สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1287 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1187

บทที่ 1287 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1187
“ไม่ใช่ ฉันจะต้องพูดกับเธอให้ชัดเจน เรื่องนั้นไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันไม่สนใจว่าจะถูกเธอเห็นในสภาพแบบนี้ เพียงแต่วิ่งตามออกไปตามสัญชาตญาณเท่านั้น ไม่ได้จงใจจะทำให้เธอตกใจ”
“การตายของหยวนหยวนเกี่ยวข้องกับคุณหรือคะ” เซี่ยชีหรั่นค่อยๆดึงมือที่อยู่บนลูกบิดกลับมา มองกว๋อเหาด้วยความเหลือเชื่อ
“ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เกี่ยวข้อง” กว๋อเหาที่นั่งอยู่ในห้องงึมงำตอบ ตอนที่เซี่ยชีหรั่นยกเท้าถอยไปด้านหลัง ก็พบผงแป้งสีขาวห่อหนึ่ง จึงเก็บขึ้นมา
ในแต่ละมุมยังมีแป้งสีขาวแบบนี้วางไปทั่ว เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าวันนี้กว๋อเหาผิดปกติ แต่กลับมีความสงสัยเพิ่มขึ้นในใจ การตายของหยวนหยวนจะต้องเกี่ยวข้องกับกว๋อเหาอย่างแน่นอน
“หยวนหยวน เธอจะไม่สนใจเรื่องนี้ไม่ได้!” อ้ายหลอนพุ่งเข้ามาในห้องเซี่ยชีหรั่น เอ่ยออกมาอย่างมีโทสะทั้งที่ถือหนังสือพิมพ์อยู่
บนหนังสือพิมพ์ระบุว่า เริ่มมีการดำเนินงานบนที่ดินผืนสุดท้ายของบ้านตระกูลหวาแล้ว มีคนงานเข้ามาลงมือก่อสร้างกันบนที่ดินแห่งนั้นอย่างต่อเนื่อง อ้ายหลอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียดสีเย็นชาเล็กน้อยว่า
“เธอคงจะไม่ปล่อยให้หยาดเหงื่อสุดท้ายของแม่ฉันต้องถูกทำลายลงในมือของเย่เชินหลินหรอกนะ”
เซี่ยชีหรั่นไม่ชอบสีหน้าที่ดูมีแผนการของอ้ายหลอนในตอนนี้ จึงเอ่ยเรียบๆว่า “คุณย่าเป็นคนมอบที่ดินผืนนั้นให้เขาเช่นกัน”
อ้ายหลอนเห็นสีหน้าที่อารมณ์ไม่ดีของเซี่ยชีหรั่นแล้ว ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที พลางเอ่ยว่า “เธอก็ไม่ใช่ไม่รู้อาการของคุณแม่ในตอนนี้ ถือว่าช่วยคนก็ต้องช่วยจนถึงที่สุดนะ อย่างน้อยก็ให้เธอได้จากไปอย่างไม่มีห่วง”
เซี่ยชีหรั่นมีสีหน้าสะเทือนใจ พยักหน้าและเอ่ยว่า “อีกครู่หนึ่งฉันจะไปดูกับคุณ ฉันจะไปเยี่ยมคุณย่าก่อน” อ้ายหลอนไม่พอใจถึงการทำอย่างขอไปทีของเซี่ยชีหรั่น แต่ก็ไม่มีหนทางอื่น จึงทำได้เพียงแค่พยักหน้า
ภายในห้องพักผู้ป่วย หม่าลี่หลับลึกอยู่ตลอดเวลา เซี่ยชีหรั่นมองใบหน้าของหญิงชรา พลางครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาว่าแบบนี้มันคุ้มค่าหรือไม่
“หลานกำลังคิดอะไรอยู่หรือ” เสียงอ่อนแรงดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นรีบช่วยหม่าลี่ถอดหน้ากากออกซิเจนออก หม่าลี่โบกมือปฏิเสธน้ำที่เซี่ยชีหรั่นยื่นมาให้ “ดูเหมือนว่าวันนี้หลานไม่ค่อยสบายใจ”
“เย่เชินหลินต้องการจะเอาที่ดินผืนนั้นคืนไปค่ะ” เซี่ยชีหรันเป็นห่วงว่าสภาพอารมณ์ของหม่าลี่จะแปรปรวน แต่ก็ไม่อยากจะปิดบังเธอ
“แค่กๆ ย่าคาดเดาไว้แล้ว ในตอนแรกที่มอบให้เขาก็นึกเอาไว้แล้วล่ะ หลานเห็นว่าเป็นอย่างไรล่ะ” อารมณ์ของหม่าลี่ไม่ได้แปรปรวนมากนัก
“ในตอนแรกที่คุณย่าจำหนูผิดเป็นหยวนหยวน จึงได้มอบที่ดินผืนนั้นให้กับเย่เชินหลิน หนูควรจะเอามันคืนมาตั้งแต่ตอนนั้น” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยความคิดแรกเริ่มที่เก็บเอาไว้ในใจตัวเองออกมา
“เด็กโง่ ตอนนี้หลานก็เป็นหลานสาวของย่านะ อยากจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ ย่าก็แก่แล้ว ควรจะวางมือได้แล้ว” หม่าลี่ตบมือเซี่ยชีหรั่นเบาๆ จู่ๆก็ไอออกมาอย่างรุนแรง
คุณหมอกลุ่มแล้วกลุ่มเล่ากรูเข้ามาไม่หยุด เซี่ยชีหรั่นมองสีหน้าเจ็บปวดของหม่าลี่ ยามร่างกายถูกสอดท่อต่างๆเข้าไป ในใจก็ยิ่งแน่วแน่ในความเชื่อมากยิ่งขึ้น
สถานที่ก่อสร้าง คนกลุ่มใหญ่ที่มีทั้งคนชราและเด็ก กำลังเผชิญหน้ากับทีมงานก่อสร้าง “พวกเราอาศัยอยู่ที่นี่ดีๆ พวกคุณอาศัยอะไรมาไล่พวกเราออก” เด็กวัยรุ่นตะโกนออกมาจากกลุ่มฝูงชน
“ตอนนี้ที่ดินผืนนี้เป็นของบริษัทเย่ซื่อ ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการแจ้งพวกคุณแล้ว หวังว่าทุกท่านจะให้ความร่วมมือ” จางเฟิงอี้เอ่ยด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก แต่ในใจกลับจนปัญญา เขาไม่อยากจะทำงานที่ทำให้ผู้คนรังเกียจประเภทนี้อีกครั้งแล้ว
“รื้อ” จางเฟิงอี้สั่งสั้นๆ กระชับแต่ความหมายครอบคลุม ทีมงานก่อสร้างก้าวไปด้านหน้า ในกลุ่มคนก็ไม่รู้ว่าใครปาไข่ไก่เข้ามา ชั่วครู่หนึ่งสถานที่แห่งนี้ก็วุ่นวายเสียจนไม่น่าดู
รถเก๋งคันหนึ่งหักเลี้ยวด้วยความเร็วสูง นำพาให้ฝุ่นละอองฟุ้งขึ้นไม่น้อย กลุ่มคนเงียบไปชั่วขณะ หลังจากเห็นเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ก่อความวุ่นวายขึ้นมาอีกรอบ
“คุณเป็นใคร!”
“ทุกคนเงียบกันหน่อยนะคะ ฉันชื่อเซี่ยชีหรั่น มาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้โดยเฉพาะ” เซี่ยชีหรั่นปลอบประโลมคนที่กำลังจะก่อจลาจล
“เซี่ยชีหรั่นก็คือเจ้าของที่ดินผืนนี้คนเดิมที่ผู้หญิงคนนั้นบอกกับพวกเราวันนี้ไม่ใช่หรือ” ในกลุ่มคนเริ่มมีคนร้องโวยวายใส่เซี่ยชีหรั่น “พวกคุณทำงานกันอย่างไรกันแน่! คุยเรื่องระยะเวลาการใช้งานที่ดินผืนนี้กันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ขายให้คนอื่นอีก!”
จางเฟิงอี้รีบเดินมาข้างกายเซี่ยชีหรั่น เอ่ยเสียงเบาว่า “คุณผู้หญิง เรื่องในวันนี้จะต้องดำเนินการแน่นอน คุณก็อย่าทำให้ผมลำบากใจเลยครับ”
เซี่ยชีหรั่นเดินไปเผชิญหน้าอยู่ตรงกลางระหว่างสองฝ่าย เดิมอากาศที่ร้อนอบอ้าวเล็กน้อยก็ทำให้ร่างกายที่ตั้งครรภ์อยู่แบกรับไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ยังยืนหยัดที่จะเอ่ยว่า “ไม่สามารถแตะต้องที่ดินผืนนี้ได้”
จางเฟิงอี้กัดฟันส่งสายตาให้กับทีมงานก่อสร้างที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ทีมงานก่อสร้างจึงเริ่มติดเครื่องยนต์รถขุดดิน และไม่มีใครกล้าก้าวไปด้านหน้าทันที
จางเฟิงอี้รู้สึกเพียงแค่ว่าเงาร่างเบื้องหน้าโงนเงน เซี่ยชีหรั่นก็วิ่งไปถึงใต้รถขุดดิน กางมือสองข้างออกเพื่อปกป้องตึกแล้ว “รอก่อน!” จางเฟิงอี้ตะโกนเสียงดัง
กลุ่มคนเห็นเซี่ยชีหรั่นทำถึงขนาดนี้แล้วก็ค่อยๆสงบลงอย่างช้าๆ และยังมีคนบางกลุ่มกรูเข้าไปอยู่ข้างกายเซี่ยชีหรั่น จางเฟิงอี้กัดฟันสั่งให้ทีมงานก่อสร้างถอย พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาเย่เชินหลิน
พระอาทิตย์ในเวลากลางวันนั้นร้อนจัดมาก เซี่ยชีหรั่นยังคงแน่วแน่ มองรถที่บึ่งมาด้วยความเร็วสูงคันหนึ่งอย่างตกตะลึง เย่เชินหลินที่สวมชุดสูทเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเย็นชา
จางเฟิงอี้พูดคุยกับเย่เชินหลินสองสามประโยค เซี่ยชีหรั่นประคองท้องเดินมาถึงข้างกายเย่เชินหลิน เย่เชินหลินเอ่ยเสียงเย็น “อยากตายใช่ไหม รู้ไหมว่า ถ้าหากไม่เห็นตั้งแต่ต้น ตอนนี้คุณก็คงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว”
คำพูดของเย่เชินหลินดังวิ้งๆอยู่ในหูเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นเวียนหัวแต่ยังคงยืนหยัดที่จะพูดต่อว่า “พวกเขาอยู่ที่นี่มาตั้งนานขนาดนั้น ตอนนี้คุณจะไล่พวกเขาไป แล้วจะให้พวกเขาทำยังไง”
เย่เชินหลินไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นตากแดดแรงจัด จึงดึงปกคอเสื้อตัวเองอย่างหมดความอดทนเล็กน้อย “ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่คุณควรมา”
เซี่ยชีหรั่นคิดจะโต้กลับแต่ก็ถูกดึงเข้ามาในอ้อมกอดอันคุ้นเคยและอบอุ่นเสียก่อน กลิ่นบุหรี่บนร่างกายของเย่เชินหลินเข้มขึ้นเล็กน้อย เซี่ยชีหรั่นสูดดมแล้ว ก็รู้สึกว่าโลกหมุนไปชั่วขณะ เย่เชินหลินอุ้มเซี่ยชีหรั่นเปลี่ยนไปอีกทิศทางหนึ่ง
กลิ่นคาวของไข่ไก่เน่านั้นตลบอบอวลไปทั่วทุกที่ เย่เชินหลินกดศีรษะของเซี่ยชีหรั่น กอดฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ในอ้อมกอด “คนคนนี้แหละ ปาไข่ใส่เขาเลย! ใครใช้ให้คนมีเงินอย่างพวกเขามาทำตัวเย่อหยิ่งที่นี่!”
มีคนคว้าไข่ไก่ขึ้นมาปาใส่เย่เชินหลิน จางเฟิงอี้รีบก้าวเข้ามาหยุดยั้ง เซี่ยชีหรั่นมองไม่เห็นสถานการณ์ด้านนอก ได้ยินเพียงแค่เสียงหัวใจที่เต้นอย่างมั่นคงของเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินปล่อยเซี่ยชีหรั่นออกอย่างรวดเร็ว ออกห่างจากเซี่ยชีหรั่นด้วยสีหน้าเย็นชา เซี่ยชีหรั่นตะลึงค้าง มองไปที่เย่เชินหลิน ในสายตาดูเหมือนว่าจะมองไม่เห็นคนอื่น ใบหูก็ไม่ได้ยินเสียงใดๆ
คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆพุ่งเข้าไปหาทีมงานก่อสร้าง เซี่ยชีหรั่นถูกเบียดจนเซ เย่เชินหลินคว้ามือเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ตามจิตใต้สำนึก มือข้างหนึ่งก็ปกป้องท้องของเซี่ยชีหรั่น ร่างกายเอนไปด้านหน้าอย่างไร้การควบคุม
ร่างของคนสองคนถูกบังคับให้อยู่ติดกัน เซี่ยชีหรั่นกระพริบตาปริบๆ มองชายหนุ่มที่อยู่ใกล้ระยะประชิด ริมฝีปากเย็นชืดของเย่เชินหลินประทับจูบเซี่ยชีหรั่น ดวงตามองต่ำลงเล็กน้อย นัยน์ตสีดำขาวตัดกันอย่างเห็นได้ชัดนั้นฉายภาพสีหน้าตกตะลึงของเซี่ยชีหรั่น
ริมฝีปากที่ประกบกันอยู่นั้นแยกออกจากกันอย่างรวดเร็ว เย่เชินหลินมองความวุ่นวายรอบด้านแล้วก็จูงเซี่ยชีหรั่นเดินไปที่รถ จนกระทั่งเซี่ยชีหรั่นได้สติกลับคืนมา ทั้งสองคนก็อยู่บนรถแล้ว
“ฉัน……..” ในพื้นที่ว่างที่ปิดสนิทนั้นทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่สบายตัวนัก
เย่เชินหลินเหลือบตามองเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ในมือ “โอ๊ย” เซี่ยชีหรั่นกุมท้อง ร้องออกมากะทันหัน
มือคู่หนึ่งรีบยื่นมาปกป้องท้องเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ทันที เย่เชินหลินเอ่ยว่า “ไปโรงพยาบาล”
รถยนต์เปลี่ยนเส้นทางอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นคว้ามือเย่เชินหลินเอาไว้ ไม่ปล่อยให้เย่เชินหลินหลบหนีอีก “คุณเป็นห่วงฉันใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นคุณปล่อยคนพวกนั้นดีไหมคะ ที่ดินผืนนั้นก็คืนให้คุณย่าได้หรือไม่”
“คุณแกล้งทำหรือ” เย่เชินหลินดึงมือตัวเองกลับมา การกระตุกมือกลับของเย่เชินหลินคล้ายกับบอกเซี่ยชีหรั่นว่า ในใจของเขา เธอไม่ได้สำคัญถึงขั้นที่เขาจะเปลี่ยนการตัดสินใจของตัวเองเพื่อเธอ!”
รถยนต์ขับไปถึงโรงแรมด้วยความเร็วสูง เย่เชินหลินถอดชุดสูทตรงดิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำ ครู่หนึ่งก็มีเสียงน้ำดังขึ้นในห้องอาบน้ำ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสียงของเซวียเหวินยูนเจือไปด้วยความร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด “ชีหรั่น คุณอยู่ที่ไหน เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า” เพิ่งจะเอ่ยจบ เสียงของเย่เชินหลินก็ลอยออกมา “ช่วยหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำให้ผมหน่อย”
“คุณอยู่กับเขาหรือ” เซวียเหวินยูนชะงัก และเอ่ยถาม เซี่ยชีหรั่นอธิบายว่า “เจอกันพอดีน่ะค่ะ เขาช่วยชีวิตฉัน ฉันจะไปในเร็วๆนี้แล้ว”
เซี่ยชีหรั่นพูดไม่เป็นภาษา เธอไม่อยากให้เซวียเหวินยูนเสียใจ “ชีหรั่น ไม่เป็นไร” เซวียเหวินยูนหยุดความคิดของเซี่ยชีหรั่นที่คิดจะอธิบายต่อไป
“ผมเชื่อคุณ กลับมาเร็วหน่อย ระวังอย่าให้เหนื่อยเกินไป” เสียงสัญญาณไม่ว่างดังขึ้นในสายโทรศัพท์ เซี่ยชีหรั่นมองโทรศัพท์มือถืออย่างเลื่อนลอย เธอรู้ว่าเซวียเหวินยูนเสียใจ
เย่เชินหลินยืนอยู่ข้างหลังเซี่ยชีหรั่นเงียบๆ คิ้วขมวดเป็นปมแน่นอย่างอดไม่อยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยชีหรั่นไม่รู้สึกถึงเขา แต่กลับจมอยู่ในโลกของตัวเองเพื่อผู้ชายอีกคนหนึ่ง
“ติ๊งต่อง” เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เย่เชินหลินเปิดประตู บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟถึงห้องแล้วก็ถอยออกไป เย่เชินหลินดึงเซี่ยชีหรั่นมา กดไหล่เซี่ยชีหรั่นให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้
เย่เชินหลินกินเนื้อ แต่อาหารมื้อนี้คล้ายกับว่าจะเป็นผักที่เข้ากับรสปากของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นไม่ได้สังเกตเห็น แต่กลับจิ้มสลัดเข้าปากอย่างใจลอย
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นมองสลัดที่อยู่ด้านหน้า สุดท้ายแล้วในใจก็ยังคงปล่อยวางไม่ได้ “เคร้ง” เสียงส้อมตกกระทบจานใส่สลัด
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันขอตัวก่อน” เซี่ยชีหรั่นหยิบกระเป๋าขึ้นมาและเดินไปทางประตู
“ถ้าหากว่าคุณอยู่ ผมสามารถพิจารณาผ่อนผันให้พวกเขาสักหลายวันได้” เย่เชินหลินแกว่งแก้วไวน์แดงในมือ เอ่ยเรียบๆ
สมองมีคำพูดของเซวียเหวินยูนดังสะท้อนไม่หยุด เซี่ยชีหรั่นเข้าใจความรู้สึกที่เจ็บปวดแต่กลับต้องพูดจายิ้มแย้มนี้ เธอมองเย่เชินหลิน พลางเอ่ยตอบประโยคหนึ่งว่า “ฉันมีธุระสำคัญมาก จำเป็นต้องขอตัวก่อนค่ะ!”
“เรื่องสำคัญมากอย่างนั้นหรือ” เย่เชินหลินมองบานประตูที่ปิดลง หัวเราะเสียงเบา นัยน์ตาเจือไปด้วยแววเยาะเย้ยตัวเอง
บนดาดฟ้าที่ถูกไฟไหม้จนไม่เหลือเค้าเดิม เซวียเหวินยูนจิบเบียร์อีกแล้วอีกเล่า รอบด้านมีขวดเปล่าวางระเกะระกะ มองไปยังมุมหนึ่งที่มีร่องรอยไหม้เกรียมทั้งหมดแล้ว เซวียเหวินยูนก็มองเหม่อไปบนท้องฟ้า จู่ๆก็หัวเราะออกมา และเอ่ยว่า “เคยถามนายว่า ความรักคืออะไรกันแน่ นายบอกฉันว่าความรักคือภาวะที่ต่อมหมวกไตผลิตสารคัดหลั่งมากเกินไป ทำไมตอนนั้นนายถึงได้ตลกขนาดนั้นกันนะ!”
เซวียเหวินยูนพูดพล่ามไม่หยุด ในคืนมืดมิดมีเพียงแค่เสียงจั้กจั่นที่ร้องตอบเขาบ่อยๆ เซวียเหวินยูนถอนหายใจเสียงเบา ทำเบียร์ที่อยู่อีกด้านหก ยิ้มเจื่อนๆพลางเอ่ยว่า “โยวจื๋อถ้าหากว่านายยังอยู่ล่ะก็ คาดว่านายต้องด่าฉันสาดเสียเทเสียแน่ๆ แต่ว่าทำไมตอนนี้หัวใจของฉันถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้กัน!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset