สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1284 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1184

บทที่ 1284 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1184
อ้ายหลอนนึกว่าเซี่ยชีหรั่นกำลังเสียใจเพราะเรื่องของเย่เชินหลิน จึงเขยิบเข้ามาข้างกายเซี่ยชีหรั่น พลางเอ่ยเสียงแผ่วเบาว่า “ ผู้ชายประเภทมากรักหลายเมียอย่างเย่เชินหลินนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก ขอเพียงแค่เธอมีลูกของเขา เธอก็จะสามารถดึงความสนใจของเขาเอาไว้ได้”
“เธอคิดจะพูดอะไรกันแน่” เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้ว อ้ายหลอนวางนามบัตรใบหนึ่งลงบนมือเซี่ยชีหรั่น “พรุ่งนี้เวลาสองทุ่มจะมีงานเลี้ยงชิมไวน์ที่โรงแรมแกรนด์คอส ถึงตอนนั้น ฉันจะไปร่วมงานเป็นเพื่อนเธอ พวกเราก็มาพูดคุยกันให้ชัดเจน”
อ้ายหลอนไม่ฟังคำอธิบายใดๆ วางการ์ดเชิญไว้บนมือของเซี่ยชีหรั่น ตบไหล่เซี่ยชีหรั่นอย่างแฝงไปด้วยความเอาใจของผู้อาวุโสแล้วค่อยจากไป
การ์ดเชิญในมือราวกับเผือกร้อนๆ ที่รับมือได้ยาก เซี่ยชีหรั่นเก็บมันเข้าไปในกระเป๋ากางเกงตัวเองโดยแทบจะทันที แล้วหยิบเสื้อผ้าที่ซักสะอาดเรียบร้อยไปหาเซวียเหวินยูน
ภายในสวนดอกไม้มีเงาร่างอันคุ้นเคยที่หันหลังให้กับเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเดินเข้าใกล้แล้วถึงได้ยินเซวียเหวินยูนพูดงึมงำว่า “ตอนที่นัดหมายกับผู้หญิงต้องเลือกนั่งม้าหมุนหรือ ทำไมกัน ของเล่นนั้นเชื่องช้าจะตาย มีอะไรน่านั่งกัน”
เซี่ยชีหรั่นหยุดเท้า คิดในใจว่า เซวียเหวินยูนกำลังอ่านอะไรอยู่กัน
“ผู้หญิงชอบกินของหวาน หลังจากนัดเที่ยวแล้วต้องไปร้านขนมหวานหรือ เซี่ยชีหรั่นชอบไหมนะ นี่เชื่อถือได้หรือเปล่าเนี่ย คนท้องสามารถกินขนมหวานเยอะเกินไปได้หรือไม่นะ”
เซวียเหวินยูนนั่งอยู่บนเก้าอี้พักผ่อน สวมแว่นกันแดด อ่านหนังสือ พูดพล่ามไม่หยุด
แรกเริ่มเซี่ยชีหรั่นรู้สึกตกตะลึงไปจนถึงซาบซึ้ง สิ่งที่เซวียเหวินยูนทุ่มเทนั้นดูเหมือนว่าจะเตรียมพร้อมไปหมด ความจริงๆ แล้วเซี่ยชีหรั่นรู้ว่า เขาต้องพยายามมากกว่าคนอื่นนัก
“อ๊า! ช่างมันเถอะ จะต้องล้มเหลวแน่ๆ!” เซวียเหวินยูนคำรามเสียงต่ำออกมาอย่างเคืองใจ และโยนหนังสือไปทางด้านหลัง
“เจ็บๆๆ!” เซี่ยชีหรั่นหลบไม่ทัน จึงถูกหนังสือกระแทกเข้าเต็มๆ เธอกุมศีรษะนั่งยองลงไป
“ชีหรั่นหรือ เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน” เซวียเหวินยูนดึงมือเซี่ยชีหรั่นออกอย่างเร่งรีบ เห็นหน้าผากเซี่ยชีหรั่นแดงเล็กน้อย ก็ตัดสินใจอุ้มเซี่ยชีหรั่นขึ้นมา “พวกเราไปห้องพยาบาลกัน”
“ไม่ต้องหรอก” เซี่ยชีหรั่นลูบศีรษะที่บวมปูดเล็กน้อย พลางเอ่ยเสียงหวานกับเซวียเหวินยูน เซวียเหวินยูนจูงมือเซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไปในบ้านอย่างจนปัญญา
“ที่แท้ตอนนี้ผู้หญิงล้วนชอบวิธีการนัดหมายแบบนี้หรือ” เซี่ยชีหรั่นเก็บหนังสือขึ้นมาแล้วพลิกอ่านดูสองสามหน้า เอ่ยพูดออกมาด้วยความสนใจ
“ผมก็แค่ดูไปอย่างนั้น!” เซวียเหวินยูนรู้สึกพ่ายแพ้อยู่บ้าง ทำไมตอนที่ตัวเองได้พบกับเซี่ยชีหรั่นมักจะกระอักกระอ่วนแบบนี้อยู่เรื่อยกัน
“สิ่งเหล่านี้เอ่ยได้ตรงหรือไม่ ทดลองด้วยตัวเองก็รู้แล้ว” เซี่ยชีหรั่นยิ้ม วางสมุดลงบนมือเซวียเหวินยูน
“คุณก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าผมไม่มีความรู้สึกอะไรกับผู้หญิง” เซวียเหวินยูนหันหน้าไปอีกด้าน ไม่มองเซี่ยชีหรั่น แต่จู่ๆ ก็หันหน้ามาเอ่ยว่า “สิ่งที่คุณพูด เหมือนกันกับที่ผมคิดหรือเปล่า”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เจือไปด้วยอารมณ์ดีที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน “ถ้าหากว่าสิ่งที่คุณพูดคือการนัดหมายกับคุณวันหนึ่ง อย่างนั้น ฉันก็คิดว่า ใช่ค่ะ”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เซี่ยชีหรั่นก็เดินไปหาชายหนุ่มที่เดินไปเดินมาไม่หยุดอยู่ข้างรถ เมื่อเห็นว่าเซวียเหวินยูนสวมชุดสูททั้งตัวก็เอ่ยถามอย่างตกตะลึงว่า “นี่พวกเราจะไปไหนกันคะ”
สีหน้าของเซวียเหวินยูนจริงจังกว่ายามปกติ เพื่อปิดบังความกระอักกระอ่วนของตัวเองจึงจงใจรักษาระยะห่างกับเซี่ยชีหรั่น “ไปฟังคอนเสิร์ต”
เขาดึงปกคอเสื้อที่สวมเรียบร้อยอย่างรู้สึกว่าร้อนจัด มองไปทางเซี่ยชีหรั่นที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลาแล้ว เซวียเหวินยูนก็ยิ่งรู้สึกว่าหายใจลำบาก จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความกระอักกระอ่วนและไม่สบายใจว่า “ช่างมันเถอะ ผมจะไปเปลี่ยนชุดใหม่!”
“คุณรอฉันสักครู่นะคะ!” เซี่ยชีหรั่นยิ้ม ดึงเซวียเหวินยูนที่คิดจะวิ่งหนีไปเอาไว้ หลังจากนั้นก็วิ่งกลับไปที่ห้อง เซวียเหวินยูนมองชั้นบนสุดของคฤหาสน์ที่มีไฟสว่างขึ้น หลังจากนั้นก็มืดลงอย่างรวดเร็ว
“ไปเถอะค่ะ” เซี่ยชีหรั่นเดินมาถึงข้างกายเซวียเหวินยูนด้วยความเร็ว คล้องแขนเซวียเหวินยูนอย่างเป็นธรรมชาติ บนหน้าผากชื้นเหงื่อบางๆ เพราะการก้าวเท้าเดินเร็ว เพื่อที่จะแต่งตัวให้เข้าคู่กับเซวียเหวินยูน เซี่ยชีหรั่นจึงสวมชุดราตรีแทน
ในคอนเสิร์ต ภายใต้แสงไฟมืดสลัวนั้น เซี่ยชีหรั่นตั้งใจฟังเสียงเพลงอย่างผ่อนคลาย แต่เปลือกตากลับหนักอึ้งไม่หยุด เซวียเหวินยูนรู้สึกได้ว่าไหล่ของตัวเองหนักขึ้น เซี่ยชีหรั่นที่ซบลงบนไหล่ของเซวียเหวินยูนอย่างแผ่วเบานั้นปล่อยลมหายใจออกมาอย่างเอื่อยเฉื่อย
เซวียเหวินยูนสามารถได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นอย่างหลุดการควบคุมของตัวเอง ผิวพรรณสะอาดหมดจดของเซี่ยชีหรั่นนั้นเป็นประกายพร่างพราวอย่างเห็นได้ชัดท่ามกลางแสงไฟมืดสลัวที่สาดส่องลงมา
ด้านข้างเซี่ยชีหรั่นมีคนนั่งอยู่คนหนึ่ง เสน่ห์ของชายหนุ่มหล่อเหลาในชุดสูทถูกปรากฏออกมา เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่เข้าสู่สภาวะหลับลึก จึงประคองศีรษะเซี่ยชีหรั่นมาพิงที่ไหล่ตัวเองอย่างเบามือ
“เย่เชินหลิน!” สายตาของเซวียเหวินยูนที่มองไปทางเย่เชินหลินเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
“คุณไม่มีโอกาสหรอก” เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นที่นอนหลับทั้งที่คิ้วขมวด จึงยื่นนิ้วออกไปนวดคลายความเศร้าตรงหว่างคิ้วของหญิงสาวที่พิงอยู่บนไหล่ของเขา
“คุณมีความกังวลใจหรือ” เซวียเหวินยูนเป็นคนฉลาด เข้าใจว่าเย่เชินหลินอาจจะมีเรื่องที่ปิดบังอยู่ได้อย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นละเมอออกมาเสียงเบา ขดตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เชินหลิน
เซวียเหวินยูนกัดฟันกรอด พลางเอ่ยว่า “ไม่ว่าครั้งนี้คุณจะอุบเรื่องอะไรเอาไว้ ผมจะไม่ยอมให้เซี่ยชีหรั่นออกไป!”
เย่เชินหลินช่วยเปลี่ยนท่าทางที่สบายให้กับเซี่ยชีหรั่น มองเซวียเหวินยูนที่มองมาทางตัวเองอย่างมีน้ำโหอยู่อีกด้านหนึ่งแล้ว ก็เอ่ยเสียงเรียบว่า “ผมรอคอยด้วยความกระตือรือร้นเลยล่ะ”
เซี่ยชีหรั่นอ้าปากหาว ตื่นขึ้นมา หลังจากนิ่งไปไม่กี่วินาทีแล้วก็พบว่าตัวเองยังอยู่ในคอนเสิร์ต “นอนหลับสบายไหม” เซวียเหวินยูนที่อยู่อีกด้านเอ่ยถามเสียงเบา เจือไปด้วยรอยยิ้มที่ปิดเอาไว้ไม่อยู่
“เมื่อครู่นี้มีคนพูดกับคุณใช่ไหมคะ ฉันรู้สึกได้ว่ามีคน” เซี่ยชีหรั่นมองไปทางที่นั่งด้านข้างที่ว่างเปล่า
สีหน้าของเซวียเหวินยูนไม่สบอารมณ์ขึ้นมาในชั่วพริบตา แต่ก็อำพรางเอาไว้ได้ดีอย่างรวดเร็ว จูงข้อมือเซี่ยชีหรั่นเดินออกไปด้านนอก เซี่ยชีหรั่นถามอึ้งๆ ว่า “ไม่ฟังคอนเสิร์ตแล้วหรือ ตอนนี้จะไปไหนคะ”
เซวียเหวินยูนจับมือของเซี่ยชีหรั่นเดินออกไปด้านนอก หันหน้ามาเผยรอยยิ้มใจดี เอ่ยยิ้มๆ ว่า “สามารถมีโอกาสที่จะนัดหมายกับคุณได้ ก็ไม่แน่ว่าจะมีเพียงแค่ครั้งเดียว ผมต้องใช้มันให้เต็มที่ถึงจะถูก”
เซวียเหวินยูนหยิบสมุดจดเล่มเล็กออกมา ตั้งใจวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง และหันมาเอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นอย่างจริงจังว่า “ควรจะไปสวนสนุกกันได้แล้ว!”
ในสวนสนุก เซี่ยชีหรั่นถือตั๋วสวนสนุกใบยาวมองไปทางเซวียเหวินยูน พลางเอ่ยอย่างลังเลว่า “ดูเหมือนว่าพวกเราจะพบกับวันที่ทางโรงเรียนรวมกลุ่มพานักเรียนออกมาทัศนศึกษากันนะคะ”
เซวียเหวินยูนสีหน้าอึมครึม กัดฟันเอ่ยว่า “เล่น!”
บนเรือไวกิ้ง เงาร่างของคนสองคนปรากฏชัดเจนอยู่ท่ามกลางกลุ่มเด็กๆ เซี่ยชีหรั่นคาดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว เซวียเหวินยูนมองไปที่เซี่ยชีหรั่น นึกถึงสิ่งที่คู่มือสอนแล้วก็เอ่ยออกมาทั้งอย่างนั้นว่า “นี่แขนของผม ให้คุณแล้วกัน ถึงเวลานั้น ถ้าหากคุณกลัวขึ้นมาก็สามารถคล้องแขนผมได้”
เซี่ยชีหรั่นยิ้ม คล้องแขนเซวียเหวินยูน เรือไวกิ้งค่อยๆ ขยับไปทางซ้ายและขวา เซี่ยชีหรั่นรู้สึกได้ว่าแขนที่ตัวเองคล้องอยู่นั่นแข็งทื่ออยู่บ้าง จึงหันหน้าไปถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เป็นอะไรไปหรือ”
เซวียเหวินยูนส่ายหน้า นั่งตัวตรงมองไปด้านหน้าด้วยใบหน้าเย็นชา ข้างหูมีเสียงเด็กๆ กรีดร้อง สีหน้าของเซวียเหวินยูนซีดเผือดลงเรื่อยๆ
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ อดทนอีกนิดนะคะ” เซี่ยชีหรั่นมองออกถึงความผิดปกติของเซวียเหวินยูน จนกระทั่งเรือไวกิ้งหยุดนิ่ง เซวียเหวินยูนก็หน้าซีดไปแล้ว
“ฉันคิดว่าคุณอาจจะรู้สึกกลัวความสูงเล็กน้อย” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยความเป็นห่วง เซวียเหวินยูนพยักหน้า ในใจก็รู้สึกหงุดหงิดโมโหยิ่งขึ้น พึมพำว่า “ถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไรกับชิงช้าสวรรค์ดีล่ะ!”
เซี่ยชีหรั่นยิ้ม ดึงมือเซวียเหวินยูนเอาไว้ พลางเอ่ยว่า “มาเถอะ ฉันจะพาคุณไปสถานที่แห่งหนึ่ง”
“ประธานเย่ ส่งนักเรียนชั้นปีหนึ่งไปอย่างเร่งด่วนแล้วครับ ครูใหญ่แจ้งว่าได้เพียงแค่ช่วงเช้าเท่านั้น” จางเฟิงอี้พูดแล้วปาดเหงื่อ
เย่เชินหลินมองการเคลื่อนไหวบนหน้าจอแสดงผลแล้วก็เอ่ยด้วยสีหน้าทะมึนว่า “ไม่ต้อง”
จางเฟิงอี้ยังคิดจะพูดอะไรอีก สายตาเบนไปทางนอกบานหน้าต่าง เอ่ยเสียงเบาว่า “ต้องการให้ผมไปจัดการพวกเขาไหมครับ ดูเหมือนว่าจำนวนผู้คนจะมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมแล้ว”
“ทางเซี่ยชีหรั่นเป็นอย่างไรบ้าง” เย่เชินหลินพึมพำ
“ตอนนี้ดูเหมือนอีกฝ่ายจะคิดว่า ความรู้สึกของคุณผู้หญิงกับคุณคงไม่ได้ลึกซึ้งมากขนาดนั้น ดังนั้นจึงไม่ได้ลงมือกับคุณผู้หญิงครับ” จางเฟิงอี้หยิบปืนออกมาแล้ว
เย่เชินหลินลุกขึ้นยืน เดินไปถึงหน้าบานหน้าต่าง เปิดเผยตัวเองออกสู่สายตา พลางเอ่ยยิ้มๆ ว่า “เรื่องราวยิ่งน่าสนุกขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ”
รถปอร์เช่สีแดงที่ขับไปตามเส้นทางของกินริมถนนของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย เซวียเหวินยูนประคองเซี่ยชีหรั่นลงจากรถ มองไปยังรอบด้านที่มีร้านค้าเต็มไปหมดแล้วก็คิ้วกระตุก
“ที่นี่มีร้านหม้อไฟหมาล่าที่อร่อยมากอยู่ร้านหนึ่ง” เซี่ยชีหรั่นจูงมือเซวียเหวินยูน เซวียเหวินยูนดึงมือออกแล้วยืนอยู่ด้านหลังเซี่ยชีหรั่น มือทั้งสองข้างวางลงบนไหล่ของเซี่ยชีหรั่น ปกป้องเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้คนชนถูกเซี่ยชีหรั่น
“ไปเถอะ นำทางเลย” เซวียเหวินยูนเอ่ยเสียงเรียบ เสียงที่น่าดึงดูดนั้นทำให้คนด้านข้างหันมามองอยู่หลายครั้ง
เซี่ยชีหรั่นพาเซวียเหวินยูนมาถึงร้านเล็กๆ ร้านหนึ่ง ชี้ไปยังสิ่งที่อยู่บนไม้เสียบวางเรียงกันเป็นแถว พลางเอ่ยว่า “นี่เรียกว่าหม้อไฟหมาล่า อร่อยมาก”
นั่งอยู่บนที่นั่งที่แคบกับเซวียเหวินยูน ต้นขาของเซี่ยชีหรั่นจึงถูโดนขาของเซวียเหวินยูนอย่างไม่ได้ตั้งใจ เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างอายๆว่า “แคบเกินไปแล้ว”
เซวียเหวินยูนรู้สึกสั่นไหวในใจเล็กน้อย แต่ก็ยังพยักหน้าด้วยสีหน้าปกติ หม้อไฟหมาล่ามาแล้ว เซวียเหวินยูนกินอย่างสง่างาม เซี่ยชีหรั่นวางตะเกียบลง เอ่ยอย่างรู้สึกเสียใจว่า “ไม่ชอบรสชาติแบบนี้หรือเปล่าคะ ฉันคิดว่าคุณอาจจะชอบอาหารตะวันตกมากกว่า”
เซวียเหวินยูนเห็นเซี่ยชีหรั่นมีท่าทีเสียใจแล้วในใจก็รู้สึกอ่อนยวบยิ่งกว่าเดิม ควบคุมความคิดที่อยากจะโอบฝ่ายตรงข้ามเข้ามาในอ้อมกอด พลางเอ่ยเสียงเรียบว่า “อร่อยมาก”
เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากเซวียเหวินยูนแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ยิ้ม เด็กนักเรียนที่กำลังทะเลาะวิวาทกันอยู่ชนเข้ากับแผ่นหลังของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเอนไปด้านหน้า ท้องกระแทกเข้ากับโต๊ะอย่างแรง
“ท้อง!” เซี่ยชีหรั่นร้องออกมาทันที เซวียเหวินยูนรีบลุกขึ้นยืน ดึงแขนเถ้าแก่เนี้ยมาเอ่ยด้วยท่าทางเด็ดขาดว่า “คุณดูเธอให้ดี ผมจะไปขับรถมา”
เถ้าแก่เนี้ยมองเซวียเหวินยูนด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ รีบรับคำทันที ผ่านไปครู่หนึ่ง รถปอร์เช่คันหนึ่งก็ขับมาจอดที่หน้าประตูร้านอย่างรวดเร็ว เซวียเหวินยูนอุ้มเซี่ยชีหรั่นขึ้นมาแล้วตรงไปยังโรงพยาบาล
“คุณผู้หญิง แฟนหนุ่มของคุณรักคุณมากเลยนะคะ เมื่อครู่นี้ฉันให้เขาไปพักผ่อน เขาก็ยังเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูอยู่ตลอด” นางพยาบาลเอ่ยกับเซี่ยชีหรั่นอย่างอิจฉา
เซี่ยชีหรั่นเอ่ยยิ้มๆ ว่า “เขาไม่ใช่แฟนของฉันค่ะ” ในสมองปรากฏภาพของชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเย็นชาอีกคนหนึ่งขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังกดโทรออกไปด้วยนิ้วมือที่สั่นเทา
โทรศัพท์ถูกรับอย่างรวดเร็ว เสียงที่ชัดเจนของเย่เชินหลินดังออกมา “ฮัลโหล”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset