สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 358 สาวใช้ตัวแสบ262

ตอนที่ 358 สาวใช้ตัวแสบ262
“เลขา รีบไปโอนเงินให้แม่ยายฉัน โอนหนึ่งแสน”
“เมื่อเงินเข้าบัญชีก็คงจะเชื่อได้แล้วมั่ง คุณแม่” เก่อต้าลี่เรียกคุณแม่ได้คล่องปากมาก ไป๋จงเจี๋ยก็รู้สึกดีมาก
ถ้าได้ลูกเขยคนนี้ ก็เหมือนมีบ่อเงินบ่อทอง เครื่องกดเงินสด ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว
“แต่คุณต้องส่งคนไปที่บ้านฉันก่อน หลังแต่งงาน ฉันถึงจะให้ส่วนที่เหลือกับคุณ ถ้าคุณรับเงินของฉันไปแล้ว จะไม่มีเหตุผลใดๆในการคืนกลับมา ฉันเป็นใครคุณคงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว”
ไป๋จงเจี๋ยพูดด้วยเสียงต่ำ “ฉันก็ไม่สามารถจับเธอมัดแล้วส่งให้คุณเหมือนกัน บอกคุณเช่นนี้ เธอยังเด็ก ตราบใดที่คุณสามารถหาวิธีที่จะให้เธอ…… อย่างไรก็ตามเธอเป็นคนหัวโบราณมาก ต่อไปคงจะอยู่กับคุณอย่างตายใจ ฉันจะคิดหาโอกาสให้คุณกับเธออยู่กันตามลำพัง หากเป็นเช่นนี้แล้วคุณยังไม่สามารถจัดการได้ จะมาโทษฉันรับเงินหนึ่งแสนของคุณไม่ได้นะ”
เก่อต้าลี่ยิ้มอย่างลึกลับ ใต้อำนาจเขามีผู้หญิงที่ดีบ้านไหนบ้างที่ไม่เคยถูกเขากดขี่ข่มเหง ไม่ว่าจะบริสุทธิ์แค่ไหน แค่ยาขวดเดียวก็หาทิศเหนือไม่เจอแล้ว
“ตามนี้ละกัน พรุ่งนี้คุยนักเธอมาให้ฉันที่บ้าน” เก่อต้าลี่พูดจบ เดินจากไปกับแม่ของเขา
เซี่ยชีหรั่นพบเก่อต้าลี่อีกครั้งที่ทางเดิน เขาเหมือนงูที่กำลังจ้องหนูตัวน้อยๆ ดวงตาสีเขียวอร่าม ถึงแม้เธอไม่ตั้งใจมอง ก็ยังรู้สึกได้ว่าคนคนนี้ผิดปกติ
กลับไปที่ห้องพักผู้ป่วย ทุกอย่างเป็นปกติ ไป๋จงเจี๋ยปกปิดได้มิดมาก คุณนายหัวหน้าข้างเตียงขวา มีความสุขมาก ในไม่ช้าความหวังที่สามีของเขาก็จะได้เลื่อนขั้นก็จะสมหวังแล้ว จะไม่ให้เธอดีใจได้อย่างไร
ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เธอก็แค่เชื่อมสัมพันธ์เล็กน้อย ยังหลงคิดว่าโชคดีจริงๆ ไม่สามารถหยุดมันได้
ไป๋จงเจี๋ยอยากกินโจ๊กจากร้านอาหารข้างๆนี้ บอกให้เซี่ยชีหรั่นไปซื้อให้ รอเธอไปแล้ว เธอจึงขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ที่บ้านของเก่อต้าลี่กับคุณนายหัวหน้าคิด
เธอคิดว่า จะบอกว่าไปงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อน แล้วพาเซี่ยชีหรั่นไปด้วย เธอคงไม่ปฏิเสธ
เซี่ยชีหรั่นซื้อโจ๊กกลับมาให้ไป๋จงเจี๋ยแล้ว เธอก็ทำเป็นทานสักสองสามคำ บอกว่าเพิ่งถามหมอไป เธอสามารถกลับบ้านได้แล้ว บอกให้เซี่ยชีหรั่นไปดำเนินเรื่องออกโรงพยาบาล
ความจริงไป๋จงเจี๋ยก็ไม่ได้ป่วยหนักอะไร หมอก็ต้องอนุญาตให้กลับบ้านได้ ขั้นตอนการออกโรงพยาบาลดำเนินเสร็จอย่างรวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นเรียกรถแล้วส่งแม่กลับบ้าน
เธอแปลกใจว่าทำไมไป๋จงเจี๋ยทำไมไม่พูดถึงเรื่องทำเงินหาย ด้วยนิสัยของเธอ ปกติเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอจะต้องบ่นไปอีกสิบปี
เมื่อทั้งสองกลับถึงบ้าน เซี่ยชีหรั่นพูดกับไป๋จงเจี๋ยว่า “แม่คะหนูไปซื้อข้าวสารก่อนะ ข้าวสารใกล้จะหมดแล้ว แล้วจะหาซื้ออาหารที่ย่อยง่ายๆมาให้ด้วย หมอบอกว่าสองสามวันนี้แม่ยังทานไปเรื่อยไม่ได้”
“ไปเถอะ ไปเถอะ” ไป๋จงเจี๋ยโบกมือ พูดอย่างหงุดหงิด
หลังจากโม่เว่ยปิงกลับมาตอนกลางคืน ตอนทานอาหารเย็น โทรศัพท์บ้านดังขึ้น ไป๋จงเจี๋ยแสร้งทำเป็นช้าและลุกขึ้นรับสาย
“อะไรนะ พรุ่งนี้ให้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านคุณหรือ ได้สิ ได้สิ ฉันรู้แล้ว รู้แล้ว”ไป๋จงเจี๋ยวางสายโทรศัพท์ เดินกลับมาที่โต๊ะอาหาร ขมวดคิ้วแล้วมองไปที่เซี่ยชีหรั่น
“อีนังหนู พรุ่งนี้ตอนเย็นฉันจะไปทานข้าวที่บ้านเพื่อน เธอไปกับฉันนะ พวกเราจะเล่นไพ่นกกระจอก ไม่มีคนดูแลหลานสาวเขา เธอไปช่วยดูแลหน่อยนะ”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกลำบากใจ เธอเป็นห่วงเย่เชินหลิน คิดว่าควรจะกลับไปได้แล้ว
“แม่คะ แม่แข็งแรงขึ้นมากแล้ว หนูจะต้องกลับไปแล้วค่ะ ตอนนี้หนูทำงานแล้ว ลานานไม่ได้” เซี่ยชีหรั่นคิดว่า โม่เสี่ยวหนงยังไม่ได้บอกเรื่องของเธอให้แม่ฟัง เหตุผลเพราะว่า โม่เสี่ยวหนงไม่ชอบให้ใครชมว่าพี่สาวของเธอดีกว่าเธอ สามารถจับลูกชายของประธานกรรมการได้ สำหรับพวกเขามันเป็นเรื่องที่เหนือฟ้า
“อะไรนะ เธอจะกลับแล้ว ฉันเลี้ยงเธอมาตั้งหลายปี ฉันไม่สบาย เธอจะไม่อยู่ดูแลฉันหลายวันหน่อยเหรอ เธอบอกฉันว่าเธอจะกลับแล้ว นี่คือลูกกตัญญูหรือ ไอ้คนอกตัญญู ไม่รู้คุณคน เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ”
“แม่คะ หนูไม่มีทางเลือกจริงๆ……..”
“ไม่ได้ ถ้าจะกลับ วันมะรืนนี้ค่อยกลับ อย่าคิดว่าฉันหายดีแล้ว ฉันจะบอกให้รู้ ฉันยังรู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่ ฉันจะเล่นไพ่นกกระจอก เพื่อทำให้ไม่ต้องคิดถึงมัน เธอเข้าใจไหม”
ไป๋จงเจี๋ยเริ่มไม่ใช้เหตุผล แต่เซี่ยชีหรั่นก็คิดแล้ว เย่เชินหลินก็ไม่ได้ตาม เธอก็ไม่ได้กลับมาบ้านนานแล้ว กระเพาะอาหารของเธอก็ยังไม่ค่อยหายดี เธอควรจะอยู่ดูแลอีกสักสองวัน
“ตกลงค่ะ แม่ ถ้าเจ้านายหนูไม่ตาม หนูจะกลับตอนเช้าของวันมะรืนนี้ แต่ถ้าเขาตาม หนูต้องรีบกลับไปนะ”
“นี่ค่อยน่าฟังหน่อย”
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าวันนี้เธอเหมือนกำลังตั้งตาคอยอะไรสักอย่าง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกดูมาเป็นครั้งคราว หลังทานอาหารเย็น เธอถึงรู้ว่าเธอกำลังรออะไร ที่แท้ก็รอเวลาสองทุ่มเพื่อโทรรายงานคนแซ่เย่นี่เอง
แม้ว่าจะไม่มีใครเห็น เธอคิดถึงตอนคุยโทรศัพท์กับเขา หน้าก็จะแดงโดยไม่รู้ตัว
โชคดีที่มีไป๋จงเจี๋ยคอยสั่งให้ทำ เวลาจึงผ่านไปเร็ว เดี๋ยวเธอก็ถูกใช้ไปซักผ้า เดี๋ยวก็ให้เธอไปช่วยเก็บตู้เสื้อผ้า เซี่ยชีหรั่นไม่อยู่ ตู้เสื้อผ้าก็เลยยุ่งๆ ดังนั้นเธอจึงตั้งใจเก็บตู้เสื้อผ้า ก็เกือบๆสองทุ่มแล้ว
“ถูพื้นด้วย” ไป๋จงเจี๋ยสั่ง
“ได้ค่ะ” เซี่ยชีหรั่นตอบรับ แล้วก็ไปซักผ้าถูพื้น เธอเริ่มถูตั้งแต่ห้องของโม่เสี่ยวหนง เธอไม่อยากโกหก แค่ไม่อยากให้ไป๋จงเจี๋ยตะโกนเสียงดัง รบกวนเธอคุยโทรศัพท์กับเย่เชินหลิน
นอกจากนี้อารมณ์ไม่ดีของเขา ถ้าได้ยินไป๋จงเจี๋ยปฏิบัติกับเธอเช่นนั้น คาดว่าเธอต้องได้กลับตระกูลเย่ทันที หรือไม่ก็อาจจะไม่ให้เธอติดต่อกับคนในตระกูลโม่อีก
ถึงแม้พวกเขาจะไม่ดีแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นครอบครัวของเธอ เธอจำเป็นต้องกตัญญูต่อพวกเขา จะให้พวกเขามีความสุขในภายภาคหน้าด้วย
เธอค่อยๆปิดประตู ดูว่าได้เวลาสองทุ่มหรือยัง รีบโทรไป ความจริงคนแซ่เย่ก็รอนานแล้ว ในใจคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ซื่อเกินไปไหม เขาบอกว่าให้โทรมารายงานตอนสองทุ่ม เธอก็จะต้องสองทุ่งตรงไม่ขาดแม้แต่นาทีเดียว จะโทรก่อนก็ไม่ได้หรือไง
ยังบอกว่าคิดถึงเขา ถ้าคิดถึงจริงๆ ในหนึ่งวันก็ต้องโทรมาหลายๆรอบแล้ว คุยกันเป็นสิบกว่าชั่วโมงก็ไม่รู้สึกเบื่อ
เขาสัญญาว่า ถ้าเธอกลับมาตระกูลเย่รอบนี้ จะไม่ให้เธอไปไหนอีก จะให้เธออยู่ในทาวเฮาส์ตลอด24ชั่วโมงเลย เขาอยากเจอก็จะได้เจอ ไม่ต้องโทรศัพท์หา รู้สึกว่ามันเสียเวลามาก เจ้าเล่ห์เกินไป
โทรศัพท์ดังนานมาก เย่เชินหลินจึงจะค่อยๆรับสาย พูดแบบไม่รีบร้อนอะไร “ฮัลโหล”
ถึงแม้เขาจะส่งเสียงแค่ฮัลโหลแค่คำเดียว เสียงที่แข็งแกร่งยังทำให้หัวใจของเซี่ยชีหรั่น สั่นไหวอย่างมีความสุข
เธอกัดริมฝีปาก พูดเบาๆว่า “ฮัลโหล”
“วันนี้เจอผู้ชายบ้างไหม” เขาถามอย่างเย็นชา
“มี”
เขาขมวดคิ้ว มีจริงหรือ ดีที่เธอกล้าพูด
“ผู้ชายแบบไหน อายุเท่าไหร่ น่าสนใจไหมสำหรับคุณไหม” เขาถาม
ไม่รู้ทำไม เมื่อเซี่ยชีหรั่นเห็นเก่อต้าลี่คนคนนี้ ในใจรู้สึกไม่สบายใจ แม้ว่าเขาจะไปเพื่อเยี่ยมคนไข้ข้างเตียงของแม่บุญธรรมของเธอ ความจริงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย แต่เธอกลับรู้สึกแปลกๆ
“ฉันไม่ได้ใส่ใจอายุเขา แต่ก็น่าจะประมาณสามสิบ”
ชายหนุ่ม เส้นประสาทของคนแซ่เย่แน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“เล่าต่อไป เขาทำอะไร ทำไมคุณถึงเจอเขาได้” นี่ไม่ใช่น้ำเสียงของการถามเพราะความสงสัย แต่เป็นน้ำเสียงของคำสั่ง แต่เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ได้ใส่ใจ เธอไม่สบายใจ อยากจะบอกเขา ไม่ได้จะปิดบังอะไร
“เขามาเยี่ยมคุณน้าที่อยู่ในวอร์ดเดียวกันกับแม่ฉัน คุณน้าคนนั้นยังแนะนำให้ฉันรู้จักเขา เหมือนจะตั้งใจบอกว่าเขาเป็นคนร่ำรวยและมีอำนาจ ฉันได้ยินมาว่าเขาชื่อเก่อต้าลี่ เป็น……”
“เก่อต้าลี่” เย่เชินหลินเน้นเสียง…..
“คุณรู้จักหรือ” เซี่ยชีหรั่นเน้นถาม
เธอเพิ่งนึกได้ว่า เก่อต้าลี่มีญาติอาวุโสที่เมืองหลินเจียง ทั้งเมืองตงเจียงผู้อาวุโสก็มากนัก คิดว่าเย่เชินหลินน่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของคนคนนี้มาบ้าง
เย่เชินหลินรู้สึกคุ้นๆหู เหมือนเคยได้ยินคนอื่นพูดถึงบ้าง แต่ก็นานมาแล้ว โดยทั่วไปเขาก็ไม่ชอบการนินทา จึงไม่ได้สนใจ
“เขาพูดอะไรกับเธอบ้าง” เย่เชินหลินถาม
“ไม่ได้พูดอะไร แค่คนข้างเตียงแม่ฉันบอกให้ฉันไปช่วยเทน้ำร้อนให้เขา เธอก็แนะนำให้ฉันรู้จัก บอกว่าเป็นเจ้าของบริษัทอะไรสักอย่าง ยังบอกว่าเป็นหลานชายของใครสักคน ฉันก็แค่ทักทายเขาตามมารยาท ฉันไม่ได้จับมือเขา เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เยี่ยมคุณน้าคนนั้นแล้วก็กลับไปแล้ว”
เซี่ยชีหรั่นรายงานสถานการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบอย่างละเอียดให้กับเย่เชินหลิน เย่เชินหลินคิดว่า นับว่าเธอยังรู้ตัว ไม่จับมือกับเขา มิฉะนั้นกลับมา ดูว่าฉันจัดการคุณอย่างไร
“ทำไมคุณน้าที่อยู่เตียงข้างๆต้องแนะนำให้เขารู้จักคุณ มันยังไงกัน หรือต้องการจับคู่ให้คุณ” น้ำเสียงของเย่เชินหลินฟังดูไม่ค่อยพอใจ เซี่ยชีหรั่นทั้งอารมณ์ดีและตลก รู้ว่าสุภาพบุรุษคนนี้เป็นคนขี้หึง หึงมากอีกแล้ว จริงๆแล้วในใจของเธอมีแต่ความรู้สึกที่หวานชื่นมาก
ถึงแม้สายตาของเก่อต้าลี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ แต่เขาก็เป็นแค่คนแปลกหน้า ก็แค่กล่าวสวัสดีเท่านั้น เรื่องจับคู่อะไรนั้น เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ก่อนจะโทรหาเขา เธอยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ หลังจากได้ยินเสียงของเขา เธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาก แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีความสุขและสะสบายใจมากแค่ไหน
“ไม่มีหรอก คนอื่นก็แค่พูดไปงั้นๆหล่ะ บางทีเขาอาจจะแค่ต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนมีอำนาจในท้องที่นั้นมั่ง เขามีสถานะมั่ง” เธอพูดเบาๆ
“คุณจะกลับมาเมื่อไหร่ ถ้าอยากจะกลับมาคืนนี้ ฉันจะให้หลินต้าฮุยไปรับคุณ”
คนแซ่เย่อยากเจอผู้หญิงบางคนมาก แต่ไม่ต้องการบอกเธอโดยตรงว่าอยากเจอเธอ บอกแค่ว่าถ้าเธอต้องการกลับมา เขาจะส่งคนไปรับ เช่นนี้เหมือนจะรักษาความหยิ่งในศักดิ์ศรีของเขาได้
แน่นอน เขาพูดเช่นนี้ เซี่ยชีหรั่นก็เข้าใจความหมายของเขา เธอก็อยากกลับไป แค่แยกกันวันสองวัน เธอรู้สึกว่าเหมือนไม่ได้เจอเขามาเป็นเวลานานมากแล้ว ดูเหมือนทรมานยิ่งกว่าครั้งก่อนที่เขาไปสหรัฐอเมริกาอีก นี่หมายความว่า ความต้องการที่เธอมีต่อเขามากขึ้นหรือเนี่ย
สิ่งที่ทำให้เธอพอใจมากที่สุดคือ เขายังมีการขอความคิดเห็นของเธอ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงจะออกคำสั่ง ให้เธอกลับไปทันที ถ้าเป็นเช่นนั้น เธอมีสิทธ์แค่ทำตาม

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset