สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1149 สาวใช้ตัวแสบ 1053

ตอนที่ 1149 สาวใช้ตัวแสบ 1053
เซี่ยชีหรั่นแค่รู้สึกว่าเหนื่อยมาก เธอไม่อยากอยู่อย่างสงสัยและถูกสงสัยแบบนี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าหน้าอกของสวีเห้าเซิงอบอุ่นมาก น้ำตากำลังจะไหลลงมาจากดวงตา แต่เธอกลั้นมันไว้
เธอไม่อยากให้ความเพ้อฝันแก่สวีเห้าเซิง เธอยิ่งไม่อยากทำร้ายใครเพราะตัวเอง เธอผละออกมาจากอ้อมกอดสวีเห้าเซิงเงียบๆ
“ขอโทษค่ะ! ” จากเสียงที่แผ่วเบาของเธอ สวีเห้าเซิงฟังออกถึงความสงบ
สวีเห้าเซิงทำหน้าโดดเดี่ยว ดวงตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ลึกซึ้งถูกชะล้างด้วยคลื่นแห่งความเศร้า “เป็นไปไม่ได้จริงๆ ใช่ไหม? ”
เซี่ยชีหรั่นมองสวีเห้าเซิง จ้องมองดวงตาเขา มองเข้าไปในส่วนลึกของดวงตาเขา “ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ!”
สวีเห้าเซิงส่ายศีรษะอย่างสิ้นหวังนิดหน่อย สุดท้ายก็พูดขึ้นอย่างหมดหนทาง “เรายังเป็นเพื่อนกันได้ แค่เธอคิดถึงฉันเมื่อไร ฉันก็จะอยู่ตลอด!”
เขาทำได้แค่นี้ บางทีคำสารภาพของเขาในวันนี้อาจจะรีบร้อนไปหน่อย แต่ในขณะนี้หัวใจเขาเจ็บเหมือนถูกฉีกขาด เมื่อเผชิญกับเซี่ยชีหรั่น เหมือนได้สูญเสียเธอไปแล้ว รู้สึกหายใจไม่ออกเกินบรรยาย
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาไม่อยากปล่อยมือจริงๆ
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า ฉีกยิ้มออกมาจากริมฝีปาก เธอใจอ่อนอยู่เสมอ ไม่รู้เป็นพิเศษว่าควรทำอย่างไรในการปฏิเสธคนอื่นอย่างเหมาะสม
เห็นสีหน้าสวีเห้าเซิงในขณะนี้ เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าตัวเองทำร้ายเขาอย่างลึกซึ้ง
แต่ตัวเองเป็นแม่ที่มีลูกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเย่เชินหลินไม่มีทางหยุดแค่นี้แน่ๆ วันนั้นที่เขาบีบบังคับให้ตัวเองตอนคำถาม ความโกรธในดวงตาเขา มันไม่ใช่แค่ความโกรธอย่างเดียว
เธอยิ่งกลัวว่าเย่เชินหลินจะทำร้ายเขา
เห็นได้ชัดว่าเย่เชินหลินรู้ว่าสวีเห้าเซิงดีกับตน ถึงเขาจะนิ่งเงียบอยู่ตลอด แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เซี่ยชีหรั่นกลัว เธอไม่เคยมองทะลุเลย เดาไม่ออกว่าเย่เชินหลินกำลังคิดอะไรอยู่บ้าง!
สวีเห้าเซิงค่อยๆ ถอยหลัง มองใบหน้าเซี่ยชีหรั่นที่อธิบายไม่ได้ พูดขึ้นอย่างช้าๆ “หวังว่าต่อไปนี้ฉันจะเป็นพี่สวีของเธอ ฉันอยู่เคียงข้างเธอตลอด และเรื่องของหลินเจี๋ยจะช่วยเธอจัดการให้สำเร็จ!”
เซี่ยชีหรั่นเบนสายตาขึ้นมามองสวีเห้าเซิง และพยักหน้า
“ช่วงนี้เนี่ยนโม่ยังสบายดีไหม? ” เพื่อบรรเทาความกระอักกระอ่วนใจ สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่น ยิ้มเล็กน้อยและพูดขึ้น
“สบายดีค่ะ อยู่กับแม่ฉัน! ” สิ่งที่เซี่ยชีหรั่นส่งกลับไปให้สวีเห้าเซิงก็คือรอยยิ้มกระอักกระอ่วน
“อืม งั้นก็ดี! ” สวีเห้าเซิงมองเซี่ยชีหรั่นและพยักหน้า “จำไว้นะ ถ้าต้องการอะไรให้รีบบอกฉัน!” มุมปากเขาเผยรอยยิ้มเศร้า
ตึกระฟ้าบริษัทเย่ซื่อ
เย่เชินหลินนั่งไขว่ห้างที่เก้าอี้ ดวงตาเย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ กำหมัดแน่นจนเกิดเสียง
“คุณชายเย่ ผมเห็นตอนที่สวีเห้าเซิงออกมาจากบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น เขาดูเสียใจมาก มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิด!”
“หุบปาก! ”
สิ่งที่เย่เชินหลินเกลียดมากที่สุดคือมีใครบางคนฉลาดเหลือเกินในการเดาความคิดตน
ปลายสายโทรศัพท์คือความเงียบ
เย่เชินหลินวางสาย นั่งเก้าอี้อย่างสงบ ขยับปากกาลูกลื่นในมือ สวีเห้าเซิงกลับมาที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นในครั้งนี้ เย่เชินหลินคาดการณ์จุดประสงค์การมาเยือนของเขาในครั้งนี้แล้ว แต่เขาคิดว่าสิ่งที่สวีเห้าเซิงควรจะขอบคุณก็คือ: เซี่ยชีหรั่นปฏิเสธคำขอของเขา
ถ้าเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ปฏิเสธเขา บางที ตอนนี้เขาคงไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นบนถนนใหญ่อีกต่อไปแล้ว
ถ้าอย่างนั้น ตามเหตุผลของเขา สาเหตุที่เซี่ยชีหรั่นย้ายออกมาจากคฤหาสน์ เป็นไปได้อย่างมากว่าเพราะเรื่องของหลินเจี๋ย
บริษัทหลินซื่ออะไรกัน!
แต่สวีเห้าเซิงเป็นคนแนะนำหลินเจี๋ยให้รู้จักกับเซี่ยชีหรั่น เขายังต้องแบกรับความรับผิดชอบนี้ ปากกาลูกลื่นในมือเย่เชินหลินหล่นบนโต๊ะและเกิดเสียง
บริษัทหลินซื่อ
แสงแดดจ้า ถูกปิดกั้นด้วยผ้าม่านของหน้าต่าง แผ่นหลังชายชราตระกูลหลินถูกแสงแดดที่เบียดเข้ามาทอดยาวมาก
“ประธานหลิน คุณชายยังติดต่อกับคนที่ชื่อสวีเห้าเซิงอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่นี้ ยังมีผู้หญิงที่ชื่อเซี่ยชีหรั่นด้วย ช่วงนี้พวกเขาติดต่อกันถี่มาก! ”
“อืม” ชายชราตระกูลหลินขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนเบนสายตาขึ้นพูด “เซี่ยชีหรั่นเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นเหรอ?”
“ครับ ประธานหลิน!” เฉินอานเสียงขมวดคิ้วทันที เขามีลางสังหรณ์ว่าประธานหลินจะทำอะไรบางอย่างกับบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นในลำดับต่อไป
“อืม บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น ดูเหมือนหลินเจี๋ยจะไม่ได้ระวังคนข้างกายเย่เชินหลินเลย จุดประสงค์ที่หลินเจี๋ยไปหาเซี่ยชีหรั่นคืออะไร?” คุณท่านตระกูลหลินขมวดคิ้วแน่น มองเฉินอานเสียง ถามขึ้นอย่างสงสัย
“เหมือนปรึกษากันเรื่องเครื่องประดับของบริษัทหลินซื่อ รวมถึงการออกแบบและโครงการ……” ก่อนที่เฉินอานเสียงจะพูดจบ ก็ได้ยินเสียงดังปัง
ยกสายตาขึ้นมาก็เห็นชายชราหลินตบโต๊ะ
“ไร้สาระ ปรึกษาหารือการออกแบบโครงการกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของคู่แข่ง! ไม่เคยได้ยินมาก่อน! ”
“แต่ประธานหลินครับ เซี่ยชีหรั่นชี้ข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการออกแบบโครงการเครื่องประดับของบริษัทหลินซื่อ!” เฉินอานเสียงต้องชี้แจงผลลัพธ์ให้ชัดเจน
ชายชราตระกูลหลินเลิกคิ้ว มองเฉินอานเสียงแล้วพูดขึ้น “นี่เป็นแค่กลยุทธ์ของคนอื่น เชื่อคำพูดคู่แข่งได้เหรอ? นี่มันไร้สาระสุดๆ !”
เฉินอานเสียงมองคุณท่านตระกูลหลินขมวดคิ้วเล็กน้อย กอดอก และถามขึ้นอย่างสงสัย “แล้ว……ลำดับต่อไปของเราคือ?”
ชายชราตระกูลหลินขยิบตาให้กับเฉินอานเสียง เฉินอานเสียงก็รู้ทันทีว่าต้องทำอะไร และพยักหน้าให้กับคุณท่านตระกูลหลิน
บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น
เซี่ยชีหรั่นเห็นเอกสารที่เลขาส่งมา ขมวดคิ้วเล็กน้อย “โปรดแจ้งประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น!”
เลขาได้รับโทรศัพท์ ก็รีบแจ้งผู้ถือหุ้นแต่ละรายให้ทราบทันที
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้ถือหุ้นก็รีบไปที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่น จัดประชุมใหญ่
ภายในห้องประชุม เซี่ยชีหรั่นทำหน้าตาค่อนข้างแย่กับผู้ถือหุ้นแต่ละคน
“เรียนผู้ถือหุ้นทุกท่าน รูปแบบที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นของเราจะเผชิญ ทุกท่านคงทราบกันแล้ว! ” เซี่ยชีหรั่นมองไปรอบๆ
“ประธานเซี่ย รายละเอียดของสถานการณ์ต้องให้ประธานเซี่ยพูดให้ชัดเจน” ผู้ถือหุ้นมองเซี่ยชีหรั่น
อากาศเริ่มเกาะตัวกันขึ้นมา อากาศเย็นนิดๆ พุ่งเข้าหาตัวเซี่ยชีหรั่นพร้อมกัน
“ทุกท่านจำได้ไหมคะว่าหุ้นส่วนหนึ่งของเรามาจากการลงทุนของคนต่างชาติที่ชื่อว่า Peter? ” เซี่ยชีหรั่นมองผู้ถือหุ้นเหล่านี้ แล้วพูดต่อ “แต่การลงทุนนี้เป็นกับดักการยักยอกเงิน!”
ผู้ถือหุ้นเลิกคิ้ว “กับดักยักยอกเงิน? ทำไมเป็นแบบนี้?”
“ทุกท่านดูสิ่งนี้ได้!”
เซี่ยชีหรั่นมอบเอกสารในมือให้ผู้ถือหุ้นทุกคนที่อยู่ในนี้ ในขณะนี้ผู้ถือหุ้นกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมือ
เหล่าผู้ถือหุ้นอ่านเอกสารจบแล้ว สีหน้าก็ยิ่งเคร่งขรึม “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ” เมื่อผู้ถือหุ้นบางคนอ่านเอกสารนี้จบแล้ว ร่างกายก็เริ่มสั่น
เอกสารฉบับนี้ แสดงให้เห็นว่าบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นกำลังเผชิญกับหายนะตลอดเวลา
“ตอนแรกเราเชื่อคำพูดของ Peter เราโอนเงินส่วนนี้ไปลงทุนบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นอีกบริษัท เพื่อเป็นองค์กรเครือข่ายที่สองของเรา แต่เมื่อซื้อหนังสัตว์ท้องถิ่น Peter กลายเป็นคนฟอกเงิน ดังนั้น ไม่ใช่แค่เราไม่สามารถกู้คืนเงินส่วนที่ลงทุน แต่ต้องชดใช้ที่ดินผืนนั้นด้วย!”
หัวใจเซี่ยชีหรั่นดิ่งลงเหวลึกที่ไม่มีสิ้นสุด ขณะนี้บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นกำลังถูกรัฐบาลตรวจสอบ ได้รับการสอบสวนจากทีมสอบสวนด้านธุรกิจ
“ประธานเซี่ย แล้วนี่ต้องทำยังไงดี? คุณเป็นคนตัดสินใจเรื่องลงทุนในตอนแรก ตอนนี้……”
“พูดอะไรน่ะ สิ่งที่ประธานเซี่ยตัดสินใจ ก็ได้รับการเห็นด้วยจากพวกคุณไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้จะผลักความรับผิดชอบทั้งหมดให้กับประธานเซี่ยเหรอ?”
……
ในขณะนี้บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นกลายเป็นวุ่นวายผิดปกติ ผู้ถือหุ้นทยอยออกไป เซี่ยชีหรั่นกลับมาถึงห้องทำงานนั่งภายในห้อง มองไปที่เพดานสีขาว หัวใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่มีข้อสงสัยมากมายอยู่ในนั้น
ทั้งๆ ที่ตอนแรกที่ Peter มาลงทุน……นึกถึงการดำเนินการของเรื่องทั้งหมด ในที่สุดเซี่ยชีหรั่นก็เข้าใจหนึ่งเรื่อง เรื่องทั้งหมด อาจจะมีคนกำหนดไว้ตั้งแต่แรก แค่รอเวลาให้บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นกระโดดเข้าไปข้างใน
อีกฝ่ายใช้ประโยชน์จากความรีบร้อนของบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น พัฒนาอย่างกระตือรือร้นเกินไป บริษัทยังไม่ทันมั่นคง ก็อยากทำอีกบริษัทหนึ่ง ถูกคนอื่นหลอกใช้ด้วยแบบจำลองทางจิตนี้ ถึงนำไปสู่สถานการณ์ในปัจจุบัน
บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นคลื่นลูกหนึ่งยังไม่ทันสงบ คลื่นอีกลูกก็ม้วนมาอีกระลอก นี่มันทำให้เซี่ยชีหรั่นค่อนข้างรับไม่ไหว ในขณะนี้ ข้างนอกตกอยู่ในความมืดแล้ว
บริษัทหลินซื่อ
“ประธานหลิน ธุระที่ท่านให้ผมไปจัดการ ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นกำลังเผชิญกับอาชญากรทางการค้าที่น่าสงสัยซึ่งจะถูกสอบสวน” ในดวงตาเฉินอานเสียงไม่มีร่องรอยของชัยชนะเลยสักนิด สำหรับเขาแล้ว การทำเรื่องเหล่านี้เป็นแค่น้ำจิ้ม เป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกิน!
“ดีมาก! บอก Peter นั่น ต่อไปห้ามปรากฏตัวขึ้นที่นี่อีก! ” น้ำเสียงชายชราตระกูลหลินเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
“ผมบอกไปแล้วครับ!” เฉินอานเสียงอยู่กับชายชราตระกูลหลินมาหลายปี เข้าใจสไตล์การทำงานของเขามาตั้งนานแล้ว เดาความคิดเขาได้โดยธรรมชาติ
“อานเสียง นายทำอะไรน่าไว้วางใจอยู่เสมอ!” ชายชราตระกูลหลินมองเฉินอานเสียงที่ยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้าเผยยิ้มพึงพอใจ เขาเชื่อใจชายที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นพิเศษ เขาไม่เคยทำอะไรให้ตัวเองผิดหวังเลย
เรื่องการสอบสวนบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น เป็นหัวข้อข่าวเศรษฐกิจประจำวันของเมืองนี้ชั่วคราว
ร้านกาแฟข้างๆ ธุรกิจเครื่องประดับบริษัทหลินซื่อ
หลินเจี๋ยไม่ค่อยสนใจข่าว แต่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นถูกสอบสวนจากสวีเห้าเซิงตั้งนานแล้ว
เขาขมวดคิ้วแน่น ยากที่จะจินตนาการที่บริษัทเครื่องประดับแฟชั่นจะถูกผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติฟอกเงิน
ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งเดินออกมานอกร้านกาแฟ กำลังหาอะไรบางอย่างในร้านกาแฟด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อเขาเห็นหลินเจี๋ย ใบหน้าตื่นตระหนกก็ค่อยๆ ลดลงนิดหน่อย
“หลินเจี๋ย” สวีเห้าเซิงนั่งลงฝั่งตรงข้ามหลินเจี๋ย มองใบหน้าสับสนของหลินเจี๋ยแล้วพูดขึ้น “ตอนนี้ชีหรั่นอยู่ในช่วงวิกฤติ ฉันอยากช่วยเธอ แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง สำหรับเรื่องธุรกิจ ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset