สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 503 สาวใช้ตัวแสบ 407

ตอนที่ 503 สาวใช้ตัวแสบ 407
“เชิญเข้ามา!”
“คุณนายหลี่เชิญ!” ลูกน้องของประธานจงเปิดประตู จ้าวเหวินอิงเชิดหน้าแล้วค่อยๆ เดินเข้าห้องไป
ประธานจงไม่อยากให้คนรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ เพราะงั้นม่านหนาๆ ของห้องก็รูดสนิท แต่ว่าแสงไฟในห้องนั้นสว่าง ในห้องดูไม่มืด
กี่ปีแล้ว กี่ปีแล้วที่เขาไม่ได้เจอกันตัวต่อตัวกับผู้หญิงที่เขาฝันถึง
ใช่แล้ว ที่จริงเขาลืมเธอไม่ได้ ลืมผู้หญิงที่อ่อนโยนเหมือนน้ำ ที่ทั้งฉลาดไม่ลง
สมมุติว่าเธอไม่ได้แต่งงานกับคนที่มีฐานะสูงกว่าเขาอย่างเสนาธิการหลี่ สมมุติว่าเธอแค่แต่งงานกับสามัญชน เขาคงจะหาทางบังคับสามีของเธอ แล้วก็บังคับเธอ ให้เธอเป็นผู้หญิงของเขาต่อ
ตอนนี้ เขาไม่กล้าล้ำเส้น
ในวันนี้เมื่อเขาต้องการที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับลูกสาวของเขา เขาถึงได้เจอเธอตามลำพัง สายตาของเขาจ้องมองเธออย่างตรงไปตรงมาพร้อมกับความยับยั้งชั่งใจ
จ้าวเหวินอิงก็ยังคงเป็นจ้าวเหวินอิงคนนั้น แค่สวยกว่าตอนที่เธอยังสาว ยิ่งมีเสน่ห์กว่าแต่ก่อน
ผิวพรรณของเธอก็ยังคงเหมือนตอนสาวๆ ทั้งหนุ่มและเปล่งประกาย ตาของเธอดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าที่เคย แม้เพียงแค่เหลือบมอง ก็คงทำให้ผู้ชายหลงใหลได้
ประธานจงเคยเจอสาวๆ สวยๆ มาไม่น้อยแล้ว แต่ไม่เคยเจอใครคนไหนที่เหมือนกับจ้าวเหวินอิงที่อายุสี่สิบแล้วยังสวยจนทำให้ใจสั่นแบบนี้
เมื่อเทียบกับความสุขที่ประธานจงได้เจอจ้าวเหวินอิงแล้ว จ้าวเหวินอิงก็ไม่ได้มีความสุขสักเท่าไหร่ กลับกัน เธอรู้สึกเบื่อหน่ายกับการพบกันครั้งนี้มาก จนสงสัยตัวเองว่าตอนวัยรุ่นหลงรักคนที่ปากเต็มไปด้วยคำโกหกแบบนี้ได้ยังไง
หลังจากสิ่งที่เขาทำ เธอยังได้ยิน เธอไม่เห็นด้วยกับคนที่ทำทุกอย่างเพื่ออำนาจ
“นายจะพูดเรื่องอะไร รีบๆ พูดมา ฉันคิดว่าพวกเจอกันมันไม่เหมาะสมอย่างมาก ภรรยาของนายจะไม่โอเค” จ้าวเหวินอิงหยุดยืนห่างจากเขาออกไปไกลหลายก้าว ไม่ได้เดินเข้าไปต่อแล้ว
“เหวินอิง!” ประธานจงเรียกเธอคำนึง เขาจึงรู้ว่าตอนที่เรียกชื่อเธอนั้น เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย
ที่แท้ผู้หญิงคนนี้ยังมีผลกระทบต่อเขาจนถึงตอนนี้ นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ
“โปรดเรียกฉันว่าคุณนายหลี่ ประธานจง” จ้าวเหวินอิงเตือนอย่างเย็นชา
ประธานจงหัวเราะอย่างเจ็บปวด พูด: “เกลียดฉันขนาดนั้นเลยเหรอ? ที่นี่มีแค่พวกเราสองคน แค่เรียกชื่อเธอก็ไม่พอใจเหรอ? เธอรู้มั้ย? หลายปีที่ผ่านมา ในใจฉันที่จริง……”
จ้าวเหวินอิงชักสีหน้าขัดคำพูดของเขา: “ประธานจง ฉันคิดว่าคุณไม่ได้เรียกฉันมาเพื่อจะพูดถึงเรื่องอดีต ฉันกับคุณก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเกลียด สำหรับฉันแล้ว เรื่องทั้งหมดก่อนหน้าที่จะเจอหลี่หมิงจุ้นมันไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว”
“ทำไมจะไม่มีอะไรเหลือ? ลูกของเรายังอยู่ไง!ทำไมจะไม่มีอะไรเหลือ?” จู่ๆ ประธานจงตื่นเต้น แล้วลุกขึ้นยืนอย่างไม่รู้ตัว แล้วเดินไปทางเหวินอิง
ความต้องการของเขาคือการรังแกคนใต้ฟ้า แต่จะไม่ให้ใครมารังแกเขา
เขาบอกกับตัวเอง ว่าเขาลืมจ้าวเหวินอิงได้ สามารถไม่สนใจเรื่องของเธอได้ แต่ว่าเธอเคยเป็นผู้หญิงของเขา เธอจะต้องอยู่กบมันไปทั้งชีวิต เธอจะไม่มีวันลืมมัน
“เซี่ยชีหรั่นเป็นลูกสาวของฉัน เป็นลูกสาวของฉันกับหลี่หมิงจุ้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายเลยสักนิด” ปฏิกิริยาของจ้าวเหวินอิงก็ยังคงเย็นชาอยู่ ประธานจงจึงเดินเข้าไปอีกสองก้าว แล้วเธอก็ถอยไปสองก้าว รักษาระยะห่างกับเขา
ประธานจงจึงไม่ได้เดินหน้าต่อแล้ว แต่หยุดลงกับที่แล้วหึออกมา ถามเธอกลับ: “ไม่เกี่ยวเหรอ? เลือดที่อยู่ในร่างเธอก็เป็นเลือดของฉัน ยี่สิบสามปีก่อน เป็นฉันกับเธอที่ขึ้นเตียงแล้วจึงคลอดเด็กคนนี้ออกมา เธอสามารถปฏิเสธมันได้เหรอ? เธอจำไม่ได้เหรอว่าตอนนั้นเธอเคยบอกว่ารักฉัน เธอกับฉันอยู่บนเตียงเร้าใจขนาดไหน?
แก้มของจ้าวเหวินอิงแดงเล็กน้อย เพราะเขาพูดตรงเกินไป เธอหาทำจะพูดไม่ได้อยู่ครู่นึง ไม่รู้จะตอบเขาว่ายังไง
เขาจำความเขินอายแบบนี้ของเธอได้ ผ่านมายี่สิบกว่าปี ท่าที่เขินอายแบบนี้ก็ยังทำให้เขากระชุ่มกระชวยหัวใจ
สมมุติว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงของเสนาธิการหลี่ ตอนนี้เขาคงอดไม่ได้ที่จะกดเธอลงบนโซฟาที่อยู่ไม่ไกลจากพวกเขา
เขาระงับความอยากจะครอบครองเธออีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้ละสายตาไปจากหน้าแดงๆ ของเธอ
จ้าวเหวินอิงสูดหายใจเข้าลึกๆ ในที่สุดก็หาคำพูดได้
“จงหวีฉวน ตั้งสติหน่อย!”
“ต่อหน้าเธอ ฉันตั้งสติไม่ได้เลย เหวินอิง ฉันยังชอบเธออยู่มาก เธอว่าถ้าหาก……”
“คำพูดพวกนี้ นายอยากจะฝากให้ฉันไปบอกสามีของฉันใช่มั้ย?” ประธานจงเดินเข้าไปก้าวนึงอีกครั้ง แต่จ้าวเหวินอิงเอ่ยถามอย่างเย็นชา เขาหมดหนทางจึงหยุดฝีเท้าลงอีกครั้ง
ไม่ได้!เป็นผู้ชายต้องอดทน ต้องบังคับตัวเอง จงหวีฉวนปลอบใจตัวเองแบบนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ใจเย็นลง
ตอนนี้เธอไม่ใช่เมื่อก่อนที่ง้อง่ายหลอกง่ายแล้ว สถานะปัจจุบันของเธอทำให้เขาโลภมากไม่ได้แล้ว
อย่างไงก็ตามเขาต้องพูดเรื่องสำคัญให้ได้ จะโดนเธอทำให้หลงจนลืมเรื่องสำคัญไม่ได้
“นั่งสิ เหวินอิง มาพูดเรื่องลูกสาวเรา” ประธานจงหันกลับไปนั่งลงตรงที่เขาเคยนั่งอีกครั้ง
“ไม่ต้องนั่งแล้ว มีอะไรก็พูดให้สั้นๆ”
ประธานจงถอนหายใจ พูดอย่างหมดหนทาง: “ฉันไม่ได้อยากจะทำอะไร ไหนๆ เธอก็มาแล้ว แค่นั่งสักแป๊บแล้วฟังฉันพูดสักหน่อยก็ไม่เต็มใจเหรอ?”
“ไม่เต็มใจ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกสาวฉัน ทั้งชีวิตนี้ฉันก็ไม่อยากจะเจอนาย ไม่มีความจำเป็น” จ้าวเหวินอิงพูดตรงมาก สำหรับคนที่เคยหลอกเธอแล้ว ทำให้เธอท้องตั้งแต่อายุ20 ทำให้เธอทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้าหลังคลอด เธอไม่อยากจะเกรงใจ และยิ่งไม่อยากนึกถึง
“โอเค เหวินอิง ไม่ว่าเธอจะคิดกับฉันยังไง คิดว่าฉันเป็นเฉินซื่อเหม่ยก็ดี หรือคิดว่าฉันเป็นคนหน้าด้านที่หลอกเธอก็ช่าง เธอคิดได้ว่าฉันตายจากไปแล้วก็ได้ แต่ในใจฉันมีเธออยู่มาตลอด ตั้งแต่ฉันได้รู้ว่าเซี่ยชีหรั่นเป็นลูกสาวของฉัน ในใจของฉันก็มีห่วงขึ้นมาอีกหนึ่ง วันนี้เรียกเธอมา เพราะอยากจะบอกเธอเรื่องนึง ทำใจไว้ให้ดีๆ สำหรับเราแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก”
“จะพูดก็พูดมาที่เดียว ไม่ต้องวกไปวนมาแล้ว” จ้าวเหวินอิงขมวดคิ้ว จงหวีฉวนจึงพูดต่อ: “เย่เชินหลิน เมื่อก่อนเคยหมั้นกับส้งหลิงหลิงเธอรู้ใช่มั้ย? เธอไม่ค่อยได้มาที่ตงเจียง อาจจะไม่รู้ว่าส้งหลิงหลิงเป็นใคร เธอเป็นลูกสาวของรองประธานส้ง”
จงหวีฉวนพูดถึงตรงนี้ ก็หยุดไปอีก จ้าวเหวินอิงก็ไม่ได้เร่งเขา แค่รอให้เขาพูดต่อเอง
“ครั้งก่อนที่งานวันเกิดของคุณส้ง ทั้งสองก็ได้ถอนหมั้นกันแล้ว พวกเราทั้งหมดคิดว่าทั้งสองไม่มีเรื่องอะไรกันแล้ว ใครจะคิดว่า ส้งหลิงหลิงคนนั้นไม่ยอมแพ้ เธอไปต่างประเทศประมาณครึ่งปี จากนั้นก็ท้องโตกลับมา เธอมีลูกของเย่เชินหลิน!”
“อะไรนะ?” น้ำเสียงของจ้าวเหวินอิงดังขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ข่าวนี้ทำให้เธอชะงักไปอย่างกะทันหัน
ทันใดหน้าเธอก็ถอดสี ประธานจงก็รู้สึกปวดใจเช่นกัน ในขณะเดียวกันเขาก็ภูมิใจในการตัดสินที่ถูกต้องของเขาเอง
เขาลุกขึ้นแล้วใช้โอกาสปลอบโยนจ้าวเหวินอิง เธอจับโซฟาที่อยู่ด้านข้างพยุงตัวขึ้นมาเอง สูดหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้งเพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง
“ข่าวของนายเป็นเรื่องจริงแน่ๆ รึเปล่า? ตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนายรู้ได้ยังไง?” หลังจากเธอใจเย็นลง ก็รีบยิงคำถามใส่
เรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับความสุขของลูกสาวเธอ เธอจะไม่รีบได้เหรอ?
“เรื่องแบบนี้ถ้าฉันไม่มั่นใจ แล้วบอกเธอ ให้เธอเป็นห่วงเล่นเหรอ? ฉันบอกกับเธอแล้ว เธอกับลูกสาวเป็นสิ่งที่ฉันห่วง สองวันนี้ฉันเพิ่งรู้ข่าวก็เลยรีบหาทางเอาเรื่องนี้มาบอกกับเธอเนีย”
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? เย่เชินหลินรู้รึเปล่า? เซี่ยชีหรั่นคงยังไม่รู้แน่ เมื่อวานพวกเขาไปกินข้าวที่บ้านฉัน ฉันมองไม่ออกว่าพวกเขามีปัญหากัน”
ประธานจงเห็นจ้าวเหวินอิงถามอย่างรีบร้อน มีมาแล้วว่าเขาจะต้องเข้าไปยุ่งด้วย
เธอรีบ เขาก็ไม่รีบแล้ว
“เรื่องนี้ก็พอดี เมื่อวานซืนฉันไปที่บ้านตระกูลส้งเห็นส้งหลิงหลิงท้องโตอยู่ที่บ้าน พวกเขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเซี่ยชีหรั่น ไม่ได้ปิดบังฉัน บอกว่าเด็กในท้องของเธอเป็นลูกของเย่เชินหลิน”
“งั้นนายได้ถามเธอมั้ยว่าตัดสินใจจะทำยังไง?” ตอนนี้จ้าวเหวินอิงเป็นห่วงแค่ว่าพวกเขาทำแบบนี้จะมีผลกระทบอะไรกับลูกสาวของเธอมั้ย แม้แต่ทำไมประธานจงถึงไปบ้านตระกูลส้ง เธอไม่มีเวลาที่จะคิด
“เธอนี่โง่จัง ยังจะทำยังไงล่ะ? ถ้าเธอไม่อยากได้เด็ก ไม่อยากเอาลูกไปทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคน งั้นเธอจะท้องทำไม?”
“พูดแบบนี้ ส้งหลิงหลิงท้องลูกของเย่เชินหลิน เขาไม่รู้ ใช่มั้ย? ตอนนี้รู้รึยัง? สรุปแล้วนายยังรู้อะไรอีก พูดมาให้จบภายในครั้งเดียวเลยได้มั้ย?” จ้าวเหวินอิงเป็นห่วงจริงๆ แต่ก็พูดกับตัวเอง ต้องใจเย็นลงก่อนต้องรู้ที่มาที่ไปถึงจะรู้ว่าต้องทำยังไง
“เพราะว่าชีหรั่นเป็นลูกสาวของพวกเรา เรื่องนี้ฉันก็ติดตามเป็นพิเศษ หลังจากออกมาจากบ้านตระกูลส้ง ฉันสั่งให้คนคอยดูไว้ เย่เชินหลินส่งคนมาพาส้งหลิงหลิง ไปโรงพยาบาลสองครั้ง” ประธานจงปรับน้ำเสียงแล้วค่อยๆ พูด
“งั้นเย่เชินหลินก็รู้แล้วสิ? ไปโรงพยาบาลสองรอบ เด็กยังอยู่ ไม่ได้เอาออก?”
“ฉันถึงได้บอกว่าทำไมเธอยังไร้เดียงสาอยู่แบบนี้? ฉันถามหมอแผนกสูติมาแล้ว นั้นเป็นเด็กผู้ชาย อายุหกเดือนกว่าแล้ว จะเอาออกได้ยังไง? เธอคิดว่าเย่เชินหลินเป็นคนโง่เหรอ? ที่ชีหรั่นแต่งงานกับมันฉันไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรกแล้ว!แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเธอเป็นแม่ยังไง ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางก็ให้ลูกสาวไปแต่งงานกับมัน!”
ประธานจงพูดเรื่องพวกนี้ต่อหน้าจ้าวเหวินอิงในเวลาที่เหมาะสม เชื่อว่าจ้าวเหวินอิงจะต้องปฏิเสธเย่เชินหลินแน่ๆ
ที่จริงตัวจ้าวเหวินอิงเป็นคนมีน้ำใจต่อผู้อื่น ทุกสิ่งถูกพิจารณาจากมุมมองของคนอื่น
แต่เมื่อต้องเผชิญหน้าต่อความสุขของลูกสาวแล้ว มันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนเป็นแม่ที่จะคิดอย่างเห็นแก่ตัวเพียงเพราะคำพูดจากปากของคนอื่น เธอคิดถึงความรู้สึกของลูกสาวตัวเองมากกว่า
คำถามของประธานจงจ้าวเหวินอิงไม่ได้ตอบกลับ เธอนั่งเงียบๆ อยู่ครู่นึง ดูเหมือนว่าจะใช้ความพยายามอย่างมากที่จะลุกขึ้น
เธอรู้ว่าประธานจงต้องการพูดกับเธอ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการออกหน้า ปัญหาของลูกสาวเธอเธอจะไปแก้ไขเอง และก็ไม่อยากให้เขาเข้าไปยุ่ง
“ขอบคุณที่นายมาบอกฉันเรื่องนี้ ฉันไปละ จากนี้ได้โปรดอย่ามารบกวนฉันอีก พวกเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจอหน้ากันอีก เรื่องของลูกสาวฉัน ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาย นายไม่จำเป็นต้องยุ่งแล้ว”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset