สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 389 สาวใช้ตัวแสบ293

ตอนที่ 389 สาวใช้ตัวแสบ293
เธอหัวเราะอย่างขมขื่น แล้วพูดขึ้นเสียงเบาว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ได้คิดถึงคุณ? ที่จริงเมื่อกี้ฉันกำลังคิดถึงเรื่องระหว่างเรา”
“จะพูดอะไร ไม่ต้องพูดแค่ครึ่งเดียว” เขาพูดขึ้น แสดงว่าเขาสนใจว่าเธอถึงเรื่องอะไรระหว่างเขา
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจ พูดขึ้นอีกครั้งว่า “ฉันแค่กำลังคิดว่า บางทีระหว่างเราแค่เริ่มต้นด้วยวิธีที่ไม่ดีแค่นั้นหรือเปล่า หากเรารู้จักกันเหมือนคู่รักทั่วไป ทำความรู้จักกัน แล้วรักกัน จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อใจฉันไหม จะไม่สงสัยฉันอย่างไม่มีเหตุผลไหม”
ตอนที่เธอพูดคำพวกนี้ เธอมองสายตาอันลึกซึ้งของเขาแล้วพูด เธอหวังอย่างยิ่งว่าคำพูดของเธอจะสามารถเข้าถึงใจเขา แล้วเขาได้ครุ่นคิดดีๆ
สมมุติว่าเขาชอบเธอจริงๆ รักเธอจริงๆ อยากอยู่กับเธอไปตลอดชีวิตจริงๆ เขาก็ควรที่จะใคร่ครวญคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเราไหม ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่ปกติ เขาไม่รู้หรือ?
เย่เชินหลินเพ่งมองดูเธอ ใบหน้าเล็กๆของเธอดูเหมือนจะเต็มด้วยความจริงใจกับหมดหนทาง มองอยู่พักหนึ่ง แล้วเขาก็ถอนสายตาจากเธอ ปล่อยเธอ กลับไปนั่งตัวตรง
ความสงสัยที่เขามีต่อเธอ ไม่เคยไม่มีเหตุผล เธอไม่เคยร้องไห้เพื่อผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเขาหรือ?
ตอนนั้นทั้งๆที่เธอรู้ว่าอาจจะท้องลูกของเขาอยู่ ยังจะตามโม่เสี่ยวจุนไปอย่างบ้าคลั่งไม่ใช่หรือ? หากในใจของเธอ มีเขาเป็นที่หนึ่ง มากกว่าที่มีให้โม่เสี่ยวจุน เขาจะไม่รู้สึกได้หรือ?
เพื่อโม่เสี่ยวจุนแล้วแม้แต่ชีวิตเธอก็ไม่เอา สามารถเสียสละศักดิ์ศรีของตัวเอง เธอจะทำเพื่อเขาเย่เชินหลินขนาดนี้ได้ไหม?
เธอทำไม่ได้ เขาไม่ต้องถามก็รู้
เธอสงบ มีสติเพียงพอที่จะคุยกับเขาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ท่าทางของเขา ยังคงไม่สนอกสนใจ อยากเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ความพยายามของเธอคนเดียว แล้วจะสามารถทำได้
เซี่ยชีหรั่นถอนหายใจอยู่ในใจ หลับตา เอนนอนบนหมอนตรงที่นั่งหนังแท้
เธอไม่ไปมอง และก็ไม่ไปคิด รอผลตรวจออกมาก่อน
ตลอดทาง ไม่มีใครพูดอะไรอีก ใจของใครต่างก็ไม่สงบ จนกระทั่งมาถึงคฤหาสน์ รถจอดตรงหน้าประตูคฤหาสน์หลัก ทั้งสองยังคงสงบเงียบ ต่างคนต่างก็ไม่มองกัน
มียามสองคนมารอรับอยู่แต่แรกแล้ว ซ้ายคนหนึ่ง ขวาคนหนึ่งช่วยทั้งสองคนเปิดประตูรถ
เย่เชินหลินนั่งอยู่ในรถไม่ขยับ พูดกับเซี่ยชีหรั่นอย่างเรียบเฉยว่า “อยู่ที่นี่อย่างสงบเสงี่ยม อย่าลืมว่ามือถือของคุณมีไว้เพื่อติดต่อคนคนเดียวเท่านั้น มีโปรแกรมดักฟัง ระวังตัวเองหน่อย”
ร่างกายเซี่ยชีหรั่นแข็งทื่อ แล้วหันหน้าไป ฉีกยิ้มแล้วพูดขึ้นเสียงเบาว่า “ฉันรู้ค่ะ ต่อไปจะไม่โทรหาคนอื่น”
พูดเสร็จ เธอลงจากรถ ยามปิดประตูรถ รถของเย่เชินหลินสตาร์ทเครื่อง ขับออกไป
จิ่วจิ่วเห็นเซี่ยชีหรั่นกลับมา รีบวิ่งมาแต่ไกล กอดแขนเธอไว้ ถามอย่างห่วงใยว่า “เป็นไงบ้าง เจอโม่เสี่ยวจุนหรือยัง? ผลตรวจDNAเป็นยังไงบ้าง? พวกเขาเป็นพี่น้องกันไหม?”
เซี่ยชีหรั่นอมยิ้ม พูดขึ้นว่า “ซื่อบื้อ ผลที่ไหนจะออกมาเร็วขนาดนั้น”
“ตอนที่เธอเห็นเขา ร้องไห้เลยละสิ? เฮ้อ เขาได้เห็นก็คงดีใจมากเหมือนกันแหละ ใช่ไหม?” จิ่วจิ่วถามขึ้น พูดถึงคำว่าเขา ในใจจิ่วจิ่วรู้สึกทั้งหวาน ทั้งขมขื่น แต่ต่อให้วุ่นวายยังไง เธอก็ยังคงไม่อยากปล่อยวาง
“อืม เขาดีใจมาก และก็ทรมานมาก เขาคิดแต่ว่าคุณเย่ไม่ดีกับฉัน เขาไม่วางใจ” เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยเสียงเบา แล้วก็ถอนหายใจ
“โถ่ งั้นเธอก็บอกเขาไปสิ เธอก็บอกว่า จริงๆแล้วคุณองค์ชายดีกับเธอมา ที่จริงเขาก็ดีกับเธออยู่แล้ว เขาสนใจเธอมาก ถึงได้แคร์เธอขนาดนั้น เธอดูสิ เมื่อก่อนอี๋ปิงฆ่าตัวตายต่อหน้าเขา เขายังไม่แม้แต่จะแลดู ใช่ไหม?”
ทำไมเซี่ยชีหรั่นจะไม่รู้ เขาแคร์มาก แต่สิ่งที่เขาแคร์ มากเกินไป ทำให้เธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยหายใจไม่ออก
หากความรักของเขาแคร์เธอจนแทบหายใจไม่ออกขนาดนี้ เธอยอมให้เขาไม่รักเธอจะดีกว่า ไม่ต้องชอบเธอ เห็นเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง หรือแค่คู่นอนก็ได้
หากเป็นแบบนั้น เขาก็จะได้มีความสุขและไม่สะทกสะท้าน
“จิ่วจิ่ว เขาห้ามไม่ให้ฉันติดต่อเสี่ยวจุน แม้แต่โทรศัพท์เขาก็ไม่ให้ฉันโทร เธอเข้าออกสะดวก ฉันขอให้เธอไปดูเสี่ยวจุนบ่อยๆนะ เขาจะต้องอารมณ์ไม่ดีแน่ เขาก็จะคิดหาวิธีให้ฉันได้ไปจากที่นี่ ช่วยฉันไปบอกเขาว่า ฉันสบายดีมาก บางทีเธอพูดแบบนี้เขาอาจจะไม่เชื่อ เธอก็เล่าเรื่องที่เมื่อก่อนเขาเคยดีกับฉันยังไง เล่าให้เสี่ยวจุนฟัง เธอพูดเยอะๆ เขาจะต้องเชื่อ อีกอย่างเธอช่วยบอกเขาด้วยว่า หวีซานซานกับพ่อของเขาถูกจับแล้ว หวีหงทาวถูกตัดสินประหารชีวิต คุณเย่บอกว่าหวีซานซานถูกตัดสินคดีจำคุกอย่างน้อยก็สิบปี เธอก็พูดว่าชิงซานที่ตายไปแล้ว สามารถตายตาหลับแล้ว”
เฮ้ย คนพวกนี้ทำไมต้องทุกข์กันถึงขนาดนี้ น้ำตาของจิ่วจิ่วก็จะระงับไว้ไม่อยู่อีกแล้ว เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ยิ้มพูดว่า “วางใจได้ ฉันบอกตามที่เธอพูดทุอย่าง ฉันก็จะคิดหาวิธีทำให้เขาหลงรักฉัน สมมุติ สมมุติว่าเธอปล่อยวางเขา ไม่อยู่กับเขาได้จริงๆ ฉันจะดูแลเขา เขาเป็นผู้ชายที่คู่ควรรัก”
เซี่ยชีหรั่นพยักหัว พูดขั้นอย่างหนักแน่นว่า “ได้ งั้นฉันขอฝากเขาไว้กับเธอด้วยนะ ฉันจะไม่หันกลับไป เธอวางใจได้ แต่ว่าคนอย่างเขาดื้อรั้นมาก เธอต้องคิดเตรียมใจไว้ให้ดี เขาจะไม่ใจอ่อนกับหวั่นไหวง่ายๆขนาดนั้น แต่ถ้าเธอมุ่งมั่น ต่อไปเขาจะรู้สึกได้ถึงความจริงใจของเธอ และดีกับเธอ”
“อืมๆ ฉันคิดเตรียมการเตรียมใจไว้พร้อมหมดแล้ว ต่อให้เขาเป็นกระดูกที่แทะยาก ฉันก็จะต้มเขาให้เปื่อย แล้วแทะจนเกลี้ยง” จิ่วจิ่วพูดพร้อมหัวเราะ เซี่ยชีหรั่นก็ค่อยๆหัวเราะตาม
“ไปเถอะ”
“ได้ ฉันไปละ เธอเองก็ดูแลตัวเองดีๆนะ ดีที่ตอนนี้ที่นี่ไม่มีคนร้ายแล้ว ฉันไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะมีคนมาทำร้ายเธอ แต่ว่าตัวเธอเองก็ต้องทำให้อารมณ์ตัวเองดีขึ้นนะ ตอนนี้แม้แต่หรงหรงก็ไม่อยู่แล้ว เธอช่างน่าสงสารจริงๆ” จิ่วจิ่วอยากที่จะอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อเธอ แต่ว่าบางครั้งเธอก็มองออกว่า ที่จริงเซี่ยชีหรั่นอยากที่จะอยู่เงียบๆ เหม่อลอยคนเดียวมากกว่า
จิ่วจิ่วเดินไปสองก้าว คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เดินกลับ พูดกับเซี่ยชีหรั่นว่า “ชีหรั่น เมื่อคืนเธอดื่มยาคุมอีกแล้ว ทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอดื่ม ฉันอยากที่จะแย้งมามาก คราวหน้าหากคุณเย่ยังให้เธอดื่มยา ฉันจะไม่ไปบอกหมอห่าว เธอแอบมีลูกให้เขาคนหนึ่งดีไหม? หากมีลูกแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเธอก็จะไม่ต้องเป็นแบบนี้ คุณเย่รู้ว่าเธออยากที่จะมีลูกให้เขามาก เขาจะอาจจะไม่ระแวงเธออีก ตอนนี้ถึงแม้คนแซ่ส้งถึงจะไม่มา แต่การหมั้นของพวกเขาน่าจะยังไม่ได้ยกเลิก ถ้าเธอมีลูกแล้ว คุณเย่จะต้องตัดขาดความสัมพันธ์นั้น แล้วให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา”
“อย่าได้ทำแบบนั้นเด็ดขาด จิ่วจิ่ว เธออย่าทำแบบนั้นเด็ดขาดนะ” สีหน้าเซี่ยชีหรั่นเคร่งขรึมและจริงใจมาก กระทั่งหว่างคิ้วยังเคลื่อนไหว
“ทำไม? หรือว่าเธอเปลี่ยนใจแล้ว ไม่อยากมีลูกกับเขาหรือ?”
เซี่ยชีหรั่นส่ายหัว “ไม่ใช่ ฉันหวังว่าลูกของฉันจะต้องมีอย่างลับๆล่อๆ ลูกที่แอบมีแบบนี้ จะไม่ได้รับการอวยพร หากในใจเขามีฉัน สักวันหนึ่งพวกเราจะไม่ต้องกังวลใดๆ ฉันจะรอให้ถึงวันนั้น ฉันอยากให้ลูกของฉันได้เกิดมาจากความรัก ตั้งแต่ที่เขายังอยู่ในท้องก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรักของพ่อแม่ ฉันไม่อยากให้หลังจากที่เขาคลอดออกมาแล้ว ยังต้องผ่านอุปสรรค บางทีอาจจะโดนทอดทิ้งในสักวัน เด็กคนหนึ่งไม่ว่าจะโดนพ่อทอดทิ้ง หรือโดนแม่ทอดทิ้งล้วนน่าสงสาร”
พูดพวกนี้แล้ว น้ำเสียงเซี่ยชีหรั่นค่อยๆห่างไกล
เธอไม่โทษพ่อแม่ของเธอ แต่เธอจะไม่ให้ลูกของเธอโดนทอดทิ้งเหมือนเธอ ดังนั้นเรื่องมีลูก เธอจะต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมแล้วเท่านั้น เธอถึงจะทำ
จิ่วจิ่วคิดถึงเซี่ยชีหรั่นเป็นเด็กกำพร้า แล้วจึงเข้าใจความรู้สึกของเธอ จึงตอบอย่างไม่มีหนทางว่า “ก็ได้ ฉันรู้แล้ว ต่อไปฉันจะไม่คิดแบบนี้อีก เธอพูดถูก เขารักเธอ เธอก็รักเขา ความเข้าใจผิดช้าเร็วก็ต้องเข้าใจกัน รอให้เป็นไปตามทางที่ถูกต้องดีที่สุด”
“ไปเถอะ อย่าห่วงฉันเลย ฉันไม่เป็นไร” เซี่ยชีหรั่นพูดขึ้นอีก จิ่วจิ่วจึงจากไป
เซี่ยชีหรั่นกลับมาถึงห้องรับแขก มองดูเวลาบนมือถือ นับดูวัน แม่บุญธรรมไป๋จงเจี๋ย ถูกจับขังไปประมาณหนึ่งสัปดาห์แล้ว เธอคงจะไม่มีความสุข
ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยดีกับเธอ ทุกครั้งที่เซี่ยชีหรั่นคิดถึงเธอ ก็ยังคงวางใจไม่ลง
ก่อนที่เย่เชินหลินจะออกไปได้สั่งไว้ว่า มือถือของสามารถโทรหาเขาได้คนเดียว เธอรู้ว่าที่จริงเขาคงแค่ไม่อยากให้เธอโทรหาผู้ชาย โทรหาพ่อบุญธรรมน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
เซี่ยชีหรั่นจึงโทรหาโม่เว่ยปิง น้ำเสียงของเขาฟังดูแหบแห้ง ฟังแล้วก็ไม่สบายใจ
“พ่อ พ่อเป็นอะไร? ไม่สบายหรือ?”
“เป็นหวัดนิดหน่อย”
เซี่ยชีหรั่นรู้ เขาอาจเป็นเพราะคุณแม่โม่ ตัวเองกระวนกระวายจนไม่สบาย เธอจึงรู้สึกผิด ครั้งนี้ที่จริงเธอตั้งใจกลับไปดูแลพวกเขา คิดไม่ถึงว่ากลับทำให้แม่บุญธรรมเกิดความโลภ หากไม่ใช่เพราะเธอกลับไป พวกเขาก็ไม่ต้องมารับกรรมแบบนี้
“แม่ยังสบายดีไหม? แม่ยังโทษหนูอยู่ใช่ไหม? พ่อปลอบแม่ด้วยนะ หนูไม่มีหนทางแล้วจริงๆ”
“สมน้ำหน้าเธอแล้ว” โม่เว่ยปิงพูดเยือกเย็น เซี่ยชีหรั่นฟังรู้ว่าเขากำลังตำหนิเธอ ที่ไม่สามารถช่วยพูดให้เย่เชินหลินปล่อยคน
เธอพยายามแล้ว แต่เธอก็ทำไม่สำเร็จ
“พ่อ พ่ออย่าพูดแบบนี้สิ เดี๋ยวคืนนี้หนูจะพยายามพูดกับเขาอีก ว่าสามารถปล่อยแม่ออกมาไวหน่อยได้ไหม”
“ลูกดูเองละกัน” โม่เว่ยปิงพูดเสร็จ ก็จะวางสาย น้ำเสียงยังคงแข็งกระด้าง
“พ่อ พ่ออย่าเพิ่งวางสาย เสี่ยวหนงกลับมาหรือยัง? ที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เธอรู้ไหม?”
“ไม่รู้ ไม่ได้บอกเธอ ไม่ใช่เรื่องที่ดีอะไร จะบอกเธอทำไม เอาละ แค่นี้แหละ พ่อยังต้องทำกับข้าวเอาไปส่งให้แม่ของลูก” โม่เว่ยปิงนึกว่าด้วยความที่เขาพันขอหมื่นขอเอาบุหรี่ไปให้ยามเฝ้าประตู คนอื่นเลยยอมให้เขาเอาข้าวไปส่งให้ภรรยาของเขา เขาไม่รู้เลยว่าความดูแลเป็นพิเศษของไป๋จงเจี๋ยนั้น ล้วนเป็นเซี่ยชีหรั่นไปขอร้องมา
เซี่ยชีหรั่นฟังเสียงวางสายที่ดังมา ในใจรู้สึกแย่ พ่อบุญธรรมโทษเธอ เพราะคิดว่าเพราะเธอที่ทำให้คนรักของเขาต้องถูกขัง
ก็ไม่แปลกที่เขาจะคิดแบบนั้น แม่บุญธรรมเปรียบดั่งของล้ำค่าในมือเขามาตลอด หลายปีมานี้ ไม่ว่าเศรษฐกิจในบ้านจะดีหรือไม่ดี ต่อให้เขามีเงินแค่บาทเดียวก็จะเอาไปใช้เพื่อภรรยา

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset