สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่304 สาวใช้ตัวแสบ208

ตอนที่304 สาวใช้ตัวแสบ208
จิ่วจิ่วเห็นว่าด้านหลังของเซี่ยชีหรั่นดูเจ็บปวดขนาดนั้น เธอคิดที่จะตามเธอไป แต่กลับถูกคำพูดของเย่เชินหลินฉุดเอาไว้
“ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามเข้าไปหาเธอ ให้เธอได้มีเวลาคิดดีๆว่าตัวเองเป็นใคร”
เสียงที่เย็นชาของเย่เชินหลินดังมาจากด้านหลัง ร่างกายเธอแข็งทื่อ
ขณะที่เธอกำลังจะก้าวเดินต่อเธอรู้สึกกระจ่างไม่น้อยเขาเตือนเธอ ให้เธอรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดีดีที่เขามีให้หรือว่าเขาจะดีกับเธอก็ยังคงเป็นคนที่ทำการแลกเปลี่ยนกับเขา ดังนั้นความอ่อนโยนที่เขามีต่อเธอมันไม่ยืนยาว เพราะว่ามันไม่ใช่ความรัก ไม่ใช่คำสัญญาชั่วนิรันดร์ ระหว่างเธอและเขาไม่มีคำสัญญาใดๆ
ตอนนี้ร่างกายของเธออ่อนแอมากจริงๆ ปวดเมื่อยและอ่อนปวกเปียกราวกับว่าโดนโทษหนัก โดนรถเหยียบยังไงยังงั้น
เซี่ยชีหรั่นหอบเอาร่างกายที่อ่อนล้าของตนกลับมายังห้องที่เธอพัก เธอถอดรองเท้าแตะออก ปีนขึ้นไปบนเตียงและนั่งพิงพนักเตียง
ในห้องอาหารใหญ่ สีหน้าของเย่เชินหลินเริ่มไม่น่าดู
เขาทานอาหารอย่างรวดเร็ว พอทานเสร็จก็หยิบผ้าเช็ดปากที่คนรับใช้ถืออยู่ขึ้นมาเช็ดปาก แล้วก็ลุกเดินจากไป
จิ่วจิ่วรีบตามเขาไปทันที เธอถามตามหลังเขาอย่างระมัดระวัง “คุณเย่คะ คุณจะไม่ให้จัดอาหารเช้าให้ชีหรั่นจริงๆหรอคะ?ร่างกายเธอไม่ค่อยแข็งแรงนะคะ”
“ไม่ต้องมาถามฉัน!”เขาพูดปัด พลางรีบเดินจากไป
จิ่วจิ่วกะจะตามเขาไป แต่กลับถูกพ่อบ้านดึงแขนห้ามไว้
เขาพูดเสียงหนัก“นี่เธอฟังไม่ออกจริงๆหรอว่าคุณเย่เขาหมายความว่าอะไร?เขาบอกว่าไม่ต้องถามเขา แต่ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ เขาแค่ไม่อยากเสียหน้าพูดว่าให้เธอเอาไปให้ เดี๋ยวฉันจะกำชับห้องครัวให้จัดเตรียมอาหารให้ละกัน แล้วอีกสักพักเธอค่อยเข้าไปเอา”
จิ่วจิ่วเขาถึงกับอึ้งไปนี่ใช่พ่อบ้านคนที่เธอรู้จักเปล่า?เขาไม่ได้ว่าอยากให้เซี่ยชีหรั่นโดนด่าโดนว่าและอยากให้เธอไสหัวออกไปจากที่นี่ไวๆหรอกหรอ?
พ่อบ้านเองก็ดูออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไร เขาทำแค่เพียงพูดในหูฟังกำชับในครัว “เตรียมอาหารเช้าไว้ให้หนึ่งที่ อีก20นาทีจิ่วจิ่วจะเข้าไปเอา”
พอสั่งเสร็จเรียบร้อย เขาก็รีบตามเย่เชินหลินไป
เย่เชินหลินมายังห้องของฝู้เฟิ่งหยี เธอตื่นแล้ว ละยังจัดการเก็บของของเธอไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะกลับไปกับเย่เฮ่าหรัน
นี่เป็นการขู่บังคับจากแม่ของเขา เอต้องการที่จะให้เขายอบรับผิดต่อเย่เฮ่าหรัน สำหรับเย่เชินหลินแล้ว นอกเสียจากว่าน้องชายของเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัย ไม่เช่นนั้นเขาไม่มีวันที่จะยอมพูดจาดีๆกับพ่อของเขา
“แม่จะกลับไปก็ได้ครับ และยาที่หมอห่าวเคี้ยวไว้ถ้าได้ที่แล้ว ผมจะให้คนส่งไปให้นะครับ”
“อาหลิน!”ฝู้เฟิ่งหยีเอ่ยขึ้นอย่างไม่วางใจ เธออยากที่จะถือโอกาสที่เธอป่วยนั้นทำให้ความสัมพันธ์ของพอลูกนั้นดีขึ้น แต่ทำไมกลับกลางเป็นแบบนี้ไปได้
หมอแผนโบราณจับชีพจรให้ฝู้เฟิ่งหยี พบว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงดังนั้นจึงไม่กังวลเท่าเมื่อวาน และอีกอย่างเขาก็รู้ดีว่าเย่เฮ่าหรันดีกับเธอมาก ต่อให้กลับไปแล้ว แค่ภรรยาที่ป่วยเป็นไข้หวัดแค่นี้ท่านประธานก็คงจะดูแลได้อยู่แล้ว
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้วครับแม่”เย่เชินหลินพูดออกมาตรงๆ
“ไม่ต้องพูดกับมันหรอก!ให้มันจัดการตัวมันเองให้ดีเถอะ!”เย่เฮ่าหรันพยุงฝู้เฟิ่งหยีเดินออกไปทางด้านนอก
ทั้งคู่เดินมาถึงประตูแล้ว แต่ฝู้เฟิ่งหยีก็อดไม่ได้ที่จะถามเย่เชินหลิน “เทศกาลไหว้พระจันทร์นี้แกจะกลับมากินข้าวที่บ้านไหม?”
“บ้านเรามีเทศกาลไหว้พระจันทร์กับเขาด้วยหรอครับ?”เย่เชินหลินถามกลับอย่างเฉยชา เขาตั้งใจที่จะประชดเย่เฮ่าหรัน วันไหว้พระจันทร์เป็นวันที่ครอบครัวอยู่พร้อมหน้ากันทานอาหาร แต่เย่จื่อห้านไม่อยู่ แล้วมันจะพร้อมหน้าพร้อมตากันได้ยังไง?
ฟู่เฟื่งหยีถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไรต่อและเดินออกไปกับเย่เฮ่าหรัน
ในห้อง กำปั้นของเย่เชินหลินทุบลงบนเตียง
เสี่ยวห้าน พี่จะไม่ยอมยกโทษให้เขา ไม่ยอมแน่!นายสบายใจได้
เย่เชินหลินนั่งครุ่นคิดอยู่ในห้องของฝู้เฟิ่งหยีอยู่เป็นเวลานาน ถึงเริ่มผ่อนคลายและลุกขึ้นกลับห้องไป เปลี่ยนชุดอยู่บ้านที่ใสอยู่ออก กำชับให้พ่อบ้านเตรียมรถออกเขาจะเข้าไปที่บริษัท
วันนี้ที่บริษัทมีประชุมระดับสูง อาจจะใช้เวลาประชุมนานมาก ตอนกลางวันกับคืนนี้เขาคงจะไม่ได้กลับมา
ก่อนที่เขาจะเดินทางเย่เชินหลินนั่งอยู่ในรถ พ่อบ้านคิดว่าเขาจะกำชับเหมือนกันกับครั้งที่แล้วที่เขาสั่งตัวเองไว้ก่อนที่เขาจะไม่อยู่ แต่เขากลับมองหน้าพ่อบ้านไม่ได้พูดอะไร แล้วก็สั่งให้คนรถออกรถไป
แต่ทว่าสายตานั้น พ่อบ้านคาดเดาเองได้ว่า เขาให้ตนดูแลจัดการเรื่องอาหารการกินของเซี่ยชีหรั่น แต่ไม่ต้องพูดไปว่าเขาเป็นคนสั่ง
โม่เสี่ยวหนงกำลังโกรธเซี่ยชีหรั่นอยู่ ดังนั้นเธอกินข้าวหรือยังนั้นเสี่ยวหนงเธอไม่สนและไม่ได้เป็นห่วงแต่อย่างใด
หลังกลับมาจากห้องอาหารเธอก็เอาแต่จัดการเก็บของของตัวเอง พอเก็บเสร็จเธอก็ไปหาพ่อบ้านให้พ่อบ้านจัดรถไปส่งเธอไปโรงเรียน
เซี่ยชีหรั่นก็ยังคงนั่งอยู่อย่างนั้น มองเหม่อไปยังผนังห้อง จิ่วจิ่วนำอาหารมาให้บอกว่าเย่เชินหลินเป็นคนสั่งเธอไว้ แต่เซี่ยชีหรั่นก็ไม่เชื่อ
เธอรู้ดีว่าครั้งนี้เขาโกรธเธอมากจริงๆคงจะไม่ยอมให้อภัยเธอง่ายๆแน่
เธอเองรู้สึกเซ็งๆเบื่อๆ จึงไม่มีกะใจจะกินอะไร
ไม่ว่าจิ่วจิ่วจะพูดยังไง เธอก็ไม่ยอมกิน สุดท้ายเซี่ยชีหรั่นกลัวว่าเธอจะเป็นห่วงจึงบอกเธอไปว่า “ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ถ้าฉันหิวแล้วเดี๋ยวฉันไปหาเธอเอง โอเคไหม?”
“ก็ได้!”จิ่วจิ่วหมดปัญญา เธอนำถาดอาหารที่ถือมาเอากลับไป
เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่คนเดียวอย่างนั้นอยู่เป็นเวลานาน จู่ๆก็มีเสียงประตู เมื่อเธอบอกอนุญาตให้เข้ามาประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านนอก พบว่าส้งหลิงหลิงกับฟางลี่น่ายืนอยู่ที่หน้าประตู
ในมือฟางลี่น่าถือถาดอาหารเข้ามาด้วย ในถาดมีอาหารอยู่ แต่ว่าข้างในคืออะไรนั้นเซี่ยชีหรั่นเองก็ไม่ได้ดูอย่างละเอียด
สองคนนี้มาต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เซี่ยชีหรั่นยืดตัวขึ้นมองพวกเธออย่างนิ่งๆ และเตรียมความพร้อม
“น้องหรั่น!”ส้งหลิงหลิงเรียกเธอด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย
“คงจะหิวมาสินะ?ฉันกับฟางลี่น่ามาดูเธอน่ะ ดีนะที่พวกเราเป็นผู้หญิงของผู้ชายคนเดียวกัน ฉันทนเห็นเธอหิวไม่ได้หรอก เธอต้องดูแลตัวเองให้ดีนะ จะได้มีแรงไปทำอะไรที่ไม่ควรทำต่อหน้าคุณเย่!”ประโยคหลังเธอเขยิบเข้ามาใกล้เซี่ยชีหรั่น และพูดด้วยเสียงเบา
ถึงแม้ว่าเย่เชินหลินจะไม่อยู่ แล้วแต่เธอก็ยังกลัวว่าเผื่อเขากลับเข้ามาจะได้ยินเข้า เธอไม่โง่เหมือนฟางลี่น่าและก็ไม่มีทางที่จะมาพูดโวยวายเสียงดัง
คิดไม่ถึงว่าเธอมาถึงปุ๊บก็พูดคำพูดแทงใจพวกนี้ขึ้นมาทันที เซี่ยชีหรั่นที่ว่าเป็นคนนิ่งๆก็ยังรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย สีหน้าของเธอแสดงออกมาทันที
ฟางลี่น่าก็เดินขึ้นมา เอาถาดที่ถือมาด้วยมาวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง พลางหัวเราะคิกคัก “คุณทานเยอะๆนะคะ อาหารเช้ามื้อนี้ไม่ได้มีบ่อยๆนะคะ”
เซี่ยชีหรั่นมองในถาดอาหาร มีแต่พวกของที่เหลือจากกินแล้ว มีซาลาเปาที่กินเหลือ มีโจ๊กที่กินไปแล้วครึ่งนึง ในนั้นก็มีเศษผักเคียงผสมอยู่
เธอเคยกินอาหารเช้าของคนงาน เธอจึงรู้ว่านี่เป็นอาหารของคนงาน
“กินสิ!”ส้งหลิงหลิงนั่งลงข้างๆเตียง พร้อมกับใบหน้าที่มีรอยยิ้มอันแสนเย็นชานั้น “อย่าเกี่ยงว่าอาหารไม่ดีเลยนะ คนเราอะก็เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง ถ้าหิวจนขีดสุดแล้ว อะไรก็กินได้ทั้งนั้นแหละ คนงานก็คนเหมือนกันและนี่คืออาหารที่คนงานกินเหลือก็ไม่เห็นว่ามันจะไม่สะอาดตรงไหน เธอเองก็ไม่ใช่ว่าเป็นแค่เด็กกำพร้าหรอกหรอ?ตอนเด็กๆก็เร่ร่อนไปทั่ว ไม่เคยเก็บขยะกินหรือไง?ฮ่าฮ่า ดีไม่ดีอาจจะถึงขั้นกินมูลสัตว์เลยก็ได้นะ ไม่ต้องมาแสดงทำเป็นสูงส่งอะไรต่อหน้าฉันอีกแล้ว!”
“เธอ!”เซี่ยชีหรั่นโมโหจนพูดออกมาได้แค่คำเดียว เธอโมโหจนพูดอะไรไม่ออก
ฟางลี่น่าก็พูดเสริมอยู่ข้างหลัง “แน่ล่ะค่ะ ได้ยินมาว่าพวกมูลนี่แหละค่ะของบำรุงอย่างดี ไม่น่าล่ะเธอถึงได้สะสวยขนาดนี้ เหมือนนางจิ้งจอกร่านเลยนะคะ!”
“พวกเธอออกไปเดี๋ยวนี้!”เซี่ยชีหรั่นหายใจเข้าลึกรวบรวมแรงและตะโกนไล่พวกเธอออกไป 
“อุ๊ยตาย คุณเซี่ยคะ นี่คุณพูดกับใครคะ?ไม่ได้ยินที่คุณเย่พูดหรอคะ?ยังมีคุณส้งอยู่ ที่นี่ไม่มีที่สำหรับคุณค่ะ และถึงแม้ว่าคุณส้งจะ ……”
“หื้มม?”ส้งหลิงหลิงไม่สบอารมณ์จึงขัด ฟางลี่น่ารู้ตัวว่าตัวเองพูดผิดไปจึงรีบขอโทษ “ขอโทษค่ะ คุณส้ง ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคะ”
ไม่มีว่าจะทำให้ดี มีแต่จะทำให้เสียเรื่อง!ส้งหลิงหลิงด่าอยู่ในใจ แต่เพื่อดึงให้เธออยู่ข้างตนเธอจึงทำแค่พูดยิ้มๆ“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจน่าน่าดี”
“เชิญพวกคุณออกไปได้แล้วค่ะ!”เซี่ยชีหรั่นไม่อยากจะเห็นทั้งคู่มาพูดจาแสแสร้งอยู่แถวนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่อยากเห็นอาหารที่กินเหลือพวกนั้น ที่พวกเขาตั้งใจจะเอามาดูถูกเธอ
“น้องหรั่น ฉันหวังดีกลัวว่าเธอจะหิว ถึงได้จัดเตรียมของพวกนี้ให้ด้วยใจกับลี่น่าสองคนเพื่อเธอเลยนะ เธอก็รู้ว่าอาหารเป็นของมีค่า เชินหลินไม่อนุญาตเอาอาหารมาให้เธอ ฉันก็อยากที่จะเอาอะไรดีดีมาให้เธอกินแต่ว่ามันเอามาไม่ได้ไงใช่ไหม ของพวกนี้ถึงจะดูไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่แต่ก็ดีกว่าอาหารที่เก็บมาจากถังขยะนะ ยังไงซะเธอก็รีบกินเถอะ!”
“คุณส้ง!”เซี่ยชีหรั่นหน้าเคร่งขรึม พูดด้วยน้ำเสียงเฉยชา “คุณไม่กลัวว่าฉันจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณเย่หรอคะ?”
“ไม่กลัว เพราะว่าฉันไม่เคยมาที่ห้องของเธอ ฉันจะกลับบ้านแล้ว”ส้งหลิงหลิงเลิกคิ้ว เธอจู่ๆก็ออกคำสั่งฟางลี่น่า “ถ้าเขาไม่กินเธอก็ช่วยเหลือเขาแทนฉันซะ!ม่ต้องกลัวว่าคุณเย่จะทำอะไรเธอ ฉันจะให้เงินก้อนโตกับเธอถึงแม้ว่าเธอจะต้องไปจากที่นี่ ฉันก็จะทำให้เธอดีกว่าอยู่ที่นี่เป็นร้อยเท่าพันเท่า จำไว้ว่า เป็นเธอเป็นคนเดียวที่รังแกชีหรั่น ฉันไม่เคยมาเหยียบที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว”ส้งหลิงหลิงยิ้มอย่างโหดเหี้ยมแล้วก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเฉยพลางพูดข่มขู่ “ถ้าเธอไม่ทำตาม ฉันจะให้เธอและคนในครอบครัวของเธอตายอย่างน่าอนาถเลยคอยดู!”
ส้งหลิงหลิงยังคงจำได้ดีเรื่องที่เย่เชินหลินป้อนอาหารให้เซี่ยชีหรั่น แค้นนี้เธอต้องชำระ ถึงแม้ว่าจะต้องสละฟางลี่น่าทิ้งไปก็ตาม เธอไม่เสียดายเลย  
เซี่ยชีหรั่นมองออกว่าเธออยากที่จะไป แต่กลับออกไปไม่ได้แล้ว ทางเดินเงียบสงัด เหมือนว่าพ่อบ้านจะไม่อยู่แล้ว
ถ้าเธอขัดขืนแล้วส้งหลิงหลิงเกิดไม่พอใจขึ้นมา ไม่แน่เขาอาจจะ สั่งให้ฟางลี่น่าจัดการขั้นเด็ดขาดกับเธอก็ได้
พอคิดแบบนี้ เซี่ยชีหรั่นจึงนิ่งสุขุมก็ไม่กระโตกกระตาก เธอทำได้เพียงพลางยื้อเวลาพลางคิดว่าจะเอาตัวรอดอย่างไรต่อไป
“ที่เหลือก็เป็นหน้าที่เธอแล้ว!ห้ามพลาดเด็ดขาด!เอาของพวกนี้ป้อนมันเข้าไป!”สายตาของส้งหลิงหลิงจู่ๆก็เปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย ฟางลี่น่ายกถาดอาหารขึ้นมายังเบื้องหน้าของเซี่ยชีหรั่น “เซี่ยชีหรั่นเธอชอบให้มีคนป้อนไม่ใช่หรอ?วันนี้ฉันจะให้แกได้ลิ้มรส!”
ตาของเซี่ยชีหรั่นมองไปยังอาหารเหลือพวกนั้น ค่อยๆเลื่อนมาถึงตรงหน้าเธอแล้ว เธอทั้งโกรธ ทั้งแค้น และกลัว เธอสั่นไปทั้งตัว  

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset