สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1331 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1231

บนเตียงผู้ป่วย หญิงสาวมองดูชายหนุ่มที่กำลังดูรูปของตนเองที่ยืนยิ้มหวานถ่ายคู่กับเซี่ยชีหรั่น พลางพยักหน้า “ใช่ นี่คือแฟนของฉันเอง เขาชื่อ หลุ่ยลี่”
“ลี่ลี่ อย่าพูดมาก รีบดื่มน้ำซะ!” หญิงชรารีบยื่นแก้วน้ำให้กับเด็กสาว เธอก็รีบดื่มเข้าไปอย่างเชื่อฟัง แล้วพูดกับหญิงชรา “คุณยาย ฉันรู้สึกอยากทานผลไม้นิดหน่อยค่ะ”
“เดี๋ยวฉันไปล้างมาให้นะ รอเดี๋ยว” หญิงชรารีบหยิบผลไม้ออกมาจากกระเป๋า แล้วค่อยๆ เดินออกไปจากห้อง หญิงสาวมองเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดขึ้น “คุณย่าฉันได้ขายอะไรให้กับพวกนายอีกแล้วไหม ตั้งแต่ที่ฉันป่วยเข้าโรงพยาบาลมา เธอดูรีบร้อนที่จะหาเงินค่ารักษามากขึ้น ทั้งที่เมื่อก่อนเธอเป็นคนอ่อนโยนมากกว่านี้”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกผิดต่อหญิงชรา สิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้ดูรุนแรงมากเกินไป เย่เชินหลินที่อยู่ข้างๆ ถามขึ้น “หลุ่ยลี่ล่ะ?”
“อีกประมาณสองชั่วโมงเขาน่าจะมาแล้วล่ะ” เธอตอบอย่างยิ้มแย้ม พลางลูบแหวนแพลตตินั่มในมือเล่น
ผ่านไปสองชั่วโมง เสียงฝีเท้าจากทางเดินดังลอยมา หญิงสาวแววตาเป็นประกาย ร่างของชายหนุ่มมาหยุดที่หน้าประตู หลุ่ยลี่ต่างไปจากที่เซี่ยชีหรั่นเจอที่สนามบิน ใส่เสื้อเชิ้ตที่ดูเก่าหน่อยๆ แล้วก็สวมแว่น
เย่เชินหลินมองทะลุผ่านไปยังด้านหลังของหลุ่ยลี่ Bakerพยักหน้าด้วยความรู้สึกตกใจที่ได้เจอกับเซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลิน
“พวกนายรู้จักกันเหรอ?” หญิงสาวที่อยู่บนเตียงผู้ป่วยถามทุกคนขึ้นมาด้วยความสงสัย หลุ่ยลี่จึงยิ้มแล้วพูดขึ้น “เป็นเพื่อนของฉันทั้งหมด”
บนทางเดิน เซี่ยชีหรั่นมองไปที่ฝ่ามือของหลุ่ยลี่ หลุ่ยลี่ยกมือขึ้นมาแล้วพูดขึ้น “ที่บาดเจ็บครั้งนั้นคือเรื่องจริง แล้วก็ที่ฉันบอกทางผิด ทำให้เธอเจอกับอันตรายก็เป็นฝีมือของฉัน ถ้าหากไม่มีตำรวจคนนี้ เธออาจจะตายไปแล้ว”
พูดจบ เย่เชินหลินที่อยู่ข้างๆ ก็เข้ามากระชากคอเสื้อของหลุ่ยลี่ ง้างหมัดขึ้นมา ตั้งท่าจะต่อย “หยุดก่อน ในฐานะที่เป็นตำรวจของประชาชน ฉันต้องทำหน้าที่คุ้มครองพยานของฉัน” Bakerพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เซี่ยชีหรั่นรีบไปดึงมือของเย่เชินหลินเอาไว้ แล้วพูดขึ้น “เขาก็เคยช่วยฉัน”
เย่เชินหลินลดแขนลง Bakerพูดกับหลุ่ยลี่ “นายบอกว่าขอมาดูแฟนนายก่อนแล้วจะบอกความจริง นี่ได้มาดูแล้ว จะรีบบอกได้รึยัง?”
หลุ่ยลี่พยักหน้า ไม่ปิดบังอีกต่อไป “ฉันรับภารกิจเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ตอนนั้นลี่ลี่เพิ่งจะตรวจเจอว่าเป็นมะเร็ง ฉันก็ไม่มีเงินมากนัก ทำได้แต่รีบร้อน จากนั้นคุณน้าบอกให้ฉันส่งข้อมูลไปยังแอฟริกา ให้ที่นำเงินมาจากที่นั่น แล้วส่งมอบให้คนคนหนึ่ง”
“น้าของนายคือใคร?” Bakerถาม หลุ่ยลี่มองเย่เชินหลิน แล้วจึงตอบ “ฉันจะให้ที่อยู่ แล้วพวกนายไปตามหากันเอง”
ขับมาถึงที่หมายที่หลุ่ยลี่บอกอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นชี้ไปที่เลขห้อง แล้วพูดขึ้น “คือที่นี่ ชุมชนจินเซิ่น5 ตึก202”
หญิงสาวที่อยู่อีกฝั่งของประตูเปิดประตูแล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย “พวกคุณมาตามหาใครคะ?” เซี่ยชีหรั่นพูดชื่อของหลุ่ยลี่ออกไป หญิงสาวตอบกลับแปลกๆ “ฉันไม่รู้ว่าอะไรคือหลุ่ยลี่ พวกคุณมาหาผิดคนแล้ว ที่นี่มีฉันอยู่แค่คนเดียว” หญิงสาวปิดประตูลง
“แย่แล้ว!” Bakerและเย่เชินหลินพูดขึ้นพร้อมกัน ทั้งสามรีบวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาล พบว่าในห้องผู้ป่วยไม่มีหญิงสาวที่ชื่อลี่ลี่แล้ว
“ไปหมดแล้วค่ะ เด็กผู้ชายคนนั้นเพิ่งจะทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลเมื่อกี้ อย่างไรซะเด็กผู้หญิงก็มีชีวิตอีกไม่นาน ให้กลับไปใช้ชีวิตเสียหน่อยก็ดี” พยาบาลพูดรำพึงรำพัน
“แล้วจะทำยังไงดี?” ลี่ลี่เมื่อหนีไปได้แล้วก็จะซ่อนตัวไม่ให้หาเจออย่างแน่นอน แค่ขั่วพริบตาก็รู้สึกเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
“ไปชุมชนจินเซิ่น” อยู่ๆ Bakerก็พูดขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินมองเขาด้วยสายตาแปลกประหลาด เมื่อเพิ่งกลับมาจากชุมชนจินเซิ่นไม่ใช่เหรอ? นั่นเป็นที่ที่หลุ่ยลี่หลอกพวกเขา ให้ตัวเองมีจังหวะหนี
Bakerอธิบาย “ที่เราถามก่อนหน้านี้เป็นแค่การโยนหินเท่านั้น หรือจะหมายความว่าคนๆ หนึ่งถ้าจะพูดโกหกให้น่าเชื่อถือก็ต้องเป็นสิ่งที่มั่นใจมากนั่นเอง
คนเราตอนโกหก โดยเฉพาะตอนที่กดดันมากๆ นั้น จะเกิดอาการต่างๆ บนร่างกาย เช่นสายตาจะมองที่ด้านขวาล่างอย่างไม่รู้ตัว จะใช้นิ้วมือลูบที่ลำคอตนเอง พวกนี้เป็นสิ่งที่คนพูดโกหกจะแสดงออกมา”
เย่เชินหลินที่อยู่ข้างๆ พูดต่อ “เมื่อกี้ตอนที่เขาพูด สายตามุ่งมั่น และคำพูดสั้นกระชับรวดเร็ว แสดงว่ามีข้อมูลส่วนจริงอยู่ในนั้น!”
“ใช่ ถูกต้อง!” Bakerมองเย่เชินหลินด้วยความชื่นชม ถ้าหากไม่ใช่เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่ในหน้าที่ที่พิเศษอยู่นั้น เขาคงจะชวนไปกินเหล้าแล้ว
ที่บ้านพัก เซี่ยชีหรั่นมองตึกที่เรียงสูง แล้วถามขึ้นด้วยความเหนื่อยใจ “แล้วนี่จะหายังไง?”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น Bakerรับสาย “ตำรวจBaker G ฉันคือเสี่ยวเฉิน ผู้กำกับโมโหแล้ว เขาถามว่าเรื่องของเย่เชินหลิน นายจะใช้เวลาอีกนานแต่ไหน แล้วตอนนี้นายอยู่ที่ไหน!”
เสียงจากปลายสายไม่ได้เบามาก เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินด้วยความเป็นห่วง Bakerพูดสั้นๆ เพียง “คดีพลิกเล็กน้อย ฉันเจอหลักฐานใหม่ นายช่วยฉันจัดการหน่อย”
“พลิกอะไร นายเจอใคร?” เสี่ยวเฉินโวยวายที่ปลายสาย Bakerตัดสายทิ้ง แล้วหันมาพูดกับเย่เชินหลิน “ฉันไม่ได้พาดพิงถึงนาย รีบทำรีบกลับไปซะ เพื่อนร่วมงานสองคนนั้นคิดว่านายรออยู่ที่บ้านเย่จนซื่อบื้อหมดแล้ว เสียกำลังตำรวจเปล่าๆ”
“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น” เย่เชินหลินตอบกลับเสียงเรียบ ทั้งสามใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงยังหาเบาะแสเกี่ยวกับหลุ่ยลี่ไม่ได้ บ้านพักที่ใหญ่ขนาดนี้ ทั้งบ้านพักแบ่งเป็นสามส่วน แต่ละส่วนมีตึกสูง 22 ชั้น ถึง3 ตึก ถ้าหาทีละห้อง คงจะยาก
กลับมาถึงโรงแรม โทรศัพท์ของเย่เชินหลินดังขึ้น ไห่ลี่หมินถามด้วยความเป็นห่วง “ได้ความคืบหน้าอย่างไรบ้าง?”
ปลายสายมีเสียงเพลงedmดังมาก เย่เชินหลินจึงถามขึ้นด่วยความสงสัย “นายอยู่ไหน?”
ไห่ลี่หมินหันไปมองคนที่กำลังโอบหญิงสาวแล้วเต้นอย่างสนุกอยู่นั้น เขาหัวเราะฝืนแล้วจึงตอบ “อายุมากขนาดนี้แล้วยังต้องมาผับกับเด็กอีก เบื้องบนปล่อยเด็กฝึกออกมา เอาแต่ใจ จะมาผับให้ได้”
เย่เชินหลินและไห่ลี่หมินพูดคุยกันง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่ประโยค แล้วก็วางสายไป เซี่ยชีหรั่นรีบเข้าไป “ลี่หมินอยู่ที่ผับเหรอ?”
เย่เชินหลินพยักหน้า แล้วถามขึ้นอย่างไม่ได้คิดอะไร “เหนื่อยไหม?” เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว หาหลุ่ยลี่ทำให้เธอสภาพจิตใจย่ำแย่มาก ตอบกลับด้วยความหมดอาลัยตายอยาก
เย่เชินหลินหยิบเสื้อคลุมแล้วลากเซี่ยชีหรั่นออกมา หลังจากถามตำแหน่งจากไห่ลี่หมินอย่างแน่ชัดแล้ว เย่เชินหลินก็ลากเซี่ยชีหรั่นมายังผับที่ไห่ลี่หมินอยู่
เพลงในผับเปลี่ยนเป็นเพลงยอดฮิตที่ไม่หนวกหูแล้ว เย่เชินหลินเมื่อมาถึงที่หน้าประตู ก็รู้สึกว่าคิดผิดที่พาเซี่ยชีหรั่นมาที่แบบนี้
ผู้ชายในผับที่กำลังนัวเนียนั้นต่างมองมาที่เซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาเป็นประกาย ล้วงหยิบเงินขึ้นมาโบกใส่เซี่ยชีหรั่น “สวัสดีสาวสวย”
ไห่ลี่หมินรีบลุกขึ้นมายืนบังเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงสุขุม “ดื่มเยอะไป อย่าไปถือสา”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว เย่เชินหลินมองกวาดสายตาออกไป โอบเซี่ยชีหรั่นแล้วพูดขึ้น “ระวังอย่าให้ถูกถ่ายรูป แล้วก็จำไว้ว่ายังมีหลินหลิงรอเธออยู่ที่บ้าน”
ไห่ลี่หมินมองแผ่นหลังของเย่เชินหลินที่จากไป เขาหัวเราะพลางคิด ใครจะไม่อยากมีความสุขแบบเด็กๆ อย่างเย่เชินหลินกันล่ะ แต่การอยู่รอดบนสังคมย่อมมีคนเหนือกว่าเสมอไม่ใช่เหรอ?
บ้านพักข้างๆ ผับคือชุมชนจินเซิ่น สามีภรรยาคู่หนึ่งที่เดินสวนกับเซี่ยชีหรั่น ขณะที่ตัวเดินเบียดกัน เซี่ยชีหรั่นเห็นกระเป๋าเงินตกลงมา
“ต้องเป็นของพวกเขาแน่ๆ” เซี่ยชีหรั่นก็เดินตามเย่เชินหลินเข้าไปในบ้านพัก
คู่สามีภรรยากำลังเดินเล่นกันอยู่ เย่เชินหลินตามไปถึง ก็นำกระเป๋าเงินคืนพวกเขาทั้งสอง
“ขอบคุณพวกคุณมากจริงๆ พวกเรามาดูห้องกัน ไม่คิดว่ากระเป๋าเงินจะตก” ผู้สูงวัยยิ้มแล้วพูดออกมา
“ใช่ ฉันป่วยร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เลยจะมาหาห้องที่แดดส่องถึงและไม่สูงมาก”
หลังจากที่เซี่ยชีหรั่นบอกลากับคนสูงวัยทั้งสอง จึงสะกิดเย่เชินหลินที่กำลังยืนครุ่นคิด เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง Bakerวิ่งมาด้วยความงัวเงีย
“เรียกฉันออกมาดึกดื่นป่านนี้มีธุระอะไร!” Bakerเสียงสดใส แต่เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าเขามาด้วยความรีบร้อนมาก คอเสื้อยังใส่ไม่เรียบร้อย
“ในบ้านพักนี้ ที่ใกล้แดดทางทิศใต้มีเพียงตึกฝั่งทิศใต้เท่านั้น และไม่สามารถอยู่ชั้นสูงได้เพราะป่วยอยู่ ดังนั้นจะอยู่ชั้นไม่ต่ำกว่าชั้น 10 ลงไป พวกเขาน่าจะอยู่กันที่ตึกนี้!”
เย่เชินหลินชี้ไปยังตึกที่ห่างจากพวกเขาทั้งสามไม่มากนัก Bakerพยักหน้าด้วยความสุขุม แล้วพูดขึ้น “นายวิเคราะห์ได้มีเหตุผลดี แต่ว่านายเรียกฉันมาทำไม?”
“ไปเช็ครายชื่อของคนที่อยู่ตั้งแต่ชั้น 10 ขึ้นไป” เย่เชินหลินพูด เมื่อBakerเห็นว่าเย่เชินหลินไม่มีแววพูดเล่น จึงพยักหน้าแล้วกดโทรออก “เสี่ยวเฉิน ขอโทษที่รบกวนเวลานอนของนาย แต่อยากให้นายช่วยหาข้อมูลหน่อย”
ภายใต้ความมืดมิดของค่ำคืนนั้น ที่หน้าห้องหนึ่ง มีชายหนุ่มกำลังยืนดูพวกเขาทั้งสาม หลุ่ยลี่หัวเราะแล้วพูดขึ้น” ไม่คิดว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด หลอกพวกนายไม่ได้จริงๆ”
ในห้องมีเสียงไอดังออกมา หลุ่ยลี่พยักหน้าให้พวกเขาทั้งสาม “ฉันขอพูดอะไรบางอย่างกับลี่ลี่เสียหน่อย” เดินเข้าไปในห้อง เสียงไอก็เงียบลง แล้วก็ได้ยินเสียงดังวุ่นวายขึ้นที่ชั้นล่าง
“สมควรตาย” Bakerบุกเข้ามาในห้อง แล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นสัมผัสได้ว่าเหตุการณ์ไม่ปกติ ถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม? พวกเราแค่จะถามอะไรบางอย่สงเท่านั้น”
เย่เชินหลินปิดตาของเซี่ยชีหรั่นลง แล้วถอนหายใจ “บางอย่างที่ไม่อาจพูดออกมาได้ ทำได้เพียงอาศัยวิธีที่สุดโต่งเท่านั้น”
หลุ่ยลี่กระโดดตึก ตายแล้ว!
“บอกว่าหาหลักฐาน หาจนคนโดตึกตายไปแล้ว ตอนนี้เบื้องบนกดดันอย่างมาก! รีบปิดคดีให้เร็วที่สุด!”
ผู้กำกับตบโต๊ะดังลั่น
Bakerนั่งอย่างไม่รู้สึกรู้สา ยิ่งถลำเข้าไปลึกเขายิ่งรู้สึกว่าเย่เชินหลินถูกใส่ร้าย ทำไมหลุ่ยลี่ถึงยอมฆ่าตัวตาย นั่นแสดงคนเบื้องหลังที่ฮุบเงินก้อนนี้จะต้องมีอำนาจมาก มากเสียจนผู้ชายคนนี้รู้ว่าเมื่อยอมมอบตัวจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้!

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset