สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่305 สาวใช้ตัวแสบ209

ตอนที่305 สาวใช้ตัวแสบ209
เดิมทีส้งหลิงหลิงกะว่าจะออกไปก่อน แต่พอได้เห็นสีหน้าท่าทีที่หวาดกลัวของเซี่ยชีหรั่นนั้น มันทำให้เธอไม่อยากเดินออกไป เธอจะอยู่ต่อเพื่อที่จะดูให้เห็นกับตาว่าฟางลี่น่าป้อนอาหารเหล่านั้นลงไป และถ้าหากว่าฟางลี่น่าทำไม่สำเร็จเธอเองก็จะได้ยื่นมือเข้าไปช่วย
สรุปแล้วก็คือวันนี้ เธอจะต้องแก้แค้นที่ครั้งที่แล้วเธอถูกหยาม!
ฟางลี่น่าเป็นคนที่ค่อนข้างสูงร่างใหญ่กว่าเซี่ยชีหรั่น พุ่งเข้าไปล็อคคอเซี่ยชีหรั่น
ในขณะนั้น ทางเดินก็ยังคงไม่มีเสียงใด เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าห้องนั้นเก็บเสียงได้ดี ถ้าหากว่าตรงทางเดินไม่มีคนผ่าน เธอจะร้องจนคอแตกก็คงไม่มีใครมาช่วย
แววตาของฟางลี่น่าดูชั่วร้าย ส้งหลิงหลิงก็ยืนกอดอกหันข้างมองเธออยู่ไม่ไกล เธอยืนดูเซี่ยชีหรั่นที่กำลังลำบากอยู่นั้นอย่างมีความสุข  
“เซี่ยชีหรั่น เธอเคยได้ยินมาบ้างไหมว่าเจินจีหญิงงามของฉาวพีมีจุดจบอย่างไร?เหอะๆ คาดว่าเด็กกำพร้าที่มาจากครอบครัวอยากจนอย่างเธอคงไม่เคยได้ยินล่ะสินะ เจินจี เธอเป็นผู้หญิงที่ฉาวพีรักที่สุด เยี่ยมยอดไปเลยล่ะ แต่ผลสุดท้ายตอนที่เธอตายกลับถูกเอาแกลบยัดปาก ตายไปแล้วคนอื่นก็คิดว่าเธอเป็นหมูตัวหนึ่ง วันนี้ เธอก็จะเหมือนกันกับเจินจี ฮ่าฮ่ากินอาหารที่คนเขากินเหลือ อ่อ ไม่ใช่สิ ยังมีความแตกต่างอยู่นะ เขาเป็นหมูส่วนเธอเป็นหมา!”
เซี่ยชีหรั่นถูกส้งหลิงหลิงดูถูกเหยียดหยามทำให้เธอโกรธจนหน้าแดงก่ำ แต่เธอรู้ดีว่าว่าเวลานี้โมโหหรือว่ากลัวไปก็ไม่มีประโยชน์ เย่เชินหลินไม่อยู่ พ่อบ้านก็ไม่อยู่ เธอทำได้แค่ช่วยเหลือเอาตัวรอดด้วยตัวเอง
เธอพยายามตั้งสติ มีเพียงแค่สงบสติอารมณ์ไว้เท่านั้นสมองเธอถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เธอพลางมองหน้าของส้งหลิงหลิงที่ดูเหมือนว่าจะสะใจเธอมากถึงกับบิดไม่เป็นรูป พลางกวาดสายตาไปยังประตู ทันใดนั้นเธอก็คิดอะไรออก
“เร็วเข้าสิ!”ส้งหลิงหลิงเริ่มขึ้นเสียงและแม้แต่ฟางลี่น่าก็ยังตกใจกับเสียงของนาง
ในขณะที่ฟางลี่น่าล็อคคอเธออยู่นั้น จู่ๆเซี่ยชีหรั่นก็หัวเราะและพูดออกมาอย่างนิ่งเฉย“ส้งหลิงหลิง นี่เธอจะให้ฉันกินของพวกนี้ลงไปจริงๆงั้นหรอ?”
เธอนิ่งเฉยขนาดนี้ทำให้ส้งหลิงหลิงเริ่มลนลาน เธอเผลอหันมองไปยังประตูคิดว่า เย่เชินหลินจะโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน ใครจะไปรู้ว่าประตูจะปิดตายซะขนาดนั้น แม้แต่เงาผีสักตัวก็ยังไม่มี
เธอพูดแบบไม่รู้สึกผิดและเกรงกลัวอะไร“ให้เธอกินเข้าไป เธอจะทำอะไรฉันได้?”
“โอเค งั้นฉันก็จะกิน กินอาหารเหลือพวกนี้แค่นี้ แต่สามารถโค่นเธอได้ แล้วฉันก็จะได้ขึ้นเป็นคู่หมั้นของคุณเย่อย่างถูกต้อง ฉันยินดีอย่างยิ่ง”
เซี่ยชีหรั่นพูดกับเธออยู่ มือก็คลำไปเจอโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เธอพยายามคลำหาปุ่มโทรออกฉุกเฉิน
“ฝันไปเถอะ !ไม่มีหลักฐาน เชินหลินไม่มีวันเชื่อแกหรอก”ในขณะที่ส้งหลิงหลิงพูดอยู่นั้น น้ำเสียงเฮก็สั่นเล็กน้อย ถึงอย่างไงซะเธอก็กลัวว่าเซี่ยชีหรั่นจะฟ้องเย่เชินหลิน
แต่ว่าดูจากวันนี้ที่เย่เชินหลินโกรธเซี่ยชีหรั่นอยู่นั้น ถึงเวลานั้นที่เซี่ยชีหรั่นไปฟ้อง เย่เชินหลินก็อาจจะไม่เชื่อก็ได้
และอีกอย่าง เธอก็ผลักให้ฟางลี่น่าออกรับแทนไปแล้ว พอคิดได้แบบนี้เธอจึงแน่วแน่พูดต่อ “รีบลงมือสิ!”
ในมือของฟางลี่น่าถือถาดอาหารอยู่ในขณะที่อีกมือก็พยายามจะเอาอาหารยัดใสปากเซี่ยชีหรั่น แน่นอนว่าทำไม่ได้
“ค่ะ คุณส้ง”เธอพูดไปพลางเอาถาดอาหารวางกลับไปที่โต๊ะหัวเตียง กะว่าจะใช้มือหยิบเศษซาลาเปาพวกนั้นยัดใส่ปากเซี่ยชีหรั่น
ถือโอกาสขณะที่ฟางลี่น่ากำลังหันไป เซี่ยชีหรั่นพูดกับส้งหลิงหลิง“เธอคิดว่าจะหลุดพ้นข้อกล่าวหางั้นหรอ ?กล้องวงจรปิดตรงบริเวณทางเดินนั้นได้บันทึกภาพคุณกับฟางลี่น่าเดินเข้ามาที่ห้องนี้ด้วยกันไว้ได้อย่างชัดเจนค่ะ!”
ส้งหลิงหลิงเริ่มรีบมา โดยที่ไม่ได้คิดคาดการณ์ไว้อย่างรอบคอบ เธอคิดแค่เพียงว่าให้ฟางลี่น่าออกรับแทนแค่นี้เธอก็จะรอด จนลืมนึกถึงเรื่องกล้องวงจรปิดไป
ถ้าหากว่ากล้งอวงจรปิดที่ตรงทางเดินมันบันทึกภาพเธอกับฟางลี่น่าเดินเข้ามาด้วยกันจริงๆล่ะก็ เธอก็จะปัดความผิดให้พ้นตัวได้ยาก  
ฟางลี่น่าที่หยิบซาลาเปาขึ้นมาเตรียมจะยัดปากเธออยู่แล้วแต่พอเห็นว่าส้งหลิงหลิงนิ่งไปเธอจึงไม่กล้าลงมือ
“ถ้าหากว่าเธอหยุดตอนนี้นะ ฉันจะถือซะว่าคุณเป็นห่วงฉันจริงๆ เอาอาหารเช้ามาให้ฉันแค่นั้น แต่ถ้าหากว่าเธอยังยืนยันที่จะทำร้ายฉัน ฉันก็จะจัดการตามที่ควร ทำให้เธอหายไปจากข้างกายคุณเย่ เธอก็คิดดูเอาเองแล้วกัน!”เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงแข็ง ปกติเธอจะดูอ่อนโยน จู่ๆแววตาคู่นั้นก็ส่องความเย็นชานั้นออกมาจนทำให้ส้งหลิงหลิงเผลอตัวรู้สึกกลัว
“คุณส้งค่ะ คุณว่ายังไงคะ จะหรือว่าไม่ป้อนดีคะ?”ฟางลี่น่าพูดเสียงต่ำ
ส้งหลิงหลิงเริ่มลังเลนิ่งไปครู่นึง เธอก็แสยะยิ้มออกมาและพูดกับเซี่ยชีหรั่น “มีกล้องวงจรปิดแล้วยังไง?ฉันจะเดินไปบอกให้ลบทิ้งไปก็สิ้นเรื่อง! ฟางลี่น่าจัดการป้อนต่อ!”
ฟางลี่น่ารับทราบคำสั่ง รีบนำเศษซาลาปาในมือยกขึ้นมาเลื่อนไปที่หน้าของเซี่ยชีหรั่น เซี่ยชีหรั่นหันหน้านี้พลางพูด “พ่อบ้านไม่ยอมฟังคุณหรอก!”
ส้งหลิงหลิงนึกถึงท่าทีของพ่อบ้านที่มีต่อเธอนั้นเปลี่ยนไป แต่ไม่นานเธอก็นึกได้ว่าหลังจากนั้นเธอก็ได้ข่มขู่ไปถึงครอบครัวของเขา แต่เขาก็จะยังทำผิดอีกงั้นหรอ?
ในขณะที่ส้งหลิงหลิงกำลังลังเลอยู่นั้น ฟางลี่น่าทำได้แค่นั่งจ้องหน้าเซี่ยชีหรั่นอยู่ เซี่ยชีหรั่นถือโอกาสนั้นในขณะที่พวกเขามองไม่เห็น เธอคลำเจอปุ่มโทรฉุกเฉินแล้ว
เธอกอดโทรออกแล้วจึงไม่กลัวว่าพวกเธอจะเห็น เธอก็นำโทรศัพท์ออกมาเพื่อที่ขู่ทำให้พวกเขากลัว ไม่ทันได้รอให้เย่เชินหลินรับโทรศัพท์ เธอก็รีบร้อนพูดเข้าไปในโทรศัพท์“คุณเย่ช่วยฉันด้วยค่ะ!”
จู่ๆก็มีโทรศัพท์โผล่ขึ้นมำให้ส้งหลิงหลิงละฟางลี่น่าต่างตกใจ เธอสามารถที่จะจัดการกับเรื่องกล้องวงจรปิดได้ แต่เธอไม่สามารถที่จะห้ามไม่ให้เย่เชินหลินได้ยินไม่ได้
“เชินหลินค่ะ ฉันกำลังล้อเล่นอยู่กับชีหรั่นค่ะ!”ส้งหลิงหลิงรีบร้อนพูด
ขณะนั้นหูของฟางลี่น่าก็ดีเหลือเกินดันได้เสียงในโทรศัพท์ว่าแค่โทรติดแต่ยังไม่มีคนรับสาย เธอละมือออกจากคอของเซี่ยชีหรั่นและรีบพุ่งเข้าไปแย่งโทรศัพท์ทันที
“พี่หลิงหลิง ไม่ต้องกลัวนะคะ แค่โทรติดแต่ไม่มีคนรับค่ะ คุณเย่ยังไม่ได้รับค่ะ”เธอรีบรายงาน
“แล้วยังไม่รีบกดวางสายอีก!”ส้งหลิงหลิงรีบพูดด้วยความตกใจ
ดูจากคำพูดเหล่านั้น เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าพวกเขาไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรมากนัก
เธอถือโอกาสที่ส้งหลิงหลิงและฟางลี่น่ากำลังวุ่นอยู่กับโทรศัพท์เอื้อมมือไปปัดถาดอาหารตกกระจายลงเต็มพื้น
แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยอะไร แต่ถ้าพวกเธอคิดอยากที่จะลงมืออีกก็คงต้องก้มลงไปเก็บ ทำขึ้นมาก็ค่อนข้างที่กินแรงเอาเรื่องอยู่
ฟางลี่น่าพึ่งจะไหวตัวได้จึงรีบกดวางสาย และกดปิดเครื่องทันที
“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ พี่หลิงหลิง ปลอดภัยแล้ว จัดการต่อเลยไหมคะ?”เธอถาม แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะของเซี่ยชีหรั่น เธอพูดอย่างนิ่งๆ“เธอนี่มันโง่จริงๆเลย เมื่อกี้ฉันโทรหาคุณเย่ แล้วอยู่ดีดีก็ปิดเครื่องแบบนี้ เขาฉลาดขนาดนั้นจะไม่ตรงดิ่งมาที่นี่หรือไง?จะไม่ให้พ่อบ้านมาตามฉันงั้นหรอ?ถ้าพ่อบ้านพาคนอื่นมาด้วยล่ะก็ คิดว่าพวกคุณคงหนีรอดงั้นหรอคะ?ตอนนี้ไม่แน่นะว่าคุณเย่กำลังจะเปิดกล้องวงจรปิดดูอยู่ก็ได้ เปิดดูว่าที่นี่มีอะไรผิดปกติ ถ้าคุณไม่ไปตอนนี้ ก็เกรงว่าจะไม่ทันเอานะคะ”
ฟางลี่น่ามองหน้าเซี่ยชีหรั่น ใบหน้าของเธอยังคงนิ่งเฉย อย่างกับว่าไม่กลัวพวกเธอเลยแม้แต่น้อย แต่ความจริงแล้วเธอก็แอบกลัวๆอยู่ มีหลายเรื่องที่เธอเองก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้เย่เชินหลินยังคงโกรธเธออยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะรีบโทรกลับมาทันทีหรือไม่มันเป็นเรื่องที่เธอก็ไม่สามารถที่จะคาดเดาได้
ถ้าหากว่าส้งหลิงหลิงไม่กลัวว่าความจะแตก และคิดจะจัดการเธอจริงๆ เกรงว่าเธอก็คงจะหนีไม่รอด
ตอนนี้ถ้าเธอคิดจะหนีออกไป ก็จะมีแต่ทำให้พวกเขาทั้งสองควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ดังนั้นเธอจึงต้องดูนิ่งและมีเหตุผล และใช้ความนิ่งสุขุมสยบพวกเขา
“พี่หลิงหลิงคะ?”ฟางลี่น่าสงสัยถาม
เซี่ยชีหรั่นมองตามฟางลี่น่าไปที่ส้งหลิงหลิง และพูดอย่างเยือกเย็น “ถ้าพวกคุณออกไปตอนนี้ฉันจะไม่บอกคุณเย่ว่าพวกคุณทำอะไรไว้บ้าง แต่ถ้ายังจะรั้นต่อไปล่ะ ฉันเองก็จะไม่เกรงใจแล้วเหมือนกัน ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม หนึ่ง!สอง!”
“รีบเก็บของที่อยู่บนพื้นนั้นซะ พวกเราไปเถอะ!”ส้งหลิงหลิงตกใจในความเย็นชาของเซี่ยชีหรั่น ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่ภาพที่เย่เชินหลินกำลังต่อว่าเธออยู่เต็มไปหมด และถึงแม้ว่าเรื่องคดีความของส้งซูหาวในชั่วนี้จะผ่อนคลายลงแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังไม่ถูกปล่อยออกมาจากที่ฝากขัง เธอไม่ควรที่จะมาทำอะไรวู้วามไปเพราะเพียงแค่ระบายอารมณ์โกรธออกมาแค่นั้น
เศษอาหารเละเทะเต็มพื้นไปหมด ฟางลี่น่าจึงทำตามคำสั่งของส้งหลิงหลิง เธอค่อยๆใช้มือเก็บเศษอาหารทั้งหมดขึ้นมา
ส้งหลิงหลิงเองก็ไม่รอ ฟางลี่น่าเลย แค่พูดกับเซี่ยชีหรั่น“หากว่าฉันเชื่อเธอแล้วเธอยังกล้าฟ้องคุณเย่อีกล่ะก็ ถึงฉันจะไม่ได้อยู่กับเชินหลิน แต่ฉันก็ยังเป็นลูกสาวของประธานส้ง ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”
พูดจบเธอก็รีบวิ่งออกไปทางประตู พอใกล้ถึงหน้าประตูเธอก็จัดระเบียบตัวเอง แสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป
ในมือของฟางลี่น่าเต็มไปด้วยขยะ พอเก็บเสร็จเธอก็หันไปจ้องเซี่ยชีหรั่นตาเขม็งด้วยความไม่พอใจ “ครั้งนี้ฝากไว้ก่อนเถอะ ครั้งหน้าเธอไม่โชคดีอย่างนี้อีกแน่!”
พอรอจนฟางลี่น่าเดินออกไปเซี่ยชีหรั่นรีบลุกขึ้นไปล็อกประตูห้อง
หลังจากปิดล็อกประตู เธอจึงพอว่าตัวเองตกใจกลัวจนเหงื่อออก ตอนนี้เธอแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ร่างกายของเธอทรุดลงไป นั่งกองอยู่ที่พื้น 
เธอแอบคิดว่าพอเธอโทรศัพท์ไปหาเขาแล้วเขาจะรีบโทรกลับมาที่บ้านทันที แต่เขาไม่
เขาอาจจะยุ่งอยู่จริงๆจนไม่ทันได้เห็นโทรศัพท์ ไม่ใช่ว่าเขาไม่สนใจเธอ เซี่ยชีหรั่นพยายามจะไม่คิดมาก
และถึงแม้ว่าเธอจะพูดกับตัวเองแบบนี้ แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาได้ เธอนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่อย่างนั้น และนึกถึงเรื่องราวที่เธอถูกกระทำเมื่อครู่นี้ และครั้งนี้มันก็อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สุดที่เกิดขึ้นก็ได้ เธอรู้สึกไร้ซึ่งที่พึ่งและหมดหนทางจะไป
เพียงแค่เขาดีกับเธอพวกนั้นก็เหมือนว่าจะสงบศึกลง แต่เมื่อไหร่ที่เขาเย็นชากับเธอ มันก็จะเปิดช่องโหว่ให้พวกนั้นเข้ามาทำร้ายเธอได้ 
เธอสามารถที่หลุดพ้นจากพวกเธอได้ในวันนี้ แต่ครั้งหน้าเธอจะโชคดีแบบครั้งนี้หรือเปล่า?
เย่เชินหลิน ตกลงว่าจะต้องทำกับเขาอย่างไร เขาถึงจะไม่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายแบบนี้ ก็คงจะต้องเออออตามเขาไม่หมดซะทุกอย่าง ก็เป็นอย่างที่เขาพูดเมื่อวานนี้ ว่าไม่ควรที่จะไปเรียกแม่ของเขามาทานข้าวใช่ไหม?แต่ก็คงไม่เท่าวันนี้ จะไม่ให้เธอเข้าไปห้ามเขาสองพ่อลูกไม่ให้ทะเลาะกันงั้นหรอ?เธอทำไม่ได้หรอก เธอยอมไม่ได้ที่จะต้องทนยืนมองเห็นเขาเป็นทุกข์ แต่เธอเองกลับยืนมองอยู่เฉยๆโดยที่ไม่ทำอะไรเลย
ขณะนั้นเย่เชินหลินกำลังอยู่ในที่ประชุม โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้นสองทีเขาหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นผู้หญิงคนนั้นโทรมาหาตน
แววตาของเขาหยุดนิ่ง พลางนึกถึงเรื่องเมื่อช้าที่เธอทำให้เขารู้สึกแย่ต่อหน้าคนอื่น และยังจะมาเสียหน้าต่อหน้าเย่เฮ่าหรันอีก เขาจึงใจแข็งกด ปิดโทรศัพท์ไปแล้วหันไปพูดกันข้าราชการคนที่กำลังรายงานในที่ประชุม “ต่อเลยครับ!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset