สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 459สาวใช้ตัวแสบ363

ตอนที่ 459สาวใช้ตัวแสบ363
เขากระซิบข้างหูเธอ “ไม่เป็นไร ฉันให้โอกาสคุณในการถวายตัว ไม่จำเป็นต้องสารภาพแล้ว”
ทันใดนั้นใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นก็แดงขึ้น แม้แต่คอก็ยังแดง ใครจะรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าอับอายที่สุดสำหรับเธอ ทันใดนั้นริมฝีปากของหมาป่าตัวใหญ่ก็กดลง
หลังกลับมาถึงวิลล่า ทั้งสองก็แยกย้ายไปอาบน้ำ เย่เชินหลินเลือกชุดให้เซี่ยชีหรั่นด้วยตัวเอง
เมื่อถึงบ้านหัวหน้าจง จงหยุนซางกำลังจัดเตรียมในห้องครัว แม่บ้านเป็นคนเปิดประตู เย่เชินหลินยื่นของในมือให้แม่บ้าน หัวหน้าจงอยู่ในห้องหนังสือ ได้ยินแต่ก็ไม่สนใจ
“เชินหลิน ชีหรั่น พวกคุณมาแล้วเหรอ” หยุนซางออกมาโดยสวมใส่ผ้ากันเปื้อนอยู่ พูดด้วยมารยาท มาก็ดีแล้วไม่เห็นต้องเอาอะไรมาเลย แล้วอธิบายต่อว่า “ขอโทษนะ แม่ของฉันไปท่องเที่ยว ฉันเลยต้องเข้าครัวเอง กับข้าวใกล้เสร็จแล้ว พวกคุณนั่งก่อนนะเสี่ยวจาง คุณไปเชิญคุณพ่อฉันออกมา แจ้งว่าแขกมาแล้ว”
จงหยุนซางรู้ว่าคุณพ่อเป็นข้าราชการหยิ่งในศักดิ์ศรี ไม่มีทางที่จะออกมาเอง ต้องมีคนไปเชิญถึงจะยอมออกมา
“ไม่ต้อง ฉันควรพาชีหรั่นไปสวัสดีท่านจะดีกว่า ท่านเป็นผู้ใหญ่” มารยาทที่ควรแสดงของเย่เชินหลิน ไม่ค่อยพบเห็นสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะหลังจากความสัมพันธ์ของเขากับพ่อของเธอเริ่มห่างออก ทัศนคติที่เหยียดหยามของเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ
เขาจับมือเซี่ยชีหรั่น ตามแม่บ้านไปแล้วเคาะประตูหัวหน้าจง
“เชิญเข้ามา” หัวหน้าจงน้ำเสียงทรงพลังและจริงจัง นี่เป็นลักษณะของคนที่เป็นข้าราชการมาหลายปี
เย่เชินหลินเปิดประตู ขณะพาเซี่ยชีหรั่นเดินเข้าไป พูดเบาๆว่า “ ลุงจง ฉันพาคนรักของฉันเซี่ยชีหรั่นมาเยี่ยมท่าน”
“ดีมาก ยินดีมาก” หัวหน้าจงใบหน้าเป็นทางการทำให้รู้สึกเหมือนอารมณ์ที่แสนสบายอบอุ่นก็เหมือนรอยยิ้มที่เหินห่าง ยืนขึ้น เมื่อเขามองเซี่ยชีหรั่นด้วยความสุภาพเรียบร้อย ดูเหมือนว่าเขาจะมีอาการตกตะลึง
เพียงแค่ว่าเขาได้มาถึงตำแหน่งขนาดนี้แล้ว ก็ต้องควบคุมตัวเองได้มากกว่าคนทั่วไป ตะลึงอย่างแรงในใจ แต่การแสดงออกของเขากลับสู่ปกติอย่างรวดเร็ว
แต่ความสนใจไม่ได้ละเลยเซี่ยชีหรั่น ด้วยสายตาที่เฉียบแหลม จากปฏิกิริยานี้เขามั่นใจในการคาดเดาของเขามากขึ้น ความเป็นไปได้สูงที่เซี่ยชีหรั่นจะเป็นลูกสาวของหัวหน้าจง
“คุณเซี่ย ยินดีต้อนรับ” หัวหน้าจงเดินมาด้านหน้าพวกเขา จับมือเย่เชินหลินก่อน แล้วยื่นมือไปที่เซี่ยชีหรั่น
แต่ไม่รู้เพราะอะไร ตั้งแต่แว๊บแรกที่เซี่ยชีหรั่นเห็นเขา ก็รู้สึกคุ้นเคย หรือเป็นเพราะเคยเห็นเขาในข่าว
แต่ตัวจริงเขาดูจริงจังกว่าดูในทีวี แต่ผอมกว่าในทีวี เธอคิดว่า หรืออาจเป็นเพราะเขาทำงานเพื่อประชาชนมากเกินไป จึงเหนื่อย

“สวัสดีค่ะ หัวหน้าจง”

“ไปกันเถอะ พวกเราไปนั่งที่ห้องรับแขกดีกว่า พูดคุยเรื่องทั่วไป เย็นนี้หยุนซางเข้าครัวด้วยตัวเอง เวลาในการทำกับข้าวของเธอน้อย แล้วก็ช้า พวกเราต้องรอพอสมควร” หัวหน้าจงพูด พาพวกเขาออกมาแล้วไปที่ห้องรับแขก แม่บ้านชงชาไว้แต่เช้าแล้ว

เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นนั่งลงบนโซฟา หัวหน้าจงถือถ้วยชาขึ้นก่อน พูดว่า “ดื่มชา” พวกเขาทั้งสองเป็นเด็ก ก็ถือถ้วยชาขึ้น

หัวหน้าจงมองเซี่ยชีหรั่นมองแล้วมองอีก ในใจยังคงสงสัย ทำไมถึงได้เหมือนจ้าวเหวินอิงขนาดนี้ ตอนนั้นไม่ได้ยินว่าเธอท้อง แต่ตามหลักแล้ว นี่ก็ไม่น่าจะเป็นลูกของเธอนะ

อีกอย่าง เด็กสาวคนนี้แซ่เซี่ย ไม่ใช่แซ่จ้าว แล้วก็ไม่ได้แซ่หลี่ด้วย จ้าวเหวินอิงแต่งงานกับเสนาธิการหลี่แล้ว ถ้าเป็นลูกสาวของเธอจริง ก็ต้องแซ่หลี่สิ

ดูลักษณะแล้วอายุของเธอน่าจะประมาณยี่สิบสอง ยี่สิบสาม จ้าวเหวินอิงแต่งงานกับเสนาธิการหลี่ได้ประมาณยี่สิบปี ดังนั้นก็ไม่น่าจะใช่ลูกสาวของพวกเขา

เขาแกล้งทำเป็นดื่มชา แต่ในสมองก็คิดตาม สุดท้ายเขาคิดว่า ไม่แน่อาจจะมีใบหน้าเหมือนเฉยๆก็ได้

“ไม่คุ้นหน้าคุณเซี่ย ไม่รู้ว่าเป็นลูกสาวบ้านไหน เมื่อก่อนเหมือนไม่เคยเจอ” หัวหน้าจงวางถ้วยชาลง ถามเหมือนพูดคุยทั่วไป

ยังไม่ทันรอเซี่ยชีหรั่นตอบ เย่เชินหลินยิ้มเบาๆ “ท่านต้องไม่เคยเจออยู่แล้ว เธอไม่มีบ้าน เธอเป็นเด็กกำพร้า”

เย่เชินหลินพูดเช่นนี้ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกแปลกในเล็กน้อย เธอรู้ว่าเขาไม่ได้ดูถูกสถานะของเธอ แต่ทำไมเขาถึงตั้งใจพูดย้ำว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า

หัวหน้าจงแสดงอาการตกใจอีกครั้ง จากนั้นพูดว่า “ขอโทษ ฉันขอโทษที่ถามเช่นนี้”

“ไม่ คุณลุงจง เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องขอโทษ ชีหรั่นเป็นผู้หญิงที่ดีมาก เหตุผลที่เธอจะต้องไปอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็แค่เธอมีพ่อแม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบเท่านั้น”

พ่อแม่ที่ไม่มีความรับผิดชอบ……หัวหน้าจงสีหน้าไม่ได้เปลี่ยน ในใจแค่รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของเย่เชินหลิน

แม้ว่าเขาไม่ค่อยได้ติดต่อกับเย่เชินหลินบ่อยมาก แต่ก็รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนไม่ค่อยพูด แสดงว่าทุกคำที่เขาพูดต้องมีความหมายอะไรบางอย่างซ่อนอยู่

เขาไม่เคยมาบ้านเขา หยุนซางพูดหลายครั้งว่าอยากเชิญเย่เชินหลินมาที่บ้าน เขาก็ไม่เคยมา วันนี้มา แล้วยังตั้งใจพาเด็กสาวที่มีใบหน้าเหมือนจ้าวเหวินอิงมาด้วย ยังบอกอีกว่าเธอเป็นเด็กกำพร้า ย้ำอีกว่าพ่อแม่ของเธอไม่มีความรับผิดชอบ นี่หมายความว่าอย่างไร

หรือว่าเขาตั้งใจจะชี้บอกอะไร ว่าเขาเป็นพ่อที่ไม่มีความรับผิดชอบของเซี่ยชีหรั่นเหรอ

หรืออาจจะใช่ ตอนนี้จ้าวเหวินอิงก็ท้องจริงๆ แค่ไม่ได้บอกเขา

“เด็ก ๆ ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็น่าสงสารจริงๆ นี่ก็เป็นเพราะรัฐบาลเราดูแลไม่ทั่วถึง ต่อไปยังต้องใส่ใจในอีกหลายๆด้านให้มากขึ้น พวกคุณนั่งก่อนนะ ฉันไปดูว่าหยุนซางทำกับข้าวถึงไหนแล้ว พวกคุณเป็นแขก ไม่ควรปล่อยให้รอนาน”

หัวหน้าจงพูดอย่างเป็นทางการ แล้วลุกออกจากห้องรับแขกไปที่ห้องครัว

เย่เชินหลินแอบด่าในใจว่าสุนัขจิ้งจอกเฒ่าที่ไม่มีความรับผิดชอบ คุณทำให้ลูกสาวคุณเจ็บปวดมายี่สิบกว่าปีแล้ว เห็นเธอ คุณยังพยายามปกปิด คุณไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อคนเลย

หลังจากหัวหน้าจงออกประตูไป คิดถึงสถานการณ์ในปีที่ผ่านมาตลอด เมื่อเขาย้ายไปยังหน่วยงานที่จ้าวเหวินอิงอยู่ ก็มีจงหยุนซางแล้ว ก็เป็นพ่อคนมาหลายเดือนแล้ว

เขายังจำได้ว่าเมื่อเขาเห็นจ้าวเหวินอิงในครั้งแรก กล่าวได้ว่าตะลึงมาก เพราะเธอสวยมาก ถ้าชายใดเห็นเธอแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย ชายคนนั้นก็ไม่ใช่ชายแท้แน่นอน

ทั้งหน่วยงาน ไม่ว่าคนที่แต่งงานแล้ว หรือกำลังจะแต่งงาน ไม่มีใครไม่สนใจจ้าวเหวินอิง

เขาเห็นเธอก็หวั่นไหวเช่นกัน เหมือนมีผีร้ายสั่งให้เขาปิดบังเรื่องเขาเป็นผู้ชายที่แต่งานแล้ว

จ้าวเหวินอิงปฏิเสธผู้ที่ชื่นชมเธออย่างสุภาพ ตีตัวออกห่าง คนที่เธอสนใจมีเพียงชายหนุ่มหัวหน้าจงคนเดียวเท่านั้น

ตอนนี้เขาสามารถเป็นผู้นำของจังหวัดได้ เขาต้องมีความกล้าหาญแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างแน่ และมีคารมคมคายที่โดดเด่น

ในปีนั้นจ้าวเหวินอิงยังเด็กอยู่มาก อายุเพียงสี่สิบปี ยังอ่อนต่อโลกมาก บวกกับหัวหน้าจงก็อยากจะตามจีบเธอให้ได้ ใช้วิธีต่างๆนานา ไม่นานจ้าวเหวินอิงก็ตกหลุมรักเขาอย่างสมบูรณ์ เมื่อตกเป็นของหัวหน้าจงจ้าวเหวินอิง ก็หวังพึ่งพาเขา จึงอยากคุยเรื่องแต่งงาน

ในเวลานั้นความคิดทั่วไปในสังคมนั้นไม่อนุรักษนิยมมาก แต่ที่บ้านจ้าวเหวินอิงเข้มงวดมาก ความคิดค่อนข้างอนุรักษนิยม

เธอเป็นคนใสซื่อ คิดว่าเป็นผู้หญิงต้องซื่อสัตย์ ต่อคนคนเดียว มอบกายให้เขาแล้วก็ต้องแต่งงานกับเขา

เวลานั้นหัวหน้าจงบอกเธอว่า เขาเพิ่มมารับตำแหน่งนี้ มันเร็วเกินไปที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ อาจทำให้ทุกคนคิดว่าเขามาที่นี่ไม่ใช่เพราะงาน แต่เพราะมาตามจีบผู้หญิง เขาพูดว่า รู้ว่าเธอรักเขาอย่างจริงใจ เขาก็รักเธออย่างจริงใจเช่นกัน เพื่อให้เธอมีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น และเพื่ออนาคตของเขา เขาขอร้องให้เธออดทน

ผู้หญิงที่กำลังตกหลุมรักมักจะสูญเสียการวิเคราะห์ จ้าวเหวินอิงในตอนนั้นก็เป็นเหมือนเช่นนี้ เธอเชื่อใจเขา คิดว่าเขารักเธออย่างจริงใจ ดังนั้นเธอจึงยินดีที่จะให้โอกาสเขา

หลังจากหหัวหน้าจงได้จ้าวเหวินอิงอย่างสมบูรณ์แล้ว แล้วค่อยๆรู้สึกว่า ไม่ว่าผู้หญิงจะดีแค่ไหนก็เพียงเท่านี้ เขาค่อย ๆ ฟื้นความรู้สึกของเขา แล้วคิดหาวิธีค่อยๆตีตัวออกห่างเธอ

ผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่เห็นความก้าวหน้าสำคัญ ต้องกลัวการถูกสวมหมวกใบใหญ่ที่ความประพฤติไม่ดี เมื่อเขากำลังคิดวางแผนค่อยๆห่างจากเธอ วันหนึ่งเขาไปทำงาน ได้ยินว่าจ้าวเหวินอิงลาออกแล้ว

ไม่มีใครรู้เหตุผล เขาก็คิดที่จะตามหาเธอ ตอนหลังคิดๆแล้ว ถ้าเป็นเช่นนี้ก็จะตัดกันไม่ขาด สู้ใช้โอกาสที่ดีนี้ เลิกกับเธออย่างจริงจัง ก็ถือว่าจัดการปัญหาได้ในทีเดียว

ความรู้สึกผิดเช่นนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่แค่คิดถึงความก้าวหน้าในหน้าที่ ความรู้สึกผิดและความสงสารนั้นก็หายไปทันที

เมื่อหลายปีที่ผ่านมาเขาพบจ้าวเหวินอิง เขาไปประชุมที่ส่วนกลาง พบเสนาธิการหลี่ เพราะทั้งสองเป็นเพื่อนกัน เขาจึงเชิญหัวหน้าจงไปทานข้าวที่บ้าน

มีใครบ้างที่ไม่อยากมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเสนาธิการ เป็นหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการส่วนกลาง หัวหน้าจงก็ต้องอยากใกล้ชิดธรรมดา

เมื่อจ้าวเหวินอิงเห็นหัวหน้าจง ทั้งสองก็ตกตะลึงเหมือนกัน ดีที่เสนาธิการหลี่ไม่ได้สงสัยอะไร ทั้งสองก็สงบลงอย่างรวดเร็ว ผ่านมายี่สิบกว่าปี เขาคิดว่าเมื่อพบจ้าวเหวินอิงก็จะถูกบุคลิกลักษณะของเธอทำให้เกิดความคลั่งไคล้ คิดเสียดาย หากตอนนั้นไม่ได้เลิกกับเธอ เขาจะมีความสุขมากขนาดไหน

คืนนั้นเขาอยู่ที่บ้านเสนาธิการหลี่ บอกว่าเพื่อนเจอเพื่อน น้ำตาคลอเบ้า ดีใจมาก ดังนั้นจึงดื่มเยอะมาก ก่อนกลับ เขาพยายามจะพูดคุยกับจ้าวเหวินอิงตามลำพัง แต่เธอไม่ได้สนใจเขาจึงหลีกเลี่ยง

หัวหน้าจงคิดไตร่ตรอง หรือที่จ้าวเหวินอิงลาออกเพราะเธอตั้งท้อง ถ้าเธอตั้งท้องจริง คลอดลูกแล้ว ก็น่าจะโตเท่าเซี่ยชีหรั่นแล้ว

แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ตก จ้าวเหวินอิงเป็นผู้หญิงที่ใจดีและอ่อนแอเป็นอย่างมาก เขาจำได้ว่าแม้แต่มดเธอยังไม่กล้าเหยียบตายเลย

ถ้าเธอคลอดลูก ทำไมเขาถึงใจแข็งเอาลูกสาวไปไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้หล่ะ นอกจากนี้ ตอนนั้นเธอยังไม่รู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ตั้งท้องแล้วไม่บอกเขา แล้วให้เขาแต่งงานกับเธอ

เย่เชินหลินไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ตอนที่เขาจะหมั้น เขาให้ไห่ลี่หมินจัดฉากให้เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วยังมีเรื่องที่มีปัญหากับพ่อแม่มาหลายปียังไม่เคยยุติลงเลย เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะสืบเจอเรื่องความสัมพันธ์ที่ผิดปกติของเขากับจ้าวเหวินอิงในตอนนี้ พอดีกับเห็นว่าเซี่ยชีหรั่นมีใบหน้าที่เหมือนจ้าวเหวินอิง ดังนั้นคิดอยากจะให้เขาสวมหมวกใบนั้นของอดีตที่ผ่านมา

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset