สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 1439 หญิงรับใช้ของคุณชายเย่ 1339

“ไม่ๆ ฉันเป็นฝ่ายเอ่ยรับเอาไว้เอง เช็ดล้างสระว่ายน้ำครั้งหนึ่งก็มีเงินเพิ่มให้อีกสองร้อยหยวน” ติงยียีรีบอธิบาย
เย่เนี่ยนโม่เงียบไปครู่หนึ่ง และเอ่ยว่า “เอาผ้าขี้ริ้วให้ฉันผืนหนึ่ง” เห็นสายตาประหลาดใจของเธอแล้ว เย่เนี่ยนโม่จึงหยิบผ้าขี้ริ้วด้วยตัวเองเสียเลย เขาม้วนแขนเสื้อไปจนถึงบริเวณแขนและเริ่มลงมือเช็ดล้าง
ติงยียีชอบเอาชนะมากเกินไป มอบเงินให้กับเธอตรงๆ เธอจะต้องไม่รับแน่นอน! เขาจึงทำได้เพียงแค่ใช้วิธีการแบบนี้ในการช่วยเธอ
เย่ชูหวินที่ยืนอยู่หน้าประตูสระว่ายน้ำมองคนสองคนที่อยู่ไม่ไกล ก็เลือกที่จะไม่ไปรบกวน เขากับเย่เนี่ยนโม่ ติงยียีต้องเลือก ให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์เถอะ
‘เวลาผ่านไปทีละนิด อ้าวเสว่จากไปแล้ว ชูฉิงก็เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยZ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับโจ๋ซวนก็เรื่อยๆมาตลอด เมิ่นเจ๋ยังคงรักไห่โจ๋ซวน หวังจริงๆว่าพวกเขาจะไม่มีใครต้องเจ็บปวด วันนี้ได้ยินว่าเนี่ยนโม่จะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่อย่างเป็นทางการ ในที่สุดความยากลำบากในสองปีนี้ก็ไม่ได้เสียเปล่า เพียงแต่ว่าระหว่างเขากับโม่ซวนหลินนั้นจริงหรือไม่ เขาเห็นโม่ซวนหลินที่รูปร่างหน้าตาคล้ายกับอ้าวเสว่เป็นตัวแทนหรือ ใกล้จะจบการศึกษาแล้ว หวังว่าจะสามารถหางานที่ดีได้สักงาน!’
ติงยียีปิดสมุดบันทึก ระยะเวลาสองปีกว่า ในสมุดบันทึกที่เดิมว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยตัวอักษร แพนด้ากระโดดขึ้นมาถึงโต๊ะในครั้งเดียว หมอบอยู่บนโต๊ะพลางออดอ้อน
ติงยียีช่วยลูบเส้นขนของแพนด้าให้ไปในทางเดียวกัน ตอนแรกผู้กำกับที่ตัวเองไปเป็นนักแสดงตัวประกอบให้พูดว่าแพนด้าเป็นสุนัขพันธุ์ทิเบตันมาสทิฟ เธอก็ยังไม่ค่อยเชื่อ แต่ว่าเติบโตมาจนถึงตอนนี้ แพนด้าก็สูงเท่ากับเด็กอายุหลายขวบแล้ว อีกทั้งยังดุร้ายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อออกจากบ้าน คนอื่นๆที่ผ่านไปมาล้วนเดินอ้อมไปด้วยความกลัว
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสียงกระฉับกระเฉงของซ่งเมิ่นเจ๋ดังลอยมา “เธอกำลังทำอะไรอยู่ อย่าลืมว่าวันนี้มีพิธีสำเร็จการศึกษานะ”
แน่นอนว่าติงยียีไม่ได้ลืม เมื่อเก็บสมุดบันทึกไว้ที่โต๊ะแล้ว ก็หยิบชุดครุยเดินลงไปด้านล่าง ติงต้าเฉินเดินไปเดินมาอยู่ในห้องรับแขกตลอด เมื่อเห็นเธอแล้วก็รีบก้าวเข้ามาเอ่ยว่า “มาๆๆ กินบะหมี่อายุยืนก่อนแล้วค่อยไป บ่งบอกถึงความเสมอต้นเสมอปลาย”
ติงยียีแบ่งบะหมี่ส่วนหนึ่งแล้วนำไปไว้บนที่วางป้ายวิญญาณของคุณแม่ในห้องรับแขก เมื่อไหว้เรียบร้อยแล้วถึงจะนั่งลงที่โต๊ะและเริ่มลงมือกิน ในตอนนี้เองที่เสียงโทรศัพท์ของติงต้าเฉินดังขึ้น ติงต้าเฉินรับสาย โวยวายว่า “ทำไมต้องไปนอกเมืองอีกแล้วล่ะ อาทิตย์นี้ไปนอกเมืองมาสองรอบแล้วนะ”
ติงยียีวางตะเกียบ เงยหน้าขึ้น มองคุณพ่อที่จอนผมทั้งสองข้างเริ่มมีสีขาวแซม เดิมบะหมี่ที่มีรสชาติอร่อยก็ขมฝาดขึ้นมา ติงต้าเฉินวางสายโทรศัพท์ เริ่มเตรียมตัวออกจากบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ ติงยียีเอ่ยอย่างแน่วแน่ว่า “พ่อคะ รอหนูหางานได้แล้ว หนูจะเลี้ยงพ่อเอง”
ติงต้าเฉินที่กำลังสวมรองเท้าอยู่หน้าประตูชะงักค้าง หมุนตัวไปลูบหางตา และหันหน้ากับมาตอบว่า “ได้!”
มหาวิทยาลัยZ ติงยียีที่สวมชุดครุยนั่งอยู่ในห้องประชุมกับซ่งเมิ่นเจ๋ เมื่อมองดูสถานที่ที่ศึกษาเล่าเรียนมาสี่ปีนี้ ทั้งสองคนก็รู้สึกทอดถอนใจลึกๆ
“พ่อฉันเตรียมให้ฉันไปฝึกงานที่บริษัทของเขาแล้ว ยียี ฉันเคยเอ่ยกับคุณพ่อว่าจะให้เธอไปด้วยกัน แต่เขาคิดว่าตอนนี้อาจจะยากอยู่บ้าง” ซ่งเมิ่นเจ๋คิดอยากจะช่วยเธอ แต่ความกล้าที่ตัวเองรวบรวมเพื่อพูดมันออกมากลับแลกมาได้เพียงแค่เสียงเยาะเย้ยของแม่เลี้ยงของตัวเอง จึงทำได้เพียงแค่ปล่อยไป
“ไม่เป็นไร ฉันสามารถหางานเองได้!” ติงยียียิ้มปลอบใจ เย่ชูฉิงกับไห่โจ๋ซวนเดินเข้ามาด้วยกันจากที่ไกลๆ
หลังจากทักทายกันง่ายๆแล้ว ไห่โจ๋ซวนก็เอ่ยว่า “ยียี เธอจะมาฝึกงานที่บริษัทคุณแม่ของฉันไหม” เย่ชูฉิงที่อยู่อีกด้านก็ช่วยพูดสนับสนุน “ใช่แล้ว จะไปฝึกงานที่บริษัทของพี่ชายฉันก็ได้นะ”
เย่ชูฉิงอยู่ที่มหาวิทยาลัยZ ได้ไม่กี่เดือนหลังจากนั้นก็ถูกเย่เนี่ยนโม่พบเข้า ตระกูลเย่วุ่นวายยกใหญ่ไปอยู่พักหนึ่ง ในภายหลังเย่เนี่ยนโม่ก็เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้เย่ชูฉิงเรียนที่มหาวิทยาลัยZ จนจบ
ติงยียีมองพวกเธอด้วยความตื้นตันใจ แต่ก็ส่ายศีรษะ สังคมของตัวเองต้องให้ตัวเองเป็นคนบุกเบิก ภายในห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมอยู่ครู่หนึ่งกะทันหัน เย่เนี่ยนโม่สวมชุดสูทเดินเข้ามา ในห้องประชุมจึงเงียบเป็นป่าช้าทันที
ในฐานะบัณฑิตที่จบการศึกษาด้วยความเป็นเลิศเพียงคนเดียวที่ได้รับเลือกจากมหาวิทยาลัยZ สามารถพูดได้ว่าเย่เนี่ยนโม่เป็นบุคคลที่ทุกคนเลื่อมใสและให้ความไว้วางใจ ตอนที่อยู่ในมหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่จะได้ A ในทุกภาควิชา กระทั่งโครงการของบริษัทเย่ซื่อที่ถูกเปิดเผยในอเมริกาโครงการหนึ่ง คนที่เป็นผู้บริหารอยู่เบื้องหลังก็คือเย่เนี่ยนโม่ คนจำนวนมากพูดกันว่าเขาเป็นศิษย์ที่ได้รับการสั่งสอนจากคุณครู แต่เก่งกว่าคุณครูเสียอีก
“ผมมายืนอยู่ตรงนี้ ก็ไม่มีอะไรจะพูด เพียงแค่หวังว่าทุกคนจะไม่ลืมสิ่งที่ใจตัวเองอยากทำมากที่สุด” สายตาเย่เนี่ยนโม่กวาดมองผ่านร่างของเย่ชูฉิง และเบนไปยังร่างของติงยียี มุมปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย
ในห้องประชุมคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง เย่เนี่ยนโม่วางไมโครโฟนและเดินไปหาพวกติงยียี เหล่านักศึกษาเปิดทางให้ เขาเดินไปถึงหน้าติงยียีแล้วยิ้ม หลังจากนั้นก็หมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้ากับทุกคน โยนหมวกรับปริญญาที่อยู่บนศีรษะขึ้นสูง บัณฑิตคนอื่นๆตะลึงค้าง หลังจากนั้นก็พากันทำตาม ภายในห้องประชุมกลายเป็นทะเลแห่งความสุข
ในเวลาเดียวกันนั้น ประตูอัตโนมัติในสนามบินเปิดออก หญิงสาวที่สวมเสื้อผ้าทันสมัยลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมา เมื่อยืนอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์เดือนหก เธอถอดแว่นกันแดด ใบหน้าที่งดงามปกปิดความตื่นเต้นเอาไว้ไม่มิด จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่หน้าประตูกำลังฉายข่าว “ผู้จัดการหนุ่มบริษัทเย่ซื่อ เย่เนี่ยนโม่ ประสบความสำเร็จในการชนะการประมูลของภาครัฐบาลอีกครั้งหนึ่งแล้ว”
หญิงสาวมองเย่เนี่ยนโม่ที่เปลี่ยนจากเด็กชายเป็นชายหนุ่มในจอโทรทัศน์อย่างละเอียด เอ่ยเสียงเบาว่า “เนี่ยนโม่ ฉันกลับมาแล้ว”
ภายในห้องทำงาน ติงยียีที่ยืนอยู่อีกด้านส่งประวัติส่วนตัวของตัวเองให้กับเถ้าแก่หนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้
ภายในห้องทำงานไม่มีเครื่องปรับอากาศ มีเพียงแค่พัดลมตั้งโต๊ะตัวหนึ่งที่ส่ายไปมาทางชายหนุ่ม เธอรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างตัวเองเปียกชุ่มไปหมดแล้ว เม็ดเหงื่อบนหน้าผากไหลลงมาที่คางจนถึงลำคอ กลิ้งเข้าไปในปกคอเสื้อ
ชายหนุ่มมองเธอ ยื่นมือออกมาฉีกประวัติส่วนตัวเป็นสองส่วน และโยนลงไปในถังขยะ พลางเอ่ยว่า “ทำงานกับผมที่นี่ ไม่จำเป็นต้องใช้ประสบการณ์พวกนี้ของคุณ”
เมื่อเอ่ยจบ เขาก็หยิบเหล้าขาวขวดหนึ่งและแก้วทรงสูงใบหนึ่งออกมาจากใต้โต๊ะ และรินเหล้าจนเต็ม จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินมาถึงด้านหน้าติงยียี ยื่นเหล้าให้กับเธอ เอ่ยอย่างมีนัยยะลึกซึ้งว่า “อยู่ในวงการอัญมณี ถ้าหากไม่ใช่ว่าครอบครัวมีต้นทุน ตัวเองก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำให้คนชื่นชอบ คุณสมบัติต่ำสุดของบริษัทเราก็คือมีความสามารถในการดื่ม!”
ติงยียีกลืนน้ำลาย มองเหล้าขาวในแก้ว ภายใต้สายตาเร่งเร้าของชายหนุ่มจึงตัดสินใจหยิบแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมด
ชายหนุ่มยืนอยู่อีกด้าน มองใบหน้าที่แดงระเรื่อขึ้นทันที จังหวะก้าวเดินยังไม่มั่นคงของเธอแล้วก็ส่ายศีรษะ พลางเอ่ยว่า “ความสามารถในการดื่มมีเพียงเท่านี้ พวกเราไม่กล้าจ้างคุณหรอก”
“คุณดูผลงานการออกแบบของฉันก่อนได้ไหมคะ” ติงยียีรีบก้าวขึ้นไปได้หน้า เธอรู้สึกว่าศีรษะของตัวเองวิงเวียน จึงจำเป็นต้องอาศัยขอบโต๊ะเพื่อพัก
ชายหนุ่มเหลือบมองเศษกระดาษในถังขยะแวบหนึ่ง พลางยักไหล่และเอ่ยว่า “ผมเห็นนักศึกษาแบบพวกคุณมาเยอะมาก ในสายตาผม ผลงานของพวกคุณก็คือขยะ ในสังคมนี้ บางครั้งความสามารถในการเข้าสังคมนั้นสำคัญกว่า โดยเฉพาะวงการอัญมณี”
ติงยียีไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากตึกบริษัทนั้นได้อย่างไร สมองไม่ชัดเจนไปชั่วขณะ ทำได้เพียงแค่อาศัยความรู้สึกเดินสะเปะสะไปเรื่อย
“คุณผู้หญิง ลองชิมเบียร์ไหมคะ นี่คือแบรนด์ออกใหม่ของพวกเรา” พนักงานสาวส่งเสริมการขายที่ยืนอยู่ข้างทางคนหนึ่งยิ้มให้เธอ พลางเอ่ย ติงยียีผงกศีรษะครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความมึนงง
เย่เนี่ยนโม่กำลังปรึกษาโครงการกับไห่โจ๋ซวน เย่เนี่ยนโม่เหลือโครงการเอาไว้โครงการหนึ่ง เตรียมจะไปสร้างศูนย์กลางการค้านานาชาติแห่งหนึ่งที่เมืองตงเจียง ซึ่งหลินหลิงมีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับวัสดุสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าบริษัทเย่ซื่อต้องเลือกที่จะร่วมมือกับบริษัทของหลินหลิง
“กริ๊งๆๆ” เสียงโทรศัพท์มือถือของเย่เนี่ยนโม่ดังขึ้น ไห่โจ๋ซวนเงยหน้ามองเขาด้วยความประหลาดใจ ตอนนี้ในเวลานี้ไม่ถือว่าเช้าแล้ว จึงเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ว่า “เป็นดาราชู้รักคนนั้นของนายอีกแล้วหรือ”
เย่เนี่ยนโม่เหลือบมองเพื่อนสนิทตัวเองแวบหนึ่ง เมื่อเห็นสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาแล้วก็ตะลึงเป็นอย่างมาก “ยียี?”
“คนชั่วร้าย ล้วนเป็นพวกคนชั่วร้าย ถ้าหากว่าดื่มเหล้าแล้วจะมีงานทำได้ อย่างนั้นฉันจะเรียนไปทำไมกัน!” ติงยียีที่อยู่อีกด้านของสายโทรศัพท์เอ่ยอย่างอ้อแอ้
“เธอดื่มเหล้าหรือ” เย่เนี่ยนโม่เปลี่ยนเป็นรับสายแบบหูฟังแทนการเปิดลำโพงบนโทรศัพท์มือถือแบบเดิม ไห่โจ๋ซวนจับรายละเอียดได้อย่างชาญฉลาด สายตาที่มองเขาจึงมีแววซับซ้อนอยู่เล็กน้อย
“ฉันไม่ได้ดื่มเหล้าสักหน่อย คุณเป็นใครกัน ฉันไม่ได้คุยอยู่กับแพนด้าหรอกหรือ” ติงยียีพึมพำ ด้านข้างเธอมีเสียงเพลงจากลานเต้นกลางแจ้ง เย่เนี่ยนโม่ฟังเสียงติงยียีที่ฮัมเพลงไม่หยุดในสายโทรศัพท์แล้ว คิ้วก็ขมวดเป็นปมแน่นขึ้นเรื่อยๆ
เขายังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ติงยียีตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว “ยียีเป็นอะไรไปหรือ ทำไมถึงดื่มเหล้ากัน” ไห่โจ๋ซวนที่อยู่ด้านข้างลองถามดู ในใจก็คิดว่า ประหลาด ความรู้สึกของติงยียีกับเย่เนี่ยนโม่น่าจะไม่ได้ดีจนถึงขั้นนี้ ดื่มเหล้าตอนนี้ยังจะโทรศัพท์หาเย่เนี่ยนโม่?
“ไม่มีอะไร ไม่ต้องสนใจเธอ โครงการเมื่อครู่นี้ ในวันพรุ่งนี้จะต้องได้ข้อสรุป พวกเราปรึกษากันต่อเถอะ” เย่เนี่ยนโม่เก็บโทรศัพท์มือถือเข้าไปในลิ้นชัก แต่คิดๆดูแล้วก็หยิบออกมาวางบนโต๊ะใหม่ สายตามองไปทางหน้าจอโทรศัพท์ที่มืดสนิทไม่หยุด
“ตอนนี้เป็นเดือนหก ตำแหน่งที่ตั้งของศูนย์กลางการค้านานาชาติในคราวนี้ค่อนข้างยอดเยี่ยม ดังนั้นความต้องการโดยรวมของฉันคือต้องการให้มีความกว้างใหญ่” เย่เนี่ยนโม่ใช้ปากกาเมจิกวาดบนแบบร่างที่สถาปนิกส่งมา แต่ในใจกลับคิดว่า “ทำไมถึงได้ดื่มเหล้ากัน? ฟังจากน้ำเสียงของเธอดูเหมือนกับว่าเกี่ยวกับเรื่องงาน”
“จากแบบร่างสิ่งก่อสร้าง ฉันคิดว่ายังมีความจำเป็นต้องปรับปรุง มันดูเหมือนกับศูนย์การค้านานาชาติที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของต่างประเทศ” เย่เนี่ยนโม่เอ่ยต่อ แต่ในใจยังคงคิดว่า
“มีลานเต้นกลางแจ้ง อย่างนั้นก็น่าจะอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกเส้นทางนั้น เพียงแต่ว่าเส้นทางนั้นดึกขนาดนี้ยังมีคนมากมายขนาดนั้นเชียว”
ไห่โจ๋ซวนที่เดิมก้มหน้ามองภาพแบบร่าง ผ่านไปอยู่นานไม่ได้ยินเสียงของเขาก็เงยหน้าขึ้นมามอง เย่เนี่ยนโม่ขมวดคิ้วแน่น สายตาไม่ได้ดูภาพแบบร่างเลยด้วยซ้ำ แต่มือยังคงจับปากกาเมจิกเอาไว้
“เนี่ยนโม่ นายเป็นอะไรไปน่ะ?” ไห่โจ๋ซวนเอ่ยถาม
เย่เนี่ยนโม่ดันเก้าอี้ออกแล้วลุกขึ้นยืน หยิบกุญแจรถ เดินตรงออกไปข้างนอก เดินไปพลาง เอ่ยไปพลาง “ให้เวลาฉันหนึ่งชั่วโมง โครงการรอฉันกลับมาค่อยทำด้วยกัน”
“ปัง” ประตูกระจกปิดลง ไห่โจ๋ซวนฟังเสียงฝีเท้าเร่งรีบทางด้านนอก สายตาก็ตกลงบนโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะที่เขาลืมเอาไปด้วย ในใจก็เริ่มครุ่นคิดว่า เรื่องอะไรกันที่สามารถทำให้ลืมเอาไปแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือ ติงยียี?!
ตอนที่เย่เนี่ยนโม่ไปถึง ติงยียีกำลังดื้อดึงจะเข้าร่วมทีมเต้นรำของหญิงชรากลุ่มหนึ่ง
เขาก้าวเท้ายาวเข้าไป จับติงยียีที่กำลังขัดขวางหญิงชราคนหนึ่งและคิดจะเต้นระบำซินเจียงกับฝ่ายตรงข้าม พลางเอ่ยกับหญิงชราที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวว่า “ขอโทษด้วยครับ”
“พ่อหนุ่ม ภรรยาพ่อหนุ่มดื่มเหล้าแล้วเหมือนกับเนจา(เป็นเทพเจ้าตามคติความเชื่อของจีน)กลับมาเกิดใหม่เลย กระโดดโลดเต้นมาสองชั่วโมงแล้ว!” หญิงชราเอ่ย ชี้ไปยังขวดเบียร์ที่วางระเกะระกะบนม้าหิน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset