สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1230สาวใช้ของคุณชายเย่1134

#####บทที่ 1230 สาวใช้ของคุณเย่1134
บทที่ 1230 สาวใช้ของคุณเย่1134
จางเฟิงอี้กระแอมและกระซิบ “ไม่ใช่แน่นอนครับ เรื่องที่สามคือนายน้อยกลับมาแล้วครับ”
มีเสียงร่าเริงดังขึ้นจากในห้อง จากนั้นประตูห้องน้ำก็ถูกปิดลง จางเฟิงอี้มองไปที่สายตาอยากจะกินคนของเย่เชินหลิน และมองไปที่ร่างกายส่วนล่างของเย่เชินหลิน จางเฟิงอี้พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ขอโทษครับ ท่านประธาน”
“เนี่ยนโม่ แม่คิดถึงลูกจะตายอยู่แล้ว” เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะจูบเย่เนี่ยนโม่อีกครั้ง
เย่เนี่ยนโม่นั่งอยู่ในอ้อมแขนของเซี่ยชีหรั่นอย่างเชื่อฟัง สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ชี้ไปข้างนอกและพูดว่า “คุณป้า”
เซี่ยชีหรั่นมองตามนิ้วของเย่เนี่ยนโม่ สองข้างของถนน มีหญิงสาวในชุดเสื้อผ้าชั้นสูงกำลังเดินอย่างเร่งรีบ
“ซือซือ? เนี่ยนโม่ทำไมลูกถึงถามถึงคุณป้าขึ้นมาอย่างนั้นล่ะ?” เซี่ยชีหรั่นไม่แปลกใจที่เห็นซือซือเข้าไปในร้านเสริมสวยระดับสูงนั้น
“เนี่ยนโม่เคยเจอคุณป้าที่ออสเตรเลียครับ ตอนนั้นตาของเธอบวมมาก!” เย่เนี่ยนโม่แสดงท่าทาง
เซี่ยชีหรั่นฟังคำพูดของเย่เนี่ยนโม่อย่างแปลกๆ รถหยุดลง และคนขับพูดด้วยความเคารพว่า “คุณหญิงครับ ถึงแล้วครับ”
เมื่อเย่เนี่ยนโม่ถึงบ้าน เขาก็เห็นเย่เชินหลินยืนอยู่ “คุณพ่อ”
เย่เชินหลินพยักหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล “ไปที่นั่นสนุกไหม?”
เย่เชินหลินยิ้มและพูดว่า “สนุกครับ!” เมื่อหันกลับไปมองเซี่ยชีหรั่น เย่เนี่ยนโม่ก็ถามว่า “แม่ครับ เราจะกลับมาอยู่บ้านนี้แล้วเหรอครับ?”
เซี่ยชีหรั่นไม่ได้พูดอะไร แม่บ้านก้าวไปข้างหน้า และพาเย่เนี่ยนโม่ออกไป มีเพียงเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินเท่านั้นที่เหลืออยู่ในห้องรับแขก
“ฉันจะไปดูเนี่ยนโม่” เซี่ยชีหรั่นหันกลับและต้องการจะเดินออกไป
เสียงสนทนาดังขึ้นมาในหัว ทำให้เซี่ยชีหรั่นชะงักไปทันที
“เชินหลิน เราหรอกพี่เซี่ยแบบนี้มันจะดีเหรอคะ?” เสียงของถงจืงจืงเศร้าโศกเล็กน้อย
“ฉันจะบอกเธอคืนนี้”
“อย่าบอกเธอเลยค่ะ พวกเราทำแบบนี้ก็รู้สึกผิดกับพี่เซี่ยมากพออยู่แล้ว ก็ให้พี่เซี่ยวาดฝันไปอย่างนั้นเถอะค่ะ”
เย่เชินหลินกดสวิตช์ปิด และมองไปที่ด้านหลังของเซี่ยชีหรั่น และพูดว่า “สิ่งที่คุณบอกว่าคุณรู้ทุกอย่าง หมายถึงเสียงบันทึกเหล่านี้เหรอ”
เซี่ยชีหรั่นพูดไม่ออกและชะงักอยู่ตรงนั้น บทสนทนานี้ถูกบันทึกโดยถงจืงจืง ในตอนนั้นเธอไม่ทันได้คิดอะไรมาก ก็ด่วนตัดสินใจ
เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นเบาๆ พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “สัญญากับผม จากนี้ไปอย่าได้คิดหรือสงสัยไปเอง มีอะไรคุณก็สามารถถามผมได้ตรงๆ เลย และผมก็จะไม่ปิดบังคุณเช่นกัน”
เซี่ยชีหรั่นฝังตัวเองไว้ในอ้อมแขนของเย่เชินหลิน โดยไม่พยักหน้าหรือส่ายหัว แต่น้ำตาไหลอยู่ตรงหน้าเย่เชินหลินอย่างนั้น
“แค่กๆ! ดูเหมือนว่าผมจะมาผิดเวลาอีกแล้ว” จางเฟิงอี้ยักไหล่ขณะมองไปที่ใบหน้าอึมครึมของเย่เชินหลิน
เซี่ยชีหรั่นหันหน้าไปอีกทางด้วยความทำตัวไม่ถูก เย่เชินหลินกัดฟันและพูดว่า “ฉันควรพิจารณาว่าควรจะควบคุมการเข้าออกของนายซะแล้วหล่ะ”
“พวกคุณคุยธุระกันเถอะค่ะ ฉันจะไปหาเย่เนี่ยนโม่” เซี่ยชีหรั่นกำลังจะออกไป แต่ถูกเย่เชินหลินจับไว้
เย่เชินหลินพูดเบาๆ “คุณต้องเริ่มเคยชินกับสิ่งเหล่านี้เมื่ออยู่กับผม”
จางเฟิงอี้เปิดรูปถ่ายในมือของเขาและพูดว่า “จำรถที่ช่วยชีวิต โยวเล่อ และผู้หญิงที่อยู่ในรถได้ไหมครับ? ที่ผู้ใหญ่บ้านของเกาะนั้นบอกเราว่านอกจากโยวเล่อแล้วยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่ง”
“ในตอนแรกผมคิดเสมอว่าสองคนนี้เป็นถงจืงจืง แต่หลังจากที่เจอรถวันนี้ ผมพบว่ารถคันนั้นหาข้อมูลการซื้อไม่ได้เลย และถงจืงจืงก็ไม่สามารถขับรถได้ด้วย”
เย่เชินหลินมองไปที่ภาพถ่ายในมือของเขา และถามว่า “เป็นไปได้ไหมที่ถงจืงจืงจะพูดโกหก”
จางเฟิงอี้ส่ายหัว “ความเป็นไปได้ต่ำมากครับ ผมผูกเธอไว้ในรถ ตราบใดที่เธอเหยียบเบรกก็สามารถหยุดรถได้ แต่เธอกลับเหยียบคันเร่ง!”
“หาที่มาของรถคันนี้ให้ฉันที” เย่เชินหลินจับข้อมือของเซี่ยชีหรั่นแล้วลุกขึ้นยืน
ในร้านเสริมความงาม ซือซือถอดหน้ากาก และพูดด้วยใบหน้าที่อึมครึม “ทำไมในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมาฉันถึงมีอาการบวมที่แก้มข้างซ้าย”
นายแพทย์ยกหน้าของซือซือขึ้นมาดู และพูดว่า “การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แต่อาจจะเป็นผลข้างเคียง บาดแผลก็เลยอักเสบ ผมแนะนำให้ทำการรักษานะครับ”
ซือซือพูดอย่างดุเดือด “ไม่ว่าจะใช้เงินเท่าไหร่ก็ตาม จะต้องทำให้หน้าของฉันหายให้ได้!”
หลังจากออกจากร้านเสริมความงาม คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างมองมาที่ซือซือ ในสายตาของคนทั่วไป ซือซือนั้นสวยมาก รูปร่างที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งประกอบกับใบหน้าสวย แต่ในเวลานี้ซือซือรู้สึกว่าผู้คนเหล่านั้นกำลังมองใบหน้าของเธอด้วยความตลก
“มองอะไรกัน!” ซือซือตะโกนใส่คนที่เดินผ่านไปมา มีบาร์เหล้าอยู่ข้างทาง ซือซือพุ่งเข้าไป แสงสลัวทำให้ใบหน้าของซือซือดูดีขึ้น
เมื่อหันไปมองสวีเห้าเซิงซึ่งเมาอยู่คนเดียวตรงบาร์ สวีเห้าเซิงเห็นซือซือนั่งอยู่ข้างๆ เขาก็เพียงดื่มของตัวเองไป
“ได้ยินมาว่าคุณแต่งงานแล้ว?” ซือซือยกแก้วขึ้น
สวีเห้าเซิงเขย่าของเหลวสีทองในแก้ว และชนแก้วกับซือซือ “ข่าวของคุณช้าเกินไปแล้ว วันนี้เป็นวันหย่าร้างของผม และอีกอย่าง ตอนนั้นไม่ได้ไปงานแต่งงานของเธอ ขอแสดงความยินดีตอนนี้คงไม่ช้าเกินไปนะ”
“ฮ่าฮ่า ไม่ช้าเกินไปหรอก ไม่เคยช้าเกินไปเลย ทำไมถึงยังลืมเซี่ยชีหรั่นไม่ได้อีก” ซือซือจิบของเหลวในแก้ว รู้สึกเศร้ากับคนตรงหน้า การแต่งงานเพราะแก้แค้นจะมีความสุขได้อย่างไรล่ะ?
สวีเห้าเซิงเหล่มองซือซือและหัวเราะ “ผมกับหลินเจี๋ยเป็นเพื่อนกัน และไม่เคยคิดเรื่องนั้นมาก่อน แต่คุณรักใครกันแน่ ตัวคุณเองจะต้องรู้นะ”
มีร่องรอยของความเศร้าโศกในดวงตาของซือซือ เธอแสดงออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอถือแก้วไวน์และชนกับสวีเห้าเซิง ซือซือพูดเสียงดังขึ้น “มา แด่ความน่าสงสารของเราสองคน!”
ของเหลวหายไปอย่างไม่หยุดหย่อน แสงสลัวหมุนไปรอบๆ ใบหน้าของทั้งสอง เสียงทั้งสองที่เกี่ยวพันกันในห้องพักของโรงแรม ทั้งสองหอบหายใจส่งเสียงครางเรียกชื่อทั้งคู่ออกมาไม่คาดสาย
ในตอนเช้า ซือซือและสวีเห้าเซิงนั่งอยู่ข้างกัน สวีเห้าเซิงหันหลังให้ซือซือ แล้วพูดด้วยเสียงแหบว่า “ขอโทษ”
ซือซือแต่งตัวอย่างช้าๆ และหันมาสบตากับสวีเห้าเซิง ก่อนจะเดินไปที่ประตูด้วยรองเท้าส้นสูง ซือซือพูดอย่างเฉยเมยว่า “สวีเห้าเซิง ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ซะ ฉันคือคุณนายหลิน และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป”
“คุณเซี่ย ในฐานะตัวแทนของบริษัทเครื่องประดับแฟชั่นที่ออกนิตยสารฉบับใหม่ คุณมีอะไรอยากจะพูดไหมคะ?” พิธีกรพูดกับผู้หญิงที่มีเสน่ห์และประสบความสำเร็จในอาชีพตรงหน้าของเธอ
เซี่ยชีหรั่นยิ้มเบาๆ “ฉันแค่อยากทำเครื่องประดับให้ดี อย่างอื่นก็คงเป็นเพราะโชคชะตา”
พิธีกรยิ้ม และถามด้วยสายตาเฉียบคม “ในเมื่อคุณเซี่ยเชื่อในโชคชะตามากขนาดนั้น คุณช่วยเล่าให้เราฟังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ล่าสุดของคุณกับประธานเย่ได้ไหมคะ? มีชาวเน็ตหลายคนอยากรู้ว่าคุณสองคนคบกันแล้วรึเปล่า?”
เซี่ยชีหรั่นมองไปที่พิธีกรอย่างเชื่องช้า หวังว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนหัวข้อถาม แต่พิธีกรกลับมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างใจจดใจจ่อ
“ขอโทษนะคะ พวกคุณถ่ายกับเสร็จหรือยังครับ? ผมมารับชีหรั่นกลับบ้าน” มีเงาร่างสูงทอดมาที่ข้างๆ เซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินมองไปที่เซี่ยชีหรั่นอย่างอ่อนโยน และช่างภาพที่อยู่ข้างๆ ก็ถ่ายมันไว้ได้
ภายในรถ เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ฟิล์มที่ช่างภาพทิ้งไว้ให้เธอ ในนั้นเป็นภาพที่เย่เชินหลินกำลังพยุงตัวเธอด้วยสายตาอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ
“ไม่ต้องกังวล” เย่เชินหลินปล่อยมือมาข้างหนึ่งเพื่อจับมือของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่รถที่ผ่านไปมาและพูดออกมาว่า “รถคันนั้นเป็นรถของผู้หญิงลึกลับที่ผ็จัดการจางเคยให้พวกเราดูรูปไม่ใช่เหรอคะ? มีดาวห้าแฉกวาดอยู่บนรถ วันนั้นฉันสังเกตเห็น”
เย่เชินหลินเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อย รถคันนั้นดูคล้ายกับรถในภาพมาก หลังจากเหลือบมองรถที่ติดไฟแดงเพียงไม่กี่ครั้ง เย่เชินหลินก็พูดอย่างใจเย็น “ให้จางเฟิงอี้จัดการ”
เซี่ยชีหรั่นจ้องไปที่รถคันข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าคราวนี้คุณจับมันไม่ได้ จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะรู้ข่าวคราวของมันอีกหล่ะคะ?”
เย่เชินหลินขมวดคิ้วและมองไปที่เซี่ยชีหรั่น และถามขึ้นว่า “ดูคุณกังวลเรื่องนี้มาก”
เซี่ยชีหรั่นมองเข้าไปในดวงตาของเย่เชินหลิน และยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ยังจำตอนที่เนี่ยนโม่ถูกลักพาตัวได้ไหมคะ? จนตอนนี้คนที่ลักพาตัวไปก็ยังจับไม่ได้ ฉันกังวลและสงสัยมาโดยตลอด ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มาจากบุคคลคนเดียวกัน”
เมื่อไฟเขียว รถเหล่านั้นก็เริ่มเคลื่อนออกไปทีละคัน เซี่ยชีหรั่นจับมือของเย่เชินหลินกลับด้วยความกังวล เย่เชินหลินยกมุมปากขึ้นและพูดอย่างแผ่วเบา “จับไว้ให้ดีๆ”
รถพุ่งไปข้างหน้าราวกับลูกธนู ตามรถคันนั้นไป และในที่สุดก็หยุดอยู่ที่ตึกเดี่ยวทรุดโทรมแห่งหนึ่ง
เย่เชินหลินขมวดคิ้วและมองไปที่เซี่ยชีหรั่น “คุณอยู่ในรถ”
เซี่ยชีหรั่นถอยเท้าที่ก้าวออกไป แล้วมองไปที่เย่เชินหลิน ก่อนจะพูดว่า “ฉันเก่งมากกว่าที่คุณคิด”
เย่เชินหลินจับมือของเซี่ยชีหรั่นไว้แน่นและเดินเข้าไปที่ประตู ภายในประตูมีเสียงอะไรบางอย่างแตก ตามด้วยเสียงกรีดร้องของผู้หญิงก็ดังออกมา “ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าก่อนฉันจะกลับมาจะทำต้องซักผ้ากองนี้ให้เสร็จ ดูพวกเธอสิ”
“พวกเราผิดไปแล้วค่ะ อย่าตีพวกเราเลย” เสียงร้องของเด็กๆ ดังมาจากบ้าน เซี่ยชีหรั่นอยากจะเข้าไป แต่ถูกเย่เชินหลินหยุดไว้
ยังมีเสียงของผู้ชายคนอื่นๆ ดังขึ้นในห้อง “ทำไมวันนี้เด็กที่เหลือยังไม่กลับมา ไม่รู้ว่าได้มาเท่าไหร่”
เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินมองตากัน และตระหนักว่าพวกเขาบังเอิญพบสถานที่ที่เด็กๆ ถูกลักพาตัวไปขายโดยบังเอิญ
เซี่ยชีหรั่นต้องการดูต่อ แต่เย่เชินหลินบังคับให้ออกไปจากตรงนั้น เธอสะบัดมือของเย่เชินหลินทิ้ง เซี่ยชีหรั่นพูดอย่างเย็นชา “บางทีคุณอาจจะเป็นประธานที่ดี แต่ฉันไม่สามารถทนดูเด็กๆ เหล่านั้นได้รับความทุกข์ทรมานได้”
เย่เชินหลินจับไหล่ของเซี่ยชีหรั่น และพูดด้วยเสียงต่ำ “คุณเคยคิดบ้างไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนอื่นๆ ถ้าคุณพาพวกเขาไปตอนนี้ สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือรอให้พวกเขารวมตัวกันทั้งหมด และจัดการในครั้งเดียว”
เซี่ยชีหรั่นเงียบ เย่เชินหลินหยิบโทรศัพท์ออกมาและพูดกับจางเฟิงอี้สั้นๆ เมื่อเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นยังคงปฏิเสธที่จะจากไป เย่เชินหลินจึงพูดเบาๆ ว่า “ผมสัญญาว่าจะช่วยเด็กๆ เหล่านั้นออกมา โอเคไหม”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset