สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1311 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1211

“ดูท่าชูฉิงกับโจ๋ซวนจะมีวาสนาต่อกันมากเลยนะ” ไห่ลี่หมินเอ่ยยิ้มๆ เสียงหัวเราะอย่างเบิกบานใจดังขึ้นในบ้าน ซือซือยืนอยู่นอกบ้านเห็นเซี่ยชีหรั่นที่อยู่ตรงบานหน้าต่างแวบหนึ่งแล้ว มือที่ถือใบวินิจฉัยโรคก็สั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
“มะเร็งเต้านม เหอะๆ หรือว่าจะต้องน่าสมเพชมากขึ้นเรื่อยๆอย่างนั้นหรือ ลูกไม่มีแล้ว ความรักถูกแย่งไปแล้ว ดังนั้นตอนนี้ตัวเองก็ต้องตายไปอย่างน่าสมเพชเช่นนั้นหรือ” ซือซือหัวเราะทั้งน้ำตา เธอไม่เหลืออะไรแล้ว
“คุณแม่คะ คุณแม่เป็นอะไรหรือคะ” อ้าวเสว่เดินมาถึงด้านหน้าซือซือ เอ่ยถามขึ้นอย่างขลาดเขลา
ซือซือก้าวขึ้นไปกอดร่างนุ่มนิ่มของเด็กน้อยเอาไว้ ถ้าพูดถึงคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเธอมากที่สุดบนโลกใบนี้ เกรงว่าคงจะเป็นเด็กคนนี้แล้ว
อ้าวเสว่ไม่เคยถูกซือซือกอดมาก่อน จึงตกใจจนไม่กล้าขยับ ซือซือปล่อยอ้าวเสว่ออก พยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้นิ่งเล็กน้อย พลางเอ่ยถามว่า “ช่วงนี้มีข่าวอะไรบ้าง”
อ้าวเสว่ส่ายหน้า “พรุ่งนี้พวกเขาก็จะกลับกันแล้ว หนูก็ต้องกลับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเช่นกัน” อ้าวเสว่มองซือซือด้วยความระมัดระวัง อยากจะให้ซือซือพาตัวเองไปด้วย
ซือซือตอบคำถามอย่างไม่ใส่ใจ สายตาเบนกลับไปในตัวบ้านแล้ว ใบวินิจฉัยโรคที่อยู่ในมือถูกกำแน่น ถึงแม้ว่าจะต้องตาย ตัวเธอจะลากเซี่ยชีหรั่น และเย่เชินหลินไปตายด้วยกัน
ตั้งแต่เช้าตรู่ ไห่ลี่หมินก็บุกเข้าไปในห้องทำงานของเย่เชินหลิน เย่เชินหลินเลิกคิ้ว “ดังนั้นตอนนี้นายเลยไม่คุ้นชินกับการเคาะประตูแล้วหรือ”
ไห่ลี่หมินขมวดคิ้ว เดินไปถึงเบื้องหน้าเย่เชินหลินแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ช่วงนี้หุ้นบริษัทเย่ซื่อผันผวนผิดปกติ ฉันได้รับข่าวมาแล้วต้องการคุยกับนาย นายเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ใช่หรือไม่”
เย่เชินหลินเม้มปากแน่น ไห่ลี่หมินถอนหายใจ “ถ้าอย่างนั้นเป็นใครกันแน่ที่ทุ่มซื้อหุ้นของบริษัทมากมายในตอนที่นายไม่อยู่ในประเทศ อีกอย่างยังได้ยินมาว่าผู้บริหารระดับสูงของพวกนายลาออกกันไม่หยุด”
เย่เชินหลินกลับไปนั่งบนเก้าอี้ เอ่ยเรียบๆว่า “ผู้หญิงที่พบที่ลอสแองเจลิสก่อนหน้านี้ เธอเป็นผู้ทุ่มซื้อหุ้น แต่ว่าเธอตายไปแล้ว หุ้นก็ยังคงถูกซื้อต่อไป ยังมีคนที่อยู่เบื้องหลังอีก”
ประตูถูกเคาะ จางเฟิงอี้เดินเข้ามา พยักหน้าให้กับไห่ลี่หมิน เอ่ยว่า “ประหลาดมากครับ ตำแหน่งของบัญชีเงินทุนทั้งหมดล้วนปรากฏอยู่ที่แอฟริกา”
“แอฟริกาหรือ เงินทุนไม่ได้ไหลเข้าสู่สวิตเซอร์แลนด์ แต่ไหลเข้าสู่แอฟริกาอย่างนั้นหรือ” ไหลี่หมินถามด้วยความประหลาดใจ
จางเฟิงอี้ตอบ “ไม่ผิดครับ เป็นแอฟริกาจริงๆ อีกทั้งหัวหน้าจางก็เคยไปที่แอฟริกามาก่อน เมื่อครึ่งเดือนก่อนหน้านี้”
“คนล่ะ” เย่เชินหลินถามเสียงเรียบ
จางเฟิงอี้โบกมือ หญิงสาวคนหนึ่งถูกนำตัวเข้ามา “คนหนีไปแล้วครับ ภรรยาของเขาก็เตรียมตัวจะจากไป แต่ถูกจับเอาไว้ได้พอดี รอเขาก้าวเข้ามาในกับดักนี้เองแล้วกัน”
“ขอร้องพวกคุณล่ะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหนกันแน่ พวกคุณปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันยังตั้งครรภ์อยู่นะ” หญิงสาวมองไปทางเย่เชินหลินด้วยความกลัว
ไห่ลี่หมินมองเย่เชินหลินอย่างไม่เห็นด้วย เมื่อเห็นสายตาไม่รู้สึกรู้สาของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ก็ทำได้แค่ถอนหายใจ พลางเอ่ยว่า “อย่าให้เซี่ยชีหรั่นรู้เรื่องพวกนี้”
“ฉันรู้แล้วค่ะ” เซี่ยชีหรั่นก้าวเข้ามา เย่เชินหลินขมวดคิ้ว โบกมือ จางเฟิงอี้จึงนำตัวหญิงสาวออกไป
“ตอนนี้บริษัทเผชิญหน้ากับเรื่องวิกฤตหรือคะ” เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินอย่างดื้อดึง เอ่ยถามออกมาตรงๆ
“ชีหรั่น ไม่เป็นไรหรอก พวกเราจะจัดการให้เรียบร้อยเอง” ไห่ลี่หมินรีบปลอบเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้าพลางพูดว่า “สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่การหลบอยู่ในเรือนกระจก ดูพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก หลังจากนั้นก็ส่งคุณออกจากบ้าน รอคุณกลับมาบ้านในทุกวัน”
ไห่ลี่หมินถอนหายใจ ปิดประตูปล่อยทั้งสองคนเอาไว้ เย่เชินหลินเดินไปหยุดอยู่ข้างหน้าต่าง นั่นคือมุมที่เขาชอบมากที่สุด เพราะจุดนี้สามารถมองเห็นห้องทำงานของเซี่ยชีหรั่นได้ เขาหลงรักท่าทางตั้งใจทำงานของเซี่ยชีหรั่น
“บริษัทในตอนนี้ นอกจากหุ้นที่อยู่ในมือของผม 60% แล้ว อีก 40% ถูกคนที่มีเจตนาร้ายซื้อไปแล้ว” เย่เชินหลินอธิบายคร่าวๆ
“ฉันมีที่ดินอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศนี้” เซี่ยชีหรั่นก้าวขึ้นไปพูดกับเย่เชินหลิน เย่เชินหลินหันหน้ามาบดจูบเซี่ยชีหรั่นอย่างรุนแรง บดคลึงอย่างหนักหน่วงจนทำให้เซี่ยชีหรั่นหายใจไม่ทัน
“ยังไม่ถึงขั้นนั้น” เย่เชินหลินกระซิบเสียงเบา “อีกทั้งที่ดินผืนนั้น ผมประเมินแล้วว่าใกล้จะเกิดปัญหาขึ้นแล้วเช่นกัน”
เซี่ยชีหรั่นยังอยากจะพูดอะไร แต่ไห่ลี่หมินเดินเข้ามาอีกครั้ง “เย่เชินหลิน คุณได้กระทำการที่เป็นภัยต่อตลาดหลักทรัพย์ หลายคนที่อยู่ด้านข้างน่ะ เดินเข้ามาและหยิบกุญแจมือออกมาด้วย”
เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินด้วยความเป็นห่วง ไห่ลี่หมินก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลเช่นกัน เย่เชินหลินพยักหน้าให้กับไห่ลี่หมิน ขยี้ผมเซี่ยชีหรั่น เอ่ยเสียงเบาว่า “กลับบ้านในตอนนี้ทันที ดื่มนม หลังจากนั้นก็เข้านอน ผมสัญญาว่า พรุ่งนี้ตอนที่คุณตื่นขึ้นมา ก็จะเห็นผม โอเคไหม”
เซี่ยชีหรั่นทำได้เพียงแค่พยักหน้าทั้งที่น้ำตาคลอ เย่เชินหลินถูกสวมกุญแจมือ เดินไปถึงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ด้วยท่าทางเคร่งขรึมแล้วก็หันหน้ากลับมาเอ่ยกับเลขาตัวเองว่า “แจ้งทนายจาง ให้เวลาเขาคืนหนึ่ง พรุ่งนี้เช้าผมต้องได้ยืนอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง”
เลขาพยักหน้าด้วยความกลัว ไห่ลี่หมินตบไหล่เซี่ยชีหรั่น “เขาเป็นผู้จ่ายภาษีรายใหญ่ ไม่เป็นไรหรอก พี่จะดูเขาเอง”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า กลับไปอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ค้นหาพินัยกรรมที่หม่าลี่มอบให้กับตัวเองในตอนแรกไปทั่ว ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันหนึ่งที่ตัวเองนำพินัยกรรมฉบับนี้ไปทำเรื่องอื่น
ภายในร้านกาแฟ ไห่ลี่หมินตะลึง “สวรรค์ พี่ไม่รู้เลยว่าเธอจะเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหน้ายิ้มเจื่อนๆ ยื่นพินัยกรรมไปให้ไห่ลี่หมิน เอ่ยอย่างจริงใจว่า “รบกวนพี่ช่วยฉันเอาไปแลกเป็นเงิน หลังจากนั้นก็ซื้อหุ้นของบริษัท ทำให้หุ้นนิ่งหน่อย”
ไห่ลี่หมินมองเซี่ยชีหรั่น จิบกาแฟคำหนึ่งแล้ว จู่ๆก็หัวเราะออกมา “คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่เธอกลายเป็นผู้หญิงที่ทำงานตัวคนเดียว พี่จะดูแล้วจัดการไปตามสมควรแล้วกัน”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า แต่ในใจยังคงว่างเปล่าเช่นเคย ยามค่ำคืน เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่บนเตียง ตั้งใจฟังสิ่งที่อยู่ในห้องทั้งหมด แสงไฟจางๆส่องผ่านมาทางหน้าต่างจากที่ไกลๆ เซี่ยชีหรั่นวิ่งลงไปด้านล่างโดยไม่ทันได้สวมกระทั่งรองเท้า
รีบร้อนเปิดประตูอย่างรวดเร็ว จางเฟิงอี้ตะลึง ยืนถือกุญแจอยู่ตรงนั้น เห็นท่าทางผิดหวังของเซี่ยชีหรั่นแล้วก็ถอนหายใจ หยิบแผ่นซีดีออกมา พร้อมกับเอ่ยว่า “ประธานเย่ทราบว่าคุณจะนอนไม่หลับ จึงให้ผมนำมาให้คุณ”
เซี่ยชีหรั่นรับแผ่นซีดีมาด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มองไปที่จางเฟิงอี้ ให้จางเฟิงอี้เข้ามาด้านในด้วยท่าทางหงอยเหงาเล็กน้อย “เข้ามานั่งสักหน่อยเถอะค่ะ”
จางเฟิงอี้มองเวลาที่เข็มนาฬิกาชี้อยู่ ตอนนี้ตีสองแล้ว จึงโบกมือ พลางเอ่ยว่า “ไม่ดีกว่าครับ เรื่องนี้ตึงมืออยู่บ้างจริงๆ แต่ก็หวังว่าคุณผู้หญิงจะมีความเชื่อใจในตัวของประธานเย่นะครับ”
จางเฟิงอี้จากไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ต้องเผชิญหน้ากับบ้านที่ว่างเปล่า ผู้ดูแลบ้านยกนมมาแก้วหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นพยักหน้ายิ้มๆ ใส่แผ่นซีดีเข้าไปแล้ว ไปขดตัวอยู่บนโซฟา
ภาพเบื้องหน้าปรากฏเกล็ดหิมะชั่วครู่หนึ่ง เย่เชินหลินยังคงสวมชุดสูทตอนที่จากไป นั่งอยู่บนเก้าอี้ สีหน้าสงบนิ่ง เหมือนกับสีหน้านิ่งๆที่มองเซี่ยชีหรั่นในทุกวัน
“ตอนนี้ยกแก้วนมของคุณขึ้นมาดื่มเสีย” เย่เชินหลินที่อยู่ในคลิปวิดีโอมองนาฬิกาข้อมือแล้วพูดกับเลนส์กล้อง
เซี่ยชีหรั่นหัวเราะพรืดออกมา สุดท้ายแล้วเย่เชินหลินก็เป็นคนที่เข้าใจมากที่สุด จึงยกนมขึ้นมาจิบทีละนิด ทีละหน่อย เย่เชินหลินที่อยู่ในคลิปวิดีโอชะงักไปเล็กน้อย เอ่ยพูดด้วยสีหน้าตึง “ต่อไปก็เป็นเรื่องเล่าก่อนนอน เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ”
เซี่ยชีหรั่นหยุดหัวเราะแล้ว มองไปยังเย่เชินหลินที่อยู่ในคลิปวิดีโอเอ่ยเล่านิทานที่ปกติเล่าให้เย่เนี่ยนโม่ฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เซี่ยชีหรั่นนึกถึงตอนที่ตัวเองอยู่ที่บ้านตระกูลหวา ผู้ชายคนนี้ก็เล่าเรื่องก่อนนอนให้ตัวเองฟังทั้งคืน
“โง่จริงๆ” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยเสียงเบา ดูคลิปวิดีโอรอบแล้วรอบเล่า “กริ๊งๆๆ” เสียงกริ่งที่ดังถี่ๆ ทำให้เซี่ยชีหรั่นตกใจตื่น
คลิปวิดีโอยังคงเล่นอยู่ เซี่ยชีหรั่นมองนาฬิกาบนกำแพง เพิ่งจะตีห้า สะบัดหัวลุกขึ้นไปเปิดประตู ด้านนอกประตูคือ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของหลินหลิง
“เธอฝากให้จื็อฉวนช่วยประกาศเรื่องพินัยกรรมฉบับหนึ่งใช่หรือไม่” หลินหลิงถามอย่างร้อนใจ
เซี่ยชีหรั่นตะลึง พยักหน้าแล้วเอ่ยถามว่า “ทำไมหรือ”
“เธอก็รู้ว่างานของเขาคืออะไร ตอนนี้มีคนเอาของสิ่งนี้ไปสร้างปัญหาแล้ว ตอนนี้เขาก็ถูกจำกัดความเคลื่อนไหวเช่นกัน” หลินหลิงค่อยๆสงบนิ่งขึ้นแล้ว และกลับสู่ท่าทางที่มากด้วยประสบการณ์และชำนาญเหมือนก่อนหน้านี้
“เป็นไปได้อย่างไรกัน” เซี่ยชีหรั่นทรุดตัวลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง หลินหลิงครุ่นคิด พลางเอ่ยว่า “คนคนนี้รู้ว่าพวกเราทำอะไรได้อย่างไร จะต้องมีหนอนบ่อนไส้แน่ๆ ตอนนี้ฉันจะไปเดินเรื่องเส้นสาย ประธานเย่เข้าไปพัวพันกับเรื่องใหญ่ ฉันก็ไม่มีวิธี ของจื็อฉวนยังจัดการง่ายหน่อย เธอดูแลตัวเองให้ดีรู้ไหม!”
หลินหลิงมองเซี่ยชีหรั่นที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วก็ถอนหายใจ ลากเซี่ยชีหรั่นกลับไปที่ห้อง ช่วยเซี่ยชีหรั่นห่มผ้า พร้อมกับเอ่ยดุๆ “ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น เรื่องทั้งหมดนี้ยังมีพวกเรา รู้ไหม”
เซี่ยชีหรั่นมองหลินหลิงน้ำตาคลอ “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
หลินหลิงเห็นเซี่ยชีหรั่นร้องไห้จนจมูกแดงก่ำ ก็ถอนหายใจแล้วจากไป จนกระทั่งหลินหลิงจากไปแล้ว เซี่ยชีหรั่นก็ลุกขึ้น ครุ่นคิดถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของหลินหลิง จะมีใครที่สามารถรับรู้ได้ทันทีว่าตัวเองมอบพินัยกรรมให้กับไห่ลี่หมิน
เช้าตรู่ เซี่ยชีหรั่นยืนมองคนรับใช้และผู้ดูแลบ้านที่ยืนเรียงกันเป็นแถว ผู้ดูแลบ้านมองไปทางเซี่ยชีหรั่น ถามอย่างเป็นกังวลว่า “คุณผู้หญิงมีอะไรหรือเปล่าคะ”
เซี่ยชีหรั่นเอ่ยอย่างไม่คิดจะปิดบัง “เมื่อวานนี้ ฉันมอบของสิ่งหนึ่งให้ไห่ลี่หมิน เพียงครู่เดียวก็ถูกคนอื่นรู้แล้ว”
เสียงของเซี่ยชีหรั่นเพิ่งจะสิ้นสุดลง สีหน้าของผู้ดูแลบ้านก็ไม่น่าดูทันที จ้องมองคนรับใช้หญิงที่ยืนเรียงกันเป็นแถว พร้อมกับเอ่ยว่า “เมื่อวานนี้มีใครปล่อยข่าวเรื่องนี้ออกไปหรือไม่”
เหล่าคนรับใช้หญิงพากันส่ายหน้า ผู้ดูแลบ้านมองเซี่ยชีหรั่นอย่างสงสัย พลางเอ่ยว่า “ตอนที่คัดเลือกน่าจะมีเงื่อนไขที่เข้มงวดมาก ไม่น่าจะเกิดเรื่องราวเหล่านั้นได้ถึงจะถูก”
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า เมื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนเหล่านี้มานาน เธอก็ไม่เชื่อว่าจะมีใครตั้งใจทำเรื่องพวกนี้
“ดูเหมือนว่าจะมีแค่เด็กคนนั้น ฉันรู้สึกว่าเธอแปลกมาก เหมือนกับชอบที่จะสังเกตพวกเรา” ผู้ดูแลบ้านเอ่ย มองเซี่ยชีหรั่นอย่างระมัดระวัง
“อย่าพูดแบบนี้ เธอยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง” เซี่ยชีหรั่นรีบหยุดยั้งความคิดของผู้ดูแลบ้าน อ้าวเสว่หรือ เธอเพิ่งจะอายุเท่าไรเอง แต่ก็หยุดความคิดที่นึกถึงอ้าวเสว่ไม่ได้
“ให้นาย” อ้าวเสว่มอบการ์ดอวยพรให้เย่เนี่ยนโม่เองกับมือ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset