สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1226สาวใช้ของคุณชายเย่1130

#####บทที่ 1226 สาวใช้ของคุณเย่1130
บทที่ 1226 สาวใช้ของคุณเย่1130
ข้างๆ บาร์เหล้าส่งเสียงดังเข้ามาในหู เซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามาอย่างใจลอยพร้อมทั้งชุดทำงาน ใบหน้าที่สวยงามนั้นทำให้เซี่ยชีหรั่นเป็นที่สนใจของผู้คน
มีมือข้างหนึ่งคว้าข้อมือของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นสะบัดมันออกไปอย่างรวดเร็ว
“ชีหรั่น ผมเอง ผมเอง ไม่ต้องกลัว!” สวีเห้าเซิงแกว่งแขนเพื่อปกป้องเซี่ยชีหรั่น และปลอบใจเซี่ยชีหรั่น
“พี่สวี ทำไมพี่ถึงมาที่นี่ได้?” เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นสวีเห้าเซิง
ทั้งสองมองหาสถานที่เงียบๆ สวีเห้าเซิงยังคงดื่มเบียร์ในมือของเขาต่อไป เซี่ยชีหรั่นถามอย่างระมัดระวังว่า “ไม่ต้องอยู่กับพี่สะใภ้เหรอคะ?”
สวีเห้าเซิงส่ายหัว ก่อนจะยิ้มขึ้นพร้อมมองไปที่เซี่ยชีหรั่น แล้วค่อยๆ พูดว่า “โลกของเธอมักจะเกี่ยวกับความงามและการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ถือว่าผมได้เหนื่อยน้องลง”
เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าชีวิตคู่ของสวีเห้าเซิงและเสี่ยวลี่คงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พูดเพียงไม่กี่คำ สวีเห้าเซิงก็หลับไป จนหน้าผากตกลงไปที่มุมโต๊ะ
เซี่ยชีหรั่นพยายามเขย่าสวีเห้าเซิง แต่สวีเห้าเซิงก็ไม่ตื่นขึ้นมา โทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นช่วยสวีเห้าเซิงหยิบมันขึ้นมา โดยเห็นว่าโทรศัพท์นั้นแบตใกล้จะหมดแล้ว จึงรับโทรศัพท์ให้สวีเห้าเซิง
“สวีเห้าเซิงคุณอยู่ที่ไหน? ทำไมเสียงดังจังคะ?” เสียงของเสี่ยวลี่ดังมาจากโทรศัพท์
“คุณนายสวี ฉันเองค่ะ ฉันคือเซี่ยชีหรั่น สวีเห้าเซิงตอนนี้เมาแล้ว เลยรับโทรศัพท์ไม่ได้ค่ะ”
อีกฝ่ายหนึ่งได้ยินเสียงของเซี่ยชีหรั่นก็ชะงักไปชั่วขณะ จากนั้นเซียวลี่ก็ฟังคำอธิบายของเซี่ยชีหรั่นอย่างมีมารยาท แล้วก็วางสายโทรศัพท์ไป
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่สวีเห้าเซิงที่กำลังหลับสนิท ก่อนจะพาสวีเห้าเซิงกลับบ้านของเขาด้วยความปวดหัว แต่หน้าประตูกลับมีป้ายให้เช่าได้ถูกแขวนอยู่
หลังจากสวีเห้าเซิงแต่งงานก็ย้ายออกไปแล้ว โดยไม่บอกเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นก็พาสวีเห้าเซิงกลับบ้านของเธอ
ค่ำคืนผ่านไป เมื่อตื่นขึ้นมา ภายในห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นของชาดำ เซี่ยชีหรั่นลุกขึ้น ก็เห็นมีร่างที่วุ่นวายอยู่ในครัว
“ชีหรั่น คุณตื่นแล้ว เมื่อคืนนี้ต้องลำบากคุณเลย” สวีเห้าเซิงดูมีชีวิตชีวา ต่างจากเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง
เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในห้องน้ำ มียาสีฟันถูกบีบลงบนแปรงสีฟัน พร้อมน้ำในแก้ว สวีเห้าเซิงดันเซี่ยชีหรั่นเบาๆ “มันงงงวยอะไรอยู่ รีบไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว”
หลังจากทานอาหารเช้า ทั้งสองก็ออกจากบ้าน เซี่ยชีหรั่นล็อคประตูและหันไปรอบๆ เย่เชินหลินกำลังมองดูพวกเขาอยู่ด้านนอก เขาไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้กลับมาเลยทั้งคืน
สวีเห้าเซิงกำลังจะอธิบาย เซี่ยชีหรั่นจับแขนของสวีเห้าเซิง ก่อนจะพาดึงออกไปในวินาทีถัดมา
ดวงตาแดงก่ำของเย่เชินหลิน มองไปที่สวีเห้าเซิงอย่างน่ากลัว “ไป” เขาจับมือของเซี่ยชีหรั่นแล้วพาเข้าไปในห้อง
สวีเห้าเซิงเคาะประตูจากด้านนอก ส่วนเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินมองหน้ากันอย่างเย็นชาอยู่ด้านใน
“ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยเหรอ?” เสียงของเย่เชินหลินแหบแห้ง
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลินอย่างไม่เกรงกลัว “ไม่ค่ะ!”
เย่เชินหลินยิ้มขึ้น โดยมือทั้งสองลูบบนร่างกายของเซี่ยชีหรั่น ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับลมหายใจหนัก “ในเมื่อไม่มีอะไรจะพูด พวกเราก็สามารถทำอย่างอื่นได้นะ”
เซี่ยชีหรั่นผลักมือของเย่เชินหลิน “ไร้ยางอาย”
เย่เชินหลินจับฝ่ามือของเซี่ยชีหรั่น และลูบมัน พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พาผู้ชายมาค้างที่บ้าน แล้วยังบอกผมว่าไร้ยางอายอีก? คุณไม่รู้สึกอะไรถึงมันมั้งเลยเหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นตัวสั่นถึงคำพูดของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินปล่อยเซี่ยชีหรั่นออกไป “อย่าคิดว่าตัวเองอยู่สูงมากเกินไป คุณภรรยา”
เซี่ยชีหรั่นยิ้ม และผละออกจากเย่เชินหลิน “ดีค่ะ ขอบคุณผู้จัดการเย่ที่เตือนฉัน”
ทันทีที่เดินเข้าไปในห้องทำงาน คนในสำนักงานก็มองด้วยสายตาแปลกๆ และมีเสียงแหลมดังขึ้น “คุณเซี่ย”
เซี่ยชีหรั่นหันหน้าไปมองเสี่ยวลี่ด้วยความประหลาดใจ “คุณนายสวี คุณมาได้อย่างไรคะ?”
เสี่ยวลี่เดินไปหาเซี่ยชีหรั่นอย่างช้าๆ และพูดขึ้นว่า “คุณเซี่ย ฉันหวังว่าคุณจะหยุดยุ่งวุ่นวายกับสวีเห้าเซิงสามีของฉันนะคะ”
เซี่ยชีหรั่นถามด้วยความตกใจ “ฉันกับพี่สวีไม่ได้เจอกันนานแล้ว เมื่อวานเขาเมามาก และนอนบนโซฟาที่บ้านฉันเท่านั้นเองค่ะ”
เสี่ยวลี่โบกมือ และพูดอย่างเอาเรื่องว่า “แม้ว่าฉันจะรู้ว่าเขากับฉันไม่ได้แต่งงานกันเพราะเขาชอบฉัน แต่ฉันก็มั่นใจว่าเราจะรักกันเหมือนคู่อื่นๆ หลังจากที่เราเป็นสามีภรรยากัน สิ่งสำคัญก็คือขอแค่ไม่มีใครมาแทรกกลางก็พอ”
เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว และพูดซ้ำ “คุณนายสวี ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ ฉันกับพี่สวีไม่มีอะไรกันจริงๆ ค่ะ”
จู่ๆ เสี่ยวลี่ก็ขึ้นเสียงกับเธอ “ไม่มีอะไรเหรอ? ก่อนที่จะแต่งงานพวกคุณไปไหนมาไหนอย่างใกล้ชิด และเมื่อคืนนี้อีก ดึกขนาดนั้นพวกคุณก็ยังอยู่ด้วยกัน และยังนอนที่บ้านของคุณอีกทั้งคืน!”
เสียงของเสี่ยวลี่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เซี่ยชีหรั่นที่เดิมทีน้ำเสียงก็ฟังดูไม่ค่อยสบายค่อยๆ เบาลง ก่อนที่เซี่ยชีหรั่นจะหยิบกระเป๋าถือและวิ่งออกไป
เสี่ยวลี่พยายามวิ่งตามออกไป แต่โทรศัพท์ดังขึ้น “ค่ะพ่อ?”
“เสี่ยวลี่ ตอนนี้รีบออกมาจากบริษัทเครื่องประดับแฟชั่น และอย่าได้ไปก่อความวุ่นวายกับเซี่ยชีหรั่นอีก”
เสี่ยวลี่กัดริมฝีปากของเธอด้วยความเสียใจ “แต่ว่าเธอแย่งผู้ชายของหนู”
ผู้ว่าราชการจังหวัดถอนหายใจ และพูดอย่างจริงจังว่า “สวีเห้าเซิงเป็นลูกเขยที่ดี แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นลูกควรกลับมาก่อน”
มือของเย่เชินหลินยังถือโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น และมองไปที่ด้านหลังของเสี่ยวลี่ด้วยความน่ากลัว จางเฟิงอี้เดินเข้าไป และเห็นเย่เชินหลินเดินผ่านไปพอดี
เซี่ยชีหรั่นเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย แต่ไม่รู้ตัวว่าเย่เชินหลินตามหลังเธออย่างไม่เร่งรีบ เธอเดินไปถึงที่สะพานลอย ก็มีนักร้องคนหนึ่งไล่ตามมา
“คุณครับ ฟังสักเพลงไหมครับ” ชายชราอายุมากพูดขึ้น เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เหรียญไม่กี่เหรียญในกล่องของชายชรา และพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
ชายชราหยิบไวโอลินขึ้นมา และเล่นเพลง Ode to Joy ความไพเราะทำให้เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงไปด้วย
“ขอบคุณค่ะ เพราะมากๆ เลย” เซี่ยชีหรั่นนำเหรียญทั้งหมดในกระเป๋าให้ชายชรา ก่อนจะเดินไปข้างหน้า
ชายชราถือกล่องขึ้นมาอย่างมีความสุข อีกด้านหนึ่ง เย่เชินหลินหยิบเงินออกมา และพยักหน้าให้ชายชราด้วยรอยยิ้ม
หลังจากได้ยินเพลง Ode to Joy จากชายชรา เซี่ยชีหรั่นก็รู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย คนขายที่ยืนอยู่บนไม้ค้ำยื่นสายไหมให้เซี่ยชีหรั่น “คุณครับ วันนี้เป็นวันขอบคุณผู้ชมของพวกเรา คุณสามารถรับสายไหมฟรีได้เลยครับ”
เซี่ยชีหรั่นรับมาด้วยความประหลาดใจ คนขายยิ้มและขยิบตาให้เย่เชินหลินที่อยู่ไม่ไกล ก่อนที่จะจากไป เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่นกินสายไหม จนจมูกของเธอเต็มไปด้วยน้ำตาล เย่เชินหลินก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
เมื่อติดตามเซี่ยชีหรั่นมาตลอดทาง เขาไม่คิดว่าเซี่ยชีหรั่นจะเข้าไปในบ้านผีสิง เย่เชินหลินถอนหายใจและเดินเข้าไป
หลังจากสวมหน้ากากแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็เดินไปที่รถราง เธอรู้สึกว่ามีชายร่างสูงมานั่งข้างๆ ชายคนนั้นไม่ยิ้ม และสวมหน้ากากไว้ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดลมหายใจแห่งความสง่างามได้ เขาสวมเสื้อสูทคอจีน
รถรางค่อยๆ เคลื่อนออกไป มีผีผู้หญิงที่สวมชุดสีขาวเด้งออกมาจากกลางกำแพง เซี่ยชีหรั่นกรีดร้อง ไม่นานคนข้างๆ เธอ ก็วาดมือออกไปอย่างรวดเร็ว ผีผู้หญิงส่งเสียงครวญครางกลับมา
เซี่ยชีหรั่นผงะ และหันกลับมาด้วยความอับอายเล็กน้อย “คุณคะ ผีพวกนี้เป็นของปลอม คุณจะเจ็บถ้าตีพวกเขา และคุณจะถูกปรับด้วย ถ้าคุณกลัว คุณสามารถจับมือฉันได้นะคะ”
อีกฝ่ายที่สวมหน้ากากเพียงแค่เหลือบมองไปที่เซี่ยชีหรั่นเบาๆ เซี่ยชีหรั่นคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่ชอบที่เธอพูดเสนอไปแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงลดแขนลงเล็กน้อย
แขนถูกจับอย่างแรง เซี่ยชีหรั่นหันศีรษะไป ชายคนนั้นจับเซี่ยชีหรั่นโดยค่อยชำเลืองมองข้างๆ ภูตผีปีศาจและสัตว์ประหลาดต่างๆ โผล่ออกมาจากกำแพงหินอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะกลัว และเมื่อทุกอย่างหยุดลง ก็พบว่ามือเธอได้จับอยู่ที่แขนของอีกฝ่ายแน่นจนเกิดรอยช้ำ
“ขอโทษค่ะ ฉันตื่นกลัวเกินไปหน่อย” เซี่ยชีหรั่นขอโทษ
ชายคนนั้นมองไปที่เซี่ยชีหรั่น และเดินออกไปนอกประตูอย่างใจเย็น จนมองไม่เห็นเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินจึงกลับไปอย่างหดหู่ใจเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ
“จิ่วจิ่ว รู้มั้ยวันนี้วิเศษมาก! อันดับแรกฉันได้ฟังเลย Ode to Joy จากนั้นก็ได้สายไหมฟรี และสุดท้ายก็เจอสุภาพบุรุษที่แสนดีในบ้านผีสิง เขาตีพนักงานด้วย” เซี่ยชีหรั่นพูดคุยกับจิ่วจิ่วที่อยู่อีกฝั่งของโทรศัพท์
เมื่อได้ยินเสียงที่มีความสุขของเซี่ยชีหรั่น อารมณ์ของเย่เชินหลินก็ดีขึ้น “ขอให้มีความสุขนะ เซี่ยชีหรั่น” พรที่แผ่วเบาหายไปอย่างรวดเร็วพร้อมสายลม
โยวเล่ออารมณ์เสียอยู่ในห้างสรรพสินค้า “ฉันมาช็อปปิ้ง รองเท้าของคุณเป็นของแท้หรือเปล่า” พนักงานขายของรอบๆ ต่างไม่กล้าพูดอะไร
เสียงอันไพเราะดังขึ้นข้างๆ “สวัสดีค่ะ ฉันอยากลองรองเท้าคู่นี้ พวกคุณหยิบไปหยิบมาคงไม่สะดวก ถ้าขนาดพอดีกับฉัน ฉันจะซื้อทั้งหมดเลยค่ะ”
พนักงานขายของมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าด้วยความซาบซึ้ง และโยวเล่อก็หันกลับมาอย่างโกรธๆ เมื่อเธอได้ยิน “ทำตัวน่ารำคาญมาก”
ถงจืงจืงนั่งลงและลองรองเท้าอย่างสบายๆ ข้างๆโยวเล่อและพูดช้าๆ “นี่คือความแตกต่างระหว่างฉันกับเธอ ฉันพูดเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทำให้พวกเขาชื่นชมฉัน เธอก็ใช้เพียงไม่กี่ประโยค แต่กลับทำให้พวกเขาเกลียดเข้ากระดูก”
โยวเล่อกลอกตาขึ้น “ถ้าเธออยากจะอวดถึงมนุษยสัมพันธ์ที่นี่ เธอก็กลับไปเป็นนักศึกษาวิทยาลัยต่อไปได้สิ โยวเล่อ!”
ถงจืงจืงยิ้มและพูดว่า “ฉันเป็นถงจืงจืงมานานแล้ว และลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นชาวเกาะที่สามารถใช้วิธีสะกดจิตได้ และก็มักจะลืมชื่อตัวเองว่าชื่อโยวเล่ออีกด้วย?”
โยวเล่อขมวดคิ้ว และดึงถงจืงจืงที่ยิ้มอย่างสดใสไปข้างๆ และพูดว่า “วันนี้เธอมาหาฉัน ต้องการอะไรกันแน่?”
ถงจืงจืงจับมือของโยวเล่อ เธอลูบหลังมือและพูดว่า “ฉันแค่อยากจะบอกเธอว่า เย่เชินหลินผู้ชายคนนี้ เป็นของฉันแล้ว”
“เฮ้อ เขารักเซี่ยชีหรั่นมากขนาดนั้น จะไปเป็นของเธอได้อย่างไร” แม้ว่าโยวเล่อจะเกลียดเซี่ยชีหรั่น แต่เมื่อเห็นถงจืงจืงเธอก็รู้สึกอิจฉามากขึ้น
“เขาทำเพื่อฉัน ให้ฉันมาอยู่เคียงข้างเขา ยอมมีปากเสียงกับเซี่ยชีหรั่นเพื่อฉัน ไม่กล่าวว่าฉันเลย แม้จะต้องเสียเงินไปหลายร้อยล้านหยวน เธอคิดว่าเธอทำได้ไหม? สิ่งเหล่านี้ต่างทำขึ้นต่อหน้าเซี่ยชีหรั่นทั้งนั้น”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset