สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1332 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1232

สายตาอดไม่ได้ที่ต้องมองไปยังผู้กำกับที่อยู่ตรงหน้า เป็นไปได้ไหมที่คนตรงหน้าได้ถูกซื้อตัวไปแล้ว ถ้าหากเป็นไปได้ เบาะแสพวกนี้ก็ไม่ควรจะบอกเขา
“หาเจอแล้ว เจ้าของห้องคือคนขับรถที่มณฑลxx” เสี่ยวเฉินถือผลรายงานเดินเข้ามา
Bakerรีบยืนขึ้น หยิบเสื้อคลุมแล้วโทรออกหาเย่เชินหลิน “รู้แล้วว่าเจ้าของห้องคือใคร เดี๋ยวฉันจะรีบไป ถ้าหากเธอจะมาก็ระวังอย่าให้เพื่อนร่วมงานฉันสังเกตได้”
ตอนที่Bakerมาถึง เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นได้มาถึงก่อนแล้ว Bakerมองที่รถBYDของตัวเอง แล้วหันไปมองรถHummerของเย่เชินหลิน ตกใจที่รถที่มีสมรรถนะดีนั้นมีกจะขับได้เร็ว
“ไม่ต้องเข้าไปแล้ว” เย่เชินหลินกล่าว Bakerงง สงสัยว่าตัวเองมาสายไปรึเปล่า?
ตอนนี้ในห้องไม่มีใครแล้ว ต่อให้ตอนนี้รู้ว่าผู้ว่ามณฑลหลัวกุ้ยเหยามีปัญหา ก็น่าจะทำอะไรไม่ได้แล้ว เย่เชินหลินก็สงสัย “ใครเป็นคนปล่อยข่าวออกไป?”
ในหัวของBakerพลันมีความคิดของตัวเองผุดขึ้นมา เมื่อรู้ว่าคนขับรถมีปัญหา เขาก็หายไปทันที คิดยังไงก็รู้สึกว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ในวงตำรวจ
“ตอนนี้จะทำยังไง ต่อให้รู้ว่าคนคนนี้รับสินบน แต่พยานสำคัญก็ไม่มีแล้ว พวกเราไม่มีวิธีแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยความหนักใจ เสียเวลามานานมากแล้ว ไม่เพียงแต่บริษัทของเย่เชินหลินจะได้รับผลกระทบ ยังมีคนทางแอฟริกาที่ยังรอข่าวจากเขาอีก
เย่เชินหลินครุ่นคิด แล้วจึงโทรออกหาไห่ลี่หมิน “ผู้ว่าราชการหลัว?บังเอิญจังเลยครับวันนี้เขาต้องเข้าร่วมงานวางเสาเข็ม”
ตอนกลางคืน เซี่ยชีหรั่นเดินกอดแขนของไห่ลี่หมินเข้าไปในโรงแรม มองไปรอบๆ ที่ล็อบบี้ ที่ทางเดินชั้นสองมีควาาเคลื่อนไหว ไม่รู้ว่าคนพวกไหนคือคนที่Bakerส่งมา
ถ้าหากวันนี้ได้เจอกับคนขับรถคนนั้น ก็จะจับตัวเลยทันที เมื่อถูกหยิกที่หลังมือ เซี่ยชีหรั่นจึงได้สติขึ้นมา แล้วพบว่าที่ฝ่ามือของตัวเองมีเหงื่อออกเยอะมาก
“ผ่อนคลายหน่อย” ไห่ลี่หมินกระซิบที่ข้างหูของเซี่ยชีหรั่น ตอนนี้ตัวตนของเย่เชินหลินค่อนข้างอ่อนไหว ถ้าหากเข้าออกอย่างตามใจในตอนนี้ จะทำให้เหตุการณ์ดูอันตรายยิ่งขึ้น
เมือ่เข้าไปในงาน มีคนกำลังพูดอยู่บนเวที เซี่ยชีหรั่นมองชายหนุ่มที่มีหน้าตาน่าเกลียดคนนั้น เธอไม่คิดเลยว่าคนแบบนี้จะทำเรื่องแบบนั้นเพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเองได้ลง
“ด้านบนมีคน แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน ลงมือไม่ได้” ไห่ลี่หมินกระซิบ
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าจะลงมือกับคนนี้ไม่ง่ายเลย จนถึงตอนแยกย้าย เซี่ยชีหรั่นและไห่ลี่หมินก็ไม่พบว่ามีอะไรแปลกๆ
“นี่คือเสี่ยวไห่นี่? นี่ไม่ใช่คุณเชี่ยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทเย่ซื่อเหรอครับ?” ไห่ลี่หมินถูกเรียกเอาไว้กะทันหัน รอบๆ เริ่มมีคนเข้ามาล้อม
“สวัสดีครับ การกล่าววันนี้เยี่ยมมากเลยครับ” ไห่ลี่หมินพูดแบบยิ้มๆ ในสถานการณ์แบบนี้ต้องพูดจาตามสิ่งที่เจอ ชายหนุ่มดีใจที่ได้ยินคำชม จึงตบที่ไหล่ของไห่ลี่หมินแล้วเดินจากไป
ที่ห้องโถงของโรงแรม มีข่าวหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของเซี่ยชีหรั่น ริมแม่น้ำแถบชานเมือง มีศพที่ห่อด้วยผ้าสีขาวถูกงมขึ้นมาได้ มีคนมุงดูเต็มไปหมด
“ทำไมเหรอ?” ไห่ลี่หมินถามขึ้น เซี่ยชีหรั่นสะกดความไม่สบายใจนั้น แล้วส่ายหน้าตอบ เพิ่งกลับมาถึงบ้าน พ่อบ้านก็รีบเข้ามาต้อนรับ “คุณชายบอกว่าเมื่อคุณกลับมาให้รีบไปที่ห้องหนังสือครับ”
ที่ห้องหนังสือ เย่เชินหลินกำลังดูวิดีโอที่วันนี้เซี่ยชีหรั่นได้ดูที่ห้องโถงของโรงแรม เมื่อเห็นเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินจึงถามขึ้น “คนขับรถคนนั้นก็ตายแล้ว”
ในใจก็คิดถึงความจริงที่เกิดขึ้น ว่าทุกๆ คนที่ถูกสืบถึงจะตายหมด และตายตั้งแต่ตอนที่พวกเขากำลังเริ่มสืบ เหมือนกับเป็นสัญญาณบอก ว่าเริ่มสืบถึงใคร คนนั้นก็จะโชคร้าย!
“อย่าเพิ่งคิดไปเอง ต่อให้ไม่มีพวกเรา เรื่องพวกนี้ยังไงก็ต้องถูกตามสืบอยู่ดี” เย่เชินหลินกอดเซี่ยชีหรั่นเบาๆ
เซี่ยชีหรั่นเกยคางไว้ที่บนตัวของเย่เชินหลิน สายตาจับจ้องไปยังคลิปวิดีโอที่ถูกเปิดวนไปมา ภาพถูกถ่ายไปกลุ่มฝูงชน
หญิงสาวใส่ชุดสีดำและผ้าโพกผมสีดำ ยืนมองศพอยู่ท่ามกลางฝูงชนด้วยสายตาเย็นเยียบ เซี่ยชีหรั่นขนลุกซู่ หน้านี้ดูคุ้นๆ ซือซือเหรอ? เธอเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้? หรือเป็นฝีมือเธอจริงๆ?
กลางดึก เซี่ยชีหรั่นนอนไม่หลับ จึงแอบขับรถออกไปที่ริมแม่น้ำ ริมแม่น้ำที่เคยคึกคัก ตอนนี้มืดสนิท หญ้าที่เคยขึ้นรกสูงเท่าตัวคน ถูกคนเหยียบเสียจนล้มหมด
เซี่ยชีหรั่นลองยืนในตำแหน่งของผู้หญิงคนนั้นแล้วสังเกตดู ในกอหญ้ามีขยะมากมาย เซี่ยชีหรั่นพลันเหยียบไปโดนขวดน้ำเปล่าใบหนึ่ง
“ใครอยู่ตรงนั้นหน่ะ?” แสงไฟส่องมา ทำให้เซี่ยชีหรั่นต้องย่อลง ตำรวจสองนายใช้ไฟส่องวนไปรอบๆ
“เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยชีหรั่นได้ยินเสียงของBaker ทำเอาตัวหดเหลือนิดเดียว เมื่อเดินมาเกือบจะถึงตัวของเซี่ยชีหรั่น ตำรวจนายCก็หันไปพูดกับBaker “เหมือนจะมีคนนะครับ”
“ไม่เป็นไร น่าจะเป็นแมว เมื่อกี้ฉันเห็นแล้ว พวกเราสำรวจกันต่อ” Bakerพูดเสียงเรียบ เซี่ยชีหรั่นได้นั่งแต่นั่งอยู่ในโพงหญ้าไม่กล้าขยับตัว
เท้าเหยียบถูกของแข็ง เซี่ยชีหรั่นค่อยๆ ถอยออกมาก้าวหนึ่ง พบนาฬิกาเรือนหนึ่งอยู่ที่พื้นดิน นาฬิกามีรอยขูดจากก้อนหินมากมาย แต่สัมผัสได้ว่านาฬิกาเรือนนี้ราคาไม่เบา
ที่ด้านข้างแม่น้ำมีแต่หมูบ้านเล็กๆ นาฬิกาเรือนนี้น่าจะราคาไม่ต่ำกว่าสามหมื่น หรืออาจจะหมายความว่าเป็นนาฬิกาของคนที่ก่อคดีทำตกเอาไว้
“จะแอบไปถึงตอนไหน?” เสียงเรียบนิ่งของBakerดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นรีบกำนาฬิกานั้นไว้ในมือ แล้วโผล่ออกมาจากโพงหญ้า
Bakerมองแล้วถามเซี่ยชีหรั่นขึ้นอย่างไม่เกรงใจ “ถ้าไม่ใช่ว่าเห็นเธอและเย่เชินหลินพยายามขนาดนั้นที่แอฟริกานะ ฉันคิดว่าเธอจะมาทำลายหลักฐานแล้ว”
Bakerคิดว่าเซี่ยชีหรั่นอยากจะมาช่วยเย่เชินหลินหาหลักฐาน จึงได้มาอยู่ที่นี่ในกลางดึก เซี่ยชีหรั่นถูกคำพูดของBakerดึงดูดเอาไว้
“หลักฐาน? หรือว่าคดีมีความคืบหน้าแล้ว?” เซี่ยชีหรั่นรีบถามขึ้น
Bakerพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ที่กองดินริมแม่น้ำ เจอรอยเท้าคู่หนึ่ง รอยเท้านั้นได้ถูกส่งไปตรวจสอบแล้ว น่าจะได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเร็วๆ นี้ แต่น่าจะไม่ใช่ข้อมูลที่ลึกอะไร”
Bakerพูดถึงตรงนี้ก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย “ใคร!” Bakerตะโกนขึ้นมา ทำเอาเซี่ยชีหรั่นรีบหลบไปด้านหลัง เขารีบยกปืนขึ้นมายกปลายกระบอกชี้ไปทางคนที่เดินมา
เย่เชินหลินมองเซี่ยชีหรั่นด้วยความสงสัย เซี่ยชีหรั่นจึงยอมรับผิดเสียโดยดี “ฉันก็แค่อยากมาดูเท่านั้น”
ท่าทีที่น่าสงสารของเซี่ยชีหรั่น ทำเอาเย่เชินหลินโกรธไม่ลง เธอไม่อยากจะคิดถึงความกลัวของตัวเองตอนที่ตื่นมาแล้วไม่เจอเซี่ยชีหรั่นที่ข้างกาย แต่คิดเพียงเล็กน้อยก็พอจะนึกออกได้ว่าเซี่ยชีหรั่นน่าจะมาที่ริมแม่น้ำ
เซี่ยชีหรั่นมองBakerด้วยสายตาอ้อนวอน Bakerทำเป็นมองไม่เห็น แล้วหันไปพูดกับเย่เชินหลิน “ฉันเริ่มสงสัยความสามารถการเป็นตำรวจของพวกเราแล้ว ที่เธอแอบหนีออกมาได้หลายต่อหลายครั้ง”
“ตระกูลเย่มีประตูมากมาย” เย่เชินหลินพูดอย่างมีความนัยน์ แล้วจึงพูดกับเซี่ยชีหรั่นต่อ “ยังไม่มาอีก” เซี่ยชีหรั่นกำลังยากจะเดินไปหา แต่ก็ตอบกลับด้วยความดื้อรั้น “ไม่ไป ตรงนี้มีเศษกระจกแตก”
เขาเดินเข้าไปคว้ามือของเซี่ยชีหรั่นเอาจับไว้แน่น เย่เชินหลินมองBakerแล้วพยักหน้า ตำรวจธรรมดาและตำรวจตำแหน่งสูงนั้น มีวิธีการจัดการเรื่องที่ช่างจะแตกต่างกัน เย่เชินหลินค่อนข้างชื่นชอบในตัวเขา
“ฉันคิดว่าพวกนายคงไม่อยากให้ฉันขับรถตำรวจส่งพวกนายกลับไปหรอกใช่ไหม” Bakerพูดติดตลก
นั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านหลัง เซี่ยชีหรั่นนั่งอ้าขา แล้วจับเย่เชินหลินล็อกไว้ที่อ้อมแขนตัวเอง ท่านั่งนี้ทำเอาเซี่ยชีหรั่นหน้าแดงก่ำ เย่เชินหลินใช้มือข้างหนึ่งกุมมือของเซี่ยชีหรั่นเอาไว้ แล้วใช้มืออีกข้างลูบผมยาวประบ่าที่ถูกตัดออกตอนอยู่ที่แอฟริกาของเธอด้วยความอ่อนโยน จากนั้นพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบ “ถ้าหากครั้งหน้าเธออยากทำแบบนี้อีก ฉันไม่ติดที่จะสั่งสอนเธอในตอนนี้เลยนะ”
เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าที่เปื้อนเล็กน้อยของเธอ แล้วพูดด้วยความได้ใจ “นายไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก! เพราะนายเป็นคนรักสะอาด!”
เย่เชินหลินเป็นโรครักความสะอาด ไม่ชอบของที่สกปรก เซี่ยชีหรั่นได้ตกใจที่เขายอมกอดเธอในขณะที่เธอตัวมอมแมมแล้ว
“อ๊าย!” พูดจบเซี่ยชีหรั่นพลันร้องกรี๊ดขึ้นมา น้ำเสียงเจือลมหายใจที่อ่อนหวาน เขารีบหันไปมอง ถึงแม้ว่าด้านหลังรถจะมีฉากกั้นแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังกลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไปอยู่ดี
สัมผัสได้ถึงบางอย่างมาจากด้านในลึกๆ บวกกับด้วยรถที่เขย่าไปมา เซี่ยชีหรั่นไม่พอใจ อยากจะหลุดออกจากการกระทำของเย่เชินหลิน
เย่เชินหลินขยับนิ้วมือเล็กน้อย เลิกคิ้วขึ้น แล้วใช้มืออีกข้างเชิดคางของเธอขึ้นมา เซี่ยชีหรั่นตีมือของเย่เชินหลินออก แล้วนั่งพิงกับไหล่ของเย่เชินหลิน จากนั้นก็ร้องครางเหมือนกับลูกแมวออกมา ทันใดนั้นก็สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายชายหนุ่มที่อยู่ด้านล่าง
เย่เชินหลินรู้ว่าเซี่ยชีหรั่นเหนื่อยมาก หลังจากที่ทำโทษเธอเสร็จเรียบร้อยจึงปล่อยเธอไป เซี่ยชีหรั่นทำหน้างุนงง เหมือนกับกำลังถามเย่เชินหลินว่าทำไมอยู่ๆ ถึงหยุดลง
เย่เชินหลินไม่สนใจการกระทำ เขาเอื้อมแขนไปดึงเซี่ยชีหรั่นมาโอบเอาไว้ แล้วพูดด้วยความหวังดี “นอนซะ!”
วันรุ่งขึ้น เซี่ยชีหรั่นยังคงอยู่ในนิทรา เย่เชินหลินจูบเซี่ยชีหรั่นเบาๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นไปออกกำลังกายยามเช้า “คุณชายครับ ตำรวจที่ชื่อBakerมาหาครับ”
ปกติแล้วในเวลาที่เย่เชินหลินออกกำลังกายอยู่นั้น ถ้าหากไม่มีเรื่องจำเป็นจริงๆ พ่อบ้านจะไม่เข้ามารบกวนเขา แต่วันนี้คนที่ชื่อBakerมาหาแต่เช้า ยังมีตำรวจอีกหลายนายตามมาด้วย จึงทำให้พ่อบ้านไม่เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายที่เขามาในวันนี้
เย่เชินหลินรับผ้าเช็ดตัวมาจากคนรับใช้ เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมBakerถึงมาที่ตระกูลเย่แต่เช้า เมื่อลงมาด้านล่าง เจอกับBakerที่กำลังกินน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋อยู่
เขาใช้มือที่ถือปาท่องโก๋อยู่โบกเรียกเย่เชินหลิน Bakerเผยแววตาขี้เล่นออกมา “อาหารของตระกูลเย่เยี่ยมจริงๆ”
“สนใจจะมาเป็นยามที่ตระกูลเย่ไหมล่ะ เงินเดือนน่าจะมากกว่าเงินเดือนนายตอนนี้เท่าหนึ่ง ถ้านายไม่มีรายรับสีเทาหน่ะนะ” เย่เชินหลินนั่งบนโต๊ะอาหาร หยิบหนังสือพิมพ์พ์ขึ้นมาอ่าน สาวรับใช้รีบนำอาหารเช้าที่เตรียมเรียบร้อยแล้วมาเสิร์ฟให้เย่เชินหลิน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset