สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่350 สาวใช้ตัวแสบ254

ตอนที่350 สาวใช้ตัวแสบ254
ตอนเย็นจิ่วจิ่วจะอยู่เป็นเพื่อนเซี่ยชีหรั่น เธอไม่สามารถที่จะบีบรอยยิ้มออกมาให้เธอไม่เป็นห่วงได้ตลอด จึงบอกกับเธอว่าเธอเหนื่อยมาก ให้จิ่วจิ่วไปหาเรื่องอะไรทำเอง
ตอนเย็นในบ้านก็ยังคงเงียบสงบ การเงียบสงบแบบนี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกเหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
เวลามื้อเย็น พ่อบ้านมาเคาะประตู พูดกับเธอ:“คุณเย่สั่ง ให้เธอแต่งตัวสวยหน่อย แล้วรีบไปห้องอาหาร ไปทานข้าวเป็นเพื่อน มีแขกมา”
เสียงของพ่อบ้านดูแปลกเล็กน้อย เซี่ยชีหรั่นรีบถามออกมา:“แขกอะไร?”
“คุณเย่ไม่ให้พูด คุณรีบไปเถอะ ไปแล้วก็รู้แล้ว”
หวังว่าเธอจะทนได้ พ่อบ้านถอนหายใจในใจยาวยาว
เซี่ยชีหรั่นมาถึงห้องอาหาร เย่เชินหลินนั่งอยู่กับที่นั่งของเจ้าของ ไม่มีสีหน้าใด ข้างๆคือส้งหลิงหลิง อีกข้างคือมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ เพราะหันหลังให้เธอ เซี่ยชีหรั่นจึงไม่รู้ว่าคือใคร
เธอเดินไปทีละก้าวถึงโต๊ะอาหาร วนผ่านหลังของเย่เชินหลิน ถึงเห็นหน้าตาของแขกคนนั้น คิดยังไงก็คิดไม่ถึง เป็นศัตรูคนที่เธอไม่แม้แต่อยากจะเหยียบแผ่นดินเดียวกับเธอ—หวีซานซาน!
แค่มองพริบเดียว มือของเซี่ยชีหรั่นก็สั่นขึ้นมา สั่นไปทั้งตัว เธอขาดแค่อย่างเดียวคือไม่ถามเย่เชินหลิน ทำไมหวีซานซานถึงอยู่ที่นี่
เธอไม่รู้ว่าตัวเองเดินมาถึงที่นั่งได้ยังไง และไม่รู้ว่านั่งลงมายังไง พอนั่งแล้วถึงพึ่งเห็น ถัดจากหวีซานซาน ยังมีสองสาว สูงใหญ่นั่งอยู่ แต่เธอไม่มีอารมณ์ไปคิด ว่าผู้หญิงสองคนนั้นคือใคร
เธอไม่สามารถที่จะห้ามสายตาตัวเองได้ สายตาคมของเธอมองไปที่หวีซานซาน 
เธอเกลียดเธอ!เธอจะเกลียดเธอไปตลอดตลอด!
ส้งหลิงหลิงก็คิดไม่ถึงกับการมาที่นี่ของหวีซานซาน แต่เธอมีความสุขที่ได้เห็นฉากแบบนี้
“น้องหวี อย่าเกรงใจ ทานเยอะหน่อย”ส้งหลิงหลิงต้อนรับเธออย่างอ่อนโยนและยินดี
เซี่ยชีหรั่นไม่อ้าปาก ไม่พูดจา เธอกดใจที่ร้อนรนของเธอไว้ อยากจะดูว่าเย่เชินหลินจะทำอะไร
สีหน้าขาวซีดของเธอโดนเขาเห็นหมดแล้ว และร่างกายที่สั่นไปทั้งหมด มากกว่านั้นคือแม้เรี่ยวแรงที่อยากจะจับตะเกียบให้แน่นก็ทำไม่ได้
ทำไมเธอถึงมีปฏิกิริยากับผู้หญิงคนนี้ขนาดนี้?ไม่ใช่เพราะว่าโม่เสี่ยวจุนหรอ?
ถ้ามีคนฆ่าเขาเย่เชินหลิน เขาจะเกลียดคนนี้ขนาดนี้ไหม?เธอไม่หรอก เธอไม่แน่นอน!
“ขอบคุณท่าน พี่เชินหลิน!”หวีซานซานเปิดปากพูดเบาเบา สีหน้ามีรอยยิ้ม ตายังมองที่เซี่ยชีหรั่น มีรอยยิ้มที่ชนะเล็กน้อย
ใจเซี่ยชีหรั่นเหมือนจะฉีกออกแล้ว ขอบคุณเขา?เขาปล่อยเธอไปแล้วจริงๆหรอ?
เธอไม่เชื่อ!ให้ตายเธอก็ไม่เชื่อ เย่เชินหลินจะไม่สนใจความรู้สึกเธอ แล้วปล่อยคนชั่วร้ายแบบนี้หรอ?
“อย่าเกรงใจ นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ พ่อของเธอหลายปีนี้ก็ทำงานกับพ่อฉัน แม้เธอจะก่อเรื่องอะไรเล็กน้อย พ่อเธอก็ขยันทำงานเพื่อประชาชนมาหลายปี ถึงว่าชดใช้ทางนี้แล้ว อีกอย่างเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด บอกว่าเธอฆ่าโม่เสี่ยวจุนนั้นเป็นแค่การเล่าลือ ฉันดูแล้วเหมือนจะไม่มีหลักฐานอะไรชัดเจน เธอโดนกล่าวหา แน่นอนจะต้องปล่อยเธอออกมา”
เซี่ยชีหรั่นขมวดคิ้วอย่างจริงจัง มองเย่เชินหลินอย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอกำหมัดไว้แน่น ระหว่างที่เย่เชินหลินบอกว่าหวีซานซานโดนกล่าวหา เธอทนต่อไปไม่ได้แล้ว เธอฟังไม่ลงแล้ว และไม่มีสติแล้ว!เธอไม่สามารถที่จะลืมตามองเย่เชินหลินปล่อยเธอไป ปล่อยคนที่ฆ่าน้องชายเขา!
“ไม่!”
เธอลุกขึ้นยืน ยื่นนิ้วมือออกมาชี้ไปทางหวีซานซาน พูดตะโกนออกมาเป็นตัวเป็นตัว:“ไม่!ไม่ใช่การเข้าใจผิด ไม่ใช่การกล่าวหา!คือเธอ!เธอฆ่าเสี่ยวจุน!เย่เชินหลิน!ท่านปล่อยเธอไปได้ยังไง?เธอฆ่าน้องชายของท่าน!เย่จื่อห้าน!น้องชายแท้ของท่าน!” 
เซี่ยชีหรั่นไม่คำนึงถึงอะไร ตื่นเต้นผิดปกติ ทุกคนต่างมองเธอด้วยความแปลก เย่เชินหลินยิ่งพูดไม่ออกว่าสีหน้าเป็นแบบไหน
“เธอพูดอะไรนะ พูดใหม่อีกรอบ!”เสียงของเย่เชินหลินน่ากลัวนัก เขาเน้นทุกคำพูดทุกตัว
เซี่ยชีหรั่นเงยหน้าขึ้นไปมา เธอไม่แคร์อะไรแล้ว เธอไม่สามารถให้เรื่องแก้แค้นวนไปวนมาแล้ว
เธอมองตาเย่เชินหลิน พูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัว:“ฉันบอกว่า เธอเป็นคนฆ่าโม่เสี่ยวจุน ฆ่าน้องชายของท่านเย่จื่อห้าน!ท่านไม่ควรปล่อยเธอ!ต้องให้เธอลงนรกให้ได้!ลงนรก!”
หวีซานซานคิดว่าตัวเองมีโอกาสใหม่ สามารถหนีผ่านการลงโทษตามกฎหมาย คิดไม่ถึงว่าเซี่ยชีหรั่นจะทำสิ่งที่น่าตกใจนัก ความรู้สึกนั้นบอกเธอ หวีซานซานเธอจบแล้ว!
เธอมองเซี่ยชีหรั่นอย่างเกลียดชัง กำมีดอาหารที่อยู่บนมืออย่างแน่น โยนออกไปทางหน้าของเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่ลังเล
เซี่ยชีหรั่นกำลังมองเย่เชินหลิน และเย่เชินหลินก็กำลังมองเธอ
ระหว่างที่สายตาของเย่เชินหลินเห็นมีดที่กำลังลอยมา ก็ไม่ทันห้ามหวีซานซานแล้ว ปฏิกิริยาแรกของเขาคือเข้าหาเซี่ยชีหรั่น เพราะระหว่างเขากับเซี่ยชีหรั่นตรงกลางยังมีส้งหลิงหลิง เขาเข้าหาเธอแล้วใช้แรงมากเกินไป ส้งหลิงหลิงล้มถอยไปข้างหลัง แม้แต่คนและเก้าอี้ก็ล้มลงไปที่พื้นพร้อมกัน
ท่าทีเขาเร็วนัก มีดแค่บาดโดนบริเวณไหล่แล้วตกลงบนโต๊ะ มีดที่ใช้ทานอาหารฝรั่งก็ไม่ได้คมมาก หวีซานซานแค่อยากใช้โอกาสที่เหลือแค่นี้บาดโดนหน้าของเซี่ยชีหรั่น ทำลายหน้าเธอ กลับคิดไม่ถึงว่าเย่เชินหลินจะเข้ามาบังให้ ระหว่างเสื้อ มีดนั้นแค่ทำให้เขาเจ็บ แต่ไม่ได้บาดเจ็บ
เซี่ยชีหรั่นเอนหลังกับมีดที่จะเข้ามาเจาะหน้าเธอ ดีที่จิ่วจิ่วยืนอยู่หลังที่ไม่ไกลจากเธอ แล้วรีบมาพยุงเธอไว้
เมื่อเย่เชินหลินลุกขึ้น หวีซานซานก็โดนผู้หญิงตัวสูงใหญ่ที่อยู่ข้างเธอจับไว้
“เอาเธอกลับไป!”เย่เชินหลินสั่ง หลังจากที่ผู้หญิงตัวสูงใหญ่สองคนขอโทษเย่เชินแล้ว ก็รีบจับหวีซานซานออกจากห้องอาหาร ตอนนี้ทุกคนและเซี่ยชีหรั่นเองก็รู้กันหมด ที่แท้คนที่นั่งถัดจากหวีซานซานคือตำรวจหญิงสองคน
ที่แท้เขาไม่คิดที่จะปล่อยหวีซานซาน แค่แสดงให้เธอเห็น แต่เธอตื่นตัวเกินไป จึงพูดเรื่องของโม่เสี่ยวจุนออกมา
“มานี่!”เย่เชินหลินนั่งกลับไปที่เดิมอีกครั้ง สั่งเซี่ยชีหรั่น
ส้งหลิงหลิงก็ลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างยุ่งเหยิง เย่เชินหลินไม่แม้แต่จะมองเธอ อย่าพูดถึงความเสียใจแค่ไหนในใจเธอเลย
เซี่ยชีหรั่นยืนขึ้น เดินมาถึงข้างเย่เชินหลิน มองเขา ตอนนี้เธอไม่ได้ตื่นตัวขนาดนั้นแล้ว
“เมื่อกี้สิ่งที่เธอพูดหมายความว่ายังไง?เธอมีหลักฐานอะไรว่าโม่เสี่ยวจุนคือเย่จื่อห้าน !ถ้าเธอกล้าโกหกฉันฉันไม่ปล่อยเธอไปแน่!”เย่เชินหลินก็ใจเย็นลงแล้ว แต่ใบหน้าและท่าทางของเขาเย็นชามากขึ้น น่ากลัวนัก แม้แต่เสียงยังซ่อนความสั่น
เขาไม่เคยไม่สงสัย เขาแค่ไม่ยอมเชื่อว่าน้องชายเขาจากไปแล้ว
พูดออกมาแล้ว ก็ไม่มีทางจะเก็บคำพูดกลับไปได้แล้ว ถ้าเธอตอนนี้บอกว่าเธอโกหกเขา ก็เหมือนที่เขาพูดเขาไม่ปล่อยเธอไปแน่
เซี่ยชีหรั่นสูดหายใจ พูดกับเขาเบาเสียง:“ถ้าโม่เสี่ยวจุนยังอยู่ ปีนี้ก็อายุ25ปี เขาโดนคนเก็บได้แล้วส่งไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตอนอายุ2ขวบ ฉันจำได้ฉันกับเขาอยู่บนดอยแล้วเห็นดอกไลแลค เขาก็บอกว่าเขาชอบกลิ่นนั้นมาก แล้วก็ หน้าตาเขา โดยเฉพาะตรงกระจับ เหมือนกับท่านมาก เขามักจะบอกกับฉัน เขาไม่ได้โดนพ่อและแม่ละทิ้ง เขาแค่เดินหลง เขาหาครอบครัวตัวเองมาตลอด แน่นอน พวกนี้ก็คือการเดาของฉัน ฉันไม่มั่นใจเต็มสิบ ถ้าท่านมีรูปภาพเขาตอนเด็ก ให้ฉันดูได้ ก็สามารถยืนยันได้”
เย่เชินหลินเมมปากไว้แน่น ไม่พูดอะไรสักพัก
ใช่ ครั้งแรกที่เขาเห็นโม่เสี่ยวจุนก็มีความรู้สึกที่คุ้นเคยอย่างหนึ่ง แม่เขาก็เหมือนกัน แล้วดอกไลแลค ก็คือเย่จื่อห้านเล็กชอบ
แต่ลักษณะพวกนี้ สามารถเป็นไปได้กับโม่เสี่ยวจุน และเป็นไปได้ที่เซี่ยชีหรั่นกลัวว่าเขาจะปล่อยหวีซานซานพ่อลูก ไปฟังมาจากที่อื่น หรือแต่งขึ้นมา
เขาหาน้องชายมานานขนาดนี้ เขาต้องระวัง โดยเฉพาะอีกฝ่ายยังไปจากโลกแล้ว ให้แม่เขารู้ ก็คงต้องเสียใจตายแน่นอน
“ได้แล้ว!ไม่ต้องพูดแล้ว!เรื่องวันนี้ ห้ามใครพูดขึ้นมาให้แม่ฉัน ได้ยินกันไหม?”
“ครับค่ะ!”ต่างคนในห้องอาหารตอบรับพร้อมกัน
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง ไม่รู้ว่าเชื่อกันแน่ หรือไม่เชื่อ
“ทานข้าวกันเถอะ!”เย่เชินหลินสั่ง จากนั้นเขาก็ยืนขึ้น ออกจากห้องอาหาร ไม่แตะอาหารบนโต๊ะสักคำ
เซี่ยชีหรั่นจะไปมีอารมณ์ทานข้าวที่ไหน เธอก็ลุกขึ้นตามเขา เธออยากอธิบายอีก ยิ่งพูดออกมาแล้ว เธอยิ่งเต็มไปด้วยความสงสัยว่าโม่เสี่ยวจุนคือเย่จื่อห้านจริงไหม บนโลกนี้มีเรื่องที่บังเอิญขนาดนี้จริงหรอ?
ถ้าผลสุดท้ายไม่ใช่ เขาจะโกรธขนาดไหน บางทีอาจจะไม่ให้อภัยเธอตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป 
เธอยิ่งเป็นห่วง ว่าเขาจะสั่งคนปล่อยพ่อลูกสองคนนั้น พอถึงเวลาเธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะห้ามเขาแล้ว
สองคนเดินหน้าเดินหลังผ่านห้องโถง ทันใดนั้นเย่เชินหลินก็หยุดฝีเท้า มองหน้าเธออย่างเยือกเย็น ถามเธอ:“ทำไมเธอไม่พูดเร็วกว่านี้ มาพูดในวันนี้และเวลานี้?”
“ทำไม?”เซี่ยชีหรั่นยิ้มแต่รอยยิ้มกลับค่อยๆมีน้ำตาออกมา
“ท่านบอกว่าทำไม?เพราะฉันกลัวพูดออกมา ท่านจะรู้ว่าน้องชายที่ท่านหามาหลายปีมานานนี้จากไปแล้วท่านจะเสียใจ!ฉันกลัวคุณแม่ท่านจะทนไม่ไหวกับเหตุการณ์แบบนี้ ท่านเขาจะเสียใจ”
ระหว่างพูดสิ่งนี้ออกมา ในใจเธอรู้สึกไม่สบายใจจริงๆ เธอดึงดันจะปิดความลับนี้ ก็แค่กลัวว่าจะทำให้พวกเขาเสียใจ ถ้าเธอเลือกที่จะพูดเร็วกว่านี้ เธอก็ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะไม่แก้แค้นให้โม่เสี่ยวจุน ไม่ต้องอยู่อย่างกังวลแบบนี้แล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset