สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1190 สาวใช้ตัวแสบ 1094

ตอนที่ 1190 สาวใช้ตัวแสบ 1094
“คุณ···”เซี่ยชีหรั่นไม่มั่นใจ เย่เชินหลินถอดหน้ากากทิ้งลงด้านข้าง ดึงเซี่ยชีหรั่นที่อยู่ด้านข้างเข้าสู้อ้อมแขนเบาๆ ลงโทษอีกฝ่ายด้วยการกัดนิ้วมือ กล่าวอย่างค่อนข้างคลุมเครือ:“คิดไม่ถึงว่าจะจำผมไม่ได้ คุณบอกมาสิว่าผมควรจะลงโทษอย่างไรถึงจะสาสม?”
“คุณ···” เซี่ยชีหรั่นปล่อยให้อีกฝ่ายแทะปลายนิ้วของเธอเบาๆ คิ้วคู่สวยขมวดแน่น เย่เชินหลินหัวเราะเบาๆ ใช้นิ้วมือค่อยๆเกลี่ยคิ้วของอีกฝ่ายให้เรียบ:“หรือคุณต้องการให้ผมใช้วิธีรุนแรงยิ่งกว่านี้เพื่อทำให้คุณได้สติ?”
นิสัยชอบใช้อำนาจคุกคามของชายหนุ่มทำให้เซี่ยชีหรั่นได้สติกลับมา“คุณเข้ามาได้อย่างไร ไหนว่าแจ้งความและให้ตำรวจจัดการไม่ใช่หรือไง?”
อารมณ์ที่กำลังดีของเย่เชินหลินหายไปทันที หากไม่ใช่เพราะเซี่ยชีหรั่นตั้งใจเดินหมากด้วยวิธีนี้เพื่อหาว่าใครคือคนที่สะกดจิตตนเองอยู่เบื้องหลัง เขาคงไม่อดทนมานานขนาดนี้ สวรรค์รู้ว่าทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาทุกวันเขานอนไม่ถึงสองชั่วโมง
“งั้นตอนนี้ฉันต้องทำอะไร?”มีเย่เชินหลินอยู่ข้างๆ ความมั่นใจของเซี่ยชีหรั่นก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
เย่เชินหลินเลิกคิ้วขึ้น“อาบน้ำ!”
ผู้คนที่กระจัดกระจายอยู่ภายในห้องโถงกว้างกลายเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ kiu มองเห็นเซี่ยชีหรั่นเดินออกมาจากห้องก็มีความสุขมากอย่างเห็นได้ชัดเจน เอ่ยด้วยสีหน้าแปลกๆ:“คิดไม่ถึงว่าคุณเซี่ยจะอาบน้ำนานกว่าหนึ่งชั่วโมง”
เซี่ยชีหรั่นเหลือบมองคนชุดดำด้านข้างด้วยความสงบเยือกเย็น อาศัยแขนเสื้อกว้างลูบเอวที่ปวดเมื่อย เย่เชินหลินในหน้ากาก มองท่าทางเล็กๆน้อยๆของเธอ มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เบิกบาน
เซี่ยชีหรั่นถูกขับไปตรงกลางผู้คน ทุกคนมองดูเธอเงียบๆ และหลีกทางให้อย่างอัตโนมัติ
ตรงกลางสุดมีโลงศพขนาดใหญ่ ด้านในมีผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่ ใบหน้าของเขาขาวซีด ผมม้ายาวสูญเสียความมันวาว ริมฝีปากคล้ำ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมของยาสมุนไพรจีน แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเสียชีวิตมานานแล้ว
รอบโลงศพเต็มไปด้วยเครื่องประดับเพชรพลอยหลากหลายรูปแบบ กลิ่นฉุนทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกอึดอัด เธอถอยหลังออกมาสองก้าว เย่เชินหลินช่วยพยุงเธออย่างสงบนิ่ง และรีบปล่อยอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้จะเป็นเย่เชินหลิน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอกับฉากแบบนี้ ผู้ชายชาวอิตาลีคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ ในไม่ช้า kiu ก็ให้คำตอบ
“ลูกชายของผมเป็นนักออกแบบที่มีความสามารถมาก เครื่องประดับเหล่านี้คือสิ่งที่เขาออกแบบ” kiu เหมือนกับแก่ไปสิบปี นิ้วมือแห้งเหี่ยวหยิบเครื่องประดับในโลงศพขึ้นมาวางอย่างเงอะงะบนฝ่ามือ ลูบไล้ไปมาและเอ่ยต่อว่า:
“น่าเสียดายที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำไมวันนั้นเขาต้องออกไปด้วย!”น้ำตาเม็ดใหญ่ของชายชราร่วงลงมาที่ขอบตา พร้อมกับสีหน้าบ้าคลั่ง
เย่เชินหลินขยับมาอยู่ด้านข้างเซี่ยชีหรั่นโดยไม่ให้คนอื่นรับรู้ เตรียมตัวปกป้องเธอได้ทุกเมื่อ ชายชราสงบอารมณ์อย่างรวดเร็ว กล่าวกับเซี่ยชีหรั่นด้วยรอยยิ้ม:
“ผมรู้ว่าเขาชอบนักออกแบบเครื่องประดับคนหนึ่งมาตลอด ดังนั้นผมจึงเอาแต่ตามหาอย่างลับๆ ในที่สุดก็ได้เห็นคุณในทีวีครั้งหนึ่ง เมื่อแรกเห็น ผมก็รู้ว่ามีเพียงความสวยงามและจิตใจของคุณถึงจะคู่ควรกับลูกชายของผม”
ชายชราหยุดไปสักพักหนึ่ง เหมือนทอดถอนใจเล็กน้อย:“การพาคุณออกมาจากข้างกายเย่เชินหลินไม่ง่ายเลยจริงๆ”
“ยากแค่ไหนหรือ?”เย่เชินหลินถอดหน้ากากออก ไม่จำเป็นต้องซ่อนความปรารถนาไว้ในใจ คว้าเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ ทำให้อีกฝ่ายอยู่ติดกับตนเองไม่มีระยะห่างถึงจะรู้สึกปลอดภัย
kiuมองเย่เชินหลินอย่างตกตะลึง ทำให้เกิดความปั่นป่วนเล็กๆในฝูงชนหลินเจี๋ยและสวีเห้าเซิงถอดหน้ากากออก เขามาอยู่ข้างกายเซี่ยชีหรั่น
“คุณไม่ได้ถูกสะกดจิต?”kiu ถามสวีเห้าเซิงอย่างตกตะลึง
หลินเจี๋ยขึ้นมาตรงหน้าอย่างเย็นชา เขานำเทปออกมา ภายในเทปคือเสียงของหมอห่าวและโน้ตดนตรีที่มีจังหวะสูงต่ำ “ต้องการแก้ไขการสะกดจิตของคุณ เพียงแค่หารูปแบบที่ตรงกัน ก็สามารถต่อต้านการสะกดจิตได้” หลินเจี๋ยเอ่ยคำพูดของหมอห่าว
kiuพยักหน้าด้วยความเข้าใจ หันไปทางเซี่ยชีหรั่น:“ตั้งแต่ไหนแต่ไรคุณก็ไม่ถูกสะกดจิตเช่นกัน?”
“ไม่ คุณทำสำเร็จ”เย่เชินหลินจับมือเซี่ยชีหรั่น สอดประสานนิ้วกับอีกฝ่าย ความผิดปกติของเธอทำให้เขากังวลมาก หลังจากปรึกษากับหมอห่าวจึงคิดว่าเธอถูกสะกดจิตอย่างรู้ตัว
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเคียดแค้นเย่เชินหลิน มีความผูกพันกับเลือดที่อธิบายไม่ได้นั้นเป็นเพราะถูกสะกดจิต
“ทำไมคุณต้องทำแบบนี้?”เซี่ยชีหรั่นมองชายชราผมหงอกขาวตรงหน้าและถามอย่างไม่อยากเชื่อ
“เพียงแค่ทำให้คุณเกลียดผม ทำให้ผมหมดหวังในตัวคุณเขาถึงจะสามารถคว้าคุณออกไปจากผมได้ และทำให้คุณหายไปจากโลกนี้อีกครั้ง”เย่เชินหลินตอบอย่างเย็นชา จับเซี่ยชีหรั่นแน่นยิ่งกว่าเดิม
Kiu เดินมาที่ด้านข้างเย่เชินหลินพยักหน้าและเอ่ยว่า:“คุณฉลาดมาก เป็นศัตรูที่ฉลาดที่สุดที่ผมเคยเจอ”แววตาของkiu ที่มองเย่เชินหลินบอกเป็นนัย เคาะไม้เท้าในมือซ้าย ส่งเสียงแปลกประหลาด
เซี่ยชีหรั่นนึกขึ้นได้ว่าตนเองฟังเสียงเคาะที่แปลกประหลาดของkiu หลังจากนั้นถึงเปลี่ยนไปอย่างแปลกๆเช่นนั้น ต้องการดึงเย่เชินหลินแยกออกไปทันที
มือของเย่เชินหลินที่จับเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ค่อยๆคลายออก เซี่ยชีหรั่นมองเขาอย่างหมดหวัง kiuมองปฏิกิริยาของเขาอย่างพอใจ“เขาถูกผมสะกดจิตแล้ว ครั้งนี้จะไม่มีใครช่วยคุณได้อีก”
สวีเห้าเซิงกับหลินเจี๋ย ถูกคนที่ก้าวขึ้นมาเต็มไปหมดจับเอาไว้ Kiu เข้าใกล้เซี่ยชีหรั่นเรื่อยๆ:“ลูกชายของผมรอคุณมานานแล้ว ในเมื่อเขาชอบคุณ คุณก็ไปโลกหน้าเป็นเพื่อนเขาเลย”
“ตาเฒ่า ผู้หญิงของฉันต้องอยู่ข้างกายฉัน”
เซี่ยชีหรั่นและ kiu เงยหน้าขึ้นอย่างแปลกใจ เย่เชินหลินคว้ามือของเซี่ยชีหรั่นกลับมา เอ่ยเบาๆว่า:“คุณไม่เชื่อใจผมเลย”
เซี่ยชีหรั่นทุบหน้าอกของเย่เชินหลินอย่างแรง ใบหน้าร้องไห้แต่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม:“ปล่อยให้ฉันร้องไห้เสียน้ำตาอยู่ได้ตั้งนาน”
Kiu มองเย่เชินหลินอย่างไม่อยากเชื่อ สวีเห้าเซิงกับสวีเห้าเซิงใช้หมอเพื่อแก้การสะกดจิตไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ทำไมผู้ชายคนนี้ที่มีชื่อว่าเย่เชินหลินถึงสามารถหลบหนีการสะกดจิตของตนเองได้ในระยะใกล้ขนาดนั้น
“แค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องไปอยู่ข้างกายชายอื่นในใจก็ร้อนรนอยากจะทำลายและสะกดจิตผู้ชายคนนั้น ถ้าอีกฝ่ายไม่เชื่อ ก็ไม่มีประโยชน์”เย่เชินหลินหักนิ้วด้วยรอยยิ้ม
กระจกบนผนังรอบทิศทางแตกออก ทหารจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาทางกระจก ฝูงชนรอบๆเริ่มปั่นป่วน kiu กดอัญมณีสีแดงบนไม้เท้าในมือ ทันใดนั้นโลงศพขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลางก็ปิดลงฉับพลันและจมลงใต้ดิน
เย่เชินหลินก้าวขึ้นมา ใช้ขาซ้ายเตะ kiu อย่างคล่องแคล่ว ส่วน kiu หลบได้อย่างว่องไว รอยยิ้มมั่นใจบนใบหน้าของเขาทำให้เย่เชินหลินเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี
“คุณฉลาดมาก น่าเสียดายที่เกิดความผิดพลาดเพราะความฉลาด ผมสะกดจิตเซี่ยชีหรั่นสองเท่า เมื่อแก้การสะกดจิตขั้นแรกแล้ว การสะกดจิตขั้นที่สองถึงจะเริ่มทำงาน”
“ทางที่ดีคุณควรจะแก้ในตอนนี้!” ในมือสวีเห้าเซิงถือแท่งเหล็กวางไว้บนกระจกใสด้านบนของโลงศพและกล่าวกับ kiu
Kiu ยักไหล่“ผมทำเพื่อคุณ เพราะคุณก็กำลังถูกสะกดจิตในขั้นที่สอง ในไม่ช้าจะรู้สึกขอบคุณผม”
“หมายความว่าอย่างไร!”ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีของเย่เชินหลินค่อยๆขยายออกไป kiu กระโดดลงไปในโลงศพท่ามกลางฝูงชน:“เย่เชินหลิน ในไม่ช้าคุณจะเข้าใจ อีกไม่นานหรอก!”
ท่ามกลางความมืดมิด ชายชรานั่งอยู่คนเดียว มือถือในมือกดโทรออก “คุณซือซือ เซี่ยชีหรั่นคือคนที่ลูกชายของผมชอบจริงใช่ไหม?”
ซือซือยิ้มร่าเริง:“ฉันจะกล้าโกหกหัวหน้ามาเฟียอิตาลีได้อย่างไร kiu วางใจเถอะค่ะ ลูกชายของคุณกำลังรอคนรักของเขาอยู่”
ตอนเช้ามืด ภายในคฤหาสน์ตระกูลเย่ยังคงเปิดไฟสว่างไสว หมอห่าวฟังเย่เชินหลินเล่าเรื่องทั้งหมด สีหน้าเต็มไปด้วยตึงเครียด:“ตอนทุกคนสะกดจิตจะออกคำสั่งที่แตกต่างกัน ดังนั้นผมไม่อาจรู้ได้ว่าคุณเซี่ยกับคุณสวีถูกออกคำสั่งอะไร”
เซี่ยชีหรั่นฟังอย่างตึงเครียด บีบมือแน่น มือใหญ่คู่หนึ่งจับเธอเอาไว้ พร้อมกับเสียงที่ไม่อาจต้านทานได้:“ผมไม่ยอมให้คุณจากผมไป”
“แค่กๆ งั้นพวกเราจะทำอย่างไรดี” สวีเห้าเซิงกับหลินเจี๋ยมองเห็นเย่เชินหลินสาบานอย่างหนักแน่น อดหันไปมองทางอื่นไม่ได้ รู้สึกเจ็บหัวใจไม่ต่างกัน
คำพูดของสวีเห้าเซิงทำให้เย่เชินหลินตื่นตัว เสียงของkiu ดังก้องในสมองอีกครั้ง คำพูดที่เขาบอกกับสวีเห้าเซิงในตอนสุดท้ายหมายความว่าอย่างไร ทำไมถึงบอกว่าสวีเห้าเซิงจะต้องแปลกใจ การแปลกใจนี้เกี่ยวข้องกับเซี่ยชีหรั่นหรือไม่
“สวีเห้าเซิง ผมมีเกาะเล็กๆหนึ่งแห่งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ คุณไปใช้ชีวิตที่นั่นสักพักเถอะ”เย่เชินหลินยืดตัวขึ้นมองสวีเห้าเซิงและเอ่ยอย่างจริงจัง
พ่อบ้านเดินเข้ามา กล่าวกับหลินเจี๋ยว่า:“ด้านนอกมีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อซือซือต้องการพบคุณ”
“ซือซือ?”เซี่ยชีหรั่นมองหลินเจี๋ย หลินเจี๋ยขมวดคิ้วคิดว่าซือซืออาจจะถูกคนสะกดรอยตามอีกครั้ง จึงพยักหน้ากล่าวว่า:“ ให้เธอเข้ามา”
เมื่อเดินเข้ามาดวงตาของซือซือเปล่งประกายเมื่อเจอกับหลินเจี๋ย ควงแขนของหลินเจี๋ยอย่างสนิทสนม:“ดึกขนาดนี้คุณยังไม่กลับฉันเป็นห่วงคุณมาก”
หลินเจี๋ยหันไปมองเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่รู้ตัว แววตาของเซี่ยชีหรั่นมีเพียงความแปลกใจ:“พวกคุณ···”
“อย่างที่คุณเห็น” ซือซือยิ้มหวาน หลินเจี๋ยลุกขึ้นกล่าวว่า:“ดึกแล้วผมขอตัวก่อน”
พาซือซือออกไป เมื่อพ้นประตู หลินเจี๋ยสะบัดแขนของเธอออก ซือซือยิ้มและถามว่า:“ทำไม เสียใจมากหรือไง?”
หลินเจี๋ยไม่ตอบ เขาหันหลัง ซือซือตะโกนจากด้านหลังของเขา:“ฉันสามารถตายได้เพื่อคุณ”
หลินเจี๋ยหยุดไปชั่วคราว และเดินจากไป ซือซือหันกลับมามองคฤหาสน์ตระกูลเย่ที่มีความสว่างไสว กระซิบเสียงเบา:“ฉันสามารถตายได้เพื่อคุณจริงๆนะ เย่เชินหลิน”
เซี่ยชีหรั่นพบความผิดปกติหลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ส่งกระดานวาดภาพในมือให้เย่เชินหลิน เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย :“ช่วงนี้ หากฉันยกพู่กันขึ้นมา ก็วาดได้เพียงแค่เขา”
เย่เชินหลินพลิกดูกระดาษวาดภาพ กระดาษทุกแผ่นเต็มไปด้วยภาพวาดของสวีเห้าเซิง วางกระดานลง เย่เชินหลินสูดลมหายใจเข้า ถามด้วยท่าทางสบายใจ:“คุณกำลังคิดถึงเขาหรือเปล่า?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้า แต่พอมองภาพวาดกลับพยักหน้า การพูดคุยเรื่องเหล่านี้ต่อหน้าเย่เชินหลินทำให้เธอรู้สึกลำบากใจ:“ตอนฝัน ตอนง่วงนอน ฉันไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไรไป?”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset