สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 382 สาวใช้ตัวแสบ286

ตอนที่ 382 สาวใช้ตัวแสบ286
“ผมไปตามหาคุณตั้งแต่เมื่อไหร่?” สีหน้าโม่เสี่ยวจุนยิ่งเยือกเย็น
เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนหวีซานซานก็เป็นแบบนี้ เป็นเธอเองที่มาตอแยเขาเองแท้ เพราะเห็นแก่ความเป็นคุณหนูใหญ่ จึงพูดว่าเขาเริ่มเข้าหาเธอ ดังนั้นเขาจึงสะอิดสะเอียนกับการกระทำแบบนี้มาก
“คุณ….พักนี้คุณกำลังตามหาฉันตลอดนี่ อยากหาฉัน ยังไม่พูดตรงๆว่าตามหาฉัน ยังจะไปพูดว่าตามหาเซี่ยชีหรั่น”
จิ่วจิ่วพูดประโยคนี้จบ ไม่คาดคิดเลยว่าโม่เสี่ยวจุนจะมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ รุนแรงกว่าครั้งก่อนที่เขาได้ยินชื่อของหมาตัวนั้นเรียกว่าหรงหรงเสียอีก
มือทั้งคู่ของเขา จับหัวไหล่เธอไว้แน่น ให้แรงเยอะมาก เธอเจ็บจนขมวดคิ้วชนกัน
“คุณทำอะไรคะ? คุณเป็นบ้า……..”
“คุณพูดว่าอะไรนะ? คุณรู้จักเซี่ยชีหรั่น? เป็นเซี่ยชีหรั่น?เซี่ยชีหรั่น?” สายตาของโม่เสี่ยวจุน ที่มองเป็นประกาย จิ่วจิ่วคิดว่าเป็นแสงที่บ้าคลั่ง เธออึ้งไปชั่วขณะ
เธอไม่เคยพูดกับเขาว่า หมาน้อยเป็นหมาที่เซี่ยชีหรั่นเลี้ยงไว้? อ๋อ จำได้แล้ว เธอบอกว่าพระสนมขององค์ชายเลี้ยงไว้
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยพูดชื่อของเซี่ยชีหรั่น เดี๋ยวก่อน งั้นทำไมเขาต้องตามหาเซี่ยชีหรั่น นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
เธอกำลังอึ้ง โม่เสี่ยวจุนเขย่าหัวไหล่เธออย่างแรงสองที กัดฟันพูดขึ้นว่า
“ตอบผม คุณรู้จักเซี่ยชีหรั่นใช่ไหม?”
“ฉัน…..ทำไมฉันต้องบอกคุณ” จิ่วจิ่วตกใจกับท่าทีเขามาก ความรู้สึกแรกที่คิดได้ก็คือ คนคนนี้เป็นโรคจิต เผื่อเขาไปทำร้ายเซี่ยชีหรั่นจะทำยังไง เธอไม่พูดอะไรไปเรื่อยดีกว่า
“บอกผมมา ผมขอร้อง หากคุณรู้คุณต้องบอกผมนะ ผมตามหาเธอมาตั้งนานแล้ว” เชอเฮ่าถึงขั้นขอร้องเธอ? จิ่วจิ่วยิ่งรู้สึกเป็นไปไม่ได้
“คุณตามหาเธอทำไม? คุณขอร้องฉันก็ไม่มีประโยชน์ ฉันต้องรู้ก่อนว่า คุณจะไม่ทำร้ายเธอถึงจะพิจารณาว่าจะบอกคุณดีไหม” สุดท้ายจิ่วจิ่วก็ยังคงใจอ่อน เพราะคำว่าขอร้องของเขาที่ขอร้องเธอ แน่นอน เพื่อนสนิทกันจะต้องไม่ขายเพื่อน ดังนั้นถึงแม้จะใจอ่อน ก็ต้องวิเคราะห์ให้ดีก่อนค่อยตัดสินใจ
โม่เสี่ยวจุนคิดถึงหมาน้อยตัวนั้นขึ้นมา ทำไมเขาโง่แบบนี้ งั้นเป็นชื่อที่เซี่ยชีหรั่นตั้งให้ หรงหรง ผู้หญิงคนนี้กลับพูดเป็นชื่อหรงของหวงหรง
เขาน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกแล้ว
ดูแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองต้องไม่ธรรมดาแน่ เขาหายใจเข้าลึกๆ ทำให้ตัวเองสงบลงบ้าง แล้วก็ดึงมือจิ่วจิ่วขึ้นมาพูดว่า “ที่นี่คุยไม่สะดวก ไปกับผม”
คนในร้านหลายคนตกใจกับท่าทีแบบนี้ของเขาแทบตาย คำพูดข้างหลังที่เขาจะพูด อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้น ดังนั้นหลังจากที่เขาบีบบังคับให้ตัวเองสงบลงบ้างแล้ว ก็ตัดสินใจไปคุยที่อื่นดีกว่า
ร้านกาแฟด้านข้างตลาดดอกไม้และนก โม่เสี่ยวจุนสั่งกาแฟให้จิ่วจิ่วแก้วหนึ่ง
เขากลัวจะทำให้เธอตกใจ จึงยังไม่กล้าพูดความจริง พยายามระงับอารมณ์ตื่นเต้นอย่างสุดขีด แล้วค่อยๆพูดกับเธอว่า
“เธอเคยได้ยินชีหรั่นพูดถึงชื่อโม่เสี่ยวจุนไหม?” เขาถาม เขาไม่รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นเคยพูดถึงหรือเปล่า เพราะที่เธอออกมาก็เพื่อล้างแค้นให้เขา อาจจะระมัดระวังคำพูด หากไม่เคยพูดถึงก็ไม่แปลก
เขาได้คิดเตรียมพร้อมไว้แล้ว หากเซี่ยชีหรั่นไม่เคยพูดถึง เขาก็จะได้เล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่แรกให้จิ่วจิ่วฟัง อุตส่าห์ได้เบาะแสมาอย่างยากเย็น เขาจะไม่มีทางปล่อยเด็ดขาด
จิ่วจิ่วพยักหัว พูดอย่างเชื่องช้าว่า “เคยสิ”
เธอดูออกว่าเชอเฮ่ารีบร้อนตามหาเซี่ยชีหรั่น แต่ว่าเขาไม่รีบ คิดถึงท่าทางที่เขาทำกับเธอพวกนั้นแล้ว เธอก็ไม่อยากบอกเขาง่ายๆ

“ผมคือโม่เสี่ยวจุน”
“เฮ้ย……คุณพูดว่าอะไรนะ?” กาแฟเย็นในปากจิ่วจิ่วพุ่งออกมาทันที ความตื่นตกใจที่มีทำให้ไม่ทันได้นึกถึงภาพลักษณ์ ร้องเรียกออกมาเสียงดัง ในร้านกาแฟที่เงียบสงบ เสียงของเธอฟังดูดังจนก้อง พนักงานทั้งร้านล้วนหันมามองพวกเขา
“ผมคือโม่เสี่ยวจุน” เขาพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณตายไปแล้วไม่ใช่หรือ?” จิ่วจิ่วพูดคำนี้ออกมาอย่างโพล่ง โม่เสี่ยวจุนก็ไม่ถือสา เขาพูดกับเธอเพียงสั้นๆว่า “ผมยังไม่ตาย คนที่ตายคือคนอื่น แต่เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ คุณรีบพาผมไปพบเธอ ผมจะต้องได้พบเธอเดี๋ยวนี้”
พระเจ้า
จิ่วจิ่วสตั้นไปเลย คนที่เธอเฝ้าภาวนาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา….เชอเฮ่า ทำไมถึงกลายเป็นโม่เสี่ยวจุนไปได้?
อีกอย่างโม่เสี่ยวจุนยังมีชีวิตอยู่ แล้วชีหรั่นจะทำยังไง? เธอรักโม่เสี่ยวจุนขนาดนั้น เธอเข้าใกล้ชิดกับคุณองค์ชายก็เพื่อเขา ถึงแม้ตอนนี้เธอจะไม่อยากให้เธออยู่กับคุณองค์ชาย ที่จริงก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ถ้าเธอหวนกลับไปอยู่กับโม่เสี่ยวจุนอีก เธอคงจะลำบากใจและรับไม่ได้ ที่สำคัญคุณองค์ชายก็เป็นคนที่เผด็จการขนาดนั้น จะยอมได้อย่างไรกัน
สถานการณ์ตอนนี้วุ่นวายขนาดนี้ จะทำยังไงดี?
ใช่ ครั้งก่อนเซี่ยชีหรั่นเคยพูดว่า โม่เสี่ยวจุนเป็นน้องชายของคุณชายเย่ ถึงว่าทำไมDNAถึงไม่สอดคล้องกัน หากโม่เสี่ยวจุนเป็นน้องชายของคุณองค์ชายจริง งั้นก็เท่ากับว่าสองพี่น้องแย่งผู้หญิงคนเดียวกัน เซี่ยชีหรั่นจะเลือกพี่ชาย หรือน้องชาย? เธอจิ่วจิ่วอุตส่าห์พบรักทั้งที ทำไมถึงเจอคนมีเจ้าของไปซะอย่างนั้น ต่อไปเธอสมควรที่จะตัดขาดเลยไหม เฮ้อ เหมือนทุกอย่างจะวุ่นวายไปหมดแล้ว เซลล์สมองเธอเหมือนจะไม่พอใช้แล้วจริงๆ
“รีบพูดสิ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” โม่เสี่ยวจุนจับไหล่จิ่วจิ่วอย่างร้อนใจ แล้วพูดขึ้น
“คุณปล่อยฉันนะ ข่าวนี้มาเร็วเกินไป คุณให้ฉันค่อยๆย่อยแป๊บหนึ่ง ได้ไหม? สำหรับเธอตอนนี้ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษ เฮ้อ ฉันจะพูดกับคุณยังไงดี…..”
จิ่วจิ่วคิดขึ้นมาได้ว่า โม่เสี่ยวจุนอาจจะยังไม่รู้ว่าผู้หญิงที่ตอนเองรัก ตอนนี้กลายเป็นผู้หญิงของคนอื่นไปแล้ว กับสภาพการณ์นี้น่ากลัวว่าจะยิ่งทรมาน ดังนั้นจิ่วจิ่วจึงไม่กล้าพูดตรงๆ ทำร้ายจิตใจเขา
โม่เสี่ยวจุนปล่อยไหล่เธอ สายตายังคงเพ่งมองหน้าเธออย่างจริงจัง แล้วพูดตรงๆว่า “คุณพูดกับผมตรงๆก็พอ เธอกลายเป็นผู้หญิงของคนอื่นแล้วใช่ไหม?”
“คุณรู้?” จิ่วจิ่วค่อนข้างตกใจ เขารู้ งั้นเขาจะโกรธจนเป็นบ้าไหม?
แววตาโม่เสี่ยวจุนเต็มไปด้วยความปวดร้าว เขารู้ เซี่ยชีหรั่นที่แสนบริสุทธิ์ของเขา เพื่อเขาแล้วเธอเลือกเดินเส้นทางนี้แล้วจริงๆ เธอจะต้องไม่มีหนทางแล้วอย่างที่สุด จนไม่ทำแบบนี้ไม่ได้
เขาหวังเป็นอย่างมากว่าขอให้เขาเดาผิด แต่ความจริงก็คือความจริง เขาเดาไม่ผิด
เธอโง่มา ต่อให้เขาตายไปแล้วจริงๆ เขาก็ไม่ต้องการให้เธอเสียสละตัวเองเพื่อช่วยล้างแค้นให้เขา
เธอจะทรมานแค่ไหน มีเพียงเขาที่เข้าใจ
“บอกผมมา เธอไปเป็นผู้หญิงของใคร คนคนนั้นไม่ดีกับเธอเลยใช่ไหม เธอทรมานมากใช่ไหม?” ตอนที่โม่เสี่ยวจุนถามพวกนี้ ในใจเจ็บปวดเหมือนดั่งโดนเข็มทิ่มแทง
“เธอ…..” จิ่วจิ่วไม่รู้จะพูดยังไง ถึงจะทำให้ผู้ชายตรงหน้านี้เจ็บปวดน้อยลงหน่อย แววตาท่าทางของเขาตอนนี้ เศร้าโศกเหมือนสัตว์ร้ายได้รับบาดเจ็บ เธอมองดูแล้วน้ำตาแทบไหล
“บอกผมมาตรงๆเถอะ ถือว่าผมขอร้อง ผมแค่อยากรู้ว่าเธอสบายดีไหม ผมจะไม่ไปทำลายชีวิตในตอนนี้ของเธอ จะไม่ทำให้เธอลำบากใจแม้เพียงนิด คุณเชื่อใจผม บอกผมเถอะ”
จิ่วจิ่วถอนหายใจ พูดอย่างไม่รู้จะทำยังไงว่า “ก็ได้ ฉันจะบอกคุณทุกอย่าง เธอทำไปก็เพื่อต้องการล้างแค้นให้คุณ ไปเป็นสาวใช้ในบ้านคุณชายเย่ ซึ่งคุณชายเย่ก็คือลูกชายของท่านประธานเย่เฮ่าหรัน ที่แรกเธอเป็นแค่คนใช้ ต่อมา…..ตอนนี้เธอกลายเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว”
“เขาดีกับเธอไหม?” นี่เป็นคำถามที่โม่เสี่ยวจุนเป็นห่วงที่สุด
เซี่ยชีหรั่นเป็นผู้หญิงของคนอื่นในสถานะแบบนี้ พูดให้น่าฟังก็คือเป็นผู้หญิง พูดไม่น่าฟัง ก็คือเป็นคู่นอน เขาไม่ต้องถามก็รู้ว่าเธอไม่มีความสุข
เป็นความผิดของเขา ต่อให้เขาตายไปเป็นหมื่นครั้ง ก็ทดแทนความทุกข์ความเจ็บปวดที่เธอได้รับไม่ได้
เขาถามจนจิ่วจิ่วลำบากใจ เขาดีกับเซี่ยชีหรั่นไหม เป็นคำถามที่ตอบยากมาก
“เขาไม่ถือว่าดีกับเธอ แต่จริงๆแล้วคุณชายเย่รักเธอมาก แต่อิจฉาที่ในใจเธอมีคุณ ดังนั้นจึงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายกับเธอ”
เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย……อย่างนั้นเซี่ยชีหรั่นยิ่งทรมาน
เขาเข้าใจเธอดีที่สุด เธอเป็นผู้หญิงที่หัวรั้น โดยเฉพาะเธอเป็นเด็กกำพร้า เพียงแค่คนอื่นดีกับเธอเพียงนิดเดียว เธอก็จะเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อทดแทนคนอื่น
หากเขาไม่ดีกับเธอเลย เธออาจจะยังไม่หลงติด หากเมื่อไหร่ที่เขาดีกับเธอ เธอก็จะซาบซึ้ง แล้วตอบแทนมากยิ่งกว่า เมื่อไม่ได้รับการตอบกลับจากอีกฝ่าย เธอก็จะเจ็บปวดอย่างที่สุด
“ผมอยากเจอเธอ เธอไม่สะดวกที่จะออกมาใช่ไหม?” โม่เสี่ยวจุนถามขึ้นอีก
“หากเธอรู้ว่าคุณยังไม่ตาย คงดีใจแย่ เธอจะออกมาพบคุณได้หรือไม่ ให้เธอตัดสินใจเองก็แล้วกัน ฉันตัดสินใจแทนเธอไม่ได้ นี่เป็นเบอร์โทรของเธอ คุณโทรไปหาเธอสิ วันนี้คุณชายเย่น่าจะไม่อยู่ ตอนนี้เธอน่าจะสะดวกรับสายอยู่”
จิ่วจิ่วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา ค้นหาเบอร์ของเซี่ยชีหรั่น แล้วยื่นมือถือให้เขา
หัวใจโม่เสี่ยวจุนแทบจะกระโดดออกมา เขากำมือถือเธอไว้ มือกำลังสั่นเทาอย่างรุนแรง ถึงขั้นอยากกดสายโทรออก ยังไม่สามารถกดได้
ท่าทีของเขา ทำให้น้ำตาของจิ่วจิ่วไหลออกมาทันที เธอรู้สึกว่าเขาน่าสงสารมาก เธอไม่ได้ถามเขาว่า ทำไมเขาถึงไม่ตาย แต่ก็รู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรมาอย่างไม่ธรรมดาแน่ และตอนนี้เขายังอาจจะต้องสูญเสียผู้หญิงที่ตนรักไปตลอด เขาช่างทำให้น่าปวดใจยิ่งนัก
เธอหยิบมือถือมาช่วยเขากดโทรอย่างเงียบๆ โม่เสี่ยวจุนไม่รู้ว่าต้องพยายามแค่ไหน ถึงสามารถยกมือถือขึ้นมาแนบหูได้ เหมือนกับมือถือนั่นหนักเป็นพันกิโล
หนึ่งปีแล้ว เขากับเซี่ยชีหรั่นต้องผ่านการพลัดพรากจากกันด้วยชีวิต ในที่สุดก็จะได้คุยกันแล้ว
เขาคิดไม่ออกเลยว่า เธอจะตื่นตกใจยังไง เธอจะต้องไม่รู้เลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่
เซี่ยชีหรั่นนั่งอยู่ใต้ต้นดอกไม้สีม่วงแดง ในมือลูบมือถือ มองดูใบของดอกไม้สีม่วงแดงอย่างเหม่อลอย ตอนนี้กำลังคิดถึงโม่เสี่ยวจุน
เสี่ยวจุน คุณจะต้องยังไม่ตาย แต่ว่าฉันจะสามารถพบคุณได้อีกเมื่อไหร่ละ? เย่เชินหลินสั่งคนไปตามหาคุณแล้ว ฉันเป็นห่วงว่าคุณจะไม่ได้อยู่ที่เมืองหลินเจียงแล้ว งั้นตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?
ในตอนที่เธอกำลังคิดอยู่อย่างหมกมุ่น มือถือก็ดังขึ้น เสียงเรียกเข้าเป็นสายของจิ่วจิ่ว เธอรับสายแล้วพูดกับเธอว่า “เป็นไง จะนัดเดทหรือ? ไม่กลับมาทานข้าวแล้วใช่ไหม?”
ในที่สุดโม่เสี่ยวจุนก็ได้ยินเสียงของเธอ ดวงตาของเขาถึงกับแดงขึ้นมาเลย
“ชีหรั่น ผมเอง” เขาพูดคำพวกนี้ออกมาอย่างยากเย็น เซี่ยชีหรั่นที่ฟังอยู่นั้น แข็งทื่อไปทั้งตัว เธอถึงขั้นไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะเป็นญาติคนที่เธอสนิท สนิทที่สุด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset