สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่480 สาวใช้ตัวแสบ384

ตอนที่480 สาวใช้ตัวแสบ384
เซี่ยชีหรั่นเองก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู นี่มันห้าทุ่มกว่าแล้วยังนอนไม่หลับ ทนไม่ไหวเลยส่งข้อความให้เขาไป “หลิน หลับหรือยัง? ฉันนอนไม่หลับ รู้สึกคิดถึงคุณนิดหน่อย”
เย่เชินหลินทำหน้านิ่ง กำลังจ้องไปที่คำว่า “นิดหน่อย” แบบรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไร
เธอคิดถึงฉันแค่นิดหน่อยเองเหรอ?
เมื่อเวลาผ่านไปเขาไม่ได้ตอบกลับข้อความของเธอ เธอคิดว่าเขาคงหลับแล้ว เธอเองก็กำลังจะนอน และทันใดนั้นเองข้อความที่ถูกส่งจากเย่เชินหลินก็ได้แจ้งเตือนขึ้นมา
พอเธอเปิดดู ปรากฏว่ามันคือรูปถ่าย
ภายใต้แสงจันทร์ มีรถหนึ่งคันจอดอยู่ตรงทางม้าลาย ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างรถ และชายคนนั้นก็คือเย่เชินหลิน
ทำไมสถานที่ในรูปช่างคุ้นตาเหลือเกิน เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ? เอ๊ะ!นั้นมันประตูบ้านตระกูลหลี่ไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวนะ……..หน้าบ้านตระกูลหลี่?
เขามาแล้ว?
ก่อนที่เซี่ยชีหรั่นจะตั้งสติได้เธอก็พุ่งตรงไปที่หน้าต่างแล้ว เปิดผ้าม่านออกและมองไปข้างล่าง หน้าบ้านมีรถสปอร์ตคันสีขาวจอดอยู่จริงๆ
ท่ามกลางลมหนาวอันหนาวเหน็บชายอันเป็นที่รักของเธอกำลังจ้องมองมาที่หน้าต่างห้องเธอ
เซี่ยชีหรั่นยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น เธอลืมไปว่าพื้นมันเย็นมากและลืมเตือนเย่เชินหลินว่าข้างนอกนั้นอากาศหนาวมาก
ตอนนี้เธอสติหลุดไปแล้ว พอตั้งสติได้เธอก็รีบโทรหาเขาทันที
“คนโง่! ดึกๆดื่นไม่รู้จักนอนมาทำอะไรที่นี่? มันหนาว!เข้าไปในรถเดี๋ยวนี้เลย”
ความห่วงใยของเธอทำให้หัวใจของคนแซ่เย่นั้นช่างอบอุ่นเหลือเกิน แต่น้ำเสียงของเธอออกจะดุไปหน่อยนะ
“เป็นห่วงฉันเหรอ?”
เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงขึ้นมา การที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนเขากำลังโอบกอดเธอและกำลังกระซิบอยู่ข้างหูของเธอเลย
“ตอบมา เป็นห่วงฉันใช่มั้ย?” น้ำเสียงที่แหบซ่านและทุ้มลึกของเขาเหมือนมันกำลังสะกดเธอให้อยู่ในภวังค์
เซี่ยชีหรั่นกัดริมฝีปากด้วยความเขินอาย แล้วตอบไปเบาๆว่า “ใช่ เป็นห่วง ไม่ได้เหรอ?”
“ถ้ากลัวหนาวก็เปิดหน้าต่างออก ให้ฉันไปนอนกอดเธอก็ได้นะ”
“นี่คุณ!” เซี่ยชีหรั่นทั้งเขินทั้งอาย ทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะตอบเขาอย่างไรดี
“รีบกลับไปที่เตียงได้แล้ว ไม่ได้ใส่รองเท้าด้วยใช่มั้ย? พอดีผมผ่านทางมาเลยแวะมาหาหน่อย เธอนอนเถอะฉันจะกลับแล้ว”
“ตกลง!คุณรีบกลับเถอะข้างนอกหนาวมาก”พอตอบเสร็จเซี่ยชีหรั่นก็รีบกลับขึ้นเตียงทันที เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าเธอไม่มาเขาก็คงไม่ยอมกลับ
หลังจากเย่เชินหลินขึ้นรถแล้วเขาก็ขับรถออกไปจอดที่อื่น แล้วก็ยืนนิ่งอยู่ใต้ห้องเธออยู่พักใหญ่กว่าจะกลับไป
เช้าวันต่อมาพอเซี่ยชีหรั่นตื่นนอน เย่เชินหลินก็ได้มาถึงแล้ว
ผู้หญิงของเขาให้ว่าที่แม่ยายของเขาพามา เขาเข้าใจความรู้สึกของทั้งคู่แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่อยู่เคียงข้างเธอ
เขาต้องทำให้ทุกคนได้เห็นว่าไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องแต่งงานกับเธอให้ได้ และจะทำให้ ว่าที่แม่ยายของเขาได้เห็นถึงความพยายามและความจริงใจของเขาให้ได้ เขาเข้าใจดีว่าที่ผ่านมาถึงเขาจะไม่เคยจริงใจกับผู้หญิงคนไหนเลยก็ตาม แต่เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เธอยอมรับ ยินยอมที่จะมอบลูกสาวให้เขาดูแลให้จงได้
จ้าวเหวินอิงรู้สึกพอใจกับการที่เย่เชินหลินมารับเซี่ยชีหรั่นไปทำงานด้วยตนเอง สายตาที่เธอมองเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปด้วย
ไม่รู้ทำไมพอเซี่ยชีหรั่นเห็นหน้าเขาเธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ทั้งๆที่พวกเธอไม่ได้เจอกันแค่คืนเดียวเท่านั้นเอง
เย่เชินหลินมาทันอาหารเช้าพอดี เขานั่งอยู่ข้างๆเซี่ยชีหรั่น เพื่อเป็นการให้เกียรติทุกคน แม้แต่มือของเธอเขายังไม่จับเลย
หลังจากบอกลาทุกคนในบ้าน ทั้งคู่ก็ได้เดินทางไปทำงานพร้อมกัน พอขึ้นรถเสร็จ เย่เชินหลินก็ทำการจูบเธอด้วยความเร่าร้อนไปหนึ่งที
“หลิน ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ แต่ไม่รู้ว่าคุณจะรับปากหรือเปล่า?”
“เรื่องของโม่เสี่ยวจุนสินะ”
“คุณนี่ฉลาดจริงๆ!ใช่ มันก็เรื่องของพี่ชายฉันนั่นแหละ”
“เธอนะ พี่ชายเยอะจริงๆเลยนะ หลี่เหอไท้ก็เหมือนกัน คนๆนี้ก็ร้ายใช่ย่อย ร้ายจนตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าเขาคบใครอยู่กันแน่ เธอต้องรักษาระยะห่างกับเขาไว้ ถึงจะเป็นพี่น้องกันแต่ก็ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน” เขาเตือนเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย
“รู้แล้ว! เขาเองก็ระวังตัวอยู่เหมือนกัน แม้แต่คุยกับฉันตามลำพังเขายังไม่ทำเลย”
“นี่มันพึ่งเริ่ม อีกหน่อยใครจะไปรู้ ยังไงก็ต้องระวังไว้”
“ตกลง!” เซี่ยชีหรั่นตอบตกลงไปด้วยความรู้ที่เหมือนกับว่าเธอเป็นภรรยาของเขาเลย
เธอเองก็เข้าใจความรู้สึกของเขาดี การที่เขาไม่เจอหน้าเธอเขาเองก็คงเป็นกังวลเหมือนกัน หวงเธอเป็นเรื่องธรรมดา นั้นแสดงว่าเขาใส่ใจเธอมั้ง
“แล้วมีอะไรเรื่องโม่เสี่ยวจุน? รีบพูดมา!”
“ฉันคิดว่าเที่ยงนี้เราชวนเขาและฉิงฉิงมาทานข้าวกันมั้ย? แม่ฉันบอกว่าอยากให้ทุกคนรู้ว่าเราเป็นแม่ลูกกัน ครั้งก่อนที่บ้านตระกูลไห่ทุกคนต่างก็สงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคน อีกอย่าง หลายปีมานี้ในระหว่างตามหาครอบครัวเสี่ยวจุนเองก็คอยอยู่เคียงข้างฉันมาตลอด ดังนั้นฉันเลยอยากบอกเรื่องนี้ให้เขาได้รู้”
“ได้” เย่เชินหลินตอบตกลงอย่ารวดเร็ว เซี่ยชีหรั่นเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะเธอรู้ดีว่าเขาต้องเห็นด้วย เขาไม่ใช่เย่เชินหลินคนก่อนแล้ว เขาเปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงของเขาทำให้เธอหลงรักเขา อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ
อยู่กับเขาแล้วทำให้เธอมีความรู้สึกมั่นคงมากขึ้น
จริงๆ เธอก็แอบอิจฉาความรักที่เสนาธิการหลี่มีต่อแม่ของเธอ เขาสามารถยอมรับทุกอย่างที่เป็นเธอ ถึงแม้ว่าสมัยสาวแม่เธออาจจะเดินทางผิดไปบ้าง แต่เขาก็เข้าใจและยอมรับมันได้ นี่คือรักที่ยิ่งใหญ่
เธอได้แต่หวังว่าสักวันเย่เชินหลินของเธอก็คงจะรักแม่ของเธอได้เช่นกัน แม่เองก็คงจะเปิดใจให้เขายอมรับทุกอย่างที่เขาเป็น
ตอนเที่ยงเย่เชินหลินชวนให้โม่เสี่ยวจุนและไห่ฉิงฉิงมาทานอาหารกลางวันด้วยกัน ทั้งคู่ตอบตกลงด้วยความดีใจ
เมื่อได้ฟังเรื่องที่เซี่ยชีหรั่นกับภรรยาของเสนาธิการหลี่ได้นับถือเป็นแม่ลูกกันแล้ว ทั้งคู่ต่างตกใจและดีใจมากอีกทั้งยังแสดงความยินดีกับเซี่ยชีหรั่นอย่างไม่ขาดสาย
โดยเฉพาะโม่เสี่ยวจุนถึงแม้สีหน้าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก แต่ภายในของเขานั้นกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย
ไห่ฉิงฉิงแอบมองโม่เสี่ยวจุนอย่างเงียบๆ เธอรู้ดีไม่ว่าท่าทีที่เขาแสดงออกมามันจะดูปกติสักแค่ไหน แต่ความรู้สึกที่เขามีต่อเซี่ยชีหรั่นนั้นมันลึกยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทรเสียอีก บางทีเธอก็แอบคิด ถึงเธอจะพยายามทั้งชีวิตก็คงไม่อาจแทนที่เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ในใจของเขาได้เลย
เซี่ยชีหรั่นเป็นเด็กกำพร้า ดังนั้นเขาจึงหวงแหนเธอเป็นพิเศษ วันนี้เธอมีแม่เป็นตัวเป็นๆแล้ว เขาก็คงจะเป็นห่วงเธอน้อยลงแล้วสินะ?
ไห่ฉิงฉิงรู้ดีว่าที่โม่เสี่ยวจุนเข้าหาเธอเพราะเรื่องเงิน ตอนนี้แม่ของเซี่ยชีหรั่นเป็นถึงคุณนายหลี่ มีใครบ้างจะไม่รู้ว่าอำนาจของตระกูลหลี่นั้นมันยิ่งใหญ่แค่ไหน ต่อไปเธอคงไม่ต้องการความช่วยเหลือจากโม่เสี่ยวจุนอีกก็เป็นได้
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเขาคงไม่มีความจำเป็นต้องอยู่กับเธออีกแล้ว ไห่ฉิงฉิงนั่งคิดด้วยความขมขื่นใจ เธอคงไม่มีค่าพอให้เขาหลอกใช้ เธอไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถฉุดรั้งเขาไว้ได้
“ฉิงฉิงเป็นอะไร? วันนี้ไม่เห็นเธอกินบล็อคโคลี่เลย ปกตินี่มันของโปรดของเธอเลยไม่ใช่เหรอ?” โม่เสี่ยวจุนกุมมือของไห่ฉิงฉิงเอาไว้แล้วถามเธอด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะอบอุ่น
มือของเขาช่างอบอุ่นเหลือเกิน แต่มันก็ไม่สามารถทำให้ไห่ฉิงฉิงอุ่นใจได้ทั้งหมด
ไม่รู้ทำไมยิ่งเขาทำดีกับเธอมากเท่าไร เธอกลับยิ่งมีความรู้สึกว่ามันไม่จริง เหมือนเขากำลังฝืนตัวเองอยู่
เขาอยู่บ้านตระกูลหลี่มาก็นานแล้ว พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอด นอกจากจูบแล้วเขาก็ไม่เคยทำอะไรเกินกว่านั้นเลย แค่นึกถึงจุดนี้เธอก็รู้สึกเลยว่าเขาไม่ได้มีความรักแบบชายหญิงให้เธอเลย
เพื่อไม่ให้ทุกคนรับรู้ถึงความผิดหวังของเธอ ไห่ฉิงฉิงก็ยิ้มและพูดว่าไม่เห็นเหรอก็กำลังกินอยู่นี่ไง?
“เสี่ยวจุน ฉันหาครอบครัวของฉันเจอแล้ว คุณเองก็ต้องพยายามเข้านะ คุณเองก็ต้องหาเจอเหมือนกัน” เซี่ยชีหรั่นกล่าว เธอเองก็หวังว่าเสี่ยวจุนจะเป็นเหมือนกับเธอ ตามหาครอบครัวจนเจอ ได้กลับไปอยู่บ้านของตัวเองใช้ชีวิตอยู่กับคนในครอบครัว
“แน่นอน เมื่อเวลาแห่งโชคชะตามาถึงก็คงจะหาเจอเอง”โม่เสี่ยวจุนตอบ
……..
โปรโมชั่นในวันคริสมาสต์อย่างราบรื่นตามแผนที่เซี่ยชีหรั่นวางไว้ เย่เชินหลินได้เลื่อนตำแหน่งให้เธอเป็นหัวหน้าแผนกการตลาด ซึ่งหัวหน้าคนเก่าประพฤติไม่ดีจึงถูกไล่ออกไป
ในตอนแรกเซี่ยชีหรั่นกังวลว่าคนอื่นจะคิดว่าเธอได้มาเพราะเส้นสาย แต่เย่เชินหลินก็ได้ยกตัวอย่างความสามารถด้านต่างๆ ที่เธอมีมากกว่าคนอื่น และสุดท้ายเขาก็สามารถพูดให้เธอเปลี่ยนใจได้สำเร็จ
หลังจากการประสบความสำเร็จในครั้งแรก ในช่วงตรุษจีนเซี่ยชีหรั่นก็ได้รับชัยชนะอีกครั้ง
ตรุษจีนปีที่สองในเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน ภายใต้คำแนะนำของเย่เชินหลิน และการกำกับดูแลของผู้จัดการหลี่ ความสามารถของเธอก็ได้พัฒนาไปอย่างมาก
เผลอแปปเดียววันแรงงานก็ผ่านไปแล้ว หลังเสร็จจากงานเธอก็อยากกลับไปนอนให้มันสามวันสามคืนไปเลย
“เพื่อเป็นการฉลองความสำเร็จในช่วงการจัดกิจกรรม ผมจะพาคุณไปยังที่ที่หนึ่ง” ตอนสุดสัปดาห์ เย่เชินหลินบอกเซี่ยชีหรั่นด้วยท่าทีลับๆล่อๆ
ตั้งแต่เซี่ยชีหรั่นเข้าไปอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ พวกเขาก็ได้เจอกันแค่ตอนกลางวัน กลางคืนก็มีเวลาอยู่ด้วยกันแปปเดียว จะทำอะไรก็ไม่ได้ ตอนนี้ทั้งตัวและหัวใจของคนแซ่เย่คงจะโหยหาในตัวของเซี่ยชีหรั่นมากแล้วแน่ๆ
เซี่ยชีหรั่นภายนอกอาจจะดูไม่รู้สึกอะไร แต่ภายในใจของเธอก็โหยหาที่จะอยู่ข้างกายเขาเหมือนกัน ในบางครั้งเพียงแค่เขาสบตบเธอเพียงแวบเดียวมันก็ทำให้เธอร้อนรุ่ม ใจเต้นไม่เป็นจังหวะเลยทีเดียว
สถานที่ที่เย่เชินหลินพาเซี่ยชีหรั่นไปนั้นคือทะเล
ผืนทะเลอันกว้างใหญ่ สำหรับคนที่เติบโตพื้นที่ไม่ได้ติดทะเลอย่างเซี่ยชีหรั่นเป็นครั้งแรกเลยที่เธอได้เห็นมัน
ถึงแม้จะเป็นตอนนี้ แต่อากาศตามชายหาดก็ยังหนาวเย็นอยู่บ้าง เซี่ยชีหรั่นก็ยังทำตัวเหมือนเด็กน้อย วิ่งเล่นอยู่บนชายหาด
แค่เห็นทะเลเธอยังดีใจขนาดนี้ แล้วถ้าเธอรู้ว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น แล้วเธอจะดีใจขนาดไหนกันนะ เขามีความสุขเวลาที่เห็นเธอทำตัวมีความสุขอย่างเด็กน้อย
“ดูนั้นสิ! ตรงนั้นมีเรือยอชท์ด้วย” เซี่ยชีหรั่นชี้ไปยังเรือยอชท์สีขาวที่จอดอยู่ไม่ไกล
“ให้ผมพาคุณขึ้นไปนั่งเล่นดีมั้ย?”
“ทำได้เหรอ?”
“เธอคิดว่ายังไงล่ะ?”
เย่เชินหลินจับมือของเซี่ยชีหรั่นแล้วพาเธอวิ่งไปยังท่าเรือ เข้าใกล้ท่าเรือขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วเซี่ยชีหรั่นก็ได้สังเกตเห็นว่าบนเรือมีตัวอักษรขนาดใหญ่ที่คุ้นเคยปรากฏอยู่
ชีหรั่น!
เธออึ้งไปเลย…..
ณ ตอนนั้นเธอคงจะคิดไม่ถึงว่าอีกเดี๋ยวเธอจะได้พบเจอกับประสบการณ์ที่น่าจดจำ เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น เหม่อมองไปที่เรือ แล้วน้ำตาแห่งความสุขก็ได้หลั่งรินออกมา
ท่ามกลางน้ำตาที่เอ่อล้น เธอก็ได้เงยหน้าขึ้นมาแล้วถามเขาไปว่า “ทำไมบนเรือลำนั้นถึงได้มีชื่อของฉันติดอยู่ล่ะ?”
“สงสัยเป็นเรื่องบังเอิญมั้ง”เขาตอบไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา แต่ใบหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขที่เกิดจากความรัก
“คนบ้า!” เซี่ยชีหรั่นใช้กำปั้นน้อยๆของเธอทุบเข้าที่หน้าอกของเขา แต่น้ำตายังคงไม่หยุดไหล
เย่เชินหลินโน้มตัวลงจูบลงที่หยดน้ำตาของเธอแล้วค่อยๆดูดมันจนแห้ง จากนั้นก็จูบลงบนริมฝีปากน้อยๆของเธอด้วยความอ่อนโยน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset