สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 435 สาวใช้ตัวแสบ339

ตอนที่ 435 สาวใช้ตัวแสบ339
ถ้าสมมติเขาแค่หอมแก้มเธอเฉยๆ เธอจะดีใจมากกว่านี้
ดีที่มีร่มคันนั้นช่วยชีวิตเธอไว้ ไม่อย่างนั้นเธอคงตายอย่างอนาถแน่ๆ เซี่ยชีหรั่นกำลังซาบซึ้งในร่มคันนั้นอยู่นั้น ก็กวาดสายตามองไปที่ เย่บางคน รู้สึกว่าอารมณ์เขาแปลกๆ
“ร่มคันนั้นเป็นอะไร? คุณมองอะไรมันขนาดนั้น? นี้ก็คือวันนั้นฝนตก เซียว…… ” เซี่ยชีหรั่นอธิบายได้ครึ่งหนึ่ง เย่เชินหลินก็เปิดกระจกรถลง พูดกับคนขับรถว่า : “เอาร่มคันนี้ไปทิ้งขยะให้ที! ”
“อะไรนะ? เย่เชินหลิน คุณอย่าทำแบบนี้นะ! ” เซี่ยชีหรั่นตกใจนิดหน่อย ก็แค่ร่มไหม? เขาอุตส่าห์ใจดีให้เธอยืม จะไม่ขอบคุณได้ยังไง แถมยังเอาของของคนอื่นไปทิ้งอีก?
“ครับ คุณเย่! ” คนขับรถรีบดับไฟบุหรี่ แล้วรับร่มที่เย่เชินหลินยื่นส่งให้เขา และเอาไปทิ้งทั้งขยะที่ห่างออกไปไม่ไกลมาก
เซี่ยชีหรั่นเศร้าใจอย่างมาก อยากจะเปิดประตูรถ ไปเอาร่มนั้นกลับมา แต่กลับถูกเย่เชินหลินคว้าเอวไว้ไม่ให้เธอขยับ
“นี้เป็นร่มที่ ผู้จัดการเซียวหวังดีให้ฉันยืม! ” เซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่ดีใจนิดหน่อย พูดเสียงดังคัดค้านเย่เชินหลิน
“นี้เป็นร่มของเขาที่บริษัทจัดสรรให้ เขาไม่ใช้เอง กลับเอามาจีบสาว ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าร่มไม่ได้เอามาใช้ประโยชน์ มีเหตุผลที่จะทิ้ง ” ท่าทางของเย่เชินหลินที่เย็นชา น้ำเสียงที่เย็นชา และท่าทางวางมาด ทำให้เซี่ยชีหรั่นหมั่นไส้
เซี่ยชีหรั่นมองคนขับรถที่เอาร่มของ เซียวแย่ทิ้งลงในถังขยะผ่านกระจกด้านหลังรถ เธอมองเย่เชินหลินอย่างโมโห ถามเขาว่า : “คุณนี้ทำไมไม่รู้จักฟังเหตุผล?”
“ผมไม่ฟังเหตุผล? คุณไม่รู้ว่า เซียวแย่เป็นคนยังไง? เขาคือเสือผู้หญิง ผู้หญิงในบริษัทกี่คนแล้วที่ตกหลุมรักเขา? เขาเป็นคนนิสัยรักความสะอาดมาก คุณไม่รู้? สิ่งของที่เขาใช้ไม่อนุญาตให้ใครใช้ ถ้าคนอื่นใช้ เขาจะรีบโยนทิ้งทันที เขาเอาร่มมาให้คุณยืม ถ้านี้ไม่ได้มีความรู้ดีๆกับคุณแล้วมันคืออะไร? อีกอย่าง วันนี้ผมได้ยินคนพูดเต็มสองหูเรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับเขาที่ไม่ปกติ? ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ หลังจากนี้คุณต้องรักษาระยะห่างกับเขา! ”
หน้าของเย่เชินหลินพูดว่าดำก็ดำเลย เซียวแย่นั้นก็มีนิสัยรักความสะอาดเกินไปคนทั้งองค์กรก็รู้ หลินต้าฮุยคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวไม่รู้กี่รอบแล้ว
“จุดนี้ของเซียวแย่นั้นออกสาวมากเกินไป ไม่เคยเห็นผู้ชายร่างบึกบึนเป็นอย่างนี้มาก่อน ไม่ว่าผู้หญิงจะหน้าตาสวยเพียงใดแค่ใช่ของเขานิดหน่อย เขาก็จะรีบโยนทิ้งทันที ” นี้เป็นคำพูดของหลินต้าฮุย
หลินหลิงเอาเซี่ยชีหรั่นไปไว้บริษัทสาขาเพชรพลอย เขาลืมไปเลยว่ามีเซียวแย่คนนี้ วันนี้ตอนเที่ยงหลังจากได้ยินคำพูดนั้น เขาถึงเพิ่งนึกถึงเซียวแย่
เขานับว่าเป็นวัยรุ่นที่มีความสามารถโดดเด่น แต่ว่าก็มีนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าเป็นคนที่เขาไม่ชอบไม่ยอมรับ คนอื่นบังคับเขา เขาก็จะโกรธและบอกจะลาออก เพื่อนิสัยที่ดื้อรั้นของเขา ผู้จัดการใหญ่บริษัทสาขาเพชรพลอยจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเย่เชินหลิน
แต่ว่าผลแผนโครงการกิจกรรมที่เขาทำนั้นดีมากจริงๆ เย่เชินหลินเก็บคนที่มีความสามารถไว้ ไม่อยากให้เป็นเพราะนิสัยที่ไม่ดีของเขาจึงไล่เขาออก ไม่อยากเสียคนที่มีความสามารถ
เขาตั้งใจที่จะพบเซียวแย่คนนี้ หลายรอบ เซียวแย่ชื่นชมเย่เชินหลินด้วยใจจริง
วันนี้ที่เขาอยากมา เพราะรู้สึกว่าเซี่ยชีหรั่นได้ถูกเซียวแย่ยอมรับแล้ว ไอ้เจ้าหมอนี้คิดไม่ซื่อแน่ๆ จะมาหมายปองผู้หญิงของเขา
หรือว่าเขาควรจะให้หลินหลิงเตือนเขาสักหน่อย ให้เขาซื่อสัตย์ในหน้าที่ของเธอหน่อย เพื่อความรักเขาถึงเก็บเขาไว้ ถ้าเขาใจกล้ารีบเซี่ยชีหรั่นละก็ เขาก็จะเอาความสามารถของเขาทิ้งซะ
“เย่เชินหลิน! ” เซี่ยชีหรั่นโมโหพูดออกมา อย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ : “คุณรู้ไหมว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลกับสิ่งที่ตัวเองชอบไม่เหมือนกัน? จะเป็นไปได้ไงที่ทุกคนจะสนใจฉันอา คุณนี้มันพูดแบบไม่มีหลักฐาน ทำเกินไปแล้ว! ฉัน……ฉันโกรธแล้ว! ”
“แล้วแต่คุณ! ” เย่เชินหลินตอบเย็นชา พูดจบก็ไม่ได้สนใจเธอ
เขาหึงแล้วมันเป็นอะไร เป็นผู้ชายก็ควรจะห่วงผู้หญิงไม่ใช่เหรอ? ถ้าเขาไม่สนใจเธอ เขาถึงจะไม่หึงนะ นี้ถึงเรียกว่าอยู่ในความครอบครอง ผู้หญิงของเขามีออร่าในตัวเองอยู่แล้ว แค่สายตาก็สามารถทำให้ผู้ชายอ่อนระทวยได้ ถ้าเขาไม่คุมเข้มหน่อย ถูกสวมเขาขึ้นมาจะทำยังไง?
คนขับรถรู้ว่าทั้งสองคนไม่ได้ทำอะไรกันต่อแล้ว ก็เลยขึ้นรถ ขับรถกลับบ้านพักตากอากาศ
เมื่อถึงบ้านพักตากอากาศ อาหารเย็นได้เตรียมพร้อมแล้ว พ่อบ้านและจิ่วจิ่วมายืนต้อนรับเห็นพวกเขาทั้งสองคนกลับมาพร้อมกัน ในใจก็ดีใจแทนพวกเขา
แต่ว่าเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาลงรถมา พวกเขาก็พบว่าใบหน้าของเย่บางคนนั้นเข้มขรึม แน่นอนว่าไม่ใช่ท่าทางที่โกรธมาก ใบหน้าเล็กๆของเซี่ยชีหรั่นก็โกรธหน้ามุ่ย ดูจากลักษณะท่าทางก็ดูออกว่าทะเลาะกันเพราะเรื่องเล็กนิดเดียว นี้เขาเรียกว่าเป็นรสชาติของคู่รัก ไม่เป็นอะไรมาก พวกเขาก็แอบอมยิ้มหัวเราะ
“คุณเย่ ชีหรั่น ทานอาหารเย็นค่ะ ”
“ไม่กิน ” เย่เชินหลินพูดอย่างเยือกเย็น
“ฉันก็ไม่กิน ” เซี่ยชีหรั่นปรายตามองเขา แล้วพูดเหมือนกัน
หลังจากนั้นทั้งสองคนต่างมองกันคุณมองฉัน ฉันมองคุณ เล่นแง่กันอีกไม่พูดอะไร ต่างคนต่างแยกเดินกลับห้อง
พ่อบ้านส่งสายเป็นที่รู้กันให้จิ่วจิ่ว ทั้งสองคนแบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบ พ่อบ้านรับผิดชอบไปเรียกเย่เชินหลิน จิ่วจิ่วทำหน้าที่พูดโน้มน้าวเซี่ยชีหรั่น
“ชีหรั่น เกิดเรื่องอะไรขึ้นอะ? คู่สามีภรรยาเล่นแง่กันแล้ว? ” จิ่วจิ่วเดินเข้าไปห้องเซี่ยชีหรั่นแล้วถามเธอ
“ใครไปเป็นคู่สามีภรรยากับเขา คนไม่มีเหตุผล! ผู้จัดการของพวกเราให้ฉันยืมร่ม ร่มคันนั้นมีชื่อของคนนั้นสลักไว้อยู่ เขาก็โยนทิ้งเลย ถ้าเกิดเขาคนนั้นถามหาขึ้นมา ฉันจะพูดกับเขาว่าอะไรอา จะให้ฉันบอกว่าฉันโยนทิ้งแล้วเหรอ?”
จิ่วจิ่วหัวเราะ “ฉันก็คิดว่าเรื่องอะไร ก็เขาแคร์คุณไง โอเคแล้ว ไปกินข้าวเถอะ เออใช่แล้ว เรื่องโม่เสี่ยวจุนสรุปเป็นยังไงกันแน่ จนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อเขาไม่ได้ ”
พูดถึงโม่เสี่ยวจุน เซี่ยชีหรั่นถอดหายใจออกมา พูดกับจิ่วจิ่วเสียงเบาว่า : “เขาบอกว่าปลอดภัย ฉันเดาว่าน่าจะควบคุมอิสรภาพของเขา ฉันไม่กล้าพูดเยอะ นิสัยของเขาคุณก็รู้ดี สามารถทำอะไรก็ได้หมด ตอนนี้ฉันยังไม่แน่ชัดว่าเสี่ยวจุนทำอะไรผิดกันแน่ ฉันว่าไม่น่าจะไม่มีเหตุผลแล้วถูกเขาทำแบบนี้ รอหน่อยนะ ขอเวลาหนึ่งถึงสองวันนี้ ฉันจะคิดหาวิธีแล้วค่อยถามเขาอีก ”
“อืม! ” จิ่วจิ่วพยักหน้า พูดเสียงเบาว่า : “เพราะฉะนั้นคุณยิ่งห้ามทะเลาะกับเขาด้วยเรื่องร่มแค่นี้ รีบไป เรียกเขากินข้าวเถอะ ”
“ฉันไม่เรียกเด่นขาด ความคิดของเขาต่างจากคนปกติ ถ้าฉันเรียกแล้ว เขาก็จะคิดว่าฉันประจบเอาใจ ไม่แน่อาจจะโกรธมากกว่าเดิม ชั่งเถอะ เขาไม่กินก็ชั่ง ยังไงคนที่หิวก็เป็นเขา ไม่ใช่ฉัน! ”
ถึงแม้ปากของเซี่ยชีหรั่นจะพูดอย่างนั้น แต่ในใจก็ยังคิดถึงท่าทางของเย่เชินหลินตอนเที่ยงที่เขากินหม้อไฟหมาล่าอย่างมีความสุข เธอเห็นเขากินอย่างมีความสุข ตัวเองก็ไม่ได้ดีใจแทนเขาด้วยเหรอ?
“คุณไปดูสิว่าเขาออกมาหรือยัง ” ผ่านไปแป๊บหนึ่ง เซี่ยชีหรั่นเข้าไปกระซิบจิ่วจิ่วที่ข้างหู
“คุณหนะ ทำพฤติกรรมเหมือนเขา ฉันว่าพวกคุณสองคนก็เป็นคนแบบเดียวกัน ! ” จิ่วจิ่วพูดเยอะเย้ยเธอ แล้วเดินออกไป เห็นเงาดำดำของพ่อบ้านเดินออกมา แต่ไม่เห็นเงาของเย่เชินหลิน
จิ่วจิ่วเอาเรื่องเดินกลับไปบอกเซี่ยชีหรั่นที่ห้อง เธอเดินออกไปพูดกับพ่อบ้านว่า : “คุณไปดูแลคนพวกนั้นเถอะ ไม่ต้องรอพวกเรากินข้าว ทุกคนน่าจะหิวกันหมดแล้ว พวกคุณไปกินเถอะ ถ้าตอนดึกเขาอยากกินขึ้นมา เดี๋ยวฉันดูแลเขาเอง พวกคุณไม่ต้องยุ่ง ”
“นี้……” พ่อบ้านรู้สึกอึดอัด ทั้งรู้สึกซาบซึ้งใจในคำพูดของเซี่ยชีหรั่นอีกแล้ว
ที่จริงหลังจากที่เขาปรับเปลี่ยนแล้ว ในใจของเขาก็เอาเซี่ยชีหรั่นให้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านพักตากอากาศไปแล้ว เธอคอยรับภาระหน้าที่มาตลอด ไม่เคยออกคำสั่งกับเขาเลย ครั้งแรกของการสั่งก็เป็นคำสั่งที่เอาใจใส่ดูแลอย่างมาก เขาจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อยได้ยังไงละ
“ไม่เป็นไร วางใจเถอะ เขาไม่โทษพวกคุณหลอก ”
เซี่ยชีหรั่นรู้ว่า เย่บางคนกลัวเสียหน้ามาก เขาพูดออกมาเองว่าไม่กิน ถ้าออกไปกิน ก็จะเสียหน้ามาก
ถึงแม้ว่าจะกิน ก็จะแอบไปกินเอง ดีที่สุดก็คือไม่ให้คนอื่นเห็น
“ได้ครับ งั้นผมจะเรียกให้ทุกคนไปกินข้าวที่ที่กินข้าวคนงาน ” พ่อบ้านพูด เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า จิ่วจิ่วที่หิวมาตั้งนานแล้วอย่าพูดเลยว่าดีใจแค่ไหน ดีใจลิงโลดเดินไปกับพ่อบ้านแล้ว
พวกเขาเพิ่งไป ก็เห็นประตูห้องของเย่เชินหลินเปิดออกมา เขาเดินออกมาจากห้อง คิ้วค่อยๆขมวด เดินอ้อมเธอแล้วเดินตรงไป
“คุณจะไปที่ไหน? ” เซี่ยชีหรั่นกลัวเขาจะออกไป เพราะฉะนั้นก็เลยพูดตามหลังเขาไปหนึ่งประโยค
“ห้องน้ำ! ” เขาพูดอย่างอารมณ์ไม่ดี
เขาอยู่ในห้องน้ำนานมาก นานจนเซี่ยชีหรั่นรู้สึกไม่วางใจ
ตอนกลับมาถึงแม้สายตาเขาจะดูปกติ แต่เซี่ยชีหรั่นกลับรู้สึกว่าสีหน้าเขาไม่ค่อยดีนัก ลืมเรื่องที่ทะเลาะกับเขาไปแล้ว รีบถามเขาว่า : “เป็นอะไร ไม่สบายท้องเหรอ? ”
“เปล่า! ”
เขาพูดปากแข็งไปอย่างนั้น แท้ที่จริงคือเขาท้องเสีย ไม่นานก็วิ่งไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกกลัว คิดว่าต้องเป็นหม้อไฟหมาล่าที่กินไปตอนเที่ยงแน่ๆ อาจจะเป็นเพราะแต่ก่อนเธอกินบ่อย เลยไม่มีปฏิกิริยาอะไร แต่เขาไม่เหมือนเธออา
เธอโทษตัวเอง ไม่เพียงแต่โทษตัวเอง ยังเป็นห่วงเขาด้วย รีบไปเรียกพ่อบ้าน ให้เขาไปเชิญแพทย์สองท่านมาที่บ้าน
“แค่ท้องปั่นป่วน จะกระต่ายตื่นตูมไปทำไม? ไม่ตรวจ ” เย่เชินหลินท่าทางแข็งกร้าว เซี่ยชีหรั่นใช้เสียงอ่อนโยนพูดกล่อมเขาอยู่ข้างๆ : “บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่รอคุณอยู่นะ ร่างกายของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดี อีกอย่าง ถ้าคนในบ้านคุณรู้ว่าฉันเป็นต้นเหตุที่พาคุณไปกินหม้อไฟหมาล่า แล้วท้องเสีย ฉันก็อาจจะถูกด่าตายเลย ”
เซี่ยชีหรั่นขอร้องเขาแล้วขอร้องเขาอีก แต่ เย่บางคน ก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ไม่ตรวจ
เขาก็น่าจะโกรธเธอเรื่องร่มนั้นอยู่ เซี่ยชีหรั่นมองซ้ายมองขวา เข้าไปกระซิบข้างหูเขาเบาๆ : “หลังจากนี้ฉันจะอยู่ห่างจากผู้จัดการเซียว เรื่องร่มคันนั้นฉันก็ไม่โกรธแล้ว คุณตรวจดีๆเถอะ โอเคไหม? อย่าทำแบบนี้ ฉันเป็นห่วงคุณมากนะ ”
เย่เชินหลินเลิกคิ้ว และยังพูดแบบนิ่งนิ่งว่า : “ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนจู้จี้จุกจิกเท่านี้ ตรวจตรวจก็ได้ ”
หลังจากที่หมอทั้งสองคนตรวจเสร็จ ก็แยกกันให้ยา พวกเขามีประสบการณ์การทำงานร่วมกันมาหลายปี ก็เป็นที่รู้กัน ว่าการให้ยาของทั้งสองจะไม่ปะทะกันแน่นอน
เป็นการร่วมกันระหว่างแพทย์แผนจีนกับแพทย์ทางตะวันตก ก็ไม่ใช่ยาวิเศษอะไร ผลของยาก็ยังต้องใช้เวลา
คืนนี้เย่เชินหลินวิ่งเข้าห้องน้ำนับไม่ถ้วน เซี่ยชีหรั่นก็อยู่ในห้องของเขามองเขาวิ่งเข้าห้องน้ำไปมาอย่างเป็นห่วง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset