สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่352 สาวใช้ตัวแสบ256

ตอนที่352 สาวใช้ตัวแสบ256
สายตาของเขาเหี้ยม น้ำเสียงยังเย็นชาเหมือนเดิม ใจเซี่ยชีหรั่นทนไม่ได้เจ็บแล้วเจ็บอีก
เธอถอนหายใจ เงยหน้ามองเขา ถามเขาเหมือนไม่มีความเศร้า:“ฉันบอกแล้ว ใช่!เขาคือเย่จื่อห้าน!ท่านคิดว่าฉันเป็นคนซ่อนรูปภาพนั้นใช่ไหม?ฉันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นจริงๆ ท่านเชื่อฉันสักครั้งไม่ได้หรอ?ในใจท่าน ฉันเป็นแค่คนที่พูดโกหกเป็นอย่างเดียวจริงหรอ!”
สายตาความน่าสงสารที่ละเอียดอ่อนของเธอทำให้ใจของเย่เชินหลินบีบแน่น เหมือนเมื่อคืน เขาอยากที่จะกอดเธอไว้มาก บอกเธอ เขาเชื่อเธอ
แต่รูปภาพหายแล้ว คือความจริง เธอมีสิทธิโกหกเขา เธอเคยทำเพื่อโม่เสี่ยวจุนเยอะขนาดไหน เธอมาที่นี่ก็เพื่อโม่เสี่ยวจุนอยู่แล้ว และสามารถไม่แคร์ชีวิตเธอเพื่อโม่เสี่ยวจุน โกหกจะไปยากอะไร?
เขาบังคับให้ตัวเองเย็นชาลง พูดออกมาอย่างไม่มีความรู้สึกใด:“ไม่มีรูปภาพก็ไม่เป็นไร เธอบอกว่าบ้านเด็กกำพร้ามีไฟล์ของเขาไม่ใช่หรอ?”
เขาแค่มองครั้งเดียวก็รู้คำตอบแล้ว พอถึงเวลาไม่ต้องการให้เธอมาบอกว่าใช่หรือไม่ใช่แล้ว 
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้สึกอับอายอะไรเลย เธอตอบว่าอืมอย่างเบาเสียง จับกระเป๋าไว้แล้วออกไปกับเขา  
“บ้านเด็กกำพร้าไหน?”บนรถ เย่เชินหลินถามเซี่ยชีหรั่น
“ชานเมืองเมืองหลินเจียงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถงซิง”
“ได้ยินหรือยัง?ชานเมืองเมืองหลินเจียงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถงซิง ขับเร็วหน่อย”เย่เชินหลินสั่งคนขับรถ
“ครับ คุณเย่!”
ระหว่างทางทั้งสองต่างสงบอย่างผิดปกติ เซี่ยชีหรั่นเพื่อความไม่เชื่อใจเธอ ไม่อยากมองเขาแม้แต่น้อย ในหัวสมองเย่เชินหลินยังคงคิดถึงหน้าตาเย่จื่อห้านตอนเด็กที่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ชานเมืองหลินเจียง ระยะทางนั่นห่างจากตงเจียงยังมีเส้นทางที่อีกยาว
เด็กอายุสองขวบ ความเป็นไปได้ที่เดินไปไกลขนาดนั้นน้อยมาก อีกอย่าง สถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าแถวนี้ตอนนั้นตระกูลเย่ก็หาหมดแล้ว แต่ไม่พบเย่จื่อห้าน
ผ่านระยะทางนั่งลงไปหลายชั่วโมง พวกเขาพึ่งถึงจุดหมาย—สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าถงซิง
บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้านี้ไม่ได้ใหญ่มาก แต่สไตล์ก็เก่าแล้ว
เซี่ยชีหรั่นมองประตูใหญ่ที่ปักตัวอักษรไว้ หยุดที่จะภูมิใจไม่ได้ เธอไม่ได้กลับมานานมากแล้วจริงๆ เมื่อก่อนเธอกำลังเรียน เธอและโม่เสี่ยวจุนต่างไม่มีเงิน อยากกลับบ้านเด็กกำพร้ายังต้องเปลี่ยนสายรถบัส ฉะนั้นก็เลิกความคิด อีกอย่าง แม่เลี้ยงดูเธออย่างเข้มงวดมาก เวลาพักผ่อนก็มักจะจัดการงานให้เธอทำ บางครั้งทำซอสพริก และมีบางครั้งจะเย็บปักถักร้อย ยังไงก็ตามเธอห้ามคิดที่จะพัก
ประตูบ้านเด็กกำพร้าล็อคไว้ เพราะกลัว เด็กๆจะวิ่งออกไป เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่ข้างนอกกดกริ่ง ไม่นานมีสตรีวัยกลางเดินออกมาจากข้างใน ถามเซี่ยชีหรั่นหาใคร
“คุณน้า ฉันเอง ฉันคือเซี่ยชีหรั่น”
หญิงนิ่งไปสักพัก จากนั้นก็ยิ้มหัวเราะ
“จริงด้วย!โตขนาดนี้แล้ว สวยจริงๆ สวยมาก!ฉันเคยบอกแล้วเธอคือคนที่สวยที่สุดในบ้านเด็กกำพร้าแล้ว!”เซี่ยชีหรั่นโดนคุณน้าพูดจนหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย
“นี่เป็นคนรักของเธอ? เขาพาเธอมารู้จักครอบครัวเธอหรอ?”คุณน้ามองเย่เชินหลินที่มีรูปหล่อ ดีใจแทนเซี่ยชีหรั่นจากใจจริงๆ
เย่เชินหลินเริ่มแรกทั้งทางไม่มีรอยยิ้ม แต่เห็นคุณน้าคนนี้แล้ว รู้ว่าเคยดูแลเซี่ยชีหรั่น แล้วพยักหน้าอย่างเคารพ เรียกเธอ:“สวัสดีคุณน้า ฉันมาเป็นเพื่อนเซี่ยชีหรั่น” 
“เข้ามาเข้ามา!”
คุณน้าพูดจบ นำกุญแจออกมาเปิดประตู ให้พวกเขาเข้ามา
“คุณน้า ประธานอยู่ไหม?”
“อยู่ ช่วงนี้ขาและเท้าท่านไม่ค่อยดีแล้ว ไม่ค่อยออกมา”
ใกล้จะได้เจอประธานแล้ว ในใจเซี่ยชีหรั่นเต็มไปด้วยความรู้สึกหลายแบบ แม้เธอไม่ได้ดูแลเซี่ยชีหรั่นเป็นพิเศษ ตอนนั้นเด็กเยอะ คนดูแลน้อย ความจริงแล้วเด็กทุกคนไม่มีอะไรพิเศษ มีแค่โม่เสี่ยวจุนที่ทุกคนต่างชื่อชอบ แม้เขาจะเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
ระหว่างเดินอยู่ที่ลาน จนถึงตอนนี้เซี่ยชีหรั่นยังคงกลั้นน้ำตาไว้ ไม่กล้ามองไปสักที่ เธอกลัว ทุกที่ของที่นี่จะมีภาพความทรงจำของโม่เสี่ยวจุน
เธอคาดหวังในการมาบ้านเด็กกำพร้าครั้งนี้ คือเสี่ยวจุนที่มากับเธอ สภาวะจิตใจแบบนั้น ต้องไม่เหมือนตอนนี้แน่นอน 
เสี่ยวจุน ฉันมาบ้านเด็กกำพร้าแล้ว เธอรู้ไหม?
ประธานอายุเยอะแล้ว ท่านไม่ค่อยเดินแล้ว แต่ถ้าท่านรู้ว่าเธอไม่อยู่แล้ว ต้องเสียใจมากแน่นอน ท่านจำได้ตอนนั้นโม่เสี่ยวจุนเป็นเด็กที่ทุกคนอยากรับเลี้ยง ที่จริงแล้วแล้วพวกท่านก็ไม่เต็มใจให้เขาไปไหน
คุณน้าช่วยเปิดประตูห้องสำนักงานประธาน ประธานนั่งอยู่บนเก้าอี้ ข้างๆมีไม้ค้ำยัน
เซี่ยชีหรั่นเห็นไม้ค้ำยันนั้น ในใจรู้สึกเศร้าโศกนัก หลายปีมานี้ เธอไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ่อยบ่อย มันไม่สมควรจริงๆ แม้จะมีเหตุผลมากแค่ไหน ก็ไม่ควรเป็นเหตุผล ประธานที่ดูแลเด็กเยอะขนาดนั้น แก่แล้วกลับไม่มีคนดูแล คิดแล้วก็ทำให้เธอรู้สึกเศร้ามาก
“ประธาน!”เซี่ยชีหรั่นเรียกออกมาด้วยเสียงที่สั่น ประธานที่ผมขาวแล้วหันหัวมา มองเธอด้วยความรัก ถามเธอ:“เด็กคนนี้……อา เธอคือชีหรั่น!”
“ประธาน ท่านยังจำฉันได้?ฉันเอง ฉันมาดูท่านแล้ว ขอโทษค่ะ ที่พึ่งมา…..”เซี่ยชีหรั่นพูดอยู่ เสียงก็ยิ่งสั่นมากขึ้น น้ำตาก็ไหลลงมาบนแก้มโดยไม่รู้ตัว
ประธานอยากจะยืนขึ้น เซี่ยชีหรั่นรีบวิ่งขึ้นไป บอกให้เธอนั่งแล้วพูด ไม่ต้องลุกขึ้น
เด็กที่นี่แม้จะเยอะ ทั้งมาและไปก็นับไม่ถ้วน อย่างไรก็ตามเด็กทุกคน ประธานก็รักและห่วงหมด ท่านก็อายุมากขึ้นแล้ว นานทีที่จะเห็นเด็กที่โตแล้วกลับบ้านมาเยี่ยม จับมือของเซี่ยชีหรั่นอย่างอัตโนมัติและพูดคุยกับเธอเป็นเวลานาน
เย่เชินหลินเองก็หาเก้าอี้นั่งอย่างสงบ ไม่มีท่าทีจะไปรบกวน เซี่ยชีหรั่นก็ไม่อยากที่จะเปลี่ยนเรื่อง จึงตอบคำถามของประธานอย่างเชื่อฟัง
“เขาเป็นคนรักเธอ?”ประธานเหมือนจะสังเกตเห็นเย่เชินหลินแล้ว
“ใช่!”
“ไม่ใช่!”
เซี่ยชีหรั่นและเย่เชินหลินเปิดปากพร้อมกัน คำตอบกลับไม่เหมือนกัน เซี่ยชีหรั่นบอกไม่ใช่ เย่เชินหลินกลับบอกว่าใช่ เธอไม่เข้าใจจริงๆ ในเมื่อเขาไม่ยอมเชื่อคำพูดเธอ แล้วทำไมต้องพูดโกหกแบบนี้
“ประธาน ฉันอยากดูข้อมูลของเสี่ยวจุน คือโม่เสี่ยวจุน เขายุ่งกับงาน….”
เซี่ยชีหรั่นพึ่งพูดถึงจุดนี้ แต่เห็นท่านประธานที่น้ำตากำลังไหล
“เธอเนี่ย ชีหรั่น เธอคิดว่าฉันไม่รู้หรอ?เขาตายแล้ว เด็กคนนั้นดีแค่ไหน….”
“ท่านรู้ได้อย่างไร?”ในขณะที่เซี่ยชีหรั่นถามคำนี้ เสียงเธอก็สั่นขึ้นมาอีกรอบ
“ฉันรู้!น่าจะปีที่แล้ว มีคนในเมืองมา บอกว่าโม่เสี่ยวจุนตายแล้ว ฉันถามพวกเขาว่าตายยังไงพวกเขาไม่บอก แต่พวกเขาบอกจะสืบ จึงนำข้อมูลของโม่เสี่ยวจุนไปหมดแล้ว”
“เธอบอกท่านฉันสิ เขาจากไปยังไง เธอกับเขาเดินมาด้วยกันไม่ใช่หรอ?พวกเธอเป็นครอบครัวเดียวกัน เธอต้องรู้แน่นอนว่าเขาไปยังไง”
เซี่ยชีหรั่นกัดฟันกลั้นน้ำตา ไม่อยากให้เย่เชินหลินเห็นเธอร้องไห้ไม่หยุดเพื่อโม่เสี่ยวจุนแล้ว
“เป็นอุบัติเหตุ ประธาน”
ประธานก็รู้ว่าคำนี้ของเซี่ยชีหรั่นแค่พูดพลางเป็นพิธี ถ้าเป็นอุบัติเหตุจริง จะมีเจ้าหน้าที่ทางการมาเอาข้อมูลได้ยังไง แต่ท่านก็อายุมากแล้ว แม้จะเป็นเรื่องอะไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้นจึงไม่ตามถามต่อไป
“ท่านประธาน ผมอยากถาม โม่เสี่ยวจุนมาบ้านเด็กกำพร้าประมาณปีไหน วันไหนท่านยังจำได้ไหม?เย่เชินหลินถาม
“ขอฉันคิดสักหน่อย”ท่านประธานคิดอย่างละเอียด พูด:“มียี่สิบกว่าปีแล้ว ยี่สิบสองยี่สิบสามปี ถ้าปีไหนฉันไม่รู้จำไม่ได้จริงๆ แต่ฉันจำได้ฤดูหนาว วันนั้นหนาวมาก นานนานทีเมืองพวกเราจะมีหิมะตก เขามาตอนวันที่หิมะตก”
“ฉันรู้แล้ว ขอบคุณท่าน!”
เย่เชินหลินออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็เงียบสงบมาตลอด โม่เสี่ยวจุนหายไปตอนฤดูใบไม้ผลิ แต่ท่านประธานกลับบอกว่าฤดูหนาว
เริ่มแรกเซี่ยชีหรั่นทำรูปภาพที่มีอยู่รูปเดียวหาย ยังไม่กระทบอะไร อย่างน้อยมีไฟล์เขายังสามารถยืนยันได้ ไฟล์ไม่มีแล้ว รูปนั้นเป็นรูปเดียวที่สามารถยืนยันหลักฐานได้ ก็ไม่มีแล้ว ดูท่าแล้วรูปภาพนี้ยิ่งหายอย่างแปลกแล้ว
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าเขาคิดยังไง เธอเองก็ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ เธอไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดว่าเธอมีแผนและความคิดไม่ดีแบบนั้น จากนั้นเธอก็คิดอย่างสงบ ถามเขาเบาเบา:“พวกเราไปดูที่โรงเรียนประถมเขาได้ไหม?”
แม้เวลาเสี่ยวจุนตอนนั้นและพึ่งเข้ามาในบ้านเด็กกำพร้าไม่เหมือนกัน แต่ผลก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก
เย่เชินหลินไม่ได้คัดค้าน หลังขึ้นรถ เซี่ยชีหรั่นพูดที่อยู่ของโรงเรียนประถม แต่ละคนข้าวก็ไม่ทาน ก็รีบไปโรงเรียนประถมแล้ว
เหมือนสถานการณ์เดียวกับบ้านเด็กกำพร้า รัฐบาลเมืองหลินเจียงเคยสั่งคนมา นำข้อมูลของโม่เสี่ยวจุนไปแล้ว
เซี่ยชีหรั่นไม่ตายใจ แล้วพูดชักชวนเย่เชินหลินไปโรงเรียนมัธยมต้นของโม่เสี่ยวจุน ก็ยังเป็นผลเหมือนเดิม
หน้าเย่เชินหลินยิ่งหมองลง เขามองใบหน้าเล็กที่มักทำให้เขาหวั่นไหวและเปลี่ยนความคิด จึงพูดอย่างเย็นชาขึ้นมา
“ต้องการให้ฉันไปโรงเรียนมัธยมปลายของเขา มหาลัยของเขา?ที่ทำงานของเขา ต้องการไหม?”
“ฉันไม่ได้โกหกท่าน!เมื่อก่อนฉันอาจจะได้แค่คาดเดา แต่ฉันเห็นรูปเขาแล้ว ฉันมั่นใจได้ โม่เสี่ยวจุนคือเย่…..”
“ห้ามเธอพูดชื่อน้องชายฉันออกมา!”เสียงเย่เชินหลินเย็นชา ทิ้งเซี่ยชีหรั่นไว้ เดินก้าวใหญ่ออกจากโรงเรียนมัธยมต้น
เซี่ยชีหรั่นรีบวิ่งตามออกมา เย่เชินหลินขึ้นรถแล้ว ประตูรถเปิด เธอก็เข้าไปในรถ
“กลับตงเจียง!”เย่เชินหลินสั่ง
เซี่ยชีหรั่นคิดแล้วยิ่งรู้สึกว่ารูปภาพนั้นหายอย่างไม่ปกติ เธออ้าปาก อยากจะพูดกับเย่เชินหลินเรื่องรูปภาพ สีหน้าของเขากลับดูเหมือนปฏิเสธเขาอย่างห่างไกล
เธอสูดหายใจลึกลึก ก็ดึงดันจะพูด:“คุณเย่ ฉันสงสัยว่ามีคนเข้าห้องฉันแล้วหยิบรูปภาพไป ไม่ใช่ฉันที่ตั้งใจทำหายจริงๆ ท่านเชื่อฉัน ถ้าไม่เชื่อ ก็ไปค้นภาพกล้องวงจรปิดที่ทางเดินฉนวนดู”
สีหน้าของเย่เชินหลินเย็นกว่าเดิม
“เธอนี่ละเอียดอ่อนจริงๆ เซี่ยชีหรั่น แม้แต่ในบ้านที่ไหนมีกล้องวงจรที่ไหนไม่มี ก็เข้าใจอย่างดีนี่”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset