สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1148 สาวใช้ตัวแสบ 1052

ตอนที่ 1148 สาวใช้ตัวแสบ 1052
เพิ่งจอดรถลงมา ก็ตรงไปทางคฤหาสน์ วิ่งนิดๆ เข้าไปในคฤหาสน์ มองไปรอบๆ ไม่มีเงาของเซี่ยชีหรั่นแล้ว
อย่างที่คิดไว้ เธอไปแล้ว ความเศร้าอ้างว้างชำระในหัวใจ
“คุณชาย คุณกลับมาแล้วเหรอ คุณเซี่ย……เธอ……ไปแล้วนะคะ!” พี่เลี้ยงกัดปาก ในดวงตามีร่องรอยความเศร้าเช่นกัน
“ตอนไป เธอได้พูดอะไรไหม? ” เย่เชินหลินหวังว่าเซี่ยชีหรั่นจะมีอะไรบางอย่างบอกตัวเอง แต่เห็นพี่เลี้ยงส่ายศีรษะพูดขึ้น “เธอไม่ได้พูดอะไรค่ะ”
“ฉันรู้แล้ว พรุ่งนี้เธอกลับตระกูลเย่ได้!” เย่เชินหลินพูดจบก็รีบไปที่ห้องนอน
ที่นี่มีเค้าโครงเหมือนอย่างเคย กลิ่นเอกลักษณ์บนตัวเซี่ยชีหรั่นยังคงอบอวลอยู่ในห้อง
ในดวงตาเย่เชินหลินฉายแววโศกเศร้า ทันใดนั้นจู่ๆ เขาก็นึกถึงการถูกลอบสังหารตอนกลางคืน
“ช่วยฉันสืบหน่อย เมื่อคืนมีใครที่เข้าออกซอยโทรมๆ นั้น! และเบื้องหลังของนักฆ่าในกลุ่มอิทธิพลมืด!” เสียงเย็นยะเยือกของเย่เชินหลินดังขึ้น
“แล้วก็ดูไปด้วยว่าคนพวกนี้มันติดต่อใครในช่วงนี้” ดวงตาเย่เชินหลินฉายแววสุกสกาว
“ครับ คุณชายเย่!” ถึงแม้ไม่รู้เลยว่าทำไมเย่เชินหลินต้องตรวจสอบรายละเอียดพวกมัน แต่ก็ไม่กล้าสงสัยสอบถามอะไร
ขณะนี้เซี่ยชีหรั่นถึงจุดหมายปลายทางตั้งนานแล้ว ที่นี่มีรสชาติที่คุ้นเคย
เนี่ยนโม่ถูกเซี่ยชีหรั่นวางนอนบนเตียง จ้องมองเนี่ยนโม่ หัวใจเซี่ยชีหรั่นก็ถูกทิ่มแทง เขาหน้าตาเหมือนเย่เชินหลินมาก มองแล้วก็นึกถึงเย่เชินหลิน ผู้ชายคนนั้นที่โหดร้ายทำให้หัวใจเธอแตกสลาย
ภาพเหตุการณ์นั้นเมื่อครู่นี้ มันฉายในหัวสมองเซี่ยชีหรั่นไม่หยุด ทำอย่างไรก็สะบัดไม่หลุด ในขณะนี้ ในหัวสมองเธอมีแต่ภาพเหตุการณ์ที่เย่เชินหลินเรียกผู้หญิงคนอื่นว่าที่รัก นอนพลิกตัวไปมา นอนไม่หลับ
แสงแดดในยามเช้า ส่องสว่างทั่วแผ่นดิน บนถนนยังคงมีรถขับผ่านไปผ่านมา
บริษัทเย่ซื่อ
เย่เชินหลินมาถึงตึกระฟ้าของบริษัทเย่ซื่อตั้งแต่เช้า มองแสงแดดดีๆ ภายนอกตึก ดวงตาเรียวหรี่ลงกลายเป็นช่องว่าง
“ประธานเย่ เรื่องที่คุณให้สืบ ผมสืบได้แล้วครับ คนที่ปรากฏตัวขึ้นในซอยโทรมๆ เมื่อวาน เป็นนักฆ่าฝีมือดี”
“อืม ดีมาก พวกมันติดต่อกับใครในช่วงนี้ไหม? ” ในดวงตาเย่เชินหลินที่หรี่ลงมีความเย็นยะเยือกนิดๆ เสียงทุ้มต่ำดังผ่านโทรศัพท์เข้าหูอีกฝ่าย
“เหมือนจะเป็นคนของบริษัทหลินซื่อนะครับ!”
“บริษัทหลินซื่อ? ” ได้ยินว่าบริษัทหลินซื่อ เย่เชินหลินก็ขมวดคิ้ว เขาถามต่อว่า “รู้ไหมว่าใคร?”
“ยังไม่แน่ใจครับ! แต่เราจะรีบหาคำตอบให้เร็วที่สุด!”
เย่เชินหลินวางสายไป การแสดงออกในดวงตายิ่งเคร่งขรึมมากขึ้น “ถ้าเป็นบริษัทหลินซื่อ จะเป็นคุณท่านตระกูลหลินหรือว่าหลินเจี๋ยกันนะ?”
ชายชราตระกูลหลินเป็นคนน่ากลัวและเจ้าเล่ห์ อยู่ในแวดวงธุรกิจมาหลายปี มักจะไม่ลงมือกับใครง่ายๆ ถ้าชายชราตระกูลหลินลงมือ ถ้าอย่างนั้น มันเพราะอะไรกันล่ะ?
เย่เชินหลินยืนข้างหน้าต่าง ขยับโทรศัพท์ในมือไปมา คิดไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง ต้นตอของเรื่องนี้
มันอาจจะเป็นหลินเจี๋ย? เมื่อเย่เชินหลินนึกถึงหลินเจี๋ย ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เพราะเรื่องเซี่ยชีหรั่นเหรอ?
ถ้าส่งคนมาฆ่าเพราะเรื่องเซี่ยชีหรั่น นี่มันเกินไป……และมันน่าดูถูกจริงๆ
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลินเจี๋ยหรือชายชราตระกูลหลิน อย่างไรแล้วบริษัทหลินซื่อก็สร้างความบาดหมางกับตนแล้ว อย่ามาโทษว่าบริษัทหลินซื่อไร้หัวใจ
เย่เชินหลินนั่งภายในห้องทำงาน ห้องเรียบง่ายถูกแสงแดดส่องสว่าง เย่เชินหลินพลิกอ่านเอกสารล่าสุด ดูเหมือนควรทำอะไรบางอย่างเพื่อบริษัทเย่ซื่อ! มุมปากเย่เชินหลินมีความเย็นยะเยือกนิดหน่อย ในหัวสมองเขาเต็มไปด้วยการค้นหาในสิ่งที่ไม่รู้ ทันใดนั้น เขาก็สนใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นพิเศษ
บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น
เซี่ยชีหรั่นย้ายออกมาจากคฤหาสน์เย่เชินหลิน เดิมทีคิดว่าจะต้องใช้ชีวิตอย่างสง่างามผิดปกติ ไม่ได้รับการก่อกวนจากเย่เชินหลินหนึ่งวัน มันทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
“บอกว่าอยากอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังคิดมากอีก? ” เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว มองท้องฟ้าสดใสนอกหน้าต่าง
เสียงเคาะประตูของเลขาดึงความคิดเธอกลับมา เซี่ยชีหรั่นค่อยๆ ผ่อนคลาย พูดขึ้น “เชิญเข้ามา!”
“ประธานเซี่ย คุณสวีมาพบคุณค่ะ!” เสียงอ่อนโยนของเลขาดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นบ่งบอกให้เธอพาสวีเห้าเซิงเข้ามา
สวีเห้าเซิงเปิดประตูห้องทำงาน มองเซี่ยชีหรั่นที่นั่งข้างโต๊ะทำงาน เขามองใบหน้าซีดเผือดของเธออย่างสงสาร “ชีหรั่น เมื่อคืนเธอหลับไม่สนิทเหรอ? ฉันได้ข่าวมาว่าเธอย้ายออกจากคฤหาสน์ตระกูลเย่แล้ว?”
เซี่ยชีหรั่นเงยศีรษะขึ้น เธอไม่แปลกใจเลยที่สวีเห้าเซิงรู้ข่าวเร็ว อย่างไรแล้วสื่อที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างแน่นอน นี่มันข่าวซุบซิบของประธานตระกูลเย่นี่หน่า
สวีเห้าเซิงเดินไปข้างๆ เซี่ยชีหรั่น ร่างสูงใหญ่ถึงแม้จะสะดุดตา แต่ในดวงตาของเขานอกจากความสงสารแล้วก็คือความเห็นอกเห็นใจ แถมหน้าก็สีหน้าซีดเผือดไม่แพ้เซี่ยชีหรั่นเลย
เซี่ยชีหรั่นเห็นความซีดเผือดในดวงตาสวีเห้าเซิงอย่างชัดเจน เธอเดินไปด้านหน้าสวีเห้าเซิง “พี่สวี”
เธอรู้ดีว่าสวีเห้าเซิงทำอะไรเพื่อตัวเธอมาเยอะมาก แต่……
สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่น ดวงตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง เสียงทุ้มต่ำของเขาเต็มไปด้วยความรักความเมตตาที่มีต่อเซี่ยชีหรั่น “ถ้าเธอไม่สบายใจที่อยู่ที่นั่น ก็ย้ายมาอยู่กับฉันได้นะ ยังไงแล้วบ้านฉันก็ปลอดภัยกว่ามาก!”
เซี่ยชีหรั่นหลับตาเล็กน้อย เพราะหลังจากที่สวีเห้าเซิงสารภาพรักกับเธอตอนอยู่ประเทศ K เธอก็เข้าใจความหมายในดวงตาเขาที่ส่งออกมา
“ไม่ ไม่ต้องดีกว่าค่ะ ฉันอยู่ที่นั่นสะดวกมาก ของหลายอย่างก็มีหมดแล้ว เมื่อก่อนฉันก็อยู่ที่นั่น อยู่มานานมากแล้ว และคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมด้วย!” ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ก่อนที่เธอจะออกมา แววตาของเย่เชินหลิน แววตานั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา ตามที่เธอรู้จักเย่เชินหลิน ถ้าตอบตกลงสวีเห้าเซิง เกรงว่ามันจะไม่ใช่เรื่องดีสำหรับสวีเห้าเซิง
เธอไม่อยากทำร้ายผู้ชายที่ใจดีแบบนี้! 
ถึงสวีเห้าเซิงจะรู้ ตั้งแต่ตอนแรกที่เขาพูดประโยคนี้ เขาก็รู้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ แต่ก็ยังอยากได้ยินเซี่ยชีหรั่นปฏิเสธเขา
เซี่ยชีหรั่นเห็นท่าทางของสวีเห้าเซิง รู้สึกเศร้านิดหน่อย เธอมองเขา ถึงแม้มันยากที่จะเอ่ยปาก แต่ก็ยังเอ่ยปากออกไป “ขอโทษค่ะ พี่สวี ฉัน……”
เซี่ยชีหรั่นพูดต่อไปไม่ได้แล้ว สวีเห้าเซิงขัดคำพูดเธอ หัวเราะขมขื่นแล้วพูดขึ้น “ชีหรั่น โอกาสสักนิดฉันก็ไม่มีแล้วเหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นจัดการเรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่เสมอ และเมื่อเผชิญกับสีหน้าซีดเผือดของสวีเห้าเซิงอารมณ์ก็รู้สึกแย่ตาม
“พี่สวี จริงๆ แล้ว……จริงๆ แล้วคนแบบพี่หาผู้หญิงที่ดีกว่าได้อยู่แล้ว! ฉันเป็นผู้หญิงที่มีลูกกับคนอื่นแล้วนะคะ ฉันไม่คู่ควร!”
ในดวงตาเซี่ยชีหรั่นมีแสงกระจัดกระจาย เธอไม่รู้จะทำอย่างไร ยิ่งไม่เข้าใจ สิ่งที่สวีเห้าเซิงปฏิบัติกับตัวเองแบบนี้……
“ไม่ ฉันแค่อยากใช้ชีวิตกับเธอไปตลอดชีวิต ฉันแค่อยาก…… เธอเข้าใจไหม?” ดวงตาของสวีเห้าเซิงที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศก กลายเป็นความกังวลนิดหน่อย เขาไม่มีทางทิ้งความรักที่มีต่อเซี่ยชีหรั่นได้ ไม่มีทาง!
เซี่ยชีหรั่นถอยหลังครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่เคยเห็นสวีเห้าเซิงทำสีหน้าแบบนี้มาก่อน นอกจากขอโทษแล้วเธอก็ไม่รู้จริงๆ ว่าควรทำอย่างไร ในขณะนี้ ในดวงตาเธอเต็มไปด้วยความหมดหนทางและความเศร้าโศก
“ฉันเป็นผู้หญิงที่ถูกคนอื่นทิ้ง หรือพี่ไม่เคยได้ยินข่าวลือข้างนอกเหรอ? ประจบเอาใจคุณใหญ่ของตระกูลเย่เพื่อเงิน และให้กำเนิดลูกของเขาก็ยิ่งเพื่อเงิน……”
ตอนเธอพูดประโยคนี้ เธอปวดใจมาก เดิมทีเธอแค่เอาไว้แก้แค้นเท่านั้น แต่โม่เสี่ยวจุนดันไม่ตาย และตัวเองก็ตกหลุมรักผู้ชายใจร้ายคนนั้นจริงๆ
กล้ามเนื้อใบหน้าหล่อเหลาของสวีเห้าเซิงขยับเล็กน้อย เต็มไปด้วยความรักความทะนุถนอมที่มีต่อเซี่ยชีหรั่น เมื่อเขาเห็นความเศร้าในดวงตาเซี่ยชีหรั่น ในหัวใจเขาก็เจ็บปวดอย่างรุนแรง
เขาเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว กอดเซี่ยชีหรั่นไว้ในอ้อมแขนทันที ราวกับต้องการใช้หน้าอกตัวเองให้พลังแก่เซี่ยชีหรั่นนิดหน่อย แต่ในดวงตาเขาเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว
“ชีหรั่น เธอก็รู้ว่าฉันไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก ฉันสามารถดูแลเนี่ยนโม่เหมือนลูกฉันได้เลย ฉันยิ่งไม่สนใจเรื่องราวในอดีตของเธอ!”
สวีเห้าเซิงกระชับแรงในมือใหญ่ อยากกอดเซี่ยชีหรั่นไว้ในอ้อมอกแบบนี้ตลอดไป ไม่อยากปล่อยมือไปตลอดชีวิต
พระเจ้ารู้ดีว่าเขารักผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน
ใครจะเข้าใจความรู้สึกนี้ที่เขารักเธอ
ใครจะรู้ว่าเขาอยากอยู่เคียงข้างเธอ อยากปกป้องเธอตลอดไปมากแค่ไหน! 
เซี่ยชีหรั่นอยากดิ้นออกอย่างตื่นตระหนก มองไปรอบๆ อย่างเผลอตัว เธอกลัวว่าเย่เชินหลินจะออกมาตอนนี้ เหมือนกับครั้งนั้นในห้องอาหารบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น
เห็นว่ารอบๆ ไม่มีเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นก็โล่งใจ เธอเริ่มเหน็บแนมตัวเอง คิดมากจริงๆ ด้วย เย่เชินหลินในตอนนี้ไม่รู้ว่ามีความสุขมากแค่ไหน จะมาสนใจเรื่องเธอทำไม? มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ทันใดนั้นสวีเห้าเซิงก็พบว่าเซี่ยชีหรั่นไม่ดิ้นรนขัดขืนอีกต่อไป มีความยินดีฉายแววในดวงตา “ชีหรั่น เธอตอบตกลงฉันแล้วใช่ไหม?”
เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วเล็กน้อย มองสวีเห้าเซิง พูดขึ้นอย่างอ่อนแรง “พี่สวี เราเป็นไปไม่ได้จริงๆ ฉันเห็นพี่เป็นพี่ชายมาตลอด!”
สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่น บังคับให้เธอมองตน ในดวงตามีแสงที่มั่นคง “ชีหรั่น ฉันไม่บังคับให้เธอรักฉัน สิ่งที่ฉันต้องการคือแค่อยากให้เธอมีความสุข มันสำคัญมากกว่าเรื่องอื่น”
หัวใจเซี่ยชีหรั่นสั่นไหวทันที
คำพูดของสวีเห้าเซิงตรงเข้าไปในหัวใจเธอ
“เธอรักเย่เชินหลินมากขนาดนั้นเลยเหรอ? ” ร่างกายสวีเห้าเซิงกำลังสั่นเล็กน้อย
หัวใจเซี่ยชีหรั่นสั่นไหวทันที “ฉันจะไม่รักเย่เชินหลิน!” เธอไม่อยากยอมรับในจุดนี้ และไม่ยินยอมที่จะยอมรับด้วย
เมื่อก่อนเย่เชินหลินอยากฆ่าเนี่ยนโม่ในท้อง และตอนนี้สงสัยความรู้สึกของตนที่มีต่อเขา เย่เชินหลินรักแต่ตัวเอง
“ขอโทษ ชีหรั่น!” สวีเห้าเซิงมองดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกของเซี่ยชีหรั่น แค่รู้สึกปวดใจ กอดเซี่ยชีหรั่นไว้ในอ้อมแขนเบาๆ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset