สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่444 สาวใช้ตัวแสบ348

ตอนที่444 สาวใช้ตัวแสบ348
เสียงปิดประตูดังขนาดนี้ ทำให้เซี่ยชีหรั่นที่เพิ่งนอนถึงกับสะดุ้ง จากนั้นเธอก็ถอนหายใจยาวๆ ทีนึง เธอรู้สึกหดหู่กับสถานการณ์นี้
เย่เชินหลิน ทำไมนายปล่อยเขาไปไม่ได้ นายน่าจะรู้ ขอแค่โม่เสี่ยวจุนปลอดภัย ระหว่างเราก็ไม่มีอะไรขัดแย้งกันเลย นายรู้มั้ย? ในขณะที่นายอยากเจอฉัน ฉันก็อยากเจอนายเหมือนกัน ไม่ใช่ฉันไม่อยากเจอนายนะ แต่เสี่ยวจุนต้องมาทรมานเพราะฉัน จะให้ฉันไม่สนใจเขา แล้ววิ่งไปหานาย บอกรักนายได้ยังไงกัน?
ทั้งสองคนต่างคนต่างผ่านคืนนี้ไปอย่างเย็นชา จนถึงเช้าวันจันทร์ ก็ยังไม่ได้พูดกันแม้แต่คำเดียว
หลังจากไปทำงาน เซี่ยชีหรั่นก็ฝืนให้ตัวเองมุ่งความสนใจไว้ที่กับงาน เธอรู้เรื่องของโม่เสี่ยวจุน เธอพูดอะไรไปอีกก็ไม่มีประโยชน์ และก็ไม่ใช่ว่าเย่เชินหลินจะไม่ช่วย เธอรู้ว่า เรื่องนี้เย่เชินหลินโดนไห่ลี่หมินขอ ไห่ลี่หมินไม่ปล่อย เขาก็จะไม่ปล่อยออกมา
งานของเธอไม่กี่วันนี้โฟกัสไปที่การคอนเฟิร์มดารา ที่จะมาโปรโมตอีเว้นท์งานวันคริสต์มาส ในห้างก็ยุ่ง ในบริษัทก็ยุ่ง ดาราก็ยุ่งเหมือนกัน
เธอคัดคู่รักดาราที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในปัจจุบัน มาสำรองไว้ อีกไม่กี่วันเธอจะต้องส่งแผนงานของเธอแล้ว พวกเธอไม่ใช่แค่ต้องคิดแผนงาน ยังต้องตรวจสอบให้แน่ใจด้วยว่าแผนงานปฏิบัติได้จริง
ถ้าหากดาราคนนั้นไม่ว่าง นั่นก็เป็นเรื่องวุ่นวายอีก
ดังนั้นเวลาของเธอทั้งหมดก็ใช้ไปกับการติดตามดูดาราพวกนั้น ดูว่ากำลังถ่ายหนังอยู่ หรือไปพักร้อน หรือว่ามีอีเว้นท์อื่นอยู่แล้ว ทั้งหมดเธอต้องดูให้ดี
วันจันทร์งานของเย่เชินหลินยิ่งเยอะขึ้น ช่วงเช้าหลังจากที่เขาประชุมกับบอร์ดบริหารระดับสูงทั้งหมด ก็ยังมีประชุมกับคนภายในบริษัท
ตอนกลางวันเย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นก็ต่างกินข้าวที่โรงอาหารของบริษัท เซี่ยชีหรั่นมองดูเขาสั่งข้าวเองจากที่ไกลๆ ผิดคาดเล็กน้อย
เธอคิดว่าเรื่องพวกนี้ เขาคงไม่ทำด้วยตัวเอง ที่แท้เรื่องนี้เธอเข้าใจเขาผิด
เย่เชินหลินอยู่ในบริษัท ปกติแล้วก็ไม่ได้ทำตัวพิเศษอะไร เขากินข้าวที่โรงอาหาร เหมือนกับพนักงานคนอื่นๆ
ขณะที่เขาก้มหน้ากินข้าว เขาก็จะได้ยินความในใจของพนักงาน แต่ว่าเขามักจะนั่งหลบมุม พยายามไม่ให้เป็นจุดสนใจ
“แหม สงสัยหัวหน้าเซียวจะสนองความต้องการของใครบางคนไม่ได้? ตอนนี้ถึงมองตรงไปที่คุณชายขนาดนี้ จะไม่เกินตัวไปหน่อยเหรอเธอ” เสียงของหวูเหม่ยดังขึ้นจากด้านหลังของเซี่ยชีหรั่น
เธอรีบหยุดมอง และไม่ได้สนใจหวูเหม่ย และก็หันกลับไปสั่งอาหารต่อ
หวูเหม่ยเหมือนว่าจะยั่วโมโหเซี่ยชีหรั่นไม่ได้ จึงอยากจะพูดอะไรกับเธออีก แต่เซี่ยชีหรั่นก็หันหลังกลับมามองเธอด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดขึ้นเสียงเบา: “ถ้าเธอยังกระแนะกระแหน แกว่งเท้าหาเรื่อง ฉันจะรายงานเรื่องพฤติกรรมของเธอกับคุณเย่ เธอเชื่อมั้ย?”
หวูเหม่ยโดนสายตาของเธอทำให้สตั้นไป จ้องเธออย่างไม่พอใจนัก แล้วก็กลับไปสั่งข้าวต่ออย่าหงอยๆ

เย่เชินหลินกวาดสายตาดูในโรงอาหารแล้วรอบนึง สุดท้ายก็เห็นเงาเล็กของเซี่ยชีหรั่น

หลินหลิงนั่งอยู่ตรงข้ามเขา เปิดปาก อยากจะถามเขา ว่าทั้งสองมีปัญหากันใช่มั้ย ตอนนี้เป็นส่วนตัว ถึงแม้เธอจะถามก็ไม่เกินไป

แต่ว่าก็อดทนไว้ไม่ถาม ไม่อยากให้เย่เชินหลินรู้สึกว่าเธอไปสนใจชีวิตส่วนตัวของเขา

ครั้งก่อนที่หลินหลิงตั้งใจห่อข้าวไปให้เขา เย่เชินหลินก็มาพูดคุยกับเธอครั้งนึง ถึงแม้คำพูดจะไม่ได้แรง แต่หลินหลิงก็รู้ความหมายดี

ถ้าหากเธอไม่รู้ฐานะของตัวเอง อยากจะเป็นผู้หญิงของเขา เขาคงไล่เธอออก

หลายปีที่ผ่านมา เธออยู่ที่บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปล้มลุกคลุกคลาน มันไม่ง่ายเลย เธอไป เพราะเย่เชินหลิน เธอก็ไม่ผิดหวัง แต่แค่เธอไม่อยาก สำหรับเธอแล้ว วัยสาวของเธอก็วางไว้ที่นี่แล้ว จะให้เงินเธอเยอะยังไง ก็ไม่คุ้มค่า แถมยังให้เธอจากนี้จะไม่ได้เจอเย่เชินหลิน เธอจะรู้สึกว่าชีวิตของเธอคงไม่มีความหมายอะไรแล้ว

เซี่ยชีหรั่นเลือกนั่งที่นั่งที่ไกลจากเย่เชินหลินมากๆ ตอนที่เย่เชินหลินมองเธอ ถึงแม้ว่าจะเหมือนอยู่ไกลกันมากๆ เธอก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาของเขา

สองวันนี้พวกเขาแม้แต่หน้ายังไม่มองกันเลย เธอคิดว่า คนหยิ่งอย่างเขา คงคิดว่าที่นี่มีคนเยอะแยะ เขามองเธอ และเธอจะไม่สังเกตเห็นสินะ

เขาคงคิดถึงเธอมาแน่ๆ เซี่ยชีหรั่นแอบคิดในใจ เธอสามารถรู้สึกได้

ทำไมเธอจะไม่อยากมองเขา และพูดกับเขาดีๆ แล้วถามเขาว่าท้องของเขาดีขึ้นแล้วใช่มั้ย สุดท้าย เธอก็ไม่ได้ถามอะไร ขนาดมองยังไม่มอง ก็แค่ก้มหน้า กินข้าวไป

ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในแผนกการตลาด ดูเหมือนเธอจะเป็นศัตรูของทุกคน ไม่มีใครใกล้ชิดเธอ ดังนั้นคนอื่นกินข้าวกันสองสามคนพูดคุยและหัวเราะกัน มีเธอคนเดียวที่นั่งหลบมุม กินข้าวอย่างเงียบๆ

ขณะที่เธอก้มหน้าก้มตากินข้าวนั้น จู่ๆ ข้างหน้าเธอก็มีเงาคนนั่งลง เธอแปลกใจเล็กน้อย จึงเงยหน้าขึ้นมอง เห็นว่าคนที่นั่งลงนั้นคือเซียวแย่

“เซียว หัวหน้าเซียว?” ท่าทางของเซี่ยชีหรั่น กระวนกระวายมาก ไม่ได้คิดอย่างอื่น เธอคิดถึงว่าคนแซ่เย่นั้นนั่งอยู่ในโรงอาหารเหมือนกัน

ครั้งก่อนอยู่ดีๆ ก็หึงขึ้นมา จนทิ้งร่มของเซียวแย่ไปแล้ว ถ้าหากเห็นว่าพวกเขานั่งกินข้าวด้วยกัน เขาจะคิดยังไง?

เพราะว่าไม่กี่วันนี้พวกเขาไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เขาจะคิดว่าเธอสับสน แล้วนอกใจเขามั้ยนะ?

สมองของเขาก็ไม่เหมือนคนปกติ ถ้าเขาหึงขึ้นมาก็ห้ามยาก ถ้าเกิดเขาพุ่งเข้ามา พูดกับเซียวแย่ว่านี่คือผู้หญิงของเขา ถ้าหากหนักหน่อยก็ชกเซียวแย่ หลังจากนี้เธอยังต้องทำงานต่อมั้ย?

เซียวแย่คิดว่าที่เซี่ยชีหรั่นกระวนกระวายเพราะว่ากลัวเขา อาการแบบนี้ของเธอ มันทำให้คนอื่นอยากปกป้องขึ้นมาตามธรรมชาติ

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องตกใจ ตอนนี้มันเวลาพักกินข้าวเที่ยง ทุกคนก็คือเพื่อนร่วมงาน ไม่มีแบ่งชั้นกัน เธอทำตัวตามสบาย” เซียวแย่พูดอย่างอ่อนโยน

พอเซียวแย่นั่งลงตรงข้ามเซี่ยชีหรั่น พวกพนักงานผู้หญิงขี้เม้าท์ ก็หันมามองเธอโดยมิได้นัดหมาย โดยเฉพาะหวูเหม่ย ที่มีสีหน้ากระดี๊กระด๊ากว่าคนอื่น แล้วพูดขึ้น: เธอดูสิ ฉันบอกแล้วว่าสองคนนี้ต้องมีอะไรกันแน่ๆ ขนาดทนไม่ไหวต้องมานั่งกินข้าวด้วยกัน?

สายตาของเย่เชินหลินก็ยังคงจับจ้องไปที่เซี่ยชีหรั่น เมื่อเห็นเซียวแย่นั่งลงตรงข้ามเธอ หน้าเขาก็บูดทันที

ตะเกียบในมือเขาหยุดขยับ คิ้วขมวดเล็กน้อย และมองไปทางพวกเขา

เซี่ยชีหรั่นรู้สึกประหม่า หัวเราะแห้งๆ แล้วพูดกับเซียวแย่: “หัวหน้าเซียวคะ คุณก็รู้ ตั้งแต่ที่ฉันเข้ามาทุกคนก็พูดแต่เรื่องของฉัน บอกว่าพวกเรา…..ฉันคิดว่าคุณอย่ามานั่งกินข้าวตรงข้ามฉันเลยนะคะ ฉันกลัวว่าพวกเธอจะนินทาอีก ฉันเป็นแค่พนักงานธรรมดาไม่เท่าไหร่ แต่คุณเป็นเสาหลักของแผนกเรา ภาพลักษณ์ของคุณสำคัญที่สุด”

“ไม่เห็นเป็นไร ผมโสด ไม่ต้องสนใจคำนินทาพวกนั้นหรอก อีกอย่างมนุษย์น่ะ ไม่ได้ใช้ชีวิตบนขี้ปากของใคร ตัวเองเดินไปในทางที่ต้องการก็โอเคแล้ว”

ความร้อนรนในใจเซี่ยชีหรั่นนั้น ในใจคิดว่า คุณจะเดินไปในทางที่ต้องการไม่ได้ ถ้าเกิดเขาหึงขึ้นมา ทางที่คุณเดินมันจะลำบากน่ะสิ

เขาเป็นหัวหน้าของเธอ เขาดันเขามานั่งตรงข้ามเธอก่อน ถ้าเธอหนีไป ก็เหมือนจะไม่ได้

เซี่ยชีหรั่นฝืนยิ้มออกมาอย่างอึดอัด แล้วพูดเสียงเบา: “หัวหน้าเซียว ฉันหิวแล้ว ฉันกินก่อนนะคะ” ตอนนี้ทางเลือกเดียวคือรีบกิน แล้วรีบไป

แต่สายตาของเธอนั้นก็ดันเหลือบไปทางเย่เชินหลิน ทันใดนั้นบรรยากาศก็เริ่มไม่ดี ร่างสูงนั้นได้ลุกขึ้น แล้วเดินมาทางพวกเขาด้วยสีหน้าบูดบึ้ง

ขณะนั้น เซียวแย่ก็สรรหาคำมาถามเธอ: “ชีหรั่น ร่มคันนั้นของฉันล่ะ?”

ร่มของเขาคันนั้น?

เซี่ยชีหรั่นยังคงมองไปที่เย่เชินหลิน ตื่นเต้นจนเกือบจะลืมหายใจ ยิ่งไม่มีสติตอบคำถามของเซียวแย่

อีกอย่างเธอก็ตอบไม่ได้ด้วย เธอจะบอกเขาได้มั้ยว่าเย่เชินหลินทิ้งมันไปแล้ว?

“ฉัน ฉันกินเสร็จแล้ว ฉัน ไปก่อนนะคะ” เซี่ยชีหรั่นลุกยืนขึ้น พูดอย่างตะกุกตะกัก คิดว่าจะเผ่นหนี

ในสายตาของเซียวแย่มีแต่สาวสวย จึงไม่ได้มองไปที่ด้านข้างแม้แต่น้อย ยังคงพูดอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว: “กินเสร็จแล้วก็ไม่เป็นไร อยู่นั่งเป็นเพื่อนฉันแป๊บนึงสิ มองดูสาวสวยแล้วมันทำให้ฉันอยากอาหาร”

คนแซ่เย่บางคนเดินจนเข้ามาใกล้แล้วสีหน้าก็บึ้งหนักกว่าเก่ามากๆ หัวคิ้วกระตุกเล็กน้อย แล้วก้าวเท้าไปยืนบังข้างหน้าของเซียวแย่ มันบังสาวสวยที่เขามองอยู่พอดี

ทัศนวิสัยของเซียวแย่โดนบังไว้ เขาจึงไม่ค่อยพอใจ กำลังจะถามว่าไอ้หน้าไหนมารบกวนการจีบสาวของเขา แต่พอเงยหน้าขึ้น ความไม่พอใจบนใบหน้าของเขาก็ชะงักทันที

“ประธานเย่?” เขาตกใจเล็กน้อย ในใจคิดว่า ไอ้แซ่เย่ทำไมไม่ไปนั่งกินข้าวดีๆ มายืนบังข้างหน้าเขาทำไม?

เซี่ยชีหรั่นเหงื่อตกแทนเซียวแย่และตัวเองด้วย ตอนนั้นเธอลุกขึ้นแล้ว จะไปก็ไม่ใช่ จะอยู่ต่อก็ไม่เชิง เธอแค่มองเย่เชินหลินอย่างเอ๋อๆ

เย่เชินหลินยื่นมือออกไปทางเซียวแย่ เซี่ยชีหรั่นตกใจไม่รู้จะทำยังไง ในใจก็คิดว่าแย่แน่ๆ ไม่รู้ว่าเขานะทำอะไรกันแน่

“คะ…คุณเย่!” เซี่ยชีหรั่นพูดปากพันกัน เย่เชินหลินไม่ได้มองไปที่เธอเลย เขายื่นมือข้างนึงออกไปจับมือข้างที่ไม่ได้ถือตะเกียบของเซียวแย่แค่นั้น

“เซียวแย่! ไม่ได้เจอกันมาสักพักเลยนะ แม้แต่กินข้าวยังยุ่งกับการจีบสาวเลยนะ?” เย่เชินหลินพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร ราวกับว่าเซียวแย่นั้นเป็นพี่น้องที่สนิทกันมาหลายปี

เซี่ยชีหรั่นเหงื่อแตกพลั่ก ปฏิกิริยาของเขาในตอนนี้ยิ่งทำให้คนไม่วางใจ สรุปเขาจะทำอะไรกันแน่?

“ฮ่าๆ ไม่มีหรอกครับ ประธานเย่ เชิญนั่งครับ!” เซียวแย่หัวเราะแห้งๆ แล้วพูดออกมาอย่างเกรงใจ ไม่ได้คิดจะให้เขานั่งลงจริงๆ

ใครจะรู้ว่าเย่เชินหลินจะนั่งลงตรงข้ามเขาจริงๆ แถมยังเป็นที่ข้างๆ ที่เซี่ยชีหรั่นยืนอยู่

ในโรงอาหารของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป โต๊ะอาหารทุกตัวจะมีสี่ที่นั่ง ถ้าตอนนี้เซี่ยชีหรั่นนั่งลง ที่ที่เย่เชินหลินนั่งอยู่ ก็จะเป็นที่ฝั่งเดียวกับเธอพอดี

เซี่ยชีหรั่นเห็นเย่เชินหลินนั่งลง ในใจก็ยิ่งมีลางสังหรณ์ไม่ดี

“ฮ่าๆ ประธานเย่ คุณนั่งจริงๆ เหรอ!” เซียวแย่เป็นคนที่มีบุคลิกเฉพาะตัว ไม่เหมือนพนักงานทั่วไปที่กลัวเย่เชินหลิน ดังนั้นเขาจึงพูดความในใจออกมาด้วยน้ำเสียงล้อเล่น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset