สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1268 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1168

บทที่ 1268 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1168
เย่เนี่ยนโม่สวมห่วงยางลอยตัวอยู่ในสระว่ายน้ำ เย่เชินหลินเคยพูดเอาไว้ว่าจะต้องเรียนรู้ท่าว่ายน้ำที่ถูกต้องตามมาตรฐานให้ได้ภายในสองวัน ด้านข้างมีเสียงดังลอยมาเล็กน้อย เย่เนี่ยนโม่พบว่าขนาดห่วงยางของตัวเองนั้นเล็กลงเรื่อยๆ รูเล็กๆรูหนึ่งนั้นมีอากาศพุ่งออกมาไม่หยุด
“หม่ามี๊ หม่ามี๊!” เย่เนี่ยนโม่กวาดมือไปมาสองสามครั้ง ก็พบว่าตัวเองกำลังจมลงไม่หยุด จึงร้องเรียกเซี่ยชีหรั่นอย่างทำอะไรไม่ถูก เซี่ยชีหรั่นเพิ่งไปเอาน้ำผลไม้
ป่าเอ๋อร์เห็นเย่เนี่ยนโม่สำลักน้ำไปหลายอึก ก็โดดพุ่งลงไปในน้ำ ว่ายไปถึงข้างกายเย่เนี่ยนโม่อย่างชำนาญ สอดแขนเข้าไปใต้รักแร้ของเย่เนี่ยนโม่เอาไว้ พลางว่ายไปที่ขอบสระ
“กลับไปแล้วต้องบอกหม่ามี๊ของหนูนะว่าฉันช่วยชีวิตหนูเอาไว้ ต้องตอบแทนฉันดีๆ” ป่าเอ๋อร์กัดฟันพูด เมื่อว่ายไปถึงกลางสระ ป่าเอ๋อร์ก็รู้สึกว่าทั้งร่างไม่มีแรง เท้าก็เริ่มเป็นตะคริวไม่หยุด จิตใต้สำนึกก็ค่อยๆเลือนรางลงเรื่อยๆ
เงยหน้าขึ้นไปมองขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มที่อยู่บนระเบียง ชายหนุ่มที่อยู่ในที่ไกลๆนั้นยิ้มให้ตัวเอง พลางยกแก้วขึ้นสูง ถูกวางแผนคิดบัญชีเสียแล้ว! ความหวาดกลัวมหาศาลโอบล้อมรอบตัวป่าเอ๋อร์
โยวจื๋อต้องการให้เธอตาย ไวน์แดงที่ดื่มไปเมื่อครู่จะต้องมีปัญหาแน่นอน
ร่างกายของป่าเอ๋อร์ไร้เรี่ยวแรงลงเรื่อยๆ ความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตรอดทำให้เธอว่ายไปทางขอบสระไม่หยุด “เนี่ยนโม่ ป่าเอ๋อร์หรือ!” เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ด้านข้างร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ลุกลี้ลุกลนคว้าร่มคันยาวส่งไปให้ป่าเอ๋อร์
ป่าเอ๋อร์ให้เย่เนี่ยนโม่คว้าร่มเอาไว้ มือทั้งคู่ที่เป็นตะคริวพยายามออกแรง “ระวังคนข้างกาย ระวังนะ!” ป่าเอ๋อร์ร้องงึมงำแล้วค่อยๆจมลงไปใต้ก้นสระ โยวจื๋อมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก เทของเหลวสีแดงในแก้วข้างกายทิ้ง และเดินจากไปยิ้มๆ
เซี่ยชีหรั่นกรีดร้อง หมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมา ก็เห็นโยวจื๋ออยู่ข้างกาย มองมาทางเธอด้วยความอ่อนโยน เอ่ยถามเสียงเบาว่า “คุณดีขึ้นบ้างไหมครับ”
ความคิดของเซี่ยชีหรั่นยังคงสับสนวุ่นวาย จนถึงขั้นนึกไม่ออกว่าตัวเองเป็นอะไรไป ยื่นมือออกมาคิดจะเช็ดเหงื่อ แต่ในสมองก็ปรากฏภาพสายตาเศร้าเสียใจสุดท้ายของป่าเอ๋อร์ที่มองมาทางตัวเอง
“ป่าเอ๋อร์!” เซี่ยชีหรั่นร้องออกมาอย่างตกใจ โยวจื๋อมองเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาที่เจือไปด้วยความเจ็บปวด เอ่ยอย่างขมขื่นว่า “คุณป่าเอ๋อร์จากไปแล้วครับ”
“จากไป หมายความว่าอะไรคะ” เซี่ยชีหรั่นมองโยวจื๋อเขม็งอย่างต้องการคำตอบ สีหน้าโยวจื๋ออดไม่ได้ที่จะสงสาร ภายใต้สายตาเร่งรัดของเซี่ยชีหรั่น ก็ค่อยๆเอ่ยออกมาว่า “เพื่อที่จะช่วยชีวิตเนี่ยนโม่ และเพราะไม่ได้ยืดเส้นยืดสายก่อน ดังนั้นตอนที่ว่ายน้ำจึงทำให้เป็นตะคริวที่ขา ส่งผลให้คุณป่าเอ๋อร์เสียชีวิตแล้วครับ”
สมองของเซี่ยชีหรั่นขาวโพลน ปรากฏภาพสีหน้าสิ้นหวังของป่าเอ๋อร์มองมาทางตัวเองขณะที่กำลังจมน้ำ “ขอโทษ ฉันไม่ควรจากไปคนเดียว ฉันควรจะว่องไวกว่านี้” เซี่ยชีหรั่นพึมพำกับตัวเองไม่หยุด
โยวจื๋อขมวดคิ้ว คิดจะกดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เซี่ยชีหรั่นปัดมือออก ประตูถูกเปิดออก แรงที่มากยิ่งกว่าโอบกอดเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ ใบหน้าเซี่ยชีหรั่นเต็มไปด้วยคราบน้ำตา คิดจะดิ้นรนตัวออกมา
“เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว” เย่เชินหลินลูบศีรษะเซี่ยชีหรั่น พลางเอ่ยเสียงแผ่วเบา
เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถดิ้นหลุดจากการกักขังของเย่เชินหลินได้ จึงอ้าปากกัดไหล่เย่เชินหลินทั้งที่ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา เซี่ยชีหรั่นร้องสะอื้นไห้อย่างเจ็บปวดออกมา
เย่เชินหลินคิ้วขมวด แต่มือก็ยังเคลื่อนไหวไม่หยุด ตบลงเบาๆ
เซวียเหวินยูนขมวดคิ้ว ถอนสายตาที่มองเซี่ยชีหรั่นกลับมา หมุนตัวจากไปด้วยสีหน้าเย็นชา กำปั้นหนึ่งกระแทกเข้ากับกำแพง แววตาเซวียเหวินยูนเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด
“ทำไม เสียดายหรือ คนที่เธอต้องการไม่เคยเป็นนาย มีเพียงแค่เย่เชินหลิน ไม่แน่ว่าก็ต้องการฉัน ใครใช้ให้ฉันเป็นเพื่อนของเธอกันล่ะ” โยวจื๋อเอ่ยขึ้นช้าๆเมื่อเดินมาถึงข้างกายเซวียเหวินยูน
“ไสหัวไป” เซวียเหวินยูนสีหน้าเย็นชา ขับไสไล่ส่งโยวจื๋ออย่างไม่เกรงใจ
รอยยิ้มบนใบหน้าของโยวจื๋อที่แอบซ่อนอยู่หลังแว่นนั้นโหดเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ ดันกรอบแว่น โยวจื๋อฉีกรอยยิ้มจอมปลอมที่เป็นอาวุธของตัวเองออกมาอย่างไม่ใส่ใจ
“ฉันไปแน่ พวกเรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีละครสนุกแบบไหนที่จะแสดงกันอีก”
“เนี่ยนโม่ล่ะคะ” เซี่ยชีหรั่นถามเสียงเบา นิ้วสัมผัสคราบเลือดเล็กน้อยที่ปรากฏขึ้นมาบนเสื้อเชิ้ตของเย่เชินหลินแผ่วเบา คิดหวาดกลัวอย่างต้องการจะถอยมือกลับ เย่เชินหลินคว้ามือที่คิดจะหลบหลีกของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ วางไว้บนบาดแผลของตัวเอง ใช้การกระทำปลอบประโลมเซี่ยชีหรั่น
“เขาไม่เป็นอะไร จำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น” เย่เชินหลินเอ่ยเสียงเบา เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า มองดูใบไม้ที่ร่วงหล่นกะทันหันทางนอกหน้าต่าง และเอ่ยเรียบๆว่า “สุสานของเธออยู่ที่ไหนหรือคะ ฉันอยากจะไปเยี่ยมสักหน่อย”
เย่เชินหลินขมวดคิ้ว เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลิน นัยน์ตาที่ร้องไห้จนบวมแดงก็มีน้ำตารินไหลออกมาอีกครั้ง แทบจะเป็นการเอ่ยขอร้องเย่เชินหลินว่า “ไม่ต้องเตรียมการอะไร ฉันควรจะเป็นคนแบกรับเรื่องราวทั้งหมดแทนเนี่ยนโม่เอง”
ห้องเซ่นไหว้ผู้ตายสีดำมืดมีผู้มาเยือนไม่มากนัก หวังเฉิงมองดูภาพป่าเอ๋อร์ที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสีหน้าเจ็บปวดอยู่อีกด้านหนึ่ง เมื่อหวังเฉิงเห็นเซี่ยชีหรั่นเดินเข้ามา หวังเฉิงก็พุ่งตัวเข้าไปชี้หน้าเซี่ยชีหรั่นอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนูดอกหนึ่ง “ลูกสาวของผมยังสาวขนาดนั้น เธอยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีแฟน แต่ต้องจากไปทั้งแบบนี้เสียแล้ว”
คนที่อยู่ด้านข้างได้ยินแล้วก็ส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น เซี่ยชีหรั่นเอ่ยพูดน้ำเสียงสั่น “ให้ฉันเข้าไปพบเธอหน่อยได้ไหมคะ” จิตใต้สำนึกของหวังเฉิงคิดจะพูดอะไรอีก แต่เมื่อมองสีหน้าของเย่เชินหลินแล้ว ก็เอ่ยอย่างลำบากใจว่า “ลูกสาวของผมไม่ให้อภัยคุณแน่นอน”
ภายในลานเซ่นไหว้ผู้ตาย เซี่ยชีหรั่นมองใบหน้ายิ้มแย้มของป่าเอ๋อร์ วางดอกไม้ช่อหนึ่งไว้ด้านหน้ารูปภาพของป่าเอ๋อร์ “ฉันตายแทนลูกชายของคุณ คุณควรจะมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน” เสียงของป่าเอ๋อร์ดังขึ้นกลางอากาศ
“ป่าเอ๋อร์หรือ” เซี่ยชีหรั่นมองไปรอบๆ นอกจากผ้าม่านอันน่าเกรงขามที่ถูกลมพัดแล้ว รอบด้านก็ไม่มีอะไรผิดปกติ รูปภาพขาวดำของป่าเอ๋อร์ที่วางอยู่กลางห้องยังคงมองมาทางเซี่ยชีหรั่นยิ้มๆ
“ฉันตายแทนลูกชายของคุณ คุณติดค้างฉันเรื่องหนึ่งตลอดกาล!” เสียงอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ลนลาน มองเทียนที่ถูกลมพัดเสียจนไหววูบและใบหน้าของป่าเอ๋อร์ที่ถูกแสงเทียนส่องจนมองเห็นไม่ชัดแล้วพึมพำออกมาเบาๆว่า “ขอโทษ ขอโทษจริงๆ”
เย่เชินหลินมองไปรอบๆห้องเซ่นไหว้ หวังเฉิงและลูกสาวลูกชายเงยหน้ามองเย่เชินหลินไม่หยุด เห็นสายตาของเย่เชินหลินมองมาทางตัวเองแล้ว หวังเฉิงก็หน้าเปลี่ยนสี เริ่มร้องไห้โฮขึ้นมา
“ป่าเอ๋อร์ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆที่คุณให้กำเนิด” เย่เชินหลินเอ่ยเรียบๆ ใบหน้าของหวังเฉิงปรากฏแววลึกซึ้งขึ้นมา คนรอบด้านล้วนมองมาทางหวังเฉิงอย่างประหลาดใจ
“ประธานเย่ ผู้ตายใหญ่ที่สุด รบกวนคุณเหลือเกียรติให้ป่าเอ๋อร์สักหน่อย” สีหน้าของหวังเฉิงยังคงทะมึนและกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เอ่ยลอดไรฟัน
เย่เชินหลินมองไปรอบๆ มีคนไม่เท่าไรที่จะเป็นเดือดเป็นร้อนเพื่อป่าเอ๋อร์อย่างจริงใจ จึงหยิบสัญญาออกมาฉบับหนึ่ง พลางยิ้มเล็กน้อย “หุ้นในรีสอร์ท 30% ถ้าหากว่าคุณเลือกที่จะรับสัญญาฉบับนี้ไว้ ผมต้องการให้คุณไม่ไปรบกวนเซี่ยชีหรั่นอีกตลอดกาล ยกตัวอย่างเช่นเรื่องเมื่อครู่นี้ ผมไม่ต้องการเห็นอีก”
เย่เชินหลินเอ่ยเสียงเย็น หวังเฉิงกลืนน้ำลายมองสัญญาในมือของเย่เชินหลิน ลูกสาวคนหนึ่งสามารถแลกเปลี่ยนทรัพย์สินได้เกือบร้อยล้าน “พ่อครับ ก่อนน้องสาวจะเสียชีวิตนั้นกตัญญูต่อคุณพ่อเป็นที่สุด คุณพ่อก็รับเงินไว้เถอะครับ” ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้านข้างลุกขึ้นยืน พลางเอ่ยพูด
หวังเฉิงถลึงตาใส่ชายคนนั้น ด่าว่า “น้องสาวแกเพิ่งจะเสียชีวิต ไม่ทันไรก็คิดจะขายน้องสาวแล้วอย่างนั้นหรือ!” สำหรับป่าเอ๋อร์แล้ว หวังเฉิงยังมีความรู้สึกให้แน่นอน เห็นท่าทางละโมบโลภมากของลูกชายตัวเองแล้ว หวังเฉิงก็กลัดกลุ้ม อึดอัดใจ
เย่เชินหลินเลิกคิ้ว โบกมือ ซูหวางที่ยืนอยู่ด้านข้างก็ดึงสัญญากลับคืนมา “ผมรับปาก!” หวังเฉิงกัดฟัน ถึงอย่างไรลูกสาวก็ตายไปแล้ว การอุทิศตนก็นับว่ามีจิตใจที่กตัญญู อย่างมากก็แค่เผากระดาษเงินไปให้มากหน่อยในเทศกาลเช็งเม้ง!
มีเสียงของกระทบกันดังขึ้นภายในลานเซ่นไหว้ผู้ตาย เย่เชินหลินหน้าเปลี่ยนสี พุ่งเข้าไปในห้องโถงเซ่นไหว้ รอบด้านว่างเปล่า ไร้เงาร่างเซี่ยชีหรั่น ประตูด้านข้างเปิดทิ้งเอาไว้ ลมที่พัดเข้ามาทำให้เชิงเทียนบนโต๊ะระเนระนาด
ไม่ต้องให้เย่เชินหลินเอ่ยสั่ง ซูหวางก็พาบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งพุ่งตัวออกไปแล้ว เย่เชินหลินมองป่าเอ๋อร์ที่มีรอยยิ้มน้อยๆภายใต้แสงเทียนด้วยสีหน้าเย็นเยียบ ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เซี่ยชีหรั่นขับรถไปตามถนนเส้นทางยามค่ำคืนด้วยตัวคนเดียว เธอไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน แต่ในสมองมีเสียงบอกเธอว่า อย่าหันกลับไป ให้ตรงไปด้านหน้า
ลมทะเลพัดผ่าน ทำให้เส้นผมยาวสลวยของเซี่ยชีหรั่นยุ่งเหยิง เซี่ยชีหรั่นหันหน้าไปมองระลอกคลื่นที่กระทบซึ่งกันและกัน สีไพลินของน้ำในทะเลภายใต้แสงจันทร์สาดส่องนั้นมีสีทองระยิบระยับอย่างเห็นได้ชัด
จอดรถไว้ด้านหนึ่งตามสะดวก เซี่ยชีหรั่นก้าวเดินไปบนหาดทราย หนึ่งก้าวหนึ่งรอยเท้า อย่างยากลำบากแต่แน่วแน่ น้ำในทะเลกระทบเข้ากับข้อเท้าเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นอดไม่ได้ที่จะคิดถึงหาดทรายที่ไม่รู้ชื่อแห่งหนึ่ง เย่เชินหลินก็จูงมือของตัวเองเดินไปตามทางด้านหน้าแบบนี้
สุดปลายทางของทะเลนั้นคืออะไรกันแน่ เซี่ยชีหรั่นมองอย่างสับสน หลังจากนั้นก็เดินไปข้างหน้าช้าๆ
เสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบินส่วนตัวลำแล้วลำเล่า ดังสะเทือนไปทั้งหน้าผืนน้ำ เซี่ยชีหรั่นเงยหน้ามองเครื่องบินส่วนตัวที่โอบล้อมตัวเองอย่างตกตะลึง มีชายคนหนึ่งเดินลงมาจากเครื่องบินอย่างรวดเร็ว
เย่เชินหลินเดินมายังทิศทางที่เซี่ยชีหรั่นแช่อยู่ในน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว กอดฝ่ายตรงข้ามเอาไว้แน่น กระทั่งเซี่ยชีหรั่นร้องครางออกมาก็ยังเอาหูไปนา เอาตาไปไร่
ถ้าหากไม่ใช่ว่ารถของเซี่ยชีหรั่นมีเครื่องส่งสัญญาณ GPS อัตโนมัติล่ะก็ เย่เชินหลินไม่กล้าจินตนาการ
“คุณจะทำอะไรกันแน่!” เย่เชินหลินคำรามเสียงต่ำ
เซี่ยชีหรั่นตะลึงไปเล็กน้อย เอ่ยด้วยความมึนงงว่า “ฉันเพียงแค่อยากเห็นปลายทางของทะเลว่าเป็นอย่างไรเท่านั้นเองค่ะ”
เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นที่ยังคงแช่อยู่ในน้ำขึ้นมา เดินตรงไปที่เฮลิคอปเตอร์ อุ้มเซี่ยชีหรั่นขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์แล้ว เย่เชินหลินก็สอดตัวเข้ามานั่งในห้องโดยสาร
ใบพัดเฮลิคอปเตอร์หมุนอยู่สักพักค่อยบินออกจากหาดทรายไป เซี่ยชีหรั่นมองท้องฟ้าที่เขยิบเข้ามาใกล้ตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เย่เชินหลินขับเฮลิคอปเตอร์ไปทางอีกด้านของทะเลด้วยตัวเอง
ไม่รู้ว่าบินมานานแค่ไหนแล้ว เซี่ยชีหรั่นเห็นวิวทิวทัศน์รอบด้านค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปจนเป็นมหาสมุทร รอบด้านนั้นมองไม่เห็นเทือกเขาที่สามารถจอดเทียบได้แล้ว มีเพียงแค่น้ำทะเลดำมืดและแสงจันทร์เท่านั้น
แผงควบคุมของเฮลิคอปเตอร์มีเสียงแจ้งเตือนปริมาณน้ำมันที่เหลือน้อย เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินที่ไม่สนใจ อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงเตือนออกไป “เครื่องยนต์ไม่มีน้ำมันแล้วนะคะ”
เย่เชินหลินมองหน้าจอแสดงผล แต่กลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คุณอยากไปดูปลายทางของทะเล ผมก็จะไปเป็นเพื่อนคุณ บินไปจนกระทั่งเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถบินได้อีกแล้ว ผมก็จะตกลงไปเป็นเพื่อนกับคุณ”
เสียงของเย่เชินหลินอ่อนโยนแต่เบาหวิว เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินอย่างไม่อยากเชื่อ ครู่หนึ่ง เซี่ยชีหรั่นก็ทอดถอนใจ ยื่นมือไปกุมมือเย่เชินหลิน “กลับกันเถอะค่ะ”
“ชีหรั่น คุณไม่เป็นอะไรนะ” เซวียเหวินยูนเห็นเย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นแล้วก็รีบก้าวขึ้นไปถาม โยวจื๋อมองสีหน้าหม่นหมองของเซี่ยชีหรั่นอยู่ไกลๆ
“ให้ชีหรั่นกลับไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะครับ” โยวจื๋อก้าวขึ้นมาด้านหน้า เซวียเหวินยูนขวางอยู่ด้านหน้าเซี่ยชีหรั่นนิ่งๆ สายตาของเย่เชินหลินกวาดมองผ่านมา เดินผ่านทั้งสองคนไป อุ้มเซี่ยชีหรั่นก้าวเท้ายาวกลับไปยังห้องพัก

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset