สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่368 สาวใช้ตัวแสบ 272

ตอนที่368 สาวใช้ตัวแสบ 272
“ตามไปดูกับฉัน” เย่เชินหลินสังเกตเห็นการแสดงออกของเซี่ยชีหรั่น กระซิบเบาๆแล้วลุกขึ้นยืน
จากนั้นทั้งสองได้เข้าไปในห้องนอนของเย่เชินหลิน โดยมีเซี่ยชีหรั่นเดินตามอยู่ด้านหลัง พร้อมปิดประตู
เย่เชินหลินเม้มปากแน่น ในขณะที่ยื่นมือออกไปเพื่อแกะซองเอกสาร ในใจเต็มไปด้วยความเศร้าสลดและเร้าใจ เย่จื่อห้าน นายตายไปแล้วจริงๆเหรอ พี่จะไม่ได้เจอนายอีกแล้วใช่มั้ย
แม้แต่ผู้ชายที่ไม่เคยมีน้ำตาไหลออกมาอย่างเขา ขณะนี้เริ่มที่จะร้องไห้
“หลิน งั้นก็ไม่ต้องดูแล้ว!” เซี่ยชีหรั่น คว้ามือของเย่เชินหลินไว้
เธอสงสารเขา เธอสงสารเขาจริงๆ เธอไม่ต้องการให้เขาต้องเผชิญหน้ากับผลตรวจนั่น
ซองเอกสารถูกเปิดออก เย่เชินหลินหยิบเอกสารแผ่นบางๆออกมาจากซอง เขามองเอกสารผลการตรวจนั้นอย่างเรียบนิ่ง มือของเขาสั่นด้วยความตื่นเต้น
“อย่าดูเลย!” เซี่ยชีหรั่น สงสารเขา คิดจะยื่นมือไปปิดตาเขาไว้ แต่เขาก็ได้เห็นตัวเลขตัวหนานั่นแล้ว
เขาปฏิบัติต่อเธอด้วยความจริงใจ เขาไม่สงสัยในตัวเธออีก ดังนั้นเขาก็ไม่มีความสงสัยใดๆกับผลตรวจนี้อีก
ว่าแต่เลขศูนย์นั่นหมายถึงอะไรกัน
เขาจับมือของเธอออก แต่ผลตรวจนั้น มันทำให้เขายิ่งสั่นสะท้าน
เขาไม่อยากจะเชื่อ เมื่อดูผลตรวจนั้นอีกครั้ง บนนั้นเขียนระบุอย่างชัดเจน ตัวอย่างทั้งสองมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด 0.0000001%
ใบหน้าเขาเริ่มซีด มือที่สั่นนั้นได้ยื่นผลตรวจส่งให้กับเซี่ยชีหรั่น “นี่มันคืออะไรกัน”
มันไม่ใช่เหรอ เซี่ยชีหรั่นเริ่มรู้สึกมีลางไม่ดีเกิดขึ้นในใจ เธอสั่นเทิ้มเมื่อเห็นผลจากห้องปฏิบัติการในมือ เลขศูนย์ที่จำนวนมากนั้น มันเกือบจะบอกได้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเลย
เธอมองไปยังเย่เชินหลินอย่างไม่อยากจะเชื่อ สั่นหัวราวกับกลองที่ถูกตี
“ฉัน ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น! ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ! ฉันได้เห็นภาพถ่ายของเย่จื่อห้านแล้ว นั้นคือเสี่ยวจุนแน่นอน ฉันไม่ได้โกหกคุณ หลิน มันต้องผิดพลาดแน่ๆ นี่เป็นตัวอย่างจากศพของเขากับตัวอย่างของเธอ…..”
“พอได้แล้ว!” เย่เชินหลินพูดออกไป แล้วจ้องมองเธออย่างดุเดือด มือของเขาจับคางของเธอโดยไม่รู้ตัว
“เซี่ยชีหรั่น! เธอนี่มันแน่จริงๆ” เขาพูดไปอย่างจงเกลียดจงชัง แทบอยากจะบีบขยี้คางของเธอ
เขาเคยบอกไปแล้ว ถ้าเธอกล้าที่จะโกหกเรื่องน้องชายของเขา เขาก็จะทำให้เธอต้องตายทั้งเป็น เขาคิดว่าถ้าพูดแบบนี้เธอคงไม่กล้าที่จะโกหกเขา ใครจะรู้ว่าเพื่อโม่เสี่ยวจุนแล้ว เธอกล้าที่จะทำทุกอย่างจริงๆ ท้าทายเขา ล่อลวงเขา ยั่วยวนเขา แม้กระทั่งเพิ่งจะบอกว่ารักเขา
จริงๆเธอไม่อยากจะพูดมันตั้งแต่แรกไม่ใช่เหรอ
เธอกลัวว่าถ้าผลตรวจออกมาแล้วเธอจะถูกเฉยเมย ดังนั้นก็เลยแสร้งทำเป็นหึงส้งหลิงหลิง แสร้งทำว่าอยากจะมีลูกกับเขา แสร้งทำว่ารักเขา ความคิดของเธอนี่ช่างแยบยลจริงๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอจะไม่ยอมให้เขาดูผลตรวจนั่น เธอคงคิดว่าหลอกให้เขาเชื่อได้แล้วใช่ไหม
“ฉันไม่ได้ทำ คุณเชื่อฉันเถอะ ฉันไม่ได้โกหกคุณ ผลตรวจนี่ผิดพลาดแน่ๆ ต้องมีใครทำให้เป็นแบบนี้แน่ๆ” เซี่ยชีหรั่นพยายามอธิบายอย่างใจจดใจจ่อ โดยไม่ได้สนใจคางที่เริ่มปวด เธอคิดแต่เพียงจะบอกเขาว่าเธอไม่ได้โกหกเขา เขาไม่อยากจะโกรธเธอ เธอไม่ได้โกหกเขาจริงๆ
“มีคนทำอย่างนั้นเรอะ” เย่เชินหลินเยาะเย้ยถากถาง
เขาให้คนที่เขาไว้วางใจที่สุดจัดการกับเรื่องนี้ ตัวอย่างจากศพนั้นหลินต้าฮุยก็เป็นคนขโมยมา จะผิดพลาดได้อย่างไร
“มีคนทำแน่ๆ รูปถ่ายนั่นก็ไม่มีแล้ว ต้องเป็นส้งหลิงหลิงแน่นอน หล่อนไม่อยากให้คุณ ฉัน และโม่เสี่ยวจุน มีส่วนเกี่ยวข้องกัน”
“ใช่เหรอ” สีหน้าของเย่เชินหลินยิ่งเยือกเย็น
เธอยังพูดแบบนี้ออกมาได้ ดูเหมือนว่าเขาจะดูเธอผิดไปจริงๆ
“หลิน คุณเชื่อฉันสิ รูปถ่ายนั่นก็ไม่อยู่แล้ว ต้องเป็นส้งหลิงหลิงส่งคนมาขโมยไปแน่ๆ คุณไม่รู้หรอกเธอเป็นคนมีความพยายามขนาดไหน ครั้งก่อนที่คุณไม่อยู่บ้าน เธอใช้ให้ฟางลี่น่าเอาของที่คนงานกินเหลือ มายัดเยียดให้ฉันกิน ฉัน…” เซี่ยชีหรั่นคิดจะอธิบาย แต่เธอก็กังวลจนไม่รู้ว่าท้ายที่สุดจะพูดอะไร เย่เชินหลินเพิ่งจะเชื่อไปว่าเธอเป็นคนผิด เธอยิ่งกังวล ยิ่งวุ่นวายใจมากขึ้นทุกทีจนพูดอะไรไม่ถูก
เย่เชินหลินรู้สึกปวดใจ ความรู้สึกทั้งหมดที่เขามีต่อเธอ ดูแลเธออย่างทะนุถนอม ทั้งหมดกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้ว
เย่เชินหลิน นายเป็นคนที่ถูกผู้หญิงล่อลวงและหลอกใช้ได้ง่ายขนาดนี้!
“เธอออกไป!”
เย่เชินหลินสะบัดเธอทิ้งไป เขาไม่ต้องการฟังคำโกหกของเธออีก และก็ไม่อยากจะเห็นหน้าเธอ
เซี่ยชีหรั่นเกือบจะล้มลง เมื่อเธอประคองตัวนิ่งได้ ก็ยังคงพูดออกไปอย่างไม่ยอมแพ้ “หลิน ฉันขอร้องคุณหละ เชื่อฉัน! ฉันพูดจริงๆ ไม่ได้โกหกคุณเลย! โม่เสี่ยวจุนเขาเป็นน้องชายของคุณ ไม่มีทางพลาดได้ รูปถ่ายนั่นฉันก็เห็นมันแล้ว!”
“ไสหัวไป!” เย่เชินหลินดูเหนื่อยมาก แม้ว่าไสหัวไปสามคำนั้น ออกเสียงไม่ได้สูง แต่ก็ทำให้เซี่ยชีหรั่นอดที่จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้
นี่มันเรื่องอะไรกัน
พวกเขาไม่ใช่ว่ายังดีดีกันอยู่เหรอ
สองวันมานี้ พวกเขาไม่มีเรื่องบาดหมางอะไรกันเลย เธอยังบอกรักเขา เขาไม่ได้มีความสุขหรือ
เพราะอะไรถึงมีผลแบบนี้!
เธอไม่ยอมไป ยังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างไม่ไหวติง
เธอมองไปที่เขาด้วยน้ำตาคลอเบ้า พูดไปอย่างเบาๆ “คุณไม่เชื่อฉันจริงๆเหรอ คุณไม่รู้สึกถึงความจริงใจของฉันเลยเหรอ ฉันรักคุณนะ ฉันรักคุณ! ฉันรักคุณจริงๆนะ!”
“ไสหัวไป!” จู่ๆเย่เชินหลินก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น กรีดร้องใส่เธออย่างหนัก
“อย่ามาพูดคำพูดจอมปลอม ว่าฉันรักคุณอีก! ออกไป!”
ส้งหลิงหลิงค่อยๆเดินผ่านห้องโถงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เดินไปยังทางเดิน โดยมีแม่บ้านสองคนเดินตามหลัง
ได้ยินเสียงตะโกนร้องด้วยความโมโห ดังออกมาจากห้องของเย่เชินหลิน เธอยกมุมปากขึ้น ดูสิ เธอเคยบอกไว้แล้วว่าพวกเขาหวานกันได้ไม่นานหรอก
ประตูห้องของเย่เชินหลินเปิดออก เซี่ยชีหรั่นเดินน้ำตานองหน้าออกมาจากห้องนั้น ส้งหลิงหลิงมองไปที่เธอ มุมปากเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและความสุขจากชัยชนะ
น้องหรั่นนะน้องหรั่น ร้องไห้ทำไมกัน นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นนะ
ส้งหลิงหลิงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร ได้เพียงแต่มองไปยังเซี่ยชีหรั่น แล้วก็เดินต่อไปยังห้องรับแขก
เซี่ยชีหรั่นในตอนนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ในใจรู้สึกน้อยใจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่พูดอะไรไป เย่เชินหลินก็ยังไม่เชื่อ เธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้เขาเชื่อ ผลตรวจนั้นมีปัญหาแน่นอน เธอเชื่อในสายตาของตนเอง เธอไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่าโม่เสี่ยวจุนรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร รูปถ่ายของเย่จื่อห้านตอนเล็กๆ ก็คือโม่เสี่ยวจุนอย่างชัดเจน
เธอกลับไปยังห้องและนั่งลงบนเตียงอย่างอิดโรย
ภายในห้องดูเยือกเย็นเพราะไม่มีคนอยู่มาสองสามวัน เหมือนกับใจเธอในตอนนี้
เธอรู้ดี เธอรู้มาตลอดว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขาหอมหวานได้ไม่นานแน่นอน ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ของเธอถูกต้อง เธอไม่คิดจะจากเขาไปอีก และต้องการจะเก็บทุกๆเวลาทุกๆวินาทีที่อยู่ด้วยกัน ไม่ให้เปล่าประโยชน์
เพราะอะไรมันถึงเร็วแบบนี้
น้ำตาของเธอตอนนี้ไหลจนหยุดไม่ได้ จนต้องเช็ดแล้วเช็ดอีก
ไม่รู้ว่าผ่านมานานเท่าไรแล้ว อาจจะหนึ่งหรือสองชั่วโมง ก่อนที่เธอจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ เธอพูดกับตัวเอง อย่าไปตำหนิเขา ที่เขาไล่เธอออกมา ที่เขาพูดจาไม่น่าฟังแบบนั้น ก็เพียงเพราะเขากำลังโกรธ กลับกันหากเป็นเธอที่ได้เห็นผลตรวจแบบนั้น ก็คงจะโกรธแน่ๆเหมือนกัน
ต้องเป็นส้งหลิงหลิง ! หากเป็นส้งหลิงหลิงทำลงไปจริงๆ เธอจะไม่ยอมให้หล่อนทำได้สำเร็จ
เธอควรที่จะเข้มแข็งและหาเบาะแส และเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกับเขา แม้ว่าจริงๆแล้วจะไม่สามารถหาข้อเท็จจริงใดๆมาได้ ดูเหมือนว่าผลลัพธ์ทั้งหมดจะชัดเจนแล้ว แต่เธอยังคงคิดที่จะหาวิธีการเปลี่ยนแปลงมัน
ชีหรั่น!” “ฉันเอง จิ่วจิ่ว!” จิ่วจิ่วส่งเสียงเรียกพลางเคาะประตู
“เข้ามาสิ!”
จิ่วจิ่วเปิดประตู พบว่าภายในห้องไม่ได้เปิดไฟเลยสักดวง ก็เลยยื่นมือไปเปิดไฟให้เซี่ยชีหรั่น
มือของเธอถือถาดที่มีแก้วอยู่หนึ่งใบ ในแก้วเต็มไปด้วยยาจีน โดยมีหมอห่าวเดินตามหลังจิ่วจิ่วเข้าไปด้วย
เซี่ยชีหรั่นไม่ต้องถามอะไร ก็รู้ว่าเย่เชินหลินบอกให้จิ่วจิ่วไปแจ้งหมอห่าว เพื่อต้มยามาให้
เธอไม่ตำหนิหรือถือโทษเย่เชินหลิน แต่ในใจของเธอก็ยังรู้สึกเศร้า
“ชีหรั่น เกิดอะไรขึ้นหนะ เมื่อตอนช่วงอาหารเย็น พวกเธอยังดีๆกันอยู่เลย เจ้าหลินต้าฮุยนั่น เอาผลตรวจอะไรมาเหรอ เพราะสิ่งนั้นรึเปล่าที่ทำให้พวกเธอทะเลาะกัน” จิ่วจิ่วถามด้วยความเป็นห่วง
ดวงตาของเซี่ยชีหรั่นเริ่มแดงก่ำ รู้สึกหนักอึ้งอยู่ในใจ แต่ยังคงฝืนยิ้มแล้วบอกไป “ไม่มีอะไร เอายามาให้ฉันเถอะ”
เธอรับยามา ก็มีความรู้สึกว่าแก้วยานี้หนักเหลือเกิน
เงยหน้าขึ้นมอง ดื่มยาจนหมดก็คงจะไม่สามารถมีลูกได้อีก บางทีเธอและเขาอาจไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกแล้ว
แต่เธอก็ยังไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น อีกนิดเดียว พวกเขาก็จะมีความสุขกันแล้ว พระเจ้า ถ้าไม่อยากให้พวกเขารักกัน ทำไมต้องมาให้ความหวังเธอด้วย หรือจะพูดได้ว่าต้องการเพียงให้เธอพยายาม พวกเขาก็สามารถมีความสุขได้อย่างนั้นเหรอ
“คุณเซี่ยครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวก่อน” หมอห่าวพูดเบาๆ เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า พูดว่า ”ขอบคุณค่ะ ลำบากคุณแล้ว”
หมอห่าวออกไปแล้ว จิ่วจิ่วก็ยังไม่สบายใจ ยังคงยืนอยู่หน้าเตียงของเซี่ยชีหรั่น เธอถามขึ้นอีกครั้ง “สรุปว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเธอยังอยากคบฉันเป็นเพื่อน ก็บอกฉันมา!”
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจ
“ได้ ถ้าเธออยากจะฟัง ฉันก็จะบอกเธอ วันนั้นบนโต๊ะอาหาร ฉันได้บอกว่าเย่จื่อห้านก็คือโม่เสี่ยวจุน เย่จื่อห้านเป็นลูกชายที่หายตัวไปของตระกูลเย่ และก็เป็นน้องชายของคุณเย่ ฉันสงสัยมาตลอดว่าโม่เสี่ยวจุนก็คือเย่จื่อห้าน เพราะเขาและเย่จื่อห้านก็ต่างชอบดอกไลแลคเหมือนกัน ไหนจะอายุของเขาที่เท่ากัน รูปร่างหน้าตาของเขาก็คล้ายกับคุณเย่ ครั้งก่อน หลังจากที่ฉันพูดเรื่องนี้ขึ้นที่โต๊ะอาหาร คุณเย่ก็เอารูปถ่ายตอนที่เย่จื่อห้านยังเล็กมาให้ฉันดู ฉันยืนยันได้เลยว่านั้นคือเขาแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าทำไมก่อนที่เราจะเอารูปถ่ายไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อจะยืนยัน รูปนั่นก็หายไปแล้ว จากนั้นก็ได้ยินว่าศพของเสี่ยวจุนยังมีตัวอย่างถูกเก็บรักษาไว้ คุณเย่ได้ขอให้ทำการตรวจ ตอนนี้เธอเห็นรึยังว่าผลการตรวจที่ผู้ช่วยหลินเอามาส่งให้ มันออกมาเป็นยังไง”
“ไม่ใช่งั้นเหรอ ผลออกมาว่า โม่เสี่ยวจุนไม่ใช่เย่จื่อห้านงั้นเหรอ” จิ่วจิ่วถาม
เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ไม่ใช่! ฉันก็คิดว่ามันแปลกมาก เธอเชื่อฉันมั้ย ฉันไม่ได้โกหกเขา!”
“ฉันเชื่อเธอ ชีหรั่น ฉันเชื่อเธออยู่แล้ว แต่คุณเย่เขาไม่เชื่อเธอแล้วแน่นอน จะทำยังไงดี รูปถ่ายก็ถูกคนแซ่ส้งนั่นเอาไปแล้วแน่ๆ มันคือนางมารร้ายจริงๆ! ทำไมมันยังไม่ตายสักที!” จิ่วจิ่วโกรธจนแทบอยากจะออกไปหาตัวส้งหลิงหลิง แต่เธอก็รู้ว่าเธอทำก็ไม่มีประโยชน์

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset