สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่366 สาวใช้ตัวแสบ 270

ตอนที่366 สาวใช้ตัวแสบ270
“เจ้าหนู มานี่หน่อยสิ หนูคิดว่าฉันเป็นลุงหรือว่าเป็นพี่ชาย ตอบถูก คราวหน้าพี่ชายจะซื้อของเล่นมาให้” เจ้าคนแซ่เย่รู้สึกว่าหากได้ชื่นชมและเอารางวัลมาล่อเธอ เจ้าหนูน้อยก็คงจะประเมินเขาดีขึ้น จึงเรียกเธอมาหา
ใครจะรู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์มาก คิดอย่างไรก็กล้าที่จะพูดออกมาแบบนั้น
“คุณลุง หนูคิดว่าคุณเป็นคุณลุง”
เซี่ยชีหรั่นหัวเราะจนท้องแข็ง จนลุกไม่ไหว รู้สึกหมั่นเขี้ยวกับเรื่องที่เย่เชินหลินได้ทำ คิดในใจ คุณคอยดูว่าฉันกลับไปจะจัดการยังไงกับคุณ ให้คุณไม่ช่วยเหลือฉัน
ตอนนี้ทุกคนต่างหัวเราะออกมา ทันใดนั้น มีวัยรุ่นอาสาสมัครคนหนึ่งได้เดินออกมาถามผู้อำนวยการว่า “เหมือนจะได้ยินใครบางคนพูดเซี่ยอะไรนะ ใช่เซี่ยชีหรั่นรึเปล่า” เมื่อวานมีผู้ชายคนหนึ่งได้โทรมาถาม ว่าที่นี่มีคนชื่อเซี่ยชีหรั่นมั้ย”
เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นต่างก็ตกใจ และมองไปยังอาสาสมัคร ในใจคิดว่าใครกันที่มาตามหาเธอ
เมื่อไม่นานมานี้เซี่ยชีหรั่นได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนอยู่หลายคน อีกทั้งพวกเขายังเป็นคนมีตำแหน่งสูง เกรงว่าคงจะมีคนหลายกลุ่มที่ต้องการจัดการกับเธอ
เย่เชินหลินได้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและตอบกับผู้อำนวยการไปว่า “ช่วงนี้เธอไม่ค่อยสะดวก ถ้าใครต้องการตามหาเธอ ห้ามพูดว่าเธอเคยมาที่นี่”
เขาต้องการปกป้องเธอและกลัวว่า ถ้าหากวันหนึ่งเธอเกิดคิดที่จะมาที่นี่เพียงลำพัง หากเกิดอันตรายขึ้นมาจะทำอย่างไร
ผู้อำนวยการเป็นคนที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ มีเรื่องอะไรก็รู้ทันหมด เธอพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม และพูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะให้ทุกคนที่นี่เก็บความลับของเธอเอาไว้”
“ชีหรั่น คุณมานี่หน่อย มาคนเดียวนะ ฉันมีบางเรื่องต้องการจะคุยกับคุณ” ผู้อำนวยการได้กระซิบอย่างเบาๆ เซี่ยชีหรั่นได้มองเย่เชินหลิน เขาพยักหน้าและส่งสัญญาณให้เธอเข้าไปกับผู้อำนวยการ
ประตูถูกปิด ผู้อำนวยการได้หยิบซองแฟ้มออกมาจากลิ้นชักแล้วพูดกับเซี่ยชีหรั่น “คุณช่วยฉันคิดหน่อยสิ ว่ามีคนแอบเอาเงินมาใส่ไว้ได้ยังไง แปลกจริงๆ ก็ไม่รู้ด้วยว่าเข้ามาได้ยังไง วันนี้ตอนเช้าพอฉันเข้ามา ก็ได้เห็นซองแฟ้มตั้งอยู่บนโต๊ะ ข้างในมีอยู่ห้าหมื่นหยวน เธอคิดว่าฉันควรจะมอบเงินนี้ให้กับตำรวจ หรือควรจะเอาเงินนี้ไปบริจาคให้กับพวกเด็กๆ”
เซี่ยชีหรั่นก็ไม่เคยเจอกับเรื่องแบบนี้มาก่อน ครุ่นคิดอยู่นาน ก็ได้ตอบไปว่า “เมื่อเจตนาวางไว้บนโต๊ะของท่าน ก็น่าจะตั้งใจเอาไว้ให้พวกเด็กๆใช้ ท่านใช้มันอย่างสบายใจเถอะค่ะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ ให้ท่านมาหาฉันได้เลย เดี๋ยวฉันจะทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ท่าน”
เซี่ยชีหรั่นหยิบปากกาขึ้นมาบนโต๊ะ เขียนเบอร์โทรศัพท์ให้กับผู้อำนวยการ แล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อของเธอ
“เด็กดี!” ผู้อำนวยการรู้สึกประทับใจกับเซี่ยชีหรั่น และได้กล่าวขอบคุณเธออย่างแทนเด็กๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ผู้อำนวยการ ได้ทำสิ่งต่างๆเพื่อเด็กๆ จริงๆก็เหมือนได้ทำเพื่อตัวเอง พวกเรารู้สึกขอบคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าไม่ได้มาพบท่านบ่อยๆ แต่ในใจพวกเราแล้ว ท่านเปรียบเสมือนเป็นแม่ของพวกเรา ผู้อำนวยการ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ!” ใกล้จะต้องกลับแล้ว เซี่ยชีหรั่นรู้สึกโศกเศร้าพร้อมกุมมือของผู้อำนวยโดยไม่อยากที่จะปล่อย
“ถ้าคิดถึงที่นี่ ก็กลับมาเยี่ยมบ่อยๆ” ผู้อำนวยการกล่าว เซี่ยชีหรั่นได้พยักหน้าอย่างหนักแน่น มีความรู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมา แล้วน้ำตาก็เริ่มไหล
ไม่ใช่เธอไม่คิดถึง เพียงแต่หลังจากกลับไปแล้วก็ไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ จะได้มาหรือไม่ได้มา ก็ต้องดูที่อารมณ์ของผู้ชายคนนั้นว่าจะได้กลับมาหรือไม่
หลังจากได้อำลาผู้อำนวยการ เซี่ยชีหรั่นก็เดินจากไป แต่เย่เชินหลินบอกว่าเขามีบางอย่างต้องการจะพูดคุยกับผู้อำนวยการ เธอถามว่ามีเรื่องอะไร แต่เขาก็ไม่พูด หลังจากที่เขาไปคุยกับผู้อำนวยการไม่กี่นาที ก็กลับมาที่เซี่ยชีหรั่น
ระหว่างทางกลับไปยังเมืองหลินเจียง เซี่ยชีหรั่นพูดกับเย่เชินหลิน เรื่องที่ผู้อำนวยการได้คุยกับเธอ แม้ว่าเธอได้ตอบตกลงกับผู้อำนวยการว่ามีเรื่องอะไรเธอก็จะช่วยเขาแน่นอน ในความเป็นจริงด้วยกำลังของเธอเพียงคนเดียว จะไปช่วยเหลือได้อย่างไร เธอก็คงต้องไปขอความช่วยเหลือจากเย่เชินหลินอยู่ดี
“คุณคิดว่าที่ฉันพูดไปแบบนี้ทำไปแบบนี้ ถูกต้องแล้วใช่มั้ย” เซี่ยชีหรั่นถามเย่เชินหลิน
เด็กโง่!
เขาได้ลูบผมของเธอ และพูดเบาๆ “ผมได้คุยกับผู้อำนวยการแล้ว ต่อไปหลังจากนี้เรื่องของที่นี่ทั้งหมดจะอยู่ในการจัดการของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป”
เพราะเย่เชินหลินได้เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวของแม่เขา เขาจึงต้องการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนในนามของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป
เดิมทีเขายังไม่คิดที่จะบอกกับเซี่ยชีหรั่น เพราะยังไม่อยากให้เธอเห็นการเปลี่ยนแปลงของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาต้องการจะเซอร์ไพรส์เธอ ในตอนที่เธอมาครั้งหน้า เพียงแต่ตอนนี้เธอดูเป็นกังวลมาก เขาจึงต้องการทำให้เธอมีความสุขสักหน่อย
“จริงเหรอ เธอดีกับฉันมาก! ขอบคุณนะ!” เซี่ยชีหรั่นพูดจบ ทำท่าทีกอดคอและหอมแก้มเขา ตอนนี้ทุกอย่างยิ่งดูราบรื่นขึ้นเรื่อยๆ
“เรื่องแค่นี้ฉันจะโกหกคุณทำไม หลังจากนี้ฉันจะให้คนไปติดต่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ก็จะมีคนจัดการให้ทุกอย่าง” เธอไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว เป็นแบบนี้แล้ว เขาไม่สามารถพูดออกไปได้ และไม่ชอบที่จะพูด ขอแค่เธอเข้าใจเขาก็พอแล้ว
“สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” หลังจากทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง เย่เชินหลินพูดขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะไม่ได้พูดให้เซี่ยชีหรั่นฟัง
เธอเข้าใจอยู่แล้ว เขาอาจจะพูดให้โม่เสี่ยวจุนฟัง สำหรับการทุ่มเทสิ่งต่างๆมากมายเพื่อสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า นอกจากจะเกี่ยวกับเธอแล้ว ยังเป็นเพราะว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่ที่เสี่ยวจุนเคยอยู่ เพียงแต่เขาไม่ได้พูด เธอก็พูดอะไรไม่ได้ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง ทุกที่สิ่งทุกอย่างของที่นี่อาจจะไม่เหมือนเดิม ความทรงจำของเธอและเสี่ยวจุนก็ต้องหายไปเช่นกัน เธอรู้สึกเศร้าจริงๆ
ทั้งสองกลับไปถึงเมืองหลินเจียง เฮลิคอปเตอร์จอดรออยู่ที่นั่น พวกเขาได้ขึ้นเครื่องไปและได้บินออกจากที่นั่น เซี่ยชีหรั่นยังคงหวนนึกถึงเรื่องต่างๆในวันนี้
วันนี้เมื่อกลับไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะสามารถเดินทางกับเย่เชินหลินเพียงลำพัง เวลาแห่งความสุข ทำไมถึงได้หมดเร็วขนาดนี้
เมื่อเครื่องบินได้ลงจอดที่วิลล่า ข่าวได้กระจายอย่างรวดเร็วว่าเย่เชินหลินจะได้พาเซี่ยชีหรั่นกลับมาอยู่ที่วิลล่าเดียวกัน ส้งหลิงหลิงได้ยินแล้วก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ มันทำให้เธอรู้สึกโกรธ แต่เธอคิดว่าทั้งสองคนกลับมาดีกัน ก็ดีกันได้ไม่นาน ครั้งสุดท้ายที่เขากลับมา เธอได้สังเกตสีหน้าและคำพูด ก็ได้รู้ว่าเขายังไม่ยืนยันว่าโม่เสี่ยวจุนที่ตายไปคือน้องชายของเขา เธอจึงได้ใช้ภาพถ่ายนั้นเป็นเครื่องมืออย่างดีในการหาประโยชน์
เธอไม่ต้องการให้เย่เชินหลินรับรู้ถึงความผิดปกติของเธอ ส้งหลิงหลิงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว ก็ได้รีบออกไปต้อนรับ และแน่นอนข้างหลังของเธอคือแม่บ้านสองคนที่เดินตามเป็นสาวใช้ของเธอ
“เชินหลิน ชีหรั่น พวกคุณกลับมาแล้วเหรอ” ส้งหลิงหลิงยิ้มอย่างเบิกบาน
ไม่ว่าเธอจะยิ้มยังไง เมื่อเซี่ยชีหรั่นมองรอยยิ้มบนใบหน้านั้นแล้ว เธอก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขอะไร
เธอไม่ได้สงสัยอะไรในเรื่องของรูปถ่าย เพราะรู้อยู่แล้วว่าส้งหลิงหลิงเป็นคนขโมยไป เธอนึกย้อนขึ้นมาได้ดูเหมือนกับว่า หล่อนจะได้ยินในตอนที่เธอกับเย่เชินหลินและไห่ลี่หมินพูดถึงเรื่องของโม่เสี่ยวจุน
เพียงแต่ เธอก็อยู่กับสองคนนั้นตลอด แล้วหล่อนจะเอารูปถ่ายไปได้ยังไง
“เชินหลิน สองวันนี้ตอนคุณไม่อยู่ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายท้อง วันนี้ได้ไปหาหมอห่าวแล้ว เขาได้สั่งยาให้ฉัน” ส้งหลิงหลิงพูดออกไปอีก
“อ้อ งั้นก็พักผ่อนซะนะ” เย่เชินหลินได้พูดอย่างเฉยเมย จากนั้นเขาก็บอกกันแม่บ้านว่า “เธอไปบอกกับหมอห่าวสักหน่อยว่า พรุ่งนี้ให้มาตรวจสุขภาพของเซี่ยชีหรั่น จะได้มาบำรุงเธอสักหน่อย”
ส้งหลิงหลิงขมวดคิ้วเพียงชั่วครู่ และเธอก็ยิ้มขึ้น
“น้องหรั่นช่วงนี้ดูอ่อนเพลียลงนะ ต้องบำรุงดีๆ อย่าทำให้เชินหลินเขาเป็นห่วงเอานะ”
“ขอบคุณนะ ฉันจะไม่ทำให้เขาต้องเป็นกังวล และจะไม่ทำให้เธอต้องเป็นห่วง” นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยชีหรั่นได้ตอบส้งหลิงหลิงขณะที่อยู่ต่อหน้าเย่เชินหลิน
อุบายที่แสนจะชั่วร้ายของส้งหลิงหลิง เธอคิดว่าผู้หญิงที่แสนจะอำมหิตแบบนี้ไม่มีความเหมาะสมที่จะอยู่ข้างกายของเย่เชินหลิน
ตอนนี้เธอได้ตกหลุมรักเย่เชินหลินแล้ว เธอควรหรือไม่ควรที่จะปกป้องเขา เพื่อเขาแล้ว ก็ควรที่จะต่อต้านส้งหลิงหลิง
เรื่องเล็กๆ! ริมฝีปากของเย่เชินหลินก็ได้งอเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าเธอก็จะมีด้านที่แข็งแกร่ง ก็เหมือนกับการที่จะให้เขาหยุดดื่มเหล้าเพื่อมากินข้าว ตอนนี้เธอพร้อมที่จะกางเล็บยื่นออกไปเพื่อกำจัดคู่แข่งรึยัง
ก่อนหน้านี้คล้ายกับว่าเขารู้สึกอิจฉาที่ในใจของเธอมีผู้ชายคนอื่นมาก่อน แต่เวลานี้กลายเป็นเธอที่หึงหวงเขา และยังอยากทำให้เขามีความสุข
“เชินหลิน ใกล้จะถึงวันเกิดพ่อฉันแล้ว ปีนี้แม่ฉันตั้งใจว่าจะจัดงานนี้ให้ใหญ่โต แม้ว่าฉันไม่อยากรบกวนให้คุณไป แต่ทุกคนต่างก็รู้ว่าคุณเป็นคู่หมั้นของฉัน ถ้าคุณไม่ไปก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง” ส้งหลิงหลิงฟังแล้วก็รู้ได้ว่า เซี่ยชีหรั่นพูดแบบนี้ก็เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับตน
ส้งหลิงหลิงคิดว่าเป็นเวลานานมาแล้วที่เธอทำตัวน่าสงสารมาโดยตลอด ดูเหมือนว่าถึงคราวที่จะต้องชูหางจิ้งจอกให้เห็นแล้ว เซี่ยชีหรั่นท้าให้สู้ ส้งหลิงหลิงเธอก็พร้อมที่จะลงมือ
เย่เชินหลินต้องการที่จะพูดอีก แต่ยังไม่ทันที่จะอ้าปาก เซี่ยชีหรั่นก็ค่อยๆมาจับแขนของเขา และก็ถามอย่างเบาๆ “หลิน คุณเหนื่อยไหม วันนี้คุณไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ากับฉัน และยังเล่นกับพวกเด็กๆตั้งนาน ต้องเหนื่อยแล้วแน่ๆ กลับห้องกันเถอะ เดี๋ยวฉันจะนวดไหล่ให้ดีมั้ย”
เซี่ยชีหรั่นพูดจบ แต่ยังไม่แน่ใจกับคำตอบของเย่เชินหลิน เธอต้องการแค่จะไล่ส้งหลิงหลิงให้รีบออกไป แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้เลือกเธอเป็นคู่หมั้นเพื่อมาเป็นภรรยาของเขาก็ตาม
อย่างน้อยเธอก็ต้องการที่จะเห็นเขาได้อยู่กับผู้หญิงที่แสนดีและเสียสละ ไม่ใช่ผู้หญิงร้ายๆอย่างส้งหลิงหลิง
“ก็ดี!” เย่เชินหลินโอบเอวของเซี่ยชีหรั่น โดยที่ไม่ได้สนใจมองส้งหลิงหลิง จากนั้นก็เดินมุ่งหน้าเข้าบ้าน
รอยยิ้มของส้งหลิงหลิงนั้นก็ได้ตึงไปทั้งหน้า มองไปข้างหลังพวกเขา เธอก็กัดฟันแน่น เซี่ยชีหรั่นนะเซี่ยชีหรั่น อย่าให้ฉันมีโอกาสอีกครั้งนะ ถ้าฉันมีโอกาสอีกครั้ง ฉันจะเอาคืนเธอให้สาสม!
เธอไม่ได้สนใจที่ตามพวกเขาไป แต่ได้เดินกลับไปยังสวน โดยมีสาวใช้สองคนกำลังรีบเดินตามหลัง
เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นได้เดินเข้าไปในบ้าน เธอรู้ว่าส้งหลิงหลิงไม่ได้ตามมา และได้รู้สึกอายเล็กน้อยที่ถูกเขากอด แต่ก็ไม่อยากที่จะสลัดให้หลุด
เรื่องเล็กๆ รู้สึกว่าหมดประโยชน์แล้ว ก็โยนทิ้งได้มั้ย
เซี่ยชีหรั่นไม่สามารถต่อต้านกำลังของเขาได้ ทำได้แต่เพียงให้เขากอดกลับไปห้องนอนของเขา
เมื่อปิดประตู เขาก็รีบหันตัวกลับอย่างเร่งรีบ กดตัวเธอพิงกับประตูแล้วจูบเธออย่างหนักหน่วง
เธอไม่รู้ว่าความกระตือรือร้นของเขามาจากไหน การที่ถูกเขาจูบ ทำให้เธอคิดอะไรไม่ออก รู้แต่เพียงว่ากำลังถูกเขารังแก
“ทำไมเธอจะต้องไปต่อต้านเขาชัดเจนแบบนั้น หรือเธออยากจะแต่งงานกับฉัน” เขาจูบเธออยู่นาน และเพิ่งจะได้มองตา จึงถามเธออย่างจริงจัง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset