สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 47 ยังคงพอทนไหว

ตอนที่ 47 ยังคงพอทนไหว
เธอกลัวว่าท่าทางที่หลุดออกมาของเธอจะมีคนสังเกตเห็นมัน เธอรีบเอามือมาปิดจมูกทันที แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะสายตาของทุกคนมองมายังใบหน้าที่แดงเผือดของเธอพร้อมกัน
ท่ามกลางสายตาเหล่านั้น สายตาที่เย็นยะเยือกที่สุด มาจากเย่เชินหลินที่สีหน้าเปลี่ยนเป็นทะมึนตึงขึ้นมา
ท่านพ่อบ้านเห็นสีปากของหล่อนไม่ค่อยจะดี ร่างกายก็ดูเหมือนจะสั่นเล็กน้อย อดสงสัยไม่ได้ว่าเธอจะเป็นลมแดด ถ้าจะเป็นอะไรขึ้นมา คุณเย่จะต้องลงโทษที่เขาดูแลจัดการไม่ดี เขามีความรู้สึกเสียใจภายหลังออกมาแวบนึง
ส้งหลิงหลิงและผู้ช่วยของหล่อนแทบจะมองตั้งแต่ใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นลงไปจนถึงบริเวณส่วนหน้าท้องของเธอตามสัญชาตญาณ ในใจคาดเดาว่าเธออาจจะตั้งท้อง
ฝู้เฟิ่งหยีและส้งหลิงหลิงมีการคาดเดาที่เหมือนกัน เธอเห็นเซี่ยชีหรั่นออกมาจากห้องของลูกชายกับตาตัวเอง ในเมื่อทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน การตั้งครรภ์ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจนัก
ดวงตาริษยาของซุนเหมิงเหมิงมองตาเขียวปั้ด เธอคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าทำไมลูกของเซี่ยชีหรั่นถึงได้มาเร็วนัก ตั้งแต่หล่อนเข้ามาคฤหาสน์ตระกูลเย่จนถึงตอนนี้ก็เหมือนจะผ่านไปไม่นานเอง
เนื่องจากต่างคนต่างมีเรื่องให้คิดกัน แต่ก็ไม่สะดวกที่จะถามออกไป ทุกคนจึงมองเธออยู่อย่างนั้น แต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ฝู้เฟิ่งหยีคิดว่าถ้าถามเรื่องนี้ต่อหน้าส้งหลิงหลิงไม่ดีแน่ จากนั้นก็หันไปมองหน้าลูกชายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน เห็นเย่เชินหลินมองหน้าฝืนกลั้นของเซี่ยชีหรั่นด้วยสายตาเย็นยะเยือก จากนั้นก็มองไปยังหน้าท้องแบนราบของหล่อน
สีหน้าอึดอัดของส้งหลิงหลิง เธอต้องการปกปิดความคิดที่แท้จริงของเธอ พยายามกล่อมตัวเองถึงเรื่องที่ผู้ชายสามารถมีสามภรรยาสี่อนุได้เหมือนกับพ่อของเธอ แต่ก็ยังทำใจไม่ได้อยู่ดี
ผู้ชายของเธอเจ้าชู้บ้างก็ไม่สำคัญ แต่ไม่อาจเอาผู้หญิงเหล่านั้นมาเป็นตัวจริงเพื่อให้มากำเนิดทายาทได้
“เซี่ยชีหรั่น ตามฉันมาที่ห้องทำงาน!” เย่เชินหลินเอ่ยเสียงต่ำ แล้วลุกขึ้นจากโซฟา เม้มริมฝีปากแน่นแล้วเดินออกไป
“ค่ะ คุณเย่!”เซี่ยชีหรั่นตอบกลับไป รีบเดินตามก้าวเขาไปทันที
“ส้งหลิงหลิง หนูมีกระจกมั้ย? ขอป้าดูผลงานหน่อยว่าเป็นยังไง” ฝู้เฟิ่งหยีถามหล่อนด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร
ส้งหลิงหลิงยังคงมองไปยังเบื้องหลังของเขา ได้ยินฝู้เฟิ่งหยีเอ่ยออกมาถึงจะได้สติกลับมา
การเลือกสะใภ้ของตระกูลผู้ดี จะต้องเป็นคนใจกว้างและสวยสง่า เธอจะต้องมีความอดทน มีความเป็นผู้ใหญ่ ต้องไม่ตื่นตูมกับเรื่องเล็กน้อย
เรื่องข้างหน้ายังไม่แน่นอน หล่อนตั้งท้องจริงหรือเปล่าก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ถ้าหล่อนท้องจริงๆ ตระกูลเย่จะปล่อยให้หล่อนคลอดออกมาหรือไม่ ก็ยังไม่อาจรู้ได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะร้อนใจ
คิดมาจนถึงจุดนี้ เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วหยิบกระจกจากกระเป๋าใบเล็กของเธอออกมา จัดมุมให้ฝู้เฟิ่งหยีแล้วถ่ายรูปออกมา
“คุณป้าคะ ดูสิคะ พอใช้ได้มั้ยคะ?”
“ไม่เลวเลย เด็กคนนี้ ฝีมือดีจริงๆ ใครมาขอหนู ก็มีแต่ได้แน่ๆเลย” ฝู้เฟิ่งหยีเอ่ยชมไม่ขาดปาก
เย่เชินหลินเข้ามาในห้องทำงาน เซี่ยชีหรั่นก็เดินตามเข้ามา จากนั้นก็ปิดประตูลง
เขาจ้องตาเธออย่างแข็งกร้าวกว่าตอนที่อยู่ในห้องรับแขก สีหน้าอึมครึม
ตั้งแต่ตอนที่เขาเห็นเธอในคลิปครั้งแรก ก็คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่ง เขาเคยเย้าหยอกเธอ จูบเธอมาหลายครั้ง ทุกครั้งการตอบโต้ของเธอก็ล้วนกระตุกสั่นทุกครั้งจนเขามีแรงกระตุ้นเข้าหา
เขามั่นใจมาโดยตลอด ว่าเธอเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์
แต่ปฏิกิริยาเมื่อสักครู่ของเธอ มันเป็นปฏิกิริยาของคนท้องชัดๆ
การแสดงของเธอยอดเยี่ยมจริงๆ ขนาดคนที่ผ่านผู้หญิงมาเยอะอย่างเขายังโดนหลอกได้ แล้วเขาจะไม่โกรธได้อย่างไร?
แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรสักคำ เพียงใช้สายตาจ้องเธอ แต่ก็ทำให้เซี่ยชีหรั่นกังวลจนหายใจติดขัด
“ขอโทษค่ะ คุณเย่! ฉันไม่ควรเสียมารยาทต่อหน้าคุณผู้หญิงและแขก!”
เซี่ยชีหรั่นยังคงอธิบายต่อถึงสาเหตุการเสียอาการของเธอต่อไป ทันใดนั้นก็รู้สึกเจ็บบริเวณคางขึ้นมา เย่เชินหลินใช้มือบีบคางเธอแน่น บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมา
“เพียงแค่เสียมารยาทหรอ มันง่ายขนาดนั้นเชียว?” เขาถามเธอกลับเสียงเย็น
สีหน้าของเย่เชินหลินเต็มไปด้วยแรงโกรธ ทำไมเขาถึงได้โกรธที่เธอส่งเสียงอ้วกขนาดนี้กัน?
หรือเป็นเพราะว่าเขาเป็นห่วงความรู้สึกของส้งหลิงหลิง คิดว่าเธอทำลายงานสุดวิเศษในครั้งนี้กัน?
เซี่ยชีหรั่นพยายามอดทนต่อความเจ็บบริเวณคาง เอ่ยขอโทษออกมาอีกครั้ง
“ขอโทษค่ะคุณเย่ ฉันรู้ดีว่าการกระทำไม่ดีของฉันอาจกระทบถึงความรู้สึกของคุณและคุณหนูส้ง แต่ฉันไม่ได้….”
เธอกล้าที่จะเบี่ยงประเด็น จงใจปกปิดเรื่องที่เธอท้อง!
นิ้วทั้งสองของเย่เชินหลินเพิ่มแรงกดลงมากขึ้น พร้อมกับส่งสายตาพิฆาตจ้องมองลงไปที่ดวงตาเธอ พูดแทรกเธอขึ้นมาอย่างหมดความอดทน
“บอกฉันมา ลูกในท้องของเธอเป็นลูกของใคร? ไห่ลี่หมิน?”
นี่เขาไม่ได้โกรธที่เธอทำลายบรรยากาศงานเลี้ยงของเขาหรอกหรอ?
เธอมองเห็นไฟพิโรธในดวงตาของเขา ราวกับอยากจะแผดเผาเธอซะอย่างนั้น
เซี่ยชีหรั่นมองเขากลับไป ไม่อาจเข้าใจได้เลยว่าทำไมเขาถึงเข้าใจว่าเธอตั้งท้อง แล้วโกรธขึ้นมาขนาดนี้ แล้วเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักหน่อย
เห็นเธอตัวสั่นไม่พูดไม่จา เย่เชินหลินคิดว่าเธอถูกเขาเปิดโปง ก็เลยไม่อาจสรรหาคำพูดตอบโต้ออกมาได้
สีหน้าของเขายิ่งครึ้มขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นก็ใช้แรงดันเธอเข้าชิดประตู ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้กับใบหน้าเธอเรื่อยๆ กัดฟันตะคอกใส่เธอ “ใจกล้าเหลือเกินนะ ไม่คิดเลยว่าท้องลูกของคนอื่นอยู่แต่ก็ยังมาให้ท่าฉันอีก!”
เขาคิดว่าเธอเป็นเหยื่อตัวเล็กๆที่ใกล้มือเขา ใครจะรู้ว่าดอกไม้เล็กๆดอกนี้ได้โดนเด็ดไปนานแล้ว
เขามองตรงไปยังปากเล็ก ๆ ของเธอที่เปิดค้างด้วยความประหลาดใจและหวาดกลัว ปากซีดนั้นทำให้เขาอยากจูบเท่าไหร่ก็ไม่พอ เขาอยากจะกัดริมฝีปากของเธอแรงๆ ดูสิว่าเธอยังมีอะไรมายั่วยวนเขาอีก
ตอนนี้เขาแยกไม่ออกว่ากำลังโกรธที่เธอโกหก หรือว่าโกรธตัวเองที่รู้อยู่แก่ใจว่าผู้หญิงคนนี้มีจุดประสงค์แอบแฝง หรือว่าเขาจะโดนเธอยั่วยวนจนสนใจขึ้นมา
ร่างกายของเซี่ยชีหรั่นไม่สบายยิ่งกว่าเดิม แต่ท่ามกลางความยุ่งเหยิงเธอยังคงจำได้ว่าเธอยังอยากเจอท่านประธาน เธอต้องทวงความยุติธรรมให้กับเสี่ยวจุน
ลมหายใจร้อนแสนอันตรายของเขา เธอขัดขืนสุดแรง อธิบายต่อเขา “ฉันไม่ได้ท้อง ฉันเป็นโรคลมแดด คุณเย่ คุณเข้าใจผิดแล้ว!”
ร่างกายของเย่เชินหลินส่วนหนึ่งประกบลงบนร่างของเธอ มิน่าล่ะถึงรับรู้ถึงความร้อนที่ผิดปกติจากร่างของเธอ
“ไม่ได้โกหกฉันใช่มั้ย?” เย่เชินหลินคลายมือที่บีบคางเธอเอาไว้เล็กน้อย
“ไม่ได้โกหกค่ะ ทุกตอนเที่ยงฉันต้องไปถอนหญ้าที่สวน ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ ก็คงเกิดโรคลมแดดขึ้นมาค่ะ”
“ที่นี่มีหมอ เธอกล้าหลอกฉัน จะต้องโดนหนักแน่ เธอทำให้ฉันกระจ่างแล้ว!” เขายังไม่ปล่อยเธอไป กวาดสายตามองเธอที่ผิดปกติเล็กน้อย ใบหน้าแดงจัด
เซี่ยชีหรั่นฝืนยิ้มออกมา เธอยกมือขึ้นมาจับมืออุ่นของเขาไปแตะลงบนคอ
“คุณลองดูเองสิ ตัวร้อนหรือเปล่า?”
อุณหภูมิร้อนที่ชัดเจน เสียงของเธอก็อ่อนลงมากเช่นกัน
คิ้วของเย่เชินหลินขมวดขึ้นเล็กน้อย พูดเสียงเย็นออกมาทันที “ฉันจะสั่งให้ท่านพ่อบ้าน ให้เขาพาเธอไปหาหมอเดี๋ยวนี้!”
เขาพูดจบก็ปล่อยเธอ ดูเหมือนว่ากำลังจะออกไป
เซี่ยชีหรั่นรีบส่ายหัว “ไม่นะคะ คุณเย่ ฉันไม่ต้องไปหาหมอหรอกค่ะ ฉันไม่เป็นไร! ฉันยังโอเค!”
เธอร้อนรนแบบนี้ อยากให้มันเป็นแบบนี้ใช่มั้ย?
เพื่อไห่ลี่หมิน เลือดไหลก็ยังทนได้ เจ็บป่วยก็ทนได้ ช่างดีจริงๆ
เย่เชินหลินกวาดตามองด้วยสายตาเย็นชา เบ้ปากออกมาอย่างเย้ยหยัน “ไม่เลวเลย ทุ่มเทเสียจริงนะ งั้นก็เก็บกลั้นเอาไว้ให้ดี ถ้ายังกล้าสร้างเรื่องขึ้นมาอีก ลองดูสิว่าฉันจะลงโทษเธอยังไง!”
“ค่ะ คุณเย่!”
เซี่ยชีหรั่นเดิมตามหลังเย่เชินหลินไป ตอนที่ทั้งสองคนกลับมายังห้องโถงนั้นก็ดึงดูดสายตาผู้คนขึ้นมาอีกครั้ง ในใจของแต่ละคนต่างคาดเดาถึงบทสนทนาของพวกเขาทั้งสองคนไปต่างๆนานา
เย่เชินหลินเดินเข้าไปยืนข้างมารดาของเขาอย่างสง่างาม นั่งลงอย่างเฉยชา มองไม่ออกว่ามีกลุ่มแรงอาฆาตที่คอยแดกดันคนตอนที่เขาออกไป
สายตาประเมิน และอยากรู้อยากเห็นทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้ตัวขึ้นมา ว่าไม่ได้มีคนที่เข้าใจผิดว่าเธอท้องเพียงเย่เชินหลินเท่านั้น ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะเธอ เธอใกล้จะไปจากที่นี่แล้ว ก็ไม่ควรทิ้งเรื่องเข้าใจผิดเอาไว้ให้กระทบต่อเย่เชินหลินและส้งหลิงหลิง
ส้งหลิงหลิงมองไปยังเย่เชินหลิน พยายามจะพูดอะไรออกมา แต่ก็ได้แต่อ้าปากค้าง ไม่มีคำพูดออกมา
เซี่ยชีหรั่นก็ได้ตามเย่เชินหลินมายังข้างๆฝู้เฟิ่งหยี โค้งคำนับไปด้วยพูดไปด้วย”คุณผู้หญิงขอโทษค่ะ! เมื่อกี้ดิฉันเสียมารยาทไป! ในช่วงนี้ทุกวันตอนเที่ยงหนูถูกท่านพ่อบ้านใช้ให้ไปกำจัดวัชพืชในสวนดอกไม้ด้านหลัง อากาศร้อนเกินไป หนูเลยมีอาการของโรคลมแดดขึ้นมาค่ะ เมื่อตอนเช้าหนูก็ได้บอกท่านพ่อบ้านไปแล้ว ว่าอยากจะขอลา แต่เขาไม่อนุญาต อาการเลยหนักขึ้นมา ตอนนี้ก็ตัวร้อน แล้วรู้สึกอยากอาเจียนนิดหน่อยค่ะ”
ฝู้เฟิ่งหยีไม่รู้ว่าสิ่งที่เซี่ยชีหรั่นพูดออกมานั้นจริงหรือเท็จกันแน่ แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่จริงเธอพูดออกมาแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้มีเหตุผลที่จะเอาไปใช้ปกปิดเรื่องนี้ได้อย่างรัดกุมขึ้น
สีหน้าของเธอดำดิ่งลงอีกขั้น มองท่านพ่อบ้านอย่างไม่พอใจ ถามออกมา”ท่านพ่อบ้าน หล่อนเคยขอลาหรือเปล่า?”
บนหัวท่านพ่อบ้านเต็มไปด้วยเหงื่อ เขายิ้มออกมาอย่างเงอะงะ แล้วตอบกลับไปว่า”เหมือนกับว่าเคยมีแล้วครับ แต่น่าจะเป็นเพราะผมยุ่งมากเลยไม่ทันคิด อั้ยหยา ชีหรั่นหล่อนมองตัวเองสิ เป็นหนักขนาดนี้ทำไมถึงไม่บอกให้ชัดเจน หล่อนควรบอกความจริงกับฉันนะ”
ส้งหลิงหลิงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ไม่ได้แสดงออกมาว่าไม่เชื่อ ทำเพียงยืนเงียบๆข้างๆฝู้เฟิ่งหยี มองดูว่าพวกเขาจะพูดอะไรกันต่อ
ฝู้เฟิ่งหยีตำหนิท่านพ่อบ้านอย่างไม่เบาไม่แรง “ต่อไปท่านพ่อบ้านจะต้องใส่ใจขึ้นอีกหน่อยนะ สุขภาพของคนสิถึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก!”
“ครับ คุณผู้หญิง!” ท่านพ่อบ้านรีบตอบรับทันที แล้วหันไปบอกกับเซี่ยชีหรั่น “ชีหรั่น เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปหาหมอเอง”
เซี่ยชีหรั่นไม่ทันได้เอ่ยปฏิเสธออกไป ก็ได้ยินเสียงเย็นของเย่เชินหลินที่นิ่งเงียบมาตลอดเอ่ยออกมา “ไม่ต้อง! ผมว่าเธอยังพอทนไหวอยู่”
สายตาของส้งหลิงหลิงที่ไม่ละไปจากใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นมาตั้งแต่ต้น ใบหน้าของหล่อนแดงเผือด ราวกับว่าแค่เพียงหายใจก็เหนื่อยแล้วยังไงอย่างนั้น
นี่หล่อนป่วยหรือว่าท้องกันแน่?
ส้งหลิงหลิงยืนห่างจากเซี่ยชีหรั่นเพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น ในชั่วพริบตาเธอก็มีความคิดหนึ่งออกมา ใบหน้ายิ้มของเธอเต็มไปด้วยความกังวล ก้าวเท้าเล็กๆเข้าไป ยื่นมือออกไปเช็คตรงหน้าผากของเซี่ยชีหรั่น
ร้อนจริงๆด้วย ในใจของเธอคลายความกังวลลงไปเยอะ หันหน้ากลับไปทางฝู้เฟิ่งหยี แล้วเอ่ยออกมา “คุณป้าคะ เธอตัวร้อนมากเลยค่ะ เราพาเธอไปหาหมอเถอะค่ะ”
ฝู้เฟิ่งหยีรู้ว่าส้งหลิงหลิงต้องการยืนยันให้มั่นใจขึ้น แต่เธอไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเซี่ยชีหรั่นเป็นยังไง เมื่อตอนที่คุณกำลังขี่บนหลังเสือแล้วลงมาจากหลังเสือยาก เซี่ยชีหรั่นก็พูดกับตัวเอง

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset