สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่446 สาวใช้ตัวแสบ 350

ตอนที่446 สาวใช้ตัวแสบ 350
“จะไม่ใช่ได้ไง ฉันเห็นสายตานางมองไปที่คุณชาย ไม่ได้ดูสภาพตัวเองเลย คุณชายจะมองนางได้ยังไง?”
“โอ้โห พวกเธอคงไม่รู้สินะ ลีลาบนเตียงของนาง……” หวูเหม่ยเพิ่งพูดถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็โดนขัดไว้
เซี่ยชีหรั่นไม่อยากจะฟังคำพูดไร้สาระพวกนี้แล้ว ตอนนี้คนพูดถึงกันเยอะเกินไปแล้ว เธอก็ไม่อยากจะอธิบาย แถมที่เซียวแย่พูดเมื่อกี้มันก็ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายจริงๆ ตอนนี้กลัวว่าแม้เธอจะอยากอธิบายก็อธิบายได้ไม่ชัดเจน
ตอนที่เธอกำลังจะไป จู่ๆ เสียงของหวูเหม่ยก็หยุดลง รู้สึกแปลกเล็กน้อย จึงหันไปดูข้างๆ เห็นแค่ใบหน้าที่เย็นชาของหลินหลิง กำลังยืนอยู่ข้างหน้าของหวูเหม่ย เชิดหน้ามองต่ำเธอ
“ผะ….ผู้ช่วยหลิน?” ครั้งนี้หวูเหม่ยตกใจไม่น้อย เธอรู้ว่า ถ้าทำให้หลินหลิงไม่พอใจ แม้แต่หัวหน้าก็จะปกป้องเธอไม่ได้
“ทั้งหมดคิดว่าเวลาพักกินข้าวเป็นเวลาอิสระ แล้วจะพูดอะไรก็ได้งั้นเหรอ? อย่าลืมสิ โรงอาหารนี้เป็นโรงอาหารของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป พวกเธอก็เป็นพนักงานของฝู้ซื่อกรุ๊ป รักษาคุณภาพหน่อย! นี่ครั้งแรกนะ ต่อไปถ้าฉันได้ยินเรื่องแบบนี้อีกล่ะก็ ยอมรับผลที่ตามมาเองแล้วกัน!” หลินหลิงพูดอย่างหยิ่ง ทำให้พนักงานหน้าทั้งหมดหน้าแหก แล้วรีบก้มหัว ยอมรับผิดทันที: “ขอโทษค่ะผู้ช่วยหลิน พวกเราผิดไปแล้ว! พวกเราจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว!”
“กินเสร็จก็รีบกลับไปซ่ะ นี่ไม่ใช่ที่ประชุม!” ตามคำสั่งของหลินหลิง พวกนางทั้งหมดก็แทบจะเผ่นหนี
ในโรงอาหารก็เหลือแค่เซี่ยชีหรั่นเป็นคนสุดท้าย เธอยืนขึ้น แล้วเดินไปทางหลินหลิง แล้วพูดเสียงเบา: “ขอบคุณนะ ผู้ช่วยหลิน”
“ไม่จำเป็น จะให้ฉันพูดนี่ก็นับว่าเป็นหน้าที่ของฉัน ฉันเป็นผู้ช่วยของประธานหลิน ช่วยรักษาภาพลักษณ์ของบริษัท ก็อยู่ในหน้าที่ของฉัน” ปฏิกิริยาของหลินหลิงนั้นเย็นชา คิดถึงเมื่อกี้ที่เซี่ยชีหรั่นกินข้าวกับเซียวแย่ แล้วเย่เชินหลินเข้าไปก่อกวน ไม่ต้องพูดเลยว่าใจเธอเจ็บปวดแค่ไหน
พอคิดไม่กี่วันที่ผ่านมานี้อารมณ์ของเย่เชินหลินก็ไม่ค่อยดี เธอเห็นก็ช้ำใจมาก ร้อนรนมาก แต่เธอก็ไม่มีทางทำอะไรได้ เธอก็ไม่ใช่คนที่จะทำให้เย่เชินหลินมีความสุขได้ ทำให้เธอยิ่งรู้สึกไม่ดี
เซี่ยชีหรั่นยิ้มอ่อน แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง: “ก็ยังรู้สึกขอบคุณอยู่ดี ขอบคุณนะ บ๊ายบายผู้ช่วยหลิน!”
“รอเดี๋ยว!” หลินหลิงเรียกเซี่ยชีหรั่นไว้ เดินเข้าไปหาเธอไม่กี่ก้าว แล้วเดินออกมาจากโรงอาหารพร้อมเธอ ในที่ที่ไม่มีใครได้ยิน เธอจึงพูดขึ้น: “มีบางเรื่องที่ฉันก็ไม่ควรพูดมาก แต่ว่าฉันเห็นคุณเย่ของพวกเราอารมณ์ไม่ดีเลย ไม่ใช่ว่าใครก็มีโอกาสเข้าใกล้เขา ยังไงก็คบกันแล้ว โปรดอย่าลืมรักษามันไว้ อย่าให้ถึงวันไหนที่มันหายไปแล้ว ถึงจะอยากได้คืนมา กลัวว่ามันจะไม่ง่าย”
พอเธอพูดจบ เธอไม่สนว่าเซี่ยชีหรั่นจะคิดยังไง พูดอะไร เธอก็เหยียบรองเท้าสูงแล้วเดินออกไป
เซี่ยชีหรั่นมองแผ่นหลังของเธออย่างงงๆ ในใจก็เสียใจ
หลินหลิงพูดแบบนี้ ฟังก็รู้ว่าในคำพูดมีคำพูดอีกที ไม่ใช่ว่าใครก็จะมีโอกาสเข้าใกล้เขาได้ ก็เหมือนเธอหลินหลิง ที่แท้เธอก็อยากเข้าใกล้เขาใช่มั้ย?

สำหรับเย่เชินหลินกับภาพลักษณ์บริษัท ที่เธอทำมันเกินกว่าที่ผู้ช่วยคนนึงควรจะทำแล้ว

เซี่ยชีหรั่นก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก เธอแค่คิดว่า ผู้หญิงคนนึงจะสามารถมองผู้ชายคนนึงอย่างนิ่งๆ แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

ถ้ากลับกัน เธอจะแอบรักเขาอย่างเงียบๆ ไม่ร้องขอสิ่งตอบแทนได้มั้ยนะ?

เซี่ยชีหรั่น เธอรักเย่เชินหลินจริงๆ มั้ย? ถ้าเธอรักเขา ทำไมถึงทนเห็นเขาไม่สบายใจ แถมเธอยังไม่ทำอะไรเลยล่ะ? เธอถามใจตัวเอง แถมรู้สึกว่าสองวันนี้ปฏิบัติกับเย่เชินหลินอย่างเย็นชาก็เหมือนจะไม่ถูกต้อง แต่พอนึกถึงภาพที่โม่เสี่ยวจุนโดนซ้อม ใจของเธอก็เหมือนโดนฉีกออกเป็นสองเสี่ยง

เซี่ยชีหรั่นมองโทรศัพท์ ยังเช้าอยู่ เธอไม่กล้าจะคิดเกี่ยวกับมันอีก จากนั้นจึงรีบเดินออกจากประตูบริษัทมา เหมือนกับปกติเดินออกมาไม่ไกล คนขับรถของเธอก็ตามเธอมาติดๆ

เธอใช้เวลาก่อนทำงานไปดูโม่เสี่ยวหนงอีกครั้ง เธออาการดีขึ้นมากแล้ว วันนี้เห็นหน้าเธอเริ่มมีสีแดง ไม่ซีดเหมือนกับตอนที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จสองวันนั้น

“พี่ ในที่สุดพี่ก็มาเยี่ยมฉันอีก ทั้งกลางวันกลางคืนฉันก็หวังให้พี่มา ถ้าเกิดวันไหนพี่ทิ้งฉันไม่ต้องการฉันแล้วฉันจะทำยังไง?” สภาพของโม่เสี่ยวหนงนั้นน่าสงสารอย่างเห็นได้ชัด เซี่ยชีหรั่นเสียใจจริงๆ

เธอนั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย แล้วตบไปที่มือของโม่เสี่ยวหนงเบาๆ แล้วพูดอย่างอ่อนโยน: “ยัยนี่นิ พี่ไม่เคยบอกกับเธอเหรอ? ว่าจะไม่ปล่อยเธอไม่สนใจเธอ ดูแลสุขภาพดีๆ อย่าคิดมาก”

“พี่ งั้นพี่บอกฉันหน่อยว่าจากนี้จะทำยังไงดี? รอฉันผ่านเดือนนี้ไป คนที่ดูแลฉัน พี่เขยก็คงสั่งให้กลับไป ฉันได้ยินมาว่าอาการนี้ทางที่ดีที่สุดควรจะนั่งสักสามเดือน ถึงจะไม่มีโรคตามมา หลังจากสองเดือนนั้น……ฉันควรจะไปที่ไหนล่ะ?”

“พี่จะหาทางเอง เธออย่าเพิ่งกังวลเรื่องนี้” เซี่ยชีหรั่นสัญญาเสียงเบา

“อืม! เป็นพี่ที่ดีกับฉันที่สุด!” โม่เสี่ยวหนงกอดร่างของเซี่ยชีหรั่น แล้วร้องไห้ออกมาเล็กน้อย ร้องไปพูดไป: “พี่ ฉันจะบอกให้ ประสบการณ์นี้ ทำให้ฉันได้เข้าใจ ว่าผู้ชายมันเพิ่งไม่ได้ เป็นญาติที่สามารถเพิ่งได้ แต่ก่อนหลายปีที่ผ่านมา นิดๆ หน่อยๆ ฉันก็โมโหใส่พี่ แถมยังพูดว่าพี่ไม่ใช่ครอบครัวของฉัน ฉันทำไม่ดีกับพี่ขนาดนั้น พี่ยังดีกับฉัน เหมือนกับพี่สาวแท้ๆ ของฉัน พี่ ฉันผิดไปแล้ว จากนี้ฉันจะไม่เอาแต่ใจแล้ว!”

“ยัยโง่ อย่าร้อง! ร้องจนตาเจ็บเป็นเรื่องติดตัวไปทั้งชีวิต ความจริงใจของเธอพี่รู้แล้ว อย่าร้องสิ!” เซี่ยชีหรั่นผลักเธอออกเบาๆ ช่วยเธอเช็ดน้ำตาบนหน้า แล้วปลอบเธออย่างอ่อนโยน

แน่นอนว่าโม่เสี่ยวหนงก็กลัวว่าจะร้องจนเจ็บตา หลังจากไหลออกมาไม่กี่หยดก็กลั้นไว้

ตอนนั้นโทรศัพท์เธอก็ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เป็นข้อความข่าว: บริษัทต้าซิงจำกัดประกาศล้มละลายอย่างเป็นทางการในวันนี้!

เซี่ยชีหรั่นไม่ค่อยอยากจะเชื่อ จึงดูอย่างละเอียดอีกที ถึงแม้ข้อความจะสั้น แต่ก็บอกได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง

“พี่ดูนี่!” โม่เสี่ยวหนงยื่นโทรศัพท์ให้เซี่ยชีหรั่นดูอย่างตื่นเต้น แน่นอนว่าเซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าที่บริษัทต้าซิงล้มละลายมันเกี่ยวอะไรกับโม่เสี่ยวหนง ไม่ได้รอให้เธอถามก็ได้ยินโม่เสี่ยวหนงกัดฟันกรอดแล้วพูดขึ้น: “สมน้ำหน้า! ฉันให้เขาเล่นกับความรู้สึกฉัน ทำจนฉันท้องโตจากนั้นก็ถีบส่งฉัน เหอะ คิดว่าโม่เสี่ยวหนงมีไว้ให้รังแกรึไง?”

“เธอพูดอะไร? เสี่ยวหนง เธอบอกว่าเจ้าของบริษัทนี้เป็นคนทำร้ายเธอใช่มั้ย?”

“ใช่! เป็นมัน ครั้งก่อนที่พี่เขยมาเขาตั้งใจถามฉัน ว่าพ่อของลูกเป็นใคร ฉันรู้ว่าเขาจะต้องล้างแค้นให้ฉัน! พี่ ฝากขอบคุณพี่เขยให้ที! เขาเหมือนจะไม่ค่อยชอบฉัน ฉันไม่ไปเจอเขาดีกว่า พี่ต้องบอกขอบคุณเขาแทนฉันนะ!”

“ได้ ฉันจะบอกเขาให้” ข่าวนี้ทำให้เซี่ยชีหรั่นหายโกรธอย่างมาก

ตอนนั้นหลังจากที่เธอรู้ว่ามีผู้ชายทิ้งโม่เสี่ยวหนงไปหลังจากที่เธอท้อง เธอโกรธมากอยากจะหาไอ้ผู้ชายที่มันทำร้ายเสี่ยวหนงทันที ให้เขาได้รับความทรมานมากกว่าเป็นหมื่นเท่าถึงจะทำให้เธอหายโกรธ

แต่ก็กลัวโม่เสี่ยวหนงเสียใจ เธอจึงไม่ได้พูดถึงเลย หลังจากนั้นเสี่ยวหนงอารมณ์ดีขึ้น เสี่ยวจุนก็มาเกิดเรื่อง เธอยังไม่ทันได้ความเสี่ยวหนง ไม่คิดว่าเย่เชินหลินจะช่วยเธอทำเรื่องนี้แล้ว

เธอไม่เห็นใจผู้ชายคนนั้น ไม่คิดว่าเย่เชินหลินทำแรงไป ในใจของเธอ ผู้ชายที่ทำแบบนี้กับผู้หญิง ทั้งโหดร้ายและไม่ยุติธรรม ไม่มีค่าพอให้เห็นใจ

“พี่ พี่กลับไปเถอะ ใกล้จะได้เวลาทำงานแล้ว” โม่เสี่ยวหนงพูดเสียงเบา เซี่ยชีหรั่นยิ้มให้เธอสักพัก รู้สึกว่าช่วงนี้เธอรู้เรื่องกว่าแต่ก่อนเยอะเลย มันทำให้เธอปลื้มปริ่ม

ช่วงบ่ายเซี่ยชีหรั่นก็ยังเป็นที่ต้อนรับของสายตาที่มีแต่ความสงสัยเช่นเคย แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เพราะเธอรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ถ้าหากทุกวันเธอมัวแต่คอยแคร์เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่น เธอก็คงไม่ต้องก้าวหน้ากันพอดี

แผนงานอีเว้นท์ทำต่อจนเสร็จ เธอกำลังคิดว่าคืนนี้ตอนที่ขอบคุณเย่เชินหลิน จะถามเขาเรื่องปฏิกิริยาของอี๋ปิง

แน่นอนว่า เขายังคงโกรธเธอ แถมบวกกับเรื่องของเซียวแย่เมื่อตอนกลางวัน เธอเข้าหาเขาก่อน เขาอาจจะไม่ดีใจ

ดีที่ช่วงที่ผ่านมานี้ ถึงเขาจะโกรธ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงกับเธอ จากจุดนี้ก็ทำให้รู้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอนั้นลึกซึ้งไปอีกขั้น

เซี่ยชีหรั่นหลังจากเลิกงานก็เหมือนเดิม รอทุกคนกลับไปแล้ว เธอถึงจะออกจากบริษัท ตอนที่กลับถึงบ้าน พ่อบ้านก็รออยู่ที่บ้านประตูก่อนแล้ว เขาพูดกับเธอ: “ชีหรั่น ข้าวเย็นเตรียมพร้อมแล้ว สามารถทานได้ทุกเมื่อ”

เซี่ยชีหรั่นเห็นรถของเย่เชินหลินกลับมาแล้ว ในใจก็คิดว่าเขาอาจจะกลับบ้านมานานแล้ว ไม่แน่ตอนนี้อาจจะกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกินข้าวเย็นก็ได้”

“ขอบคุณค่ะ ฉันจะไปกินเดี๋ยวนี้” เซี่ยชีหรั่นพูดจบ ก็กลับไปที่ห้องถอดชุดทำงานออก เปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านแล้วจึงมาที่ห้องอาหาร

แต่ก็ผิดคาด เย่เชินหลินไม่อยู่

“คุณเย่ล่ะ?” เธอถามพ่อบ้าน

“ผู้ช่วยหลินโทรมา บอกว่าคืนนี้คุณเย่ไม่กลับมาทานข้าวครับ” พ่อบ้านพูดอย่างเคารพ

เซี่ยชีหรั่นคิดว่าเพราะเรื่องของเซียวแย่ จะทำให้เย่เชินหลินรีบกลับบ้านมาเค้นถามเธอ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาไม่แม้แต่จะกลับมา

จู่ๆ เธอก็รู้สึกสูญเสีย เม้มปากยิ้ม แล้วพูดเสียงเบา: “อ่อ แบบนี้นี่เอง ฉันกินข้าวคนเดียว ไม่ต้องให้คนมาดูแลหรอก นายกับทุกคนก็ไปกินข้าวเถอะ นี่ก็สายแล้ว”

“ชีหรั่น ตอนนี้เธอคือคุณนายหญิงของบ้านหลังนี้ เพราะงั้นเธอทานอาหารก็ต้องมีคนคอยดูแล เอางี้ ผมกับจิ่วจิ่วจะอยู่ ผมจะให้คนอื่นไปทานข้าว”

เซี่ยชีหรั่นมองไปที่พ่อบ้าน อยากจะบอกว่าทั้งสองคนก็ไม่ต้อง แต่พอเห็นสายตาที่แน่วแน่ของพ่อบ้าน เธอจึงพูดขึ้นเสียงเบา: “ขอบคุณค่ะ รบกวนพวกคุณแล้ว”

พ่อบ้านหันหลังไป บอกสาวใช้ทั้งหมด: “พวกเธอไม่ได้ยินหรือไง? ชีหรั่นกลัวว่าพวกเธอจะหิว เพราะงั้นจึงไปพวกไปกินข้าวเร็วๆ เป็นคนต้องรู้จักสำนึกบุญคุณ”

เธอแค่พูดประโยคที่คนทั่วไปควรจะพูด แต่โดนพ่อบ้านเยินยอขนาดนี้ จนเซี่ยชีหรั่นรู้สึกเกรงใจเลย

ฟางลี่น่าก็ยื่นอยู่ในแถวของสาวใช้ มองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ในใจคิด หล่อนไม่ใช่แค่เล่นละครเก่ง ยังอยากจะเอาใจคนอื่นอีก? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก!

สาวใช้ที่เพิ่งมาพวกนั้นก็รู้สึกขอบคุณมากๆ เพราะว่าทุกคนก็ต่างหิว เห็นเธอนั่งกินข้าวอยู่ตรงนั้น ท้องตัวเองก็ร้องจ๊อกๆ เหมือนเป็นการทรมานอย่างหนึ่ง

“ขอบคุณค่ะชีหรั่น!” ทุกคนได้ยินที่พ่อบ้านพูด ก็พูดขอบคุณอย่างพร้อมเพรียง แถมยังโค้งให้เซี่ยชีหรั่นเพื่อแสดงความเคารพ พ่อบ้านยิ้มอย่างพอใจ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset