สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1285 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1185

บทที่ 1285 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1185
“ฉันเองค่ะ ฉันอยากจะบอกว่าวันนี้ฉัน……ประธานเย่คะ ฉันอาบน้ำแล้ว” มือที่ถือโทรศัพท์ของเย่เชินหลินสั่นระริก เสียงของหญิงสาวที่ลอยออกมาจากในสายโทรศัพท์ยังเจือไปด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน
เย่เชินหลินกำลังทำอะไรอยู่นั้นคงไม่ต้องพูดแล้ว เสียงของเย่เชินหลินในสายโทรศัพท์คล้ายกับเจือไปด้วยอาการหอบ เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “วางแล้วนะ”
“ตู๊ดๆๆๆ” เซี่ยชีหรั่นที่มือยังคงถือโทรศัพท์เอาไว้ท่าเดิมนั้นได้ยินเสียงไม่ว่างในสายแล้ว หัวใจก็ว่างเปล่า ผู้ชายที่เธออยากพบคนแรกในตอนที่เธอตื่นขึ้นมานั้น ตอนนี้กำลังกอดผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่
โทรศัพท์ถูกดึงออกไป เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นมองเซวียเหวินยูนด้วยความสับสน เซวียเหวินยูนวางโทรศัพท์ไว้อีกด้าน พลางกอดเซี่ยชีหรั่นด้วยความสงสารอย่างเบามือ “ในตอนที่เห็นคุณคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ผมก็ทรมานใจเจียนตาย จนกระทั่งตอนนี้มือทั้งคู่ของผมก็ยังสั่นอยู่”
เซี่ยชีหรั่นเงียบ รู้สึกได้ถึงแรงสั่นบริเวณแผ่นหลัง เซวียเหวินยูนตบหลังเซี่ยชีหรั่นเบาๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “นอนเถอะ ไม่ว่าคุณจะตื่นขึ้นมาตอนไหน ผมก็จะอยู่ตรงนี้”
ภายในห้องชุดเพรสซิเดนเชียล สวีทอันหรูหรา เอวพริ้วไหวของหญิงสาวค่อยๆ เลื้อยไปบนตัวเย่เชินหลิน ต้นขาถูไปมาเบาๆ แฝงไปด้วยความยั่วยวนอันไร้ขอบเขต “ประธานเย่ คืนนี้วันนี้ฉันจะทำให้คุณใช้ชีวิตเหมือนคนที่อยู่ในโลกแห่งความฝันค่ะ”
ริมฝีปากแดงสดของศัตรูเคลื่อนผ่านลำคอเย่เชินหลิน ดวงตาเย่เชินหลินเชิดขึ้น เตียงขยับอย่างแผ่วเบาครู่หนึ่ง โลกหมุนสลับ ทั้งสองคนก็สับเปลี่ยนตำแหน่งกันเสียแล้ว
“อย่างนั้นหรือ” เย่เชินหลินจับมือหญิงสาวที่คิดจะคล้องบนลำคอตัวเอง หญิงสาวมองเย่เชินหลินด้วยใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อย และพยักหน้าออดอ้อน
“แกร๊ก!”
“คุณทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ!” หญิงสาวมองไปทางเย่เชินหลินอย่างตื่นตระหนก บิดมือที่ถูกเย่เชินหลินใช้กุญแจมือล็อคเอาไว้กับหัวเตียง
เย่เชินหลินพลิกตัวลุกขึ้น หยิบชุดคลุมอาบน้ำจากข้างเตียงมาสวมอย่างคล่องแคล่ว มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในห้อง หญิงสาวกรีดร้อง พร้อมกับหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเอง
“ประธานเย่” จางเฟิงอี้ส่ง GPS ให้กับเย่เชินหลิน เย่เชินหลินมองตำแหน่งของโรงพยาบาลที่เซี่ยชีหรั่นพักอยู่ ก็ขมวดคิ้วเป็นรอยลึก
“คุณต้องการพินัยกรรมฉบับนี้ใช่หรือไม่” เย่เชินหลินหยิบเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะตามใจชอบขึ้นมา
คราวนี้หญิงสาวถึงได้รู้สึกตัวว่าตัวเองถูกหลอกแล้ว เย่เชินหลินจงใจขุดหลุมให้ตัวเองกระโดดลงมา จึงยิ้มแห้งๆ พลางเอ่ยว่า “คุณพูดอะไรกันคะ ประธานเย่ ฉันไม่รู้เรื่องค่ะ”
“ทางที่ดี คุณหุบปากเงียบในตอนที่อารมณ์ผมยังไม่ถือว่าแย่จะดีกว่านะ” ความโหดเหี้ยมของเย่เชินหลินนั้นถึงขีดสุด จางเฟิงอี้มองหญิงสาวอย่างเห็นอกเห็นใจ ทำให้เซี่ยชีหรั่นเข้าใจผิด ผู้หญิงคนนี้จบสิ้นแล้ว
เย่เชินหลินโบกมือ ผู้ชายหลายคนเดินไปถึงหน้าหญิงสาว หญิงสาวเอ่ยพูดด้วยความหวาดกลัวว่า “ไม่นะ คุณไม่สามารถทำกับฉันแบบนี้ได้”
เย่เชินหลินเพลิดเพลินไปกับสายตาตระหนกกลัวของหญิงสาวแล้ว ก็จุดบุหรี่อย่างสบายใจ “ตอนที่คุณคิดว่าจะทำแบบนี้ ก็ควรจะเข้าใจจุดจบแล้วนะ”
ประตูถูกเปิดออกและปิดลง แบ่งแยกออกเป็นโลกสองใบ และขวางกั้นเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ห้องในโรงพยาบาล แสงจันทร์ส่องผ่านขอบหน้าต่างกระทบลงบนร่างของหญิงสาวที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย
เซวียเหวินยูนมองเซี่ยชีหรั่นที่หลับลึก สายตาก็วาดไปตามหน้าผากเกลี้ยงเกลาของเซี่ยชีหรั่น จมูกโด่งรั้นและริมฝีปากที่เม้มแน่นอยู่ตลอดเวลา เด็กผู้หญิงแบบนี้เป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ แต่เธอกลับไม่ได้เป็นของตัวเอง
เซวียเหวินยูนโค้งตัวลงไปใกล้เซี่ยชีหรั่นช้าๆ หัวใจเขาเต้นตึกตัก และสามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมเบาบางจากร่างกายเซี่ยชีหรั่น เมื่อเข้าไปใกล้อีกนิดก็จะสามารถได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของฝ่ายตรงข้ามได้
ระยะห่างระหว่างริมฝีปากและหน้าผากเหลือเพียงแค่นิ้วหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นขยับตัว เซวียเหวินยูนก็ถอยตัวกลับไปนั่งบนเก้าอี้ทันที
“คุณเซวีย” เสียงเรียบๆ ดังลอยมาจากทางด้านหลัง เซวียเหวินยูนหันไปมอง จางเฟิงอี้มองมาที่ตัวเองยิ้มๆ ไม่รู้ว่ายืนอยู่นานเท่าไรแล้ว
“ประธานเย่อยากเชิญคุณไปรับลมเย็นทางด้านนอก เปลี่ยนอารมณ์สักหน่อยครับ” จางเฟิงอี้กวาดตามองผ่านเซี่ยชีหรั่นเงียบๆ เอ่ยอย่างมีนัยยะ
“ถ้าหากว่าผมบอกว่าไม่ล่ะ” เซวียเหวินยูนลุกขึ้นยืน สบตากับจางเฟิงอี้ “ถ้าหากว่าต้องแข่งกับเย่เชินหลิน ก็ไม่แน่ว่าผมจะแพ้”
ออร่าของเซวียเหวินยูนนั้นเปี่ยมไปด้วยความโหดเหี้ยม จางเฟิงอี้ยังสงบเยือกเย็น ทั้งยังเอ่ยเป็นนัยกับเซวียเหวินยูนว่า “แต่ว่าในใจของคุณเซี่ยมีใครอยู่กันแน่ รอใครอยู่ มองหาใครอยู่ คุณก็น่าจะรู้ชัดเจนยิ่งกว่าไม่ใช่หรือครับ การต่อสู้ที่มีเซี่ยชีหรั่นเป็นเดิมพันนั้น ประธานเย่ไม่เคยแพ้มาก่อน”
ริมฝีปากเซวียเหวินยูนเม้มแน่น จางเฟิงอี้พูดไม่ผิดเลย บาดแผลของเซี่ยชีหรั่น ตัวเองก็ไม่มีหนทางที่จะทำให้เรียบสนิท
“คุณเซวีย เชิญครับ” จางเฟิงอี้ผายมือไปทางนอกประตู
ตอนที่ประตูถูกเปิดออกอีกครั้งก็นำพาลมหายใจเย็นยะเยือกมาด้วย แต่หลังจากที่ได้มองเห็นหญิงสาวที่อยู่บนเตียงแล้วก็ผ่อนลง เย่เชินหลินเดินเข้ามาหาเซี่ยชีหรั่น วาดมือผ่านปอยผมที่ระแก้มเซี่ยชีหรั่นเบามือ
“ทำไมถึงเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองไม่ได้สักทีนะ” เย่เชินหลินโค้งตัวเล็กน้อยลงไปมองคิ้วเซี่ยชีหรั่น คิ้วของเซี่ยชีหรั่นขมวดเป็นปมแน่น เย่เชินหลินคิดจะปัดเป่าความโศกเศร้าของเซี่ยชีหรั่น
สัมผัสแผ่วเบาจากมือเย็นเฉียบนั้นไม่สามารถทำให้คิ้วที่ขมวดเป็นปมของเซี่ยชีหรั่นคลายตัวออกได้ เย่เชินหลินถอนหายใจเสียงเบา ประทับจูบเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็งลงไปบนริมฝีปากเซี่ยชีหรั่น
รอบด้านมืดสนิท เซี่ยชีหรั่นตามหาทางออกด้วยความกลัว ไม่ไกลมากนักมีแสงสว่างส่องลงมา ทางเข้ามีเงาตะคุ่มของคนคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงนั้น ยื่นมือออกมากวักเรียกเซี่ยชีหรั่น
“เย่เชินหลินหรือ” เซี่ยชีหรั่นกระซิบออกมา
“จับผมเอาไว้ ผมจะพาคุณไป” เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นยิ้มๆ ยื่นมือออกมาให้กำลังใจเซี่ยชีหรั่น
แต่ยังไม่ทันจะได้จับเอาไว้ ฝ่ายตรงข้ามกลับหมุนตัวจากไปกะทันหัน “ไม่นะ! ”
เซี่ยชีหรั่นกรีดร้องตกใจ ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง เซวียเหวินยูนปลอบประโลมเซี่ยชีหรั่นในทันที “เป็นอะไรไปหรือ”
เซี่ยชีหรั่นนั่งมองเซวียเหวินยูนค้างอยู่หลายวินาที ถึงจะได้สติกลับคืนมา “ไม่มีอะไรค่ะ แค่ฝันร้ายเท่านั้นเอง”
“คุณเซี่ยครับ ผมคือผู้อำนวยการของโรงพยาบาลนี้ การพักฟื้นในช่วงสองสามวันนี้ของคุณ ผมจะเป็นคนดูแลด้วยตัวเอง เรื่องเด็ก คุณก็วางใจได้เลยครับ”
เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างมีมารยาทให้กับคุณหมอ หันหน้าไปพูดกับเซวียเหวินยูนว่า “ฉันอยากกลับบ้านตระกูลหวา ฉันไม่ได้ไปเยี่ยมหม่าลี่มาสองวันแล้ว”
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมองไปทางเซวียเหวินยูนอย่างลังเล ถึงอย่างไรผู้ชายคนนั้นก็กำชับให้เซี่ยชีหรั่นพักฟื้นที่โรงพยาบาล “เตรียมตัวออกจากโรงพยาบาล” เซวียเหวินยูนเอ่ยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาล และหันหน้ามาเอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นอย่างนุ่มนวลว่า “คุณอยากจะทำอะไร ผมล้วนรับปากคุณ”
“คุณเซวียครับ นี่……” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมีความลำบากใจแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยพูด ทั้งสองคนล้วนเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ ไม่ว่าคนไหนก็ล่วงเกินไม่ได้
“ไปเถอะ มีเรื่องอะไร ผมรับผิดชอบเอง” เซวียเหวินยูนเอ่ยเรียบๆ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลถอนหายใจยาว และเดินจากไป
“พวกคุณกำลังพูดอะไรกันคะ เขาไม่ใช่คนที่คุณเรียกมาหรือ” เซี่ยชีหรั่นมองเซวียเหวินยูนอย่างแปลกใจ เซวียเหวินยูนส่งแก้วน้ำไปถึงริมฝีปากเซี่ยชีหรั่นอย่างเบามือ เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ตื่นขึ้นมาแล้ว อารมณ์ไม่ค่อยดีอย่างที่คิดเอาไว้เลย ดื่มน้ำก่อนแล้วค่อยพูด”
เซี่ยชีหรั่นดื่มน้ำอย่างเชื่อฟัง คราบน้ำไหลไปตามมุมปากเซี่ยชีหรั่นหยดออกมา เซวียเหวินยูนยื่นนิ้วโป้งออกไปเช็ดคราบน้ำที่มุมปากเซี่ยชีหรั่นออกตามจิตใต้สำนึก
จนถึงตอนที่นิ้วมือแตะถูกผิวเนียนที่ถวิลหาแม้แต่ในยามฝัน เซี่ยชีหรั่นและเซวียเหวินยูนก็ล้วนชะงักไปเล็กน้อย “ดูคุณสิ กระทั่งดื่มน้ำก็ยังไม่ยอมดื่มดีๆ” เซวียเหวินยูนแสร้งทำท่าทางเหมือนไม่มีอะไรออกมา หลังจากนั้นก็ดึงมือกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ที่ร้านหม้อไฟหมาล่า ฉันเห็นคุณจับแขนของเถ้าแก่เนี้ย” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยยิ้มๆ
“มีด้วยหรือ ตอนนั้นร้อนใจจะตายอยู่แล้ว จะมีเวลามาสนใจว่าคนคนนั้นเป็นชายหรือหญิงที่ไหนกัน” เซวียเหวินยูนพึมพำตอบ
แก้มรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่นุ่มหยุ่นแผ่วเบาและจากไปอย่างรวดเร็ว เซวียเหวินยูนเบิกตาโต มองไปทางเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อ เซี่ยชีหรั่นเอนตัวนอนลงบนเตียง เอ่ยกับเซวียเหวินยูนด้วยความจริงใจว่า “ขอบคุณนะคะ”
“ไม่ต้องให้ผมไปส่งคุณในห้องจริงๆหรือ” เซวียเหวินยูนมองไปทางเซี่ยชีหรั่นอย่างเคร่งเครียด ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นทำอะไร เขาล้วนรู้สึกว่าอันตราย
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองคนเดียวได้” เซี่ยชีหรั่นโน้มน้าวเซวียเหวินยูน แต่เซวียเหวินยูนก็ยังคงไม่พอใจ มือจึงถูกเซี่ยชีหรั่นจับขึ้นมาตบเบาๆ
“คุณ” เซวียเหวินยูนมองไปทางเซี่ยชีหรั่นด้วยความประหลาดใจ เซี่ยชีหรั่นแสดงความใกล้ชิดกับตัวเองสองครั้งแล้วในวันนี้วันเดียว
เซี่ยชีหรั่นดึงมือของเซวียเหวินยูนมาวางบนท้องของตัวเอง ไม่รอให้เซวียเหวินยูนพูดอะไร ก็แย่งพูดขึ้นมาก่อนว่า “ในใจของฉันมีคนคนหนึ่ง คนคนนั้นปักหลักฝังรากมานานมากแล้ว แต่ว่าตอนนี้ฉันคิดจะถอนรากของเขาออกมา ฉันรู้ว่ามันเจ็บปวดมาก และก็รู้เช่นกันว่าไม่ยุติธรรมต่อชีวิตเล็กๆ อีกชีวิตหนึ่ง แต่ว่าคุณยินยอมที่จะเป็นผู้ปกป้องชีวิตเล็กๆ นี้เอาไว้ไหมคะ”
เสียงของเซี่ยชีหรั่นนุ่มนวล ทั้งเจือไปด้วยความกลัวและความเสียใจ เซวียเหวินยูนกลับรู้สึกเต็มตื้นในใจ หัวใจคล้ายกับว่ามีน้ำเอ่อล้นออกมา
พลิกมือกลับไปจับเซี่ยชีหรั่นเอาไว้แล้ววางลงบนริมฝีปากตัวเอง ใช้การกระทำในการให้คำมั่นสัญญาของตัวเอง จูบที่อุ่นร้อนทำให้ร่างกายของเซี่ยชีหรั่นแข็งทื่อ เกือบจะกระตุกมือออกตามจิตใต้สำนึก “ฉันเหนื่อยจังเลยค่ะ อย่างนั้นฉันไปพักผ่อนแล้วนะคะ”
เซวียเหวินยูนไม่ได้สนใจ ลูบศีรษะเซี่ยชีหรั่นยิ้มๆ “ไปเถอะ” เซี่ยชีหรั่นหมุนตัวไป เซวียเหวินยูนมองเงาร่างที่โดดเดี่ยวของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นนึกว่าข้างกายเย่เชินหลินมีผู้หญิงคนอื่น ไม่สนใจตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงได้หุนหันพลันแล่นไปชั่วขณะ จะบอกเซี่ยชีหรั่นดีไหมนะ บอกเธอว่าความจริงแล้ว เย่เชินหลินเคยมาเยี่ยม
“ชีหรั่น! ” เซวียเหวินยูนตะโกนออกมากะทันหัน กำปั้นที่สอดอยู่ในกางเกงกำแน่น
“อืม ทำไมหรือ” เซี่ยชีหรันหันกลับมา เซวียเหวินยูนก้าวขึ้นไปด้านหน้า ช่วยเซี่ยชีหหรั่นจัดปกคอเสื้อ และเอ่ยว่า “ไปเถอะ”
ปล่อยให้เซี่ยชีหรั่นจากไปแล้ว ฝ่ามือก็คลายออกทันที มองกลางฝ่ามือที่ถูกตัวเองจิกจนมีรอยเลือดแล้ว เซวียเหวินยูนก็ถอนหายใจ “ให้ผมเห็นแก่ตัวสักครั้งเถอะนะ”
“คุณชีหรั่น เจ้านายอยากจะเชิญคุณไปหาสักหน่อยค่ะ” ข่าเอ๋อที่ยืนอยู่หน้าทางขึ้นบันไดมองมาทางเซี่ยชีหรั่น
เมื่อได้พบกับเซี่ยชีหรั่น สภาพจิตใจของหม่าลี่ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตบลงบนเตียงของตัวเองให้เชี่ยหันก้าวเข้ามา “คุณย่า สองวันมานี้หนูไม่ได้กลับมา ทำให้คุณย่าต้องเป็นห่วงแล้ว”
“เซี่ยชีหรั่นมองออกว่าหม่าลี่เป็นห่วงตัวเองจริงๆ สายตาของหม่าลี่ชื้นขึ้นมาทันที ตบที่มือเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ว่า “ถ้าหากว่าหยวนหยวนยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ จะต้องกตัญญูเหมือนกับเธอแน่นอน”
ในตอนที่หม่าลี่มีสติครบถ้วนสามารถจำได้ว่านี่คือเซี่ยชีหรั่น แต่ในตอนที่เลอะเลือนจะมองเซี่ยชีหรั่นเป็นหยวนหยวน เซี่ยชีหรั่นปลอบหม่าลี่ “คนตายไปแล้ว ไม่สามารถฟื้นคืนชีพได้อีก คุณย่าปล่อยวางเถอะนะคะ”
มือที่จับเซี่ยชีหรั่นอยู่ของหม่าลี่กระตุกทันที ใบหน้าที่ได้รับการดูแลรักษามาอย่างดีนั้นเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เสียงร้องแหบพร่าเจือสะอื้นเอ่ยว่า “ไม่ใช่นะ เรื่องราวมันไม่ได้เป็นแบบนี้ หยวนหยวน เธอถูกคนที่ใกล้ชิดที่สุดฆ่าตายต่างหาก”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset