สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 387 สาวใช้ตัวแสบ291

ตอนที่ 387 สาวใช้ตัวแสบ291
ขณะนี้เวลานี้ เธอถึงขั้นไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกที่ผูกพันกับโม่เสี่ยวจุนใช่ความรักอย่างหนึ่งไหม
เซี่ยชีหรั่น เธอเป็นผู้หญิงหลายใจหรือ? เธอรับปากแล้วว่าจะอยู่กับเย่เชินหลินไปตลอด ก็ไม่ควรที่จะคิดถึงโม่เสี่ยวจุนอีก แต่ยังไงเธอก็ลืมไม่ลง ยี่สิบปีที่อยู่ดูแลกันมา จะให้ลืมง่ายๆได้อย่างไร
ตอนที่เธอเข้าไปอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า อายุเพียงหนึ่งถึงสองเดือนเอง ตอนนั้นเสี่ยวจุนอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าแล้ว ดังนั้นถือว่าเขาเห็นเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากไม่ได้คลอดออกมาจากคนเดียวกันแล้ว พวกเขาต่างอะไรกับพี่น้องกันแท้?
เธอหวังว่าสักวันหนึ่ง เย่เชินหลินจะสามารถรับได้ กับการไปมาหาสู่กันดั่งพี่น้อง ระหว่างเธอกับโม่เสี่ยวจุน
นั่นคงเป็นได้เพียงแค่ความหวังที่แสนเธอของเธอคนเดียว เขาอคติขนาดนั้น จะยอมได้อย่างไร
ค่ำคืนนี้เซี่ยชีหรั่นฝันไม่รู้กี่รอบ เดี๋ยวฝันว่าโม่เสี่ยวจุนเป็นน้องชายของเย่เชินหลิน เดี๋ยวก็ไม่ใช่อีก เย่เชินหลินถือผลตรวจ แล้วถามเธอว่าทำไมต้องหลอกเขารอบแล้วรอบเล่า สีหน้าของเขาทั้งดูห่างเหินและน่ากลัวขนาดนั้น เธอพูดอยู่ซ้ำๆว่า “ฉันไม่ได้โกหกคุณ เย่เชินหลิน ฉันไม่ได้โกหกคุณ เขาเป็นน้องชายของคุณจริงๆ เป็นจริงๆ”
เย่เซินหลินฟังไม่ชัดว่าเธอกำลังพูดอะไร รู้เพียงว่าเธอฝันร้าย เขาไม่รู้ว่าทำไมตอนกลางคืน เขาจะต้องมาดูเธอ พรุ่งนี้ก็ต้องไปตรวจDNAแล้ว เซี่ยชีหรั่นไม่สบายใจ เขาเย่เซินหลินก็ไม่สบายใจเหมือนกัน
เธอโดนฝันร้ายคุกคามถึงขั้นหนาวสั่น เขาขึ้นเตียงไปอย่างเงียบๆ ค่อยๆกอดเธอไว้ในอ้อมอก ลูบผมเธอดั่งปลอบโยน
เซี่ยชีหรั่นเหมือนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของเขาอยู่ในฝัน และรู้สึกได้ถึงความปลอบโยนอย่างหนึ่ง เธอขยับแนบอกเข้าด้วยสัญชาตญาณ ตามหาความอบอุ่น
แขนของเธอกอดเอวเขาไว้อย่างโหยหา ใบหน้าน้อยๆแนบชิดเขา ค่อยๆหลับไปอีก
เขาเหมือนกำลังกล่อมเธอ เหมือนกล่อมเด็ก ในใจถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก เธอเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารมาก เขารู้ดีมาตลอด แต่ทำไมยังรังแกเธอ ทำไมถึงไม่สามารถปล่อยวางเรื่องที่ในใจเธอมรคนอื่น
ตอนเช้าเมื่อเซี่ยชีหรั่นตื่นขึ้นมา จิ่วจิ่วก็อยู่ในห้องของเธอแล้ว
เธอมองไปรอบๆ รู้สึกเหมือนเย่เชินหลินเคยมา แต่เขากลับไม่อยู่ หรือว่าเขาปรากฏตัวในความฝัน?
เขาโกรธเธอขนาดนั้น คงไม่คิดที่จะมาหาเธอหรอก ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะกอดเธออย่างอ่อนโยนขนาดนั้น จะต้องฝันไปแน่
“ตอนนี้กี่โมงแล้ว คุณเย่อยู่บ้านไหม?” เซี่ยชีหรั่นถาม เธอเป็นห่วงว่าเย่เชินหลินรับปากแล้วไม่ไปทำ หรืออาจจะตั้งใจบ่ายเบี่ยง
“เขายังอยู่ ยังสั่งพ่อบ้านให้เตรียมรถรอ บอกว่าเดี๋ยวจะออกไป”
“ดี งั้นฉันต้องรีบทำเวลา” เซี่ยชีหรั่นลงจากเตียง รีบออกจากห้องไปอาบน้ำล้างหน้า ตอนที่เธอออกจากห้อง จิ่วจิ่วไปเอาอาหารเช้ามาให้เธอ
เย่เชินหลินเหมือนกำลังยุ่งอะไรสักอย่างอยู่ในห้อง ไม่มารีบเธอ รอเธอทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เขาพูดอยู่ตรงระเบียงว่า “เซี่ยชีหรั่น ไปกับผม”
ขึ้นรถ เขาพูดเพียงประโยคเดียว “คุณโทรหาคนที่แซ่โม่คนนั้นได้แล้ว บอกเขาว่าอีกครึ่งชั่วโมง ไปรอที่ชั้นสอง ของศูนย์ตรวจDNAตงเจียง”
“ค่ะ”
เซี่ยชีหรั่นโท่ไปหาโม่เสี่ยวจุน พูดตามที่เย่เชินหลินบอกอย่างสั้นๆ แล้วก็วางสาย
เย่เชินหลินเม้นริมฝีปาก หากเขาไม่ได้อยู่ในรถด้วย เธอคงไม่รีบวางสายเร็วขนาดนี้
หลินต้าฮุยรออยู่ที่หน้าประตูศูนย์ตรวจDNA ทุกๆช่วงเวลาหนึ่งเย่เชินหลินจะมาที่ศูนย์ตรวจDNA ทุกครั้งที่มาหลินต้าฮุยก็จะต้องติดตามมาด้วยตลอด
“คุณเย่ คุณเซี่ย” หลินต้าฮุยทักทายทั้งสองอย่างสุภาพ เซี่ยชีหรั่นยิ้มทักทายเขา
ผู้หญิงคนนี้ ยิ้มในใครก็หวานกว่ายิ้มให้เขา เมื่อวานกับเหยนชิงเหยียน ไห่ลี่หมิน วันนี้กับหลินต้าฮุย ล้วนยิ้มอย่างสดใส คิ้วของเย่เชินหลินกระตุก มือรวบกอดเอวเซี่ยชีหรั่นทันที
แรงที่กอดตรงเอวเธอไม่เบาเลย ความเป็นเจ้าของเต็มสิบ
หลินต้าฮุยไม่กล้ามีเรื่องกับเขา รีบถามขึ้นว่า “คุณเย่ ทำไมมีคุณมาคนเดียวละ?”
“อีกคนอยู่ชั้นสอง” เย่เชินหลินพูดอย่างเรียบเฉย กอดเอวเซี่ยชีหรั่นขึ้นลิฟต์ไปถึงชั้นสอง
แสงแดดยามเช้าสาดส่องถึงห้องโถงตรงชั้นสอง ตรงห้องนั่งรอในห้องโถง มีเพียงเสี่ยวจุนนั่งอยู่ตรงที่มีแสงสาดส่องนั่น
มือของเขากำมือถือไว้แน่น แววตาที่รีบร้อนและตื่นเต้น มองดูตรงทางเข้าอยู่ตลอด
ในที่สุด เขาก็ได้เห็นเงาร่างที่เขาเฝ้ารอมาเนิ่นนานนั้น เพียงแต่ร่างกายเธอกับร่างกายผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งแนบชิดไว้ด้วยกัน ใกล้ชิดกันมาก มือของเขายิ่งกำแน่นขึ้น
เขามองเซี่ยชีหรั่นอย่างอึ้งอยู่อย่างนั้น แววตาเขามองใบหน้าเล็กๆของเธอที่ดูผอมลงไปมา ท่าทางของเธอทำให้เขาเจ็บปวดใจมาก
ชีหรั่น คุณสบายดีไหม
เสี่ยวจุน เซี่ยชีหรั่นเรียกอย่างไม่มีเสียง น้ำตาเอ่ออย่างอดกลั้นไว้ไม่ไหว ในที่สุดเธอก็ได้เห็นเขาแล้ว ร่างกายเธอตื่นเต้นจนสั่นเทา เธออยากที่จะวิ่งไป จับโม่เสี่ยวจุนไว้แน่นๆ มองดูเขาดีๆ ให้เธอได้มั่นใจ เขายังมีชีวิตอยู่จริงๆ แล้วความตื่นเต้นของเธอก็ทำให้คนบางคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก แรงที่กอดเอวเธอไว้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เหมือนจะเตือนให้เธอมีสติ เธอเป็นของเขา
โม่เสี่ยวจุนลุกขึ้น ค่อยๆเดินมาหาพวกเขาทั้งสองคน ทุกย่างก้าว รู้สึกว่าเท้าหนักมาก
ในที่สุดเขาก็ย้ายความสนใจจากใบหน้าของเซี่ยชีหรั่น มองไปยังผู้ชายร่างสูงงามสง่าที่กอดเอวเธอไว้….คุณเย่ในตำนาน หรือคุณองค์ชายในตำนาน
เมื่อก่อนนานมาแล้ว เขาก็เคยได้ยินชื่อของเขา คุณองค์ชายคนนี้ เขาเป็นคุณชายเจ้าสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในมณฑลตงเจียง ได้ยินมาว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ถึงขั้นผู้หญิงมากมายเขาจะแตะต้องครั้งเดียว จะไม่แต่ต้องเป็นครั้งที่สองอีกเด็ดขาด
อี๋ปิงเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงหลงรักเขา ฆ่าตัวตายเพื่อเขา ใจเขาแข็งดั่งเหล็ก ไม่กลับไปเหลียวแลเลย
ผู้ชายแบบนี้คนหนึ่ง เขามีรูปร่างหน้าตาที่เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็ค ร่างกายทั้งร่างมีราศีดั่งราชาที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ รูปร่างเขาแข็งแรง กอดเอวเซี่ยชีหรั่นไว้แน่น ใช้สายตามองดูเขาอย่างหยิ่งและเยือกเย็นเป็นที่สุด
เขาจะใช่พี่ชายเขาไหม? โม่เสี่ยวจุนไม่รู้ เขาใช่หรือไม่ใช่ แต่ในความคิดแต่แรกของเขา เย่เชินหลินคนนี้ที่รังแกผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด ไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาที่สามารถทำให้คนรักชอบได้ขนาดนี้
ถึงแม้แววตาของเขาตอนนี้จะไม่เป็นมิตรเลย โม่เสี่ยวจุนกลับแปลกที่รู้สึกไม่ค่อยเกลียดเขา
เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นหยุดฝีเท้า แววตามองดูโม่เสี่ยวจุนที่กำลังเดินตรงมาหาพวกเขาอยู่ด้านหน้าอย่างห่างเหินและเย็นชา
เขาก็คือผู้ชายคนที่เซี่ยชีหรั่นยอมตาย ยอมเป็นคู่นอนคนอื่น ยอมทำทุกอย่าง ในขณะเดียวกันยังถูกพูดว่าเป็นน้องชายของเขา เห็นเขาในรูปภาพ กับเห็นเขาตัวเป็นๆ ความรู้สึกไม่เหมือนกัน ความสูงของโม่เสี่ยวจุน สูงน้อยกว่าเขานิดหน่อย รูปร่างหน้าตาก็เป็นที่น่าหลงใหลเหมือนกัน เพียงแต่ในแววตามีความฉาบฉวยแบบหนึ่ง ดูแล้วเหมือนลึกลับและเศร้าสลด
ถึงว่าหวีซานซานจีบเขาไม่ติด สามารถบันดาลโทสะฆ่าคน เขามีรูปร่างหน้าตาที่ทำให้ผู้หญิงหลงรัก และทำให้ผู้หญิงเกลียด
เย่เชินหลินให้ความสำคัญตรงด้านล่างจมูกเขา บนริมฝีปาก ในมุมลึกๆเป็นมุมที่ทำให้เขาดูเฉียบคม ทั้งใบหน้าของเขา มีตรงนี้แหละที่เหมือนเขาเย่เชินหลินมากที่สุด
และก็เพราะตรงจุดนั้น ทำให้ตอนที่เขาดูรูปภาพเขาบนหน้าคอม ความรู้สึกแรกก็รู้สึกคุ้นเคยกับเขาอย่างแปลกประหลาด ถึงขั้นรู้สึกว่าเขาเป็นน้องชายของเขา
ผู้ชายทั้งสองคนใครก็ไม่พูดอะไร ต่างก็กำลังมองดูใบหน้ากันอย่างจริงจัง เหมือนเพียงแค่มองแบบนี้ แล้วจะสามารถยืนยันได้ว่า อีกฝ่ายเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมาหรือไม่อย่างนั้น
“เสี่ยว เสี่ยวจุน” เซี่ยชีหรั่นทำลายความเงียบ น้ำเสียงสั่นเทาของเธอเรียกชื่อของโม่เสี่ยวจุน ทำให้ในใจของเย่เชินหลินแน่นตึง
บ้าที่สุด ถึงเขาจะทำเพื่อเธออีกมากมายแค่ไหน ก็คงเทียบไม่ได้กับผู้ชายคนนี้
เขาเฝ้าอยู่ข้างกายเธอมายี่สิบกว่าปี ความจริงนี้ทำให้เขาอิจฉาจนอยากเป็นบ้า
“ชีหรั่น ผมเอง” โม่เสี่ยวจุนยิ้ม แต่เป็นยิ้มที่ขมขื่นมาก
ในที่สุดเขาก็ได้เจอเธอแล้ว ความรักที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ไปชั่วชีวิต และต่อจากนี้ไป เขาจะต้องอยู่ห่างๆมองดูเธอกลายเป็นของคนอื่นหรือ?
เขาไม่ได้ต้องการครอบครองเธอ แต่เขาจะต้องทำให้เธอมีความสุข
แต่หากเธออยู่ข้างกายผู้ชายคนนี้ จะมีความสุขได้อย่างไร? ไม่ว่าแซ่เย่จะเป็นเหมือนในคำร่ำลือ เห็นผู้หญิงเป็นเพียงของเล่นที่มีหรือไม่มีก็ได้ คำร่ำลือเชื่อถือไม่ได้ แต่รูปร่างหน้าตาของเขา ความสง่างามของเขา ครอบครัวของเขา ความร่ำรวยของเขา อันไหนไม่ใช่ความต้องการสูงสุดของผู้หญิง
คนที่อยากเป็นผู้หญิงของเขา อยากเป็นที่สนใจในสายตาของเขาไปตลอด แบบนั้นต้องเป็นผู้หญิงแบบไหนถึงจะสามารถทำได้?
เซี่ยชีหรั่นงดงาม มีเมตตา ใสซื่อ แต่เธอก็ซื่อตรงเกินไป ไม่มีความคิดที่จะทำร้ายคนอื่นใดใด ไม่มีแผนการอะไร เธอจะผูกมัดผู้ชายคนนี้ได้อย่างไร?
สุดท้ายเธอก็จะมีจุดจบที่โดนเขาทิ้ง เขาเจ็บปวดแทนเธอมาก
เซี่ยชีหรั่นระงับน้ำตาไว้ไม่ไหว ถึงแม้เธอจะไม่อยากให้เย่เชินหลินโกรธ เพราะเธอระงับตัวเองไม่ได้ ถึงก็ยังระงับไว้ไม่ได้
น้ำตาของเธอไหลลงอาบแก้มอย่างไม่หยุด จนตาลาย มองหน้าโม่เสี่ยวจุนไม่ชัด
“เสี่ยวจุน เสี่ยวจุน” เธอเรียกติดกันสองครั้ง ยื่นมือเช็ดน้ำตา เธออยากจะมองเห็นชัดๆ มองอย่างละเอียด
เขาดูดำกว่าเมื่อก่อนไปบ้าง ผอมลงไปบ้าง คิดว่าหลบซ่อนอยู่นานขนาดนี้ เขาคงลำบากไม่น้อย
“ใช่ ผมยังไม่ตาย ผมยังดีๆอยู่ ไม่เป็นไร” โม่เสี่ยวจุนพูดปลอบอย่างอ่อนโยน
สองคนนี้อยู่ต่อหน้าเขาแท้ยังแสดงความจริงใจห่วงใยกันขนาดนี้ หากไม่มีเขาอยู่ข้างกาย คงกอดกันแน่นไปนานแล้ว
คิ้วของเย่เชินหลินขมวดจนจะแทบชนกัน แขนก็กอดเอวเซี่ยชีหรั่นไว้ ออกแรงเพิ่มขึ้นมาทันใด เซี่ยชีหรั่นหมุนอยู่ในอ้อมอกของเขา หน้าแนบอกเขาไว้
“ห้ามหลั่งน้ำตาเพื่อผู้ชายคนอื่น ผมเคยเตือนคุณแล้วนะ” น้ำเสียงเขาเยือกเย็น ท่าทางก็หยิ่งยโส เหมือนดั่งเขาเป็นราชาของเธอ และเธอเป็นเพียงทาสผู้ต่ำต้อย
“ใช่ ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ” เซี่ยชีหรั่นพูดเสียงต่ำ น้ำตายังคงกลั้นไว้ไม่ไหว ยังคงไหลล้น
เย่เซินหลินไม่รู้ว่า ตอนที่เธอหอบศพที่โดนเผาไหม้จนดำเกรียมนั้นแล้ว รู้สึกหมดหวังขนาดไหน โม่เสี่ยวจุนเป็นเหมือนญาติคนเดียวที่เธอมีบนโลกนี้ การตายของเขาไม่ได้เหมือนกับการสูญเสียคนรัก เธอเหมือนสูญเสียโลกทั้งใบ ความอบอุ่นทั้งหมด เขาตายแล้ว เท่ากับพาเอาชีวิตเธอไปด้วย หากไม่ใช่เพราะอยู่เพื่อล้างแค้นให้เขา เธอคงตามเขาไปตั้งนานแล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset