สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 479 สาวใช้ตัวแสบ383

ตอนที่ 479 สาวใช้ตัวแสบ383
เย่เขินหลินมาบ้านตระกูลหลี่เป็นครั้งแรก และยังเตรียมของฝากมาให้หลินหลิงด้วย
จริงๆตระกูลหลี่และตระกูลเย่มีส่วนที่คล้ายกันมาก เดิมทีแม่ของเสนาธิการหลี่เป็นครอบครัวนักธุรกิจ แต่เนื่องด้วยเธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว กิจการจึงไม่ได้ดำเนินต่อไป ต่อมาหลี่เหอไท้เป็นคนรับช่วงต่อกิจการ ดังนั้นไม่ว่าจะเทียบกันด้านอำนาจในการบริหารหรือทรัพย์สินที่มีทั้งสองตระกูลไม่ได้มีใครด้อยไปกว่าใครเลย สินทรัพย์ที่หลี่เหอไท้มีไม่ได้น้อยไปกว่าเย่เชินหลินเลย
เย่เชินหลินก็เข้าใจถึงจุดนี้ดี หลี่เหอไท้ไม่ได้สนใจของฝากเลย เขาเพียงแค่สนใจความพึงพอใจของเขาเท่านั้น
หลี่เหอไท้รับของจากเย่เชินหลินและสั่งให้คนรับใช้นำไปเก็บ เมื่อหลี่เหอไท้จ้องไปที่จิ่วจิ่ว เย่เชินหลินจึงแนะนำไปว่าเขาเป็นคนเรียกให้เธอมาดูแลเซี่ยชีหรั่นเอง ที่สำคัญพวกเธอยังเป็นเพื่อนรักกันด้วย
ในที่สุดจิ่วจิ่วก็ได้เจอกับหลี่เหอไท้ผู้เลื่องลือ เธอรู้สึกว่าเขาเป็นคนหล่อมาก แต่เขาก็ไม่ใช่สเปคเธอ
“ชีหรั่นกับแม่กำลังคุยกันอยู่ข้างบน มาเดี๋ยวผมพาคุณไปเดินเล่น”หลี่เหอไท้ยืนขึ้นและพาเย่เชินหลินเดินชมชั้นล่างรอบหนึ่งแล้วค่อยพาเย่เชินหลินขึ้นไปหาชีหรั่นที่ชั้นบน
“พวกลูกค่อยๆคุยกันนะ”จ้าวเหวินอิงสัมผัสที่มือของลูกสาวเบาๆแล้วก็เดินออกจากห้องไป
ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงแค่เขาและเธอในห้องนอนสีชมพู ทำให้ใบหน้าของชีหรั่นถูกย้อมไปด้วยสีสันที่อบอุ่น
เย่เชินหลินใช้มือสัมผัสที่คางของชีหรั่นด้วยความอ่อนโยนบังคับให้ชีหรั่นเงยหน้าขึ้น แล้วจุมพิตเธอไปสองครั้ง
ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเขา เขาไม่อยากทำอะไรที่มันเกินเลย อีกอย่างเมื่อคืนก็เหนื่อยกันมากและเธอเองก็คงจะอ่อนล้าเต็มที
เซี่ยชีหรั่นยังคงซบอยู่ในอ้อมกอดของเย่เชินหลิน ความรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝัน
“คิดไม่ถึงฉันก็มีบ้านเป็นของตัวเอง ตอบฉันหน่อยได้ไหม ว่านี่คือบ้านของฉันจริงๆ แม่อยู่ข้างกายฉันจริงๆใช่ไหม?” เธอถามเขาด้วยถ้อยคำที่แผ่วเบา
เขาไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ลูบหัวเธอเบาๆ มีแต่ความรู้สึกโล่งอก ผู้หญิงของเธอคงจะมีความได้จริงๆแล้วสินะ
รอเธอแต่งงานกับเขา มีลูกตัวน้อย เธอจะต้องมีความสุขมากกว่านี้ มีชีวิตมีครอบครัวที่สมบูรณ์
“แม่ถามคำถามฉัน ถามฉันว่าไปคบกับคุณได้ยังไง”เซี่ยชีหรั่นพูดเบาๆ
“แล้วเธอตอบไปว่าอะไรล่ะ?”
“ก็ตอบไปตามตรง ฉันโกหกไม่เป็น”
“แล้วเธอได้บอกไปหรือเปล่าว่า ถ้าเธอจากฉันไปเธอต้องชดใช้สิบล้าน”เขาถามเธอพร้อมกับเอามือสัมผัสคางเธอ
เซี่ยชีหรั่นได้แต่กะพริบตาถี่ๆ แล้วถามเขาไปด้วยท่าทีที่ซุกซนว่า “แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะ?”
“จะบอกไม่บอกก็ไม่มีความหมาย ฉันเริ่มต้นจากศูนย์ ถ้าจะซื้อกลับไปตอนนี้อย่าคิดว่าแค่ล้านจะสามารถแก้ไขปัญหาได้นะ”
“แล้วจะเอาเท่าไร เดี๋ยวฉันจะไปถามแม่ดูว่าจะจ่ายไหวมั้ย” ชีหรั่นพูดไปยิ้มไป

“ต่อให้เป็นร้อยล้านพันล้านผมก็ไม่ขาย เธอเป็นของฉันแล้ว”เย่เชินหลินพูดจบเขาก็จูบเธออีกครั้ง เป็นการจูบที่ยาวนานมาก นานจนเธอรู้สึกเวียนหัว

จูบไปจูบมาเขาก็รู้สึกอยากทำอะไรมากว่านี้แต่เสียดายที่สถานที่ไม่อำนวย

“นี่ก็ดึกแล้วผมจะกลับแล้วนะ”เย่เชินหลินตั้งสติได้แล้วบังคับตัวเองให้ลุกขึ้น

“กี่โมงกี่ยามแล้วยังไม่กลับอีก?”

“ไม่กลับ เดี๋ยวคืนนี้ผมจะไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นก็ได้”

“กล้าเหรอ!”

“ฮาฮา ทำไมจะไม่กล้า เดี๋ยวคืนนี้ผมจะไปนอนกับน้าฟู่ไง”เขาพูดไปยิ้มไปพร้อมกับขยี้ผมเธอเล่นไปด้วย

ทั้งผมทั้งเสื้อผ้าของเธอถูกเขาขยี้จนยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ถึงทั้งสองจะไม่ได้ทำอะไรกันแต่สภาพของเธอตอนนี้ช่างเย้ายวนเหลือเกิน

เขาไม่อยากเห็นหน้าเธอแล้วตอนนี้ เพราะถ้าอยู่ต่อเขาอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้อีกก็ได้

เซี่ยชีหรั่นส่งเขามาถึงที่ประตูหน้าห้อง เขากระซิบข้างหูเธอว่า“เดี๋ยวไปส่องกระจกจัดเพ้าจัดผมให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นถ้าคุณแม่เห็นเข้าเธอจะเข้าใจผิดคิดว่าพึ่งทำอะไรกันมา”

แล้วเธอก็พึ่งรู้ว่าตอนนี้สภาพของเธอเป็นอย่างไร กำปั้นน้อยต่อยเข้าที่ต้นแขนของเขา แล้วพูดเบาๆว่า“คนชั่ว!แต่นี่มันฝีมือของคุณไม่ใช่รึไง”

จ้าวเหวินอิงที่ยกนมสดมาให้ เห็นเข้าพอดี เธอหน้าแดงส่วนเซี่ยชีหรั่นนั้นหน้าแดงยิ่งกว่าเธออีก กำปั้นน้อยยังคงหยุดอยู่ที่เดิม

“เชินหลินดื่มนมก่อนค่อยไปก็ได้”

“ขอบคุณครับคุณน้า”เย่เชินหลินรับนมมาดื่มหมดภายในคำเดียว จากนั้นก็รีบออกจากห้องไปเลย

พอเย่เชินหลินออกไปแล้วจ้าวเหวินอิงก็ถามลูกสาวว่า”โกรธแม่มั้ย กับการที่แม่แยกพวกลูกออกจากกัน”

“ไม่เลยค่ะ แม่คะ! หนูเข้าใจถึงเจตนาของแม่นะ ความจริงหนูกับเขาก็เริ่มต้นกันไม่ดีเท่าไร ห่างกันคราวนี้ก็อาจทำให้เราเหมือนกับคู่รักทั่วๆไป เป็นความรักจริงๆ กับอุปสรรคแค่นี้ไม่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่อะไรเลยค่ะ ”

จ้าวเหวินอิงได้แต่พยักหน้าเอามือลูบหัวลูกสาวเบาๆในใจเธอรู้สึกโล่งอกที่ลูกสาวของเธอสามารถเข้าใจเธอได้

ถึงปากจะพูดไปแบบนั้น แต่พอเซี่ยชีหรั่นนอนลงบนเตียง กลับรู้สึกว่าความอบอุ่นที่ได้รับจากผ้าห่มนั้นไม่เพียงพอเลย

รู้สึกคิดถึงความอบอุ่นของเย่เชินหลิน คิดถึงลมหายใจของเขา เนื้อเพลงเหล่านั้นยังคงวนเว คิดถึงรอยยิ้มของคุณ คิดถึงชุดคลุมของคุณ คิดถึงถุงเท้าสีขาวของคุณ กับรสชาติบนร่างกายคุณ

เย่เชินหลิน คุณคิดถึงฉันมั้ยนะ?

เซี่ยชีหรั่นเธอจะเป็นแบบนี้ไม่ได้ เธอหลงรักเขา รักจนโงหัวไม่ขึ้น เธอต้องเข้าใจว่าชีวิตคนเรามันไม่แน่นอน ถ้าหากวันหนึ่งเขาไปรักคนอื่นแล้วเขาไม่ได้รักเธอแล้ว เธอจะทำยังไง? เธอจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไรกัน?

ไม่ เขาไม่มีทางรักคนอื่นได้หรอก

เมื่อเย่เชินหลินกลับถึงบ้าน เย่เห้าหรันและฝู้เฟิ่งหยีต่างรู้สึกแปลกใจมาก เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยกลับมานอนบ้านเลย เพราะเขากับเย่เห้าหรันไม่ค่อยถูกกัน หลังจากเหยนชิงเหยียนกลับไปแล้วเขาพอยังไม่ยอมกลับมาอยู่บ้าน นั้นก็เพราะเขารักเซี่ยชีหรั่น

พอเห็นสีหน้าอันเคร่งเครียดของลูกชาย ฝู้เฟิ่งหยีก็รู้สึกว่าอาจจะเกิดเรื่องอะไรกับลูกชายหรือเปล่า

“ลูกชายเกิดอะไรขึ้น? ทำไมสภาพเหมือนคนอกหักอย่างนี้?”

“แม่ยังจำลูกชายคนนี้ได้ด้วยเหรอครับ? ผมนึกว่าพอมีเสี่ยวห้านแม่จะลืมผมไปแล้วซะอีก” เย่เชินหลินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ฝู้เฟิ่งหยีเองก็รู้สึกว่าช่วงหลังๆมานี้เธอก็ห่างเหินกับเย่เชินหลินมากไป เพราะเธอมัวแต่เป็นกังวลเรื่องของเสี่ยวห้านกว่าเสี่ยวห้านจะกลับมาอยู่บ้านได้มันไม่ง่ายเลย

พอได้ยินอย่างนั้นฝู้เฟิ่งหยีก็จริงจังขึ้นมาทันที แล้วเย่เชินหลินก็ได้เข้ามาโอบไหล่ของผู้เป็นแม่เอาไว้ “ผมล้อเล่นครับแม่ เสี่ยวห้านลำบากอยู่ข้างนอกตั้งหลายปี ต้องทำดีกับเขาหน่อยจริงมั้ย ผมแค่อยากมาอยู่กับแม่เท่านั้นเอง” แต่สายตาของเขากลับมองไปที่อื่น จริงๆแล้วเขาอยากมาอยู่กับพ่อด้วย

ถ้าเป็นแบบนี้เขาไม่มีทางพูดหรอก ชินแล้วล่ะ

“แล้วชีหรั่นล่ะ? อากาศหนาวขนาดนี้ปล่อยเธออยู่คอนโดคนเดียวได้ยังกัน กลับไปได้แล้ว ถ้าจะมาก็ต้องมาด้วยกัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องมา ผู้หญิงเขาต้องการความเอาใจใส่นะรู้ไว้ด้วย ”

ฝู้เฟิ่งหยีเองก็ต้องการให้เขากลับมาอยู่บ้าน แต่ตอนนี้เธอก็เริ่มใส่ใจความรู้สึกของเขาแล้วเหมือนกัน

เธอมองออกว่าเขาเองก็ต้องการอย่างนั้น คนเป็นแม่ควรรักในสิ่งที่ลูกรัก เขาอาจจะไม่ค่อยรู้วิธีการเอาใจใส่ผู้หญิง และนี่แหละคือหน้าที่ของผู้เป็นแม่ที่ต้องสอนลูกให้ได้รู้ เซี่ยชีหรั่นไม่เหมือนกับส้งหลิงหลิง โดนทำให้เสียใจ แต่ส้งหลิงหลิงนั้นเข้มแข็ง เซี่ยชีหรั่นนั้นต่างออกไป เธอกำพร้าแต่เด็กตัวคนเดียวไม่มีที่พึ่งพา หากทำให้เธอเสียใจ ฝู้เฟิ่งหยีต้องรู้สึกผิดมากแน่ๆ

“แค่นี้แม่ไม่ต้องสอนหรอกผมรู้ดี คิดว่าผมเป็นเด็กสามขวบหรือไงครับ!”

“เรื่องบางเรื่องเด็กสามขวบยังเก่งกว่าลูกเลย” ฝู้เฟิ่งหยีพูดล้อลูกชาย

“รีบไปได้แล้ว! ทะเลาะกันหรือเปล่า? ถ้าทะเลาะก็ไปง้อซะ ลูกผู้ชายอกสามศอก ต้องรู้จักพลิกแพลง” ฝู้เฟิ่งหยีพูดถึงตรงนี้ เย่เห้าหรันก็ได้เดินเข้ามานั่งที่โซฟาในห้องโถง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการมาแอบฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเขา

พ่อลูกคู่นี้ช่างเหมือนกันจริงๆ ปากแข็ง ไม่ยอมเป็นคนถ้าก่อน แต่ก็ไม่แสดงออกว่าไม่เป็นห่วง

เย่เชินหลินไม่ค่อยชินกับการที่ต้องมาอธิบายให่พวกเขาฟัง หลังจากครุ่นคิดอยู่นานเขาก็ได้ตัดสินใจพูดไป

“จริงๆชีหรั่นไม่ได้อยู่ที่คอนโดครับ เธอกับแม่ของเธอ พูดง่ายๆคือคุณนายหลี่รับชีหรั่นเป็นลูกแล้ว และตอนนี้แม่เธอให้เธอไปพักอยู่ที่บ้านครับ”

“อั้ยย๋า! จริงเหรอ? ดีจริงๆ! ในที่สุดก็หาคนในครอบครัวจนเจอ”ฝู้เฟิ่งหยีรู้สึกดีใจแทนชีหรั่นอย่างสุดซึ้ง

“ทีนี้คงไม่ไล่ผมออกไปแล้วสินะ ผมจะอยู่บ้านสักระยะนะครับ”

อยู่จนถึงเธอคนนั้นกลับบ้าน เขาคิดอยู่ในใจ

ฝู้เฟิ่งหยีกัดฟันพูด“สมน้ำหน้า!” หลังจากเห็นสภาพลูกชายที่อยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยาก

ในชั่วขณะหนึ่งเย่เชินหลินรู้สึกสงสัยว่าเขาเป็นลูกแท้ๆของเธอหรือเปล่า

แต่ใจหนึ่งเข้าใจความรู้สึกของแม่ เพราะหลังจากเสี่ยวหรั่นเขาก็ไม่เคยจริงจังกับผู้หญิงอื่นอีกเลย สำหรับเขาผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาต่างเป็นเพียงแค่ดอกไม้ริมทางเท่านั้น

แต่ใครจะไปคิดว่าทุกอย่างกลับตรงกันข้าม ที่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นได้นอนกอดแม่ของเธออย่างสบายใจ แต่เขากลับต้องนอนคนเดียว

คืนนี้ ค่ำคืนที่แสนยาวนานจะมีใครคิดถึงกันบ้าง

เซี่ยชีหรั่นนอนไม่หลับ เย่เชินหลินก็นอนไม่หลับ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงส้งหลิงหลิงที่อยู่แสนไกล

ก่อนจะรู้เรื่องนี้เธอก็นอนไม่ค่อยหลับอยู่แล้ว พอได้ข่าวจากแม่เธอยิ่งไม่เป็นอันกินอันนอนเลย เธอได้แต่บอกตัวเองว่าเธอเป็นแม่คนแล้ว ปลอบใจตัวเองว่านอกจากกินแล้วก็นอน อย่างอื่นก็ไม่ต้องไปคิดแล้ว

แต่เธอก็ทำไม่ได้ ได้แต่กลัวว่าเย่เชินหลินจะรู้เข้า ถึงเธอจะเปลี่ยนที่อยู่ไปหลายที่แล้วก็ตาม

ความรู้สึกที่อยากให้ลูกของเธอโตขึ้นมาในเร็ววัน อยากให้ท้องของเธอขึ้นมาในทันทียิ่งอยู่ยิ่งต้องการให้มันเป็นจริงขึ้นทุกที

ในทุกๆคืนเธอได้แต่จินตนาการไปต่างๆนาๆว่า ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันอยู่ พูดจาหวานชื่นใส่กันหรือกำลังนอนกอดสวีตกันอยู่บนเตียง ทุกครั้งที่คิดเธอก็จะเจ็บปวดเหมือนถูกมีดเข้ามาที่กลางอก

เซี่ยชีหรั่น เมื่อเวลานั้นมาถึง ยิ่งเธอมีความสุขเท่าไรฉันก็จะทำให้เธอเจ็บปวดมากเท่านั้น สักวันเธอต้องได้เจ็บปวดเหมือนกับฉัน

ในท้องของฉันมีลูกของเขาอยู่ ทั้งๆที่ฉันมีสิทธิ์ที่จะได้อยู่ข้างเขามากที่สุด แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาแย่งทุกอย่างจากฉันไป

ฉันเกลียดเธอ เราสองคนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ต่อให้ฉันตายฉันก็จะลากเธอไปลงนรกด้วยกัน

เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่น ทั้งคู่ได้ต่างก็กำลังคิดถึงซึ่งกันและกัน และไม่มีใครรู้สึกถึงแรงเกลียดชังที่ถูกส่งมาจากที่อันแสนไกลเลยแม้แต่น้อย

เย่เชินหลินคิดว่าเซี่ยชีหรั่นคงกำลังนอนกอดแม่ของเธอ ทั้งคู่คงกำลังคุยเล่นกัน เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาดูแต่ก็ไม่ได้โทรหาหรือส่งข้อความให้เธอเลย

เดิมทีจ้าวเหวินอิงก็ต้องการมานอนกับลูกสาวของเธอ แต่เซี่ยชีหรั่นเห็นว่าผู้ใหญ่ทั้งสองต่างรักกันมากไม่อยากจะแยกทั้งคู่ออกจากกัน เธอจึงบอก

ไปว่าเธอนอนคนเดียวได้

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset