สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 388 สาวใช้ตัวแสบ292

ตอนที่ 388 สาวใช้ตัวแสบ292
ตอนนี้เห็นเขายังมีชีวิตอยู่ เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยตัวเป็น เธอจะระงับไม่มีตัวเองตื่นเต้นได้อย่างไร
ใจของเธอเหมือนดั่งโดดออกมาจากนรกเยือกเย็น ต้อนรับแสงสว่างที่ส่องอย่างทันใด ใช่ ในหลายปีมานี้ โม่เสี่ยวจุนคือแสงสว่างหนึ่งเดียวของเธอ เป็นความหวังและความปรารถนาหนึ่งเดียวของเธอ
เห็นเซี่ยชีหรั่นร้องไห้อย่างน่าสงสารแบบนั้นอยู่ในอ้อมอกของเย่เชินหลิน โม่เสี่ยวจุนกำหมัดยิ่งแน่น
เธอกำลังขอโทษ ขอโทษแต่ก็ยังร้องไห้ ใจของเย่เชินหลินเจ็บปวดเหมือนดั่งโดนมีดบาด
ความรู้สึกที่ลึกซึ้งขนาดนั้น เธอมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกับเขาขนาดนั้น เธอยังจะบอกว่าเธอรักเขาเย่เชินหลิน ทำไมเธอถึงเสแสร้งได้ถึงขนาดนี้
“ห้ามร้องไห้ หากคุณยังกล้าปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาอีกเพียงหยดเดียว ผมจะให้เขาได้ลงนรกไปจริงๆ” คำพูดของเย่เชินหลิน เหมือนออกมาจากปากซาตานชั่วร้าย ไม่มีความรู้สึกเลยสักนิด
เซี่ยชีหรั่นรีบอดกลั้นน้ำตา ขอร้องด้วยเสียงต่ำว่า “ขอโทษ ฉันไม่ร้องไห้แล้ว ไม่ร้องแล้ว คุณอย่าทำอะไรเขา เขาเป็นน้องชายของคุณ”
“ไม่ต้องขอร้องเขา” โม่เสี่ยวจุนพูดขึ้น สีหน้าก็เยือกเย็นเหมือนเย่เชินหลิน
หลินต้าฮุยยืนอยู่ไม่ไกล มองดูท่าทางของคนทั้งสอง ถึงขั้นรู้สึกว่าทั้งสองคนคล้ายกันมาก
“คุณข่มขู่ผู้หญิงแบบนี้ หมายความว่ายังไง? อยากจะทำอะไรยังไง ก็มาทำกับผมได้เลย ไม่เป็นไร” โม่เสี่ยวจุนพูดเพิ่มเติมอีก เย่เชินหลินเม้นปากอย่างเยือกเย็น “คุณคิดว่าผมไม่กล้าหรือ?”
“ผมรู้ว่าคุณกล้า ลูกหลานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อย่างพวกคุณ จะรังแกคนขึ้นมา ไม่เคยเห็นคนอยู่ในสายตาอยู่แล้ว ผมรู้ แต่ผมก็ไม่กลัว มาสิ มีฝีมืออะไรบ้างคุณก็งัดออกมาเลย หากผมขอร้องคุณ ผมก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย แต่คุณอย่าทำให้เธอลำบากใจ คุณทำให้เธอลำบากใจ คุณก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
เย่เชินหลินเม้นปากหยัน มือที่กอดเอวเซี่ยชีหรั่นยิ่งกระชับแน่นขึ้น ในใจกลับแอบคิด เด็กคนนี้ นับว่าหยิ่งยโส ทระนงไม่เบา ถึงว่าทำไมเซี่ยชีหรั่นถึงทำเพื่อเขาได้อย่างสุดจิตสุดใจ
“ปล่อยเธอ” โม่เสี่ยวจุนก้าวมาข้ามหน้า จะแย่งคน หลินต้าฮุยได้ก้าวเท้ามายืนกั้นตรงหน้าเขาไว้ก่อนแล้ว
“คุณไม่มีสิทธิ์พูดสามคำนี้กับผม เป็นคุณเองที่ส่งเธอมาให้ผมเอง” ท่าทางเย่เชินหลินยังคงเรียบเฉย ริมฝีปากขยับ ทุกคำๆที่พูดออกมา ล้วนทำให้โม่เสี่ยวจุนเจ็บปวดอย่างที่สุด
“อย่าทำแบบนี้ พวกคุณทั้งสองคนอย่าทำแบบนี้อีกเลย ดีไหม? พวกคุณเป็นพี่น้องกันนะคะ” เซี่ยชีหรั่นเงยหัวขึ้น มองดูเย่เชินหลิน ตอนที่พูดพวกนี้ออกมา ในใจเธอก็กำลังเจ็บปวด
เธอหวังอยากที่จะให้ทั้งสองตรวจDNAกันเร็วๆ ยอมรับกันเร็ว ไม่ต้องตึงเครียดเพราะเธอ
“ผมกับคนที่รู้จักแต่รังแกผู้หญิงแบบนี้ ไม่เป็นพี่น้องกันแน่ ตรวจบ้าบออะไร ไม่มีความจำเป็น ชีหรั่น คุณบอกผม ยังมีเงื่อนไขอะไรอีก ถึงจะสามารถไปจากเขาได้ ผมจะไม่ยอมให้คุณโดนรังแก ผมจะไม่ยอมให้เขารังแกคุณอีก”
คำพูดของโม่เสี่ยวจุนทำให้เซี่ยชีหรั่นกระวนกระวายใจ เธอใช้แรงทั้งหมดที่มีอยากดิ้นรนออกจากอ้อมอกของเย่เชินหลิน เธอกลับทำไม่ได้
“คุณปล่อยฉันก่อน ให้ฉันได้พูดกับเขาหน่อยได้ไหม? แค่พูดด้วยเอง ฉันหนีไม่หนี” ยังไงก็ดิ้นไม่หลุด เซี่ยชีหรั่นมองเย่เชินหลินอย่างดื้อรั้น พูดขึ้นอย่างดื้อรั้น
ท่าทางเธอเยือกเย็นมาก เหมือนไม่เคยมีท่าทีพูดกับเขาแบบนี้มาก่อน มือเย่เชินหลินคลายออก เซี่ยชีหรั่นรีบถอยออกจากอ้อมกอดของเขา แล้วหันไปพูดโม่เสี่ยวจุนว่า “เสี่ยวจุน คุณฟังฉันนะ เขาไม่ได้รังแกฉัน เขาดีกับฉันมาก”
“อย่าพูดอีกเลยชีหรั่น เขาทำยังไงกับคุณ ผมเห็นกับตา ไม่ต้องทนเพื่อผมขนาดนี้ คุณทำแบบนี้ ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ก็ไม่สามารถสงบสุขได้ บอกผมมา จะต้องทำยังไงถึงจะไปจากเขาได้ ผมจะทำทุกวิถีทาง ให้คุณได้ไปจากเขา”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว ยิ่งกระวนกระวาย เธอรีบพูดขึ้นว่า “คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณแค่ไม่เห็นตอนที่เขาดีกับฉันเอง ฉันบอกคุณนะ ครั้งก่อนตอนที่ฉันตกอยู่ในอันตราย เขานั่งเฮลิคอปเตอร์ทั้งคืนเพื่อรีบไปช่วยฉัน มีคนรังแกฉัน เขาก็ช่วยฉันล้างแค้น ช่วยฉันเอาคืน เขาดีกับฉันจริงๆ ฉันก็ ฉันรักเขา ฉันไม่ไป ไม่ว่าคุณจะทำยังไง ฉันก็จะไม่ไปจากเขา”
นับว่าผู้หญิงคนนี้ยังรู้จักสำนึก เย่เชินหลินกระตุกคิ้ว ในใจค่อยดีขึ้นมาหน่อย
ไม่ว่าเซี่ยชีหรั่นจะพูดยังไง เมื่อคืนโม่เสี่ยวจุนได้ยินกับหู เธอกลัวเย่เชินหลินขนาดนั้น วันก็เห็นกับตา เขากอดเธอไว้อย่างเผด็จการขนาดนั้น แม้แค่เธอจะพูดกับเขายังไม่ยอม
เธอบอกว่าเขาดีกับเธอ บางทีอาจจะมีตอนที่ดี นี่ไม่อาจปฏิเสธได้ บางทีผู้ชายแบบเขาอาจจะไม่ยอมให้ใครมารังแกผู้หญิงของตัวเอง นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจริงใจกับเธอแค่ไหน หากเขาดีกับเธอจริง ก็ควรที่จะมีความเชื่อใจกับให้อิสระเธอ ไม่ใช่เผด็จการกับเธอแบบนี้ ทำให้วันวันของเธอต้องอยู่อย่างเหมือนนกกลัวธนู (มีเรื่องอะไรกระทบเล็กน้อยก็จะหวาดกลัวอย่างมาก)
“ได้ยินไหม? เธอจะไม่ไปจากผม เธอเป็นผู้หญิงของผม เป็นผู้หญิงของผมไปชั่วชีวิตนี้ คุณอย่าฝันที่จะให้เธอได้จากไป” เย่เชินหลินพูดจบอย่างเยือกเย็น ดึงมือเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดขึ้นว่า “ยังไงเขาก็ไม่ใช่น้องชายผมอยู่แล้ว ในเมื่อเขาไม่อยากตรวจ ผมยิ่งไม่อยาก กลับเถอะ”
“ไม่ได้” เซี่ยชีหรั่นสะบัดมือเขาทิ้ง
“เย่เชินหลิน คุณรับปากฉันแล้วนะ คุณจะผิดคำพูดหรือ? DNAนี้ยังไงก็ต้องตรวจ จะต้องตรวจ เขาเป็นน้องชายของคุณอยู่แล้ว คุณทำไมต้องยอมรับน้องชายตัวปลอม แล้วให้ตัวจริงเร่ร่อนอยู่ข้างนอก? คุณไม่ตรวจ พลาดจากโอกาสนี้แล้ว คุณจะเสียใจไปตลอดชีวิตนะ”
“ยังมีคุณ เสี่ยวจุน เมื่อคืนคุณรับปากฉันไหม เรื่องนี้จะต้องฟังฉัน?” เพราะความตื่นเต้น หัวใจของเซี่ยชีหรั่น กำลังเต้นอย่างรุนแรง น้ำเสียงทั้งรีบทั้งเร็ว เธอโกรธแล้วจริงๆ
เธอโกรธเย่เชินหลิน และก็โกรธโม่เสี่ยวจุน
ทำไมพวกเขาต้องละทิ้งโอกาสเรื่องสำคัญที่จะรับรู้ความเป็นพี่น้องกันอย่างนี้ ขัดแย้งกันเพื่อเธอผู้หญิงคนเดียว แม้กระทั่งโอกาสที่จะได้รู้จักกันยังไม่ยอมให้ซึ่งกันและกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
“อย่าโกรธเลยนะ ขอโทษ ผมตรวจ” โม่เสี่ยวจุนพูดเสียงเบา เห็นเขาสำนึกผิดเร็วขนาดนี้ เย่เชินหลินอดไม่ได้ที่จะมองดูเขาอย่างไม่พอใจ
ในใจคิด อุตส่าห์คิดว่าจะมีความสามารถขนาดไหน เพื่อเอาใจผู้หญิงแล้ว แม้แต่หลักการก็ไม่มี ดูแล้วก็น่าชัง
เขาจะมีน้องชายแบบนี้ได้อย่างไร? นั่นเป็นไปไม่ได้แน่
“ตรวจก็ตรวจ คุณจะได้ตายใจสักที ไปสิ” เย่เชินหลินพูดขึ้นจนจบอย่างเย็นชา แล้วพูดกับโม่เสี่ยวจุน
“เชิญทั้งสองเชิญท่านทางนี้ครับ” หลินต้าฮุยรีบพูดประโยคนี้ขึ้น เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก
ตามที่เขาเห็น เย่เชินหลินกับโม่เสี่ยวจุนทั้งสองเหมือนเป็นพี่น้องกันมาก แต่แปลกที่ครั้งก่อนผลตรวจของเหยนชิงเหยียนกับเย่เชินหลิน มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อมาก
เซี่ยชีหรั่นถูกเย่เชินหลินจูงมือไว้ตลอด ตามพวกเขาไปถึงที่เจาะเลือด หลินต้าฮุยช่วยกรอกข้อมูลแล้วเอามายื่นให้แต่แรกแล้ว ทั้งสองเซ็นชื่อ หลังจากนั้นก็เจาะเลือด ตัวอย่างเลือดถูกนำไปแล้ว
ดูเลือดของเขาทั้งสอง ถูกพนักงานถือเอาไป เส้นประสาทที่แน่นตึงของเซี่ยชีหรั่น ค่อยๆได้คลายลงบ้าง
ผลตรวจ จะต้องเป็นไปตามที่เธอหวังไว้ พวกเขาจะต้องเป็นพี่น้องกัน
รอผลตรวจออกมาแล้ว เย่เชินหลินก็จะได้รู้ว่า คนที่มาเมื่อวานคือตัวปลอม ต้องมีกลอุบายแน่
“หลินต้าฮุย คุณจดเบอร์โทรศัพท์เขาไว้ ตอนที่มาเอาผล คุณแจ้งเขาด้วย” เย่เชินหลินสั่ง
“ครับ คุณเย่” หลินต้าฮุยรู้ความหมายของเย่เชินหลิน คงไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นแอบติดต่อกับโม่เสี่ยวจุนอีก
เขาเดินไปหาโม่เสี่ยวจุน พูดอย่างสุภาพว่า “คุณโม่ รบกวนคุณบอกเบอร์โทรของคุณให้ผมทราบด้วยครับ”
โม่เสี่ยวจุนมองดูเสี่ยชีหรั่น แววตาเธอเหมือนกำลังพูด บอกเขาว่า ฉันไม่สะดวกที่จะติดต่อคุณอีกแล้ว
เขารู้ว่าเซี่ยชีหรั่นทำอะไรไม่ได้ เขาไม่อยากทำให้เธอลำบากใจ จึงบอกเบอร์โทรของเขาให้กับหลินต้าฮุยไป
หลังจากที่โม่เสี่ยวจุนทิ้งเบอร์โทรไว้แล้ว หักห้ามใจแล้วหันตัวเดินจากไป เงาหลังของเขาค่อยๆห่างหายไป เซี่ยชีหรั่นแอบมองดูเขา แล้วพูดในใจว่า “เสี่ยวจุน ดูแลตัวเองด้วยนะ”
ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ฉันจะดูแลตัวเองดีๆ และก็ไม่ต้องคิดหาหนทางว่าจะทำยังไงให้ฉันได้ไปจากที่นี่ คุณทำไม่ได้ ฉันก็จะไม่ไป ฉันรับปากเขาแล้ว เขาทำตามสัญญาแล้ว ดังนั้นฉันก็ต้องรักษาสัญญา ที่เป็นพื้นฐานจริยธรรมของความเป็นคนที่ต้องยึดมั่น
“คุณเย่ คุณจะเข้าบริษัทหรือจะกลับคฤหาสน์?” หลินต้าฮุยถาม ที่จริงเขาเห็นสีหน้าเย่เชินหลินแย่มาก กลัวเขากลับบ้านไปทำอะไรเซี่ยชีหรั่นผู้น่าสงสาร จึงถามขึ้นมา
“กลับคฤหาสน์” เย่เชินหลินใช่ว่าจะดูไม่ออก ว่าหลินต้าฮุยหมายความว่ายังไง
เขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นกลับไปคนเดียว ไม่ให้เธอได้มีโอกาสเจอกับโม่เสี่ยวจุนเป็นการส่วนตัว
ตลอดทาง เซี่ยชีหรั่นเป็นเหมือนดั่งหุ่น หุ่นที่โดนเขาล่ามไว้ ยิ้มไม่เป็น พูดไม่ได้ นั่งเงียบๆสงบๆอยู่ตรงนั้น
ส่วนใหญ่เธอจะมองออกไปต่างหน้าต่าง ท่าทางเศร้าสลดอย่างแข็งกระด้าง
มองดูวิวถนนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด แววตาเซี่ยชีหรั่นไม่มีจุดมุ่งหมาย เธอไม่รู้ว่าอนาคตของเธออยู่ที่ไหน
หลังจากที่ผลออกมาแล้ว สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปไหม?
หากพวกเขาเป็นพี่น้องกัน เย่เชินหลินจะเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง แล้วปล่อยเธอไหม?
ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากอยู่ข้างกายเขา เธอเพียงแค่รู้สึกยิ่งอยู่ยิ่งรู้ซึ้ง พวกเราอยู่ด้วยกันด้วยวิธีนี้ จะไม่มีทางมีความสุข เธออยากเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง หลังจากที่เธอเป็นอิสระแล้ว เธอยังคงยอมที่จะอยู่ข้างกายเขา เขาก็จะได้เข้าใจหัวใจของเธอ แล้วก็จะได้ไม่ต้องระแวงเธออีก
แน่นอน รอหลังจากที่เธอเป็นอิสระแล้ว เขายังจะรู้สึกแบบนี้กับเธอไหม เธอไม่อาจรู้ได้ หากเขายังเป็น เธอก็จะยอมอยู่กับเขา ก่อนอื่นเขาก็ต้องโสดไม่มีพันธะใดใดด้วย
เย่เชินหลินเม้นริมฝีปาก เอาความไม่พูดไม่จาของเขา คิดเป็นว่าเขายังคิดถึงโม่เสี่ยวจุน
น้ำตาบนใบหน้าเธอแห้งแล้ว ในใจคงยังไหลล้นอยู่
ไม่ให้เธอเจอโม่เสี่ยวจุน สำหรับเธอแล้วคงเป็นการทรมานอย่างมาก
เขามองเธออย่างเย็นชา เธอมองดูนอกหน้าต่างอยู่ตลอด เขาก็มองดูเธออยู่ตลอด เซี่ยชีหรั่นรู้สึกได้ถึงแววตาของเขา หันมาสบตากับเขา
“ฉัน….” เธอเหมือนอยากพูดอะไร เขาโอบเธอเข้ามากอดทันที ไม่พูดอะไร แล้วจูบริมฝีปากของเธอ
ริมฝีปากของเธอรู้สึกเจ็บ เขาจูบอย่างรุนแรง
ดูดดื่มเธออย่างบ้าคลั่งสักพักหนึ่ง เขาถึงยอมปล่อย ไม่พูดอะไรสักคำ
เขาไม่ต้องพูดอะไร เธอก็เข้าใจความหมายของเขา เขากำลังใช้การกระทำเพื่อบอกเธอว่า เธอเป็นผู้หญิงของเขา เขาไม่ยอมให้เธอคิดถึงคนอื่น เธอคิดได้เพียงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเขาเท่านั้น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset