหายใจลำบาก
เขาเริ่มหายใจเร็วตามด้วย
ซวยแล้ว ผมจะทนไม่ไหวแล้ว
เซี่ยชีหรั่นยังคงต่อสู้อยู่ในอ้อมกอดของเย่เชินหลิน 
ผู้หญิงคนนี้นิสมควรตายจริงๆ… ริมฝีปากนิ่ม ๆของเย่เชินหลินจูบบนริมฝีปากของเซี่ยชีหรั่นอย่างละเมียดละไม
“อื้ม…ปล่อยฉันนะ!”เซี่ยชีหรั่นผลักเย่เชินหลินออก แต่กลับถูกมือใหญ่ทั้งสองข้างของเขาออกแรงกดไว้ใต้ร่าง ไม่สนว่าเธอจะดิ้นแค่ไหน เขาก็คลายตัวเธอออกได้ พลางเปิดหน้าอกนุ่มๆของเธอออกและก้มลงไปจูบ ตรงนั้นเป็นจุดไวต่อความรู้สึกที่สุดของเธอ ความรู้สึกอ่อนระทวยแพร่กระจายไปทั่วร่างของเซี่ยชีหรั่น
ทั้งห้องทำงานอบอวลไปด้วยกลิ่นความมึนเมาจางๆของทั้งสองคน
หลังจากเสร็จสมกันไปแล้ว เย่เชินหลินก็จัดแจงเสื้อผ้าบนร่างกาย เมื่อหันไปเห็นอาการหน้าแดงยังไม่หายของเซี่ยชีหรั่น นัยน์ตาของเขาจึงเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
“เรื่องที่คุณพูดวันนี้ ผมจะไปตรวจสอบดู แต่ขอให้คุณเชื่อผม เรื่องนี้ผมไม่ได้เป็นคนทำจริงๆ”เย่เชินหลินมองสบตาเซี่ยชีหรั่น
นัยน์ตาที่แสดงความจริงใจของเขา เซี่ยชีหรั่นเห็นมันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
หรือว่าจะเข้าใจผิดงั้นหรือ? เธอค่อยๆลุงขึ้นนั่งช้าๆพลางจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าดี
“เมื่อวานผมเห็นท่าทางของแม่แล้ว เรื่องนี้ไม่แน่ว่าแม่อาจจะเป็นคนทำ เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณงั้นเหรอ?”เย่เชินหลินมองไปยังใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของเซี่ยชีหรั่น
“แต่ว่าจากความเข้าใจที่ฉันมีต่อคุณป้า…”เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลินแวบหนึ่ง เห็นเพียงเย่เชินหลินขมวดคิ้วน้อยๆพลางคิดอยู่นาน “ช่วงนี้เรื่องที่แม่ทำทั้งหมดดูผิดปกติ อารมณ์ก็ดูผิดแปลกไปจากเดิม ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”
ทั้งสองคนปรึกษากันเรื่องนี้อยู่ในห้องทำงาน จนเวลาล่วงเลยมาถึงเวลาเลิกงานอย่างไม่รู้ตัว
ที่แผนกต้อนรับหดหู่กันทั้งบ่าย ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน เข้าไปแล้วตั้งครึ่งค่อนวันยังไม่เห็นจะมีใครออกมาเลย 
และในเวลานั้น เย่เชินหลินก็เดินออกมาจากลิฟต์ จากที่เธอทำหน้าคว่ำๆก็เปลี่ยนเป็นเลื่อมใสต่อเย่เชินหลินทันที ในตอนที่เย่เชินหลินเดินออกมาจากในลิฟต์แล้ว เธอจึงเห็นด้านหลังที่คุ้นเคยในตอนบ่ายนั้น 
แผนกต้อนรับคอยจ้องมองสองคนตรงหน้าจนกระทั่งเย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นหายลับสายตาไป
เวลานั่งอยู่บนรถของเย่เชินหลิน ไม่รู้ทำไมจิตใจของเซี่ยชีหรั่นถึงได้สงบขึ้นมาก เธอโฟกัสเขาที่ขับรถอยู่ ใบหน้านั้นที่เต็มไปด้วยความสง่างาม
เย่เชินหลินเห็นการแสดงออกในดวงตาของเซี่ยชีหรั่นในกระจกพลางยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ที่แท้เธอยังรักเขาอยู่ อย่างน้อยก็ไม่ได้เกลียดเขามากขนานนั้น
ฝู้เฟิ่งหยีเดินออกจากคฤหาสน์เมื่อเธอได้ยินเสียงรถ เธอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหนึ่งวันแล้ว เธอฟังที่
ทนายความเล่าเรื่องการทวงสิทธิ์เลี้ยงดูเนี่ยนโม่ว่าสามารถทำได้ ก็ตัดสินใจว่าจะบอกเรื่อง
นี้กับเขา
เมื่อไฟรถดับสนิท คนรับใช้ก็เปิดประตู และเย่เชินหลินก็เดินออกมาจากรถ
“ลูกชาย! ” ฝู้เฟิ่งหยีตะโกนเรียกเย่เชินหลินเสียงดัง เธอแทบรอไม่ไหวที่จะบอกเย่เชินหลินเกี่ยวกับเรื่องนี้และหวังว่าเย่เชินหลินจะเห็นด้วยกับคำขอของเธอ
ยังไม่ทันจะได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูด ก็เห็นเซี่ยชีหรั่นเดินลงมาจากรถ เธอแข็งค้างไปชั่วขณะ แม้แต่สีหน้าแววตาที่ตื่นเต้น ก็ไม่รู้ว่าหายไปไหนหมดในเวลานี้
“เซี่ยชีหรั่น เป็นเธอได้ยังไง เธอมาได้ยังไง? ” ฝู้เฟิ่งหยีคิดไม่ถึงว่าเซี่ยชีหรั่นจะไปหาเย่เชินหลิน ยิ่งคิดไม่ถึงว่าเย่เชินหลินจะกลับบ้านพร้อมกับเซี่ยชีหรั่น ภาพแบบนี้เธอไม่ได้เห็นมันมาหลายปีแล้ว “ป้าคะ”เมื่อเห็นฝู้เฟิ่งหยี เซี่ยชีหรั่นจึงเอ่ยทักขึ้นก่อน ต่อให้ฝู้เฟิ่งหยีจะต้อนรับเธอแบบนี้ก็ตาม เธอไม่เชื่อว่าฝู้เฟิ่งหยีจะคิดเรื่องพวกนั้นได้ด้วยตัวคนเดียว ยังไงซะเธอก็เป็นผู้หญิงที่จิตใจอ่อนโยนคนหนึ่ง
“อื้ม… ” ฝู้เฟิ่งหยีตะกุกตะกัก เธอไม่คิดว่าเซี่ยชีหรั่นจะไม่ถือสาเอาความกับเรื่องในอดีต ทั้งยังเรียกเธออย่างสนิทสนมว่าคุณป้าอย่างนี้อีก
“แม่ ผมมีเรื่องจะถามเรื่องหนึ่ง! ” เย่เชินหลินเดินไปทางฝู้เฟิ่งหยีในสายตาของเขามีแววตำหนิ
ฝู้เฟิ่งหยีเห็นสายตาของเย่เชินหลิน ก็เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งทันทีว่าเซี่ยชีหรั่นได้เอาเรื่องนี้ไปบอกเย่เชินหลินแล้ว ดูแล้วเหมือนว่าที่เธอทำอยู่ตอนนี้จะเป็นการยุ่งไม่เข้าเรื่อง ดูจากท่าทางของเย่เชินหลินแล้วเหมือนว่าเขาจะไม่คิดที่จะทวงคืนสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเนี่ยนโม่เลย
ฝู้เฟิ่งหยีมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอีกครั้งถึงได้เข้าใจ ที่แท้เมื่อกี้ที่เซี่ยชีหรั่นเรียกเธอว่าคุณป้าอย่างสนิทสนมแบบนั้น ก็เพื่อแสดงความเหนือกว่าก็เท่านั้น
เหอะ!
ทันใดนั้นในใจก็เกิดหน่ายขึ้นมาพลางมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างเกลียดชัง
ฝู้เฟิ่งหยีหันหลังกลับพร้อมก้าวอย่างสง่างามไปที่โซฟาในห้องโถง พลางโน้มตัวลงนั่งบนโซฟา และมองเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นที่เดินเข้ามาจากทางประตู
“แม่ทำแบบนี้ได้อย่างไร?” เย่เชินหลินขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่ฝู้เฟิ่งหยีที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ทำไม แม่มันทำไมฮะ ตอนนี้ลูกเริ่มมาอบรมสั่งสอนแม่เพราะคนนอกแล้วงั้นเหรอ?”ฝู้เฟิ่งหยีมองไปยังเย่เชินหลินและพูดไปยังเขา
“คุณป้าคะ หนูเข้าใจอารมณ์ของคุณนะคะ แต่เนี่ยนโม่เป็นที่พึ่งทางใจเพียงคนเดียวของหนู ดังนั้น หนูขอร้อง เอาสิทธิ์การเลี้ยงดูเนี่ยนโม่คืนให้หนูเถอะนะคะ”เซี่ยชีหรั่นพูดกับฝู้เฟิ่งหยีอย่างอ่อนโยน
เย่เชินหลินเห็นว่าฝู้เฟิ่งหยีได้ยินคำพูดของเซี่ยชีหรั่นแล้วยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรจึงพูดต่อว่า “แม่ครับ เรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูของเนี่ยนโม่แม่ไม่ต้องยืนมือมายุ่งหรอกครับ เรื่องนี้ผมได้ทำการตกลงกับเซี่ยชีหรั่นแล้ว จะเปลี่ยนกลับไปกลับมาไม่ได้!”
ฝู้เฟิ่งหยีรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง เธอเคยคิดไว้แล้วว่าเย่เชินหลินจะต้องเป็นห่วงความรู้สึกของเซี่ยชีหรั่นจนไม่ยอมทวงคืนสิทธิ์การเลี้ยงดูเนี่ยนโม่ แต่ว่าเนี่ยนโม่เป็นหลานแท้ๆของเธอ เธออยากจะเจอหลานเต็มๆวันกลับไม่ได้เจอ เขาจะสัมผัสความรู้สึกของย่าคนหนึ่งได้ยังไง? เธอเป็นย่าแท้ๆเลยนะ
“แม่ลองคิดดูสิ ถ้าแต่ก่อนมีคนแย่งผมไปจากข้างกายแม่ แม่จะรู้สึกยังไง แม่จะยอมไหม?”เย่เชินหลินเป็นลูกที่กตัญญู เขาได้ใช้แค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ฝู้เฟิ่งหยีเปลี่ยนใจ
“โอเค ลูกปีกกล้าขาแข็งแล้ว ลูกโตแล้ว ตอนนี้ลูกช่วยเริ่มคนนอกรังแกแม่แล้ว!” ฝู้เฟิ่งหยียังคงเศร้าเล็กน้อย แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเย่เชินหลินต้องการสื่ออะไร แต่เขาพูดอ้อมๆกับเธอเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง
“แม่!” เสียงเด็กน้อยดังมาจากในห้อง ทันใดนั้นเซี่ยชีหรั่นก็คึกคักขึ้นมาทันที นี่มันเสียงเนี่ยนโม่ไม่ใช่เหรอ มาอยู่ที่บ้านตระกูลเย่ได้ยังไง เขาอยู่ที่บ้านไม่ใช่เหรอ?
เป็นฝู้เฟิ่งหยีที่ตัดสินใจเองอีกแล้ว เธอไม่ได้บอกกล่าวอะไรเซี่ยชีหรั่นเลย และพาเนี่ยนโม่เข้ามาในบ้านตระกูลเย่
“แม่ ในที่สุดแม่ก็มาแล้ว คุณย่าบอกว่าแม่อยู่ที่นี้ เพราะงั้น…”เนี่ยนโม่เห็นสายตาของเซี่ยชีหรั่นดูไม่มีความสุข
เซี่ยชีหรั่นมองไปยังฝู้เฟิ่งหยีแวบหนึ่ง พลางเดินเข้าไปกอดเนี่ยนโม่ไว้ในอ้อมแขน
“แม่ครับ ต่อไปนี้เนี่ยนโม่จะเชื่อฟังแม่ครับ แม่อย่าได้จากเนี่ยนโม่ไปอีกเลยนะครับ!” เนี่ยนโม่เหมือนเด็กที่ทำความผิดมา เขากอดคอของเซี่ยชีหรั่นไว้พลางพูดอย่างเสียใจ
“เด็กดี แม่ไม่ได้โทษเนี่ยนโม่ครับ แม่ไม่มีทางจากเนี่ยนโม่ไปไหนหรอกครับ!”เซี่ยชีหรั่นโอบกอดเนี่ยนโม่ไว้ พลางยื่นมือออกมาลูบหน้าผากของเขาเนี่ยนโม่เบาๆ
เมื่อเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ตำหนิตัวเอง ความเศร้าบนใบหน้าของเนี่ยนโม่หายวับไป พลางหันกลับไปมองฝู้เฟิ่งหยีและพูดว่า “คุณย่า ขอบคุณนะครับ แม่มาแล้ว พวกเราก็จะไปแล้วครับ!”
เนี่ยนโม่กำฝ่ามือของเซี่ยชีหรั่นไว้แน่น เมื่อกี้เขาดูสายตาของฝู้เฟิ่งหยีออกว่าเธอดูถูกเหยียดหยามและสร้างความลำบากให้เซี่ยชีหรั่น แม้ว่าจะเป็นคุณย่าที่เขาชอบ ก็จะไม่ยอมให้เธอทำร้ายแม่ของเขาได้หรอกนะ
“พ่อครับ เมื่อวานพ่อไปไหนมา พ่อรู้ไหมว่าแม่รอพ่อทั้งคืนไม่ได้นอนเลย!” เนี่ยนโม่มองเย่เชินหลินอย่าใสซื่อพลางเอ่ยถาม
เย่เชินหลินมองไปยังเซี่ยชีหรั่นอย่างแปลกใจ และใช้สายตาเหมือนว่ากำลังเค้นถามเธอว่าที่เนี่ยนโม่พูดมาจริงรึเปล่า?
เซี่ยชีหรั่นหลบสายตาได้ใจของเย่เชินหลิน มองดูเนี่ยนโม่พลางเอ่ยพูดเสียเบาว่า”เด็กดี อย่าพูดซี้ซั้วสิลูก!”
เนี่ยนโม่ขมวดคิ้วมุ่นมองไปยังเซี่ยชีหรั่นพลางพูดว่า”ไม่จริงเหรอครับแม่ เมื่อวานผมไม่ได้นอน ก็เลยเห็นว่าแม่ก็ยังไม่ได้นอน…”
สิ่งนี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอายอย่างมาก และยิ้มน้อยๆไปทางเย่เชินหลิน
ฝู้เฟิ่งหยีฟังคำพูดของเนี่ยนโม่และเก็บไว้ในใจ และเริ่มไตร่ตรองอยู่ตลอดเวลาว่าเธอหุนหันพลันแล่นเกินไปหรือเปล่า แต่ว่า…
ความอบอุ่นพลุ่งพล่านอยู่ในใจของเย่เชินหลิน ในเวลานี้เขามองไปยังเซี่ยชีหรั่นด้วยความรักใคร่
ฝู้เฟิ่งหยีเห็นสายตาของเย่เชินหลิน จึงเกิดความอิจฉาพุ่งขึ้นในใจ แต่ไหนแต่ไรมาเย่เชินหลินไม่เคยต้องมาถามเอาคำตอบเรื่องอะไรกับเธอด้วยตัวเองมาก่อน! แม้ว่าเรื่องวันนี้จะหุนหันพลันแล่นไปบ้าง แต่นั้นก็เป็นเพราะว่าคิดถึงเนี่ยนโม่มากไป เธอไม่มีทางยอมให้ลูกชายตัวเองมาตั้งคำถามกับแม่ที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูเขาโตมาเพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่งหรอก
“เย่เชินหลิน ถ้าวันนี้ลูกไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของแม่ งั้นก็ไม่ต้องมาเจอแม่อีก แม่ไม่ใช่แม่ของลูก!”ฝู้เฟิ่งหยีมองไปยังเย่เชินหลินอย่างโกรธเคือง  

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset