สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 49 ความรู้สึกดีๆ

ตอนที่ 49 ความรู้สึกดีๆ
ดวงตาของส้งหลิงหลิงเต็มไปด้วยความรักใคร่ต่อเย่เชินหลิน ในสายตาของคนเป็นแม่เมื่อเห็นคนมองลูกชายเช่นนี้ ก็อดดีใจขึ้นมาไม่ได้
“ดูๆเด็กคนนี้ปากหวานจริงๆโม่เอ๋อส้งหลิงหลิงชอบลูกได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะ ลูกต้องทะนุถนอมเธอด้วยล่ะ”
เย่เชินหลินเดาใจแม่ของเขาว่าต่อไปคงจะเอ่ยถึงเรื่องฤกษ์แต่งงานขึ้นมา เขาลุกขึ้นมาช้าๆ แล้วพูดกับฝู้เฟิ่งหยี “แม่ครับ ผมมีบางคำที่อยากจะพูดกับส้งหลิงหลิงเพียงสองคนครับ”
“ไปเถอะ!”
ส้งหลิงหลิงเดินตามหลังเย่เชินหลินอย่างอ่อนน้อม ตามเขาเข้าไปในห้องทำงาน
เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง ฝู้เฟิ่งหยีก็กวักมือเรียกเซี่ยชีหรั่นเข้าไป หยิบกล่องแหวนกำมะหยี่สีแดงออกมาจากกระเป๋า เอ่ยสั่งเสียงเบา “หล่อนเอาสิ่งนี้ไปที่ห้องทำงาน เอาไปให้เย่เชินหลินกับมือ แล้วบอกว่าฉันสั่งมา ทำไมเขาถึงได้สะเพร่าแบบนี้กัน จะขอแต่งงานแต่ดันลืมเอาแหวนแต่งงานไปได้ยังไงกัน เข้าใจแล้วหรือยัง?”
แม้ว่าในหัวของเซี่ยชีหรั่นจะยังมึนตึง ได้แต่คิดว่าครั้งนี้ท่านประธานเย่ไม่มา แต่ไม่ช้าไม่นานก็จะต้องมาแน่
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว เธอจึงได้แต่อดทนต่อไป และรอคอยต่อไป
“เข้าใจแล้วค่ะ คุณผู้หญิง!” เธอรับกล่องแหวนมาจากมือของฝู้เฟิ่งหยี ก้มหน้าลงแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงาน
เดินไปพลางคิดไปพลาง สาวใช้ทั้งหมดล้วนรอรับใช้อยู่ที่ห้องโถง แต่คุณผู้หญิงกลับเจาะจงมาว่าต้องเป็นเธอที่เอาแหวนขึ้นไปให้
เกรงว่าคงอยากให้เธอเห็นเย่เชินหลินขอส้งหลิงหลิงแต่งงานกับตาตัวเอง แล้วให้เธอยอมแพ้ซะ
คุณผู้หญิงคิดมากไปแล้วจริงๆ
ในห้องทำงาน สีหน้าของเย่เชินหลินดูจริงจังขึ้นมา
เขามองส้งหลิงหลิงนิ่ง เอ่ยออกมาช้าๆ “คำพูดในตอนนี้ของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะได้ยินอย่างชัดเจนนะ ฉันไม่ได้ชอบเธอ แต่ก็ไม่ได้เกลียดเธอ มีเพียงแค่ความรู้สึกดีๆ แม่ของฉันชอบเธอไม่น้อยเลย อยากให้ฉันขอเธอแต่งงาน ส่วนฉันก็ไม่อยากขัดในสิ่งที่แม่ต้องการ เธอคิดให้ดีแล้วกัน ถ้าเธอยอมพวกเราก็แต่งงานกัน แต่ถ้าไม่ยอม ฉันจะไปพูดกับแม่เอง ว่าฉันเปลี่ยนใจแล้ว ไม่อยากให้เธอทำใจลำบาก”
พอเขาอยากจะพูดกับเธอแบบส่วนตัว ในใจของส้งหลิงหลิงเองก็เดาออกว่าเขาจะพูดอะไร
เขาเป็นคนใจร้ายจริงๆ เขาไม่ชอบก็ไม่ชอบ ไม่รักก็ไม่รัก ทำไมต้องพูดออกมาให้ชัดเจนขนาดนี้ด้วย ทำให้เธอแม้แต่จะหลอกตัวเองก็ยังหลอกไม่ลง?
ในใจของเธอเจ็บปวดมาก แต่ก็ไม่อยากให้เขามองออกว่าเธอเจ็บปวด
สิ่งที่เธออยากจะขอ ไม่ใช่เป็นแค่ภรรยาของเขา แต่คงไม่หยุดอยู่แค่เพียงคู่นอนทั่วๆไปคนหนึ่งล่ะมั้ง?
ส้งหลิงหลิงฝืนยิ้มออกมา เอื้อมมือไปกุมมือของเย่เชินหลินเอาไว้ เอ่ยอย่างแน่วแน่ว่า “เชินหลิน ฉันรักคุณ! ฉันยินดีที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ของฉันเพื่อรักคุณ ฉันไม่สนใจว่าคุณจะรักหรือไม่รักฉัน!”
เซี่ยชีหรั่นเดินมาถึงหน้าประตูพอดี เลยได้ยินสิ่งที่ส้งหลิงหลิงสารภาพออกไปอย่างชัดเจน
“ต่อไปไม่ต้องพูดแบบนี้กับฉันอีก ฉันไม่ชอบคำพวกนี้ อ้อ แล้วเธอก็ต้องจำเอาไว้สักนิดนะว่าฉันไม่สัญญานะว่าฉันจะมีเพียงเธอแค่คนเดียว ดีสุดสำหรับเธอก็คงไม่มีโชคช่วยแบบนี้หรอก”น้ำเสียงของเย่เชินหลินเย็นชาเหมือนเคย แม้แต่เซี่ยชีหรั่นที่อยู่ด้านนอกประตูที่ได้ยินก็รู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมา
ผู้ชายไร้ความรู้สึก ใครที่รักเขา ก็เป็นกรรมของคนนั้นจริงๆ
อี๋ปิงเป็นผู้อาภัพน่าสงสาร ส้งหลิงหลิงก็เป็นหนึ่งในนั้น
นี่เขาก็ทำกับผู้หญิงคนอื่นเหมือนที่ทำกับเธอหรือนี่ เริ่มวางอำนาจ บังคับจูบอย่างบ้าบิ่น หลังจากครองหัวใจของผู้หญิงแล้ว เขาก็ทอดทิ้งแล้วเหยียบย่ำหัวใจอย่างไม่แยแส
เขาใกล้จะแต่งงานแล้ว เขาแต่งงานกับคนอื่นเค้า แต่กลับไม่รับปากว่าจะซื่อสัตย์กับเค้า เขายังกล้าพูดหน้าด้านๆ พูดอย่างไม่แคร์ว่าเขาจะไม่มีผู้หญิงเพียงคนเดียว
เย่เชินหลิน นายนี่มันเลวจริงๆ!
เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้โกรธเขาขนาดนี้ ได้ยินกับหูว่าเขาพูดขึ้นมาว่าไม่รู้สึกอะไรกับส้งหลิงหลิง เธอก็รู้สึกไม่พอใจเขาขึ้นมา
ส้งหลิงหลิงไม่พอใจเขาเช่นเดียวกัน ผู้ชายคนนี้ แม้จะอยู่บนเตียงด้วยกัน ก็ยังไม่เคยเอ่ยคำว่ารักกับเธอออกมา แต่เธอกลับรักเขาจนถอนตัวไม่ขึ้น
คุณรักใคร ก็หนี้ของคนนั้นแล้ว นี่อาจเป็นโชคชะตาของเธอก็ได้ เธอยอมแล้ว
เธอเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า เงยหน้ามองเย่เชินหลินอย่างจริงจัง
“ฉันได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว ผู้ชายอย่างคุณ ฉันไม่กล้ายึดคุณไว้คนเดียวหรอกค่ะ ฉันจะพยายามให้ตัวเองไม่หึงหวงออกมา หวังเพียงว่าคุณจะไม่ลืมว่าฉันเป็นว่าที่เจ้าสาวของคุณ เป็นภรรยาของคุณในอนาคต ก็พอแล้ว”
ส้งหลิงหลิง ทำไมเธอต้องลดค่าของตัวเองขนาดนั้นด้วย? เซี่ยชีหรั่นอยากจะพุ่งเข้าไปถาม ให้เธอได้เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่าคนแซ่เย่เป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน
เธอเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ ไปที่ไหนจะไม่พบผู้ชายที่จริงใจกับเธอเลยหรอ?
แต่เธอทำได้เพียงถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายใจ ยกมือที่ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาเคาะประตูออกไปเบาๆ
“เข้ามา!” เสียงของเย่เชินหลินดังออกมา
เธอบิดประตูเปิดออกแล้วยืนอยู่หน้าประตู เอ่ยเสียงนิ่ง “คุณผู้หญิงให้ฉันเอาของอย่างนึงมาให้ค่ะ คุณผู้หญิงบอกว่าทำไมคุณชายถึงได้สะเพร่าอย่างนี้ ถึงได้แหวนเพื่อขอแต่งงานก็ลืมเอามาค่ะ”
สายตาของเย่เชินหลินฉวยโอกาสตอนที่เธอพูด ส่งสายตามองหน้าเล็กของเธอนิ่งๆ
ใบหน้าสงบนิ่งของเธอ มองไม่ออกว่ากำลังคิดยังไงต่อเรื่องที่เขากำลังจะแต่งงาน ดูเหมือนมันจะกระทบจิตใจของเธอน้อยมาก ใบหน้าของเขาก็มืดขึ้นมาอีกครั้ง
“เอามา!”
เซี่ยชีหรั่นก้าวเดินเข้าไปด้านหน้าของทั้งสองคน โน้มหัวลงแล้วยกมือขึ้นมา
มือข้างนึงของเย่เชินหลินเปิดฝากล่องออกอย่างประณีต นิ้วชี้หยิบแหวนออกมาจากกล่อง เอ่ยกับส้งหลิงหลิงอย่างอ่อนโยน “พวกเราหมั้นกันเถอะ!”
นี่เป็นคำที่ส้งหลิงหลิงรอคอยมาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะไม่ได้เต็มไปด้วยความรักอย่างจริงใจเหมือนในฝัน แต่ก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนกับปกติ
เธอต้องขอบคุณผู้หญิงคนนี้ที่เอาแหวนเข้ามาให้ใช่มั้ย เขาอยากจะยั่วอารมณ์ผู้หญิงคนนี้ ถึงได้ดีกับเธอขึ้นมาใช่มั้ย?
เซ้นส์ของผู้หญิงแรงมาก บางทีเธอก็หวังว่าตัวเองจะไม่รู้สึกเร็วแบบนี้
เธอยื่นมือบางออกไป เย่เชินหลินช่วยเธอสวมแหวนวงนั้นเข้าไป
เขาใช้แรงโอบเข้าไปที่เอวชองส้งหลิงหลิง ก้มลงจูบริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว
เซี่ยชีหรั่นมองอึ้ง การกระทำต่อเนื่องนี้ กับตอนที่เขาจูบเธอ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่แตกต่างกันเลย ที่แท้เขาก็ทำกับผู้หญิงแบบนี้ประจำ แต่ทำไมใจของเธอถึงได้เจ็บจี๊ดขึ้นมาเสียได้?
เธอก้มหน้าก้มตาลง แล้วเอากล่องแหวนวางลงบนโต๊ะหนังสือ เดินออกไปจากห้องอย่างเงียบๆ
ในขณะเดียวกัน เย่เชินหลินก็ปล่อยส้งหลิงหลิงเป็นอิสระ
เขาไม่เคยจูบเธอมาก่อน จะมีเพียงแค่ขึ้นเตียงกัน เขาก็ดูเหมือนจะไม่ชอบการจูบ
ส้งหลิงหลิงเคยแอบเสิร์ชหาในอินเตอร์เน็ต พบว่ามีผู้ชายบางประเภทที่ไม่ชอบจูบปากผู้หญิง นี่อาจจะเกี่ยวกับที่ว่าพวกเขารักความสะอาดเป็นพิเศษ
เมื่อกี้ที่เขาจูบลงมาบนริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว เธอก็รู้สึกถึงความสุขสุดขีดที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ความรู้สึกข้างในใจมันวิเศษจริงๆ
พอเขาถอนจูบออก มันทำให้ความรู้สึกของเธอราวกับจะสลาย เดิมสายตาของเขาก็ไม่ได้มองเธออยู่แล้ว แต่กลับมองไปยังประตูอย่างเย็นชา แผ่นหลังแกร่งเหยียดตรง พวกเขามองไม่เห็นความขมขื่นที่ออกผ่านมาจากดวงตาเธอ
“เชินหลิน อย่าปล่อยให้คุณป้าต้องคอยนานเลย พวกเรากลับออกไปกันเถอะ?” ส้งหลิงหลิงเข้าไปคล้องแขนเย่เชินหลินเอาไว้
เธอเชื่อมั่นว่าการจูบแบบนี้ มีครั้งแรกจะต้องมีครั้งที่สอง เขาจะต้องค่อยๆรักเธอขึ้นมา
กลับมาถึงห้องโถงแล้วนั่งลงตรงตำแหน่งเดิม ทุกคนให้ความสนใจไปยังเพชรที่ส่องประกายวาววับบนนิ้วมือของส้งหลิงหลิง
ใครๆก็คิดว่าพวกเขาได้พลอดรักกันในห้องทำงาน เพราะดูได้จากใบหน้าขึ้นแดงอ่อนๆของส้งหลิงหลิงที่เผยออกมา
เซี่ยชีหรั่นทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ รีบโค้งหัวแล้วกลับไปยืนตำแหน่งเดิม
“โม่เอ๋อแม่กับพ่อของลูกจะรีบหาเวลาไปบ้านตระกูลส้งเพื่อไปสู่ขอให้ลูก ก่อนอื่นพวกเราก็ต้องเลือกวันหมั้นเอาไว้ก่อน”
สิ่งที่ฝู้เฟิ่งหยีเสนออกมา เย่เชินหลินก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
เรื่องสำคัญที่สุดก็ได้ตกลงกันเสร็จแล้ว ท่านพ่อบ้านจึงก้าวออกไปเอ่ยกับฝู้เฟิ่งหยี”เพื่อการเฉลิมฉลองให้กับวันเกิดของคุณเย่ เหล่าสาวใช้ทั้งหลายได้เตรียมการแสดงพิเศษมา ตอนนี้ก็มีเรื่องมงคลสองเรื่องเกิดขึ้นมาพร้อมกัน พวกหล่อนจึงยิ่งรีบร้อนเพื่อที่จะส่งความสุขครับ”
ฝู้เฟิ่งหยีก็มีความสุขมาก แล้วเอ่ยออกมา”ดีเลย ให้พวกหล่อนแสดงได้เลย”
ดังนั้นท่านพ่อบ้านจึงให้เหล่าสาวใช้ไปเปลี่ยนชุด แล้วให้การ์ดเตรียมเพลงให้พร้อม
รูปร่างของเหล่าสาวใช้แต่ละคนล้วนดีทุกคน ทุกคนแต่งตัวในชุดสไตล์อินเดีย เผยหน้าท้องขาวเนียน ท่าเต้นที่สวยงามชดช้อย
พวกเธอที่กำลังโยกย้าย ทำเอาเซี่ยชีหรั่นก็ยิ่งวิงเวียนศีรษะมากขึ้น
รอจนเต้นเสร็จ ฝู้เฟิ่งหยีแสดงการชื่นชมการแสดงเป็นคนแรก จากนั้นเย่เชินหลินก็ถือโอกาสพูดชมออกมา “ไม่เลว ช่วยเพิ่มเงินเดือนให้กับพวกเขาทุกคนด้วย”
“ครับ คุณเย่!”
“อ้อ ยังมีอีกเรื่องนึง หลังมื้ออาหารช่วยไปทำความสะอาดห้องนอนแขกที่อยู่ริมสุดทางทิศตะวันออกห้องนั้นให้กับคุณส้งด้วย” เขาสั่งจบ ก็หันมาพูดกับส้งหลิงหลิงว่า”ต่อไปเมื่อเธออยากจะมา ก็มาพักอยู่สักสองสามวัน ห้องนั้นผมจะสงวนไว้ให้คุณโดยเฉพาะ”
แม้ว่าไม่อาจนอนห้องเดียวกับเขา แต่เขาก็จัดห้องส่วนตัวเอาไว้ให้เธอ ก็ถือว่าได้ยืนยันสถานะของเธอแล้ว ส้งหลิงหลิงพยักหน้าอย่างยินดี ตอบกลับไปอย่างอ่อนโยน “ได้เลยค่ะ!”
หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว ส้งหลิงหลิงก็อยู่คุยกับฝู้เฟิ่งหยีต่อ ปากที่ช่างคุยของแม่สามีในอนาคตก็เอ่ยพูดอย่างมีความสุข
เซี่ยชีหรั่นก็ยังคงฝืนตัวเอง ถูกท่านพ่อบ้านสั่งให้ไปโน่นมานี่ ทำงานไม่หยุดไม่หย่อน
เธอกลับห้องช้ากว่าใครทั้งสิ้น หลังจากกลับถึงห้องพักคนงานก็ปาไปถึงสี่ทุ่มแล้ว วันนี้จ้าวเทียนอั้ยก็เหนื่อยอ่อนเช่นเดียวกัน เลยสลบไสลลงบนเตียงเร็วกว่าทุกที
เซี่ยชีหรั่นแทบจะล้มลงบนเตียง จิ่วจิ่วและหลิวเสี่ยวเจียวก็ยังคงไม่วางใจ ได้ยินเสียงประตูห้องของเธอ ก็รีบลุกจากเตียงอย่างเงียบๆออกไปหาเธอ
หน้าผากของเธอร้อนจนน่าตกใจ ไข้ที่สูงอย่างต่อเนื่องทำให้เธอค่อยๆหมดสติไป เธอหลับตาแน่น ในปากพูดบางอย่างที่พวกเธอไม่เข้าใจ
“ไม่ได้การแล้ว! พวกเราต้องแจ้งท่านพ่อบ้าน!” จิ่วจิ่วพูด
“ฉันไปเอง!”
หลิวเสี่ยวเจียววิ่งออกจากห้องไป เคาะประตูห้องท่านพ่อบ้านเต็มแรง ร้องขออย่างกระวนกระวาย “ท่านพ่อบ้าน รีบตื่นเร็วๆ! ชีหรั่นป่วยหนักแล้ว ท่านรีบมาดูหน่อย!”
ท่านพ่อบ้านรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเรี่ยวแรงของเซี่ยชีหรั่นไม่เหลือแล้ว แต่เย่เชินหลินก็ไม่ได้บอกให้เธอหยุด เขาคงมีความสุขที่ได้ทรมานหล่อนแน่ๆ
คาดว่าตอนกลางคืนอาการของหล่อนจะยิ่งหนักขึ้น เขาพยายามคิดหาวิธีหลีกเลี่ยง เดิมก็ไม่ได้นอนอยู่ในห้องของตนอยู่แล้ว เพราะจะต้องอยู่ดูแลคุณผู้หญิงในนามอย่างใกล้ชิด หลังจากที่เธออนุญาต เขาก็เข้าไปพักอยู่ที่ห้องรับรองเล็กๆห้องหนึ่งในตึกใหญ่
หลิวเสี่ยวเจียวเคาะอยู่นาน ก็ไม่มีคนตอบ เธอก้มหน้ากลับห้องของเซี่ยชีหรั่นอย่างใจฝ่อ แล้วเห็นเซี่ยชีหรั่นที่ทั้งมือและเท้าชักกระตุกเพราะมีไข้สูง
จิ่วจิ่วแตะลงไปที่หน้าผากของเซี่ยชีหรั่นอีกครั้ง อุณหภูมิก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ไม่ได้การแล้ว! เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่! ฉันจะต้องไปหาคุณเย่! เสี่ยวเจียว เธออยู่เฝ้าชีหรั่น ฉันจะรีบกลับมา!”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset