สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 505 สาวใช้ตัวแสบ 409

ตอนที่ 505 สาวใช้ตัวแสบ 409
หมัดของเย่เชินหลินกำแน่น แล้วจึงตัดสินใจ นายกล้าทำลายงานแต่งงานของเราขนาดนี้ ถึงแม้นายจะเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ ก็อย่ามาโทษที่ฉันเอาคืนแล้วกัน
“หลิน มื้อเย็นนายยังจะกินปลาย่างน้ำแดงมั้ย? หรือว่าฉันทำอย่างอื่นให้นายกินดีกว่า!” ขณะที่เย่เชินหลินจมดิ่งกับความคิด นอกประตูก็มีเสียงของเซี่ยชีหรั่นดังเข้ามา
เย่เชินหลินยกยิ้ม เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่มีความสุข ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู เปิดประตูออกแล้วกอดผู้หญิงของเขา พูดอย่างอ่อนโยน: “คืนนี้ไม่ต้องให้เธอทำอาหาร พวกเราไปกินข้าวที่บ้านคุณแม่ดีมั้ย?”
“ดี!” เซี่ยชีหรั่นตอบกลับมาคำเดียว
สำหรับเธอแล้ว ได้นั่งกินข้าวกับแม่ที่เธอรักที่สุดแล้วยังมีผู้ชายที่เธอรักที่สุดด้วย ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดบนโลกแล้ว
“เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเตรียมตัวออกกัน” เขาขยี้ผมเธออยู่สองครั้ง แล้วพูดอย่างสบายๆ
“โอ๊ย ไมนิสัยงี้ ชอบทำหัวคนอื่นยุ่งทุกครั้งเลย”
เซี่ยชีหรั่นพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มเย่เชินหลินที่ใจอึดอัดเมื่อครู่ก็เปลี่ยนเป็นสว่างทันที เขาคิดว่า ขอแค่พวกเขารักกัน อะไรก็ไม่เป็นปัญหา
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น โทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น
พรุ่งนี้เป็นวันที่ส้งหลิงหลิงจะออกนอกประเทศ ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องระวังไว้
เขาผละออกจากเซี่ยชีหรั่น แล้วพูดอย่างนุ่มนวล: “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ฉันไปรอเธอที่หน้าประตู”
“อืม!” เธอพยักหน้า เขารีบออกมาอย่างเร็ว แล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง เมื่อเห็นเนื้อหาในโทรศัพท์ สีหน้าของเขาก็ขุ่นมัวทันที……
ข้อความบนโทรศัพท์เป็นไห่ลี่หมินที่ส่งมา สั้นๆ ง่ายๆ แค่ไม่กี่ตัว: คืนนี้จะคุยกับนายเรื่องที่ส้งหลิงหลิงท้อง
หัวคิ้วของเย่เชินหลินหลินขมวด ถึงแม้ข้อความของไห่ลี่หมินนั้นสั้น แต่ก็พอจะบอกได้ว่าเรื่องของส้งหลิงหลิงแดงกว่าเก่า อยากจะปกปิดเรื่องนี้กับเซี่ยชีหรั่นยิ่งยากขึ้นไปอีก
เขาเคยสังเกตไห่ฉิงฉิงกับโม่เสี่ยวจุน เขาเห็นไห่ฉิงฉิงตั้งแต่เล็กจนโตด้วยตัวเอง เธอเก็บความลับมิด ไม่เอาไปพูดเรื่อยเปื่อยหรอก
ก็เป็นไปไม่ได้ที่โม่เสี่ยวจุนจะติดต่อกับไห่ลี่หมินกันสองคน คุณแม่ไห่ก็ไม่ใช่คนที่จะปล่อยข่าวส่วนตัวของคนอื่น เพราะงั้นที่ไห่ลี่หมินรู้ เป็นไปได้มากว่าประธานจงจะมีเอี่ยว

เท่าที่เห็นถ้าเขาไม่ทะเลาะแล้วเลิกกับเซี่ยชีหรั่น เขาคงจะไม่ยอมหยุด

จะให้พูดเซี่ยชีหรั่นก็ถือว่าเป็นลูกสาวของเขา ทำไมเขาต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ? เพราะว่าเขาเคยคุกคามเขา แล้วเขาแค้น หรือเพราะว่าจงหยุนซาง…….

พอเย่เชินหลินคิดถึงตรงนี้ เซี่ยชีหรั่นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วออกมาพอดี เธอก้าวเข้าไปคล้องแขนของเขา แล้วพูดอย่างอ่อนโยน: “เสร็จแล้ว ทำไมนายยังยืนอยู่ที่นี่ นายไม่เปลี่ยนชุดเหรอ?”

“เปลี่ยน ตอนแรกอยากจะเปลี่ยนกับเธอ แต่ก็กลัวจะอดใจไม่ไหวกินเธอ เธอรอฉันตรงนี้ก่อน แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว” นิ้วมือของเย่เชินหลินลูบไปที่แก้มของเซี่ยชีหรั่นอย่างเจ้าชู้ ทำให้เธอดูไม่ออกว่าเขามีอะไรในใจ จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องนอนของทั้งสอง

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีห้องแต่งตัวส่วนตัวอยู่ แต่ชุดหรูๆ ที่ปกติใส่ ก็มีสำรองไว้ในห้องอยู่

เย่เชินหลินใส่ใจสังเกตชุดที่เซี่ยชีหรั่นใส่ คือชุดเดรสสีส้ม เขาจึงเลือกจะใส่เสื้อเชิ้ตสีส้มเข้มด้วยตัวเอง

เซี่ยชีหรั่นที่รอเขาออกมา พอเห็นเสื้อเชิ้ตของเขา ก็รู้สึกเหมือนใส่เสื้อคู่ ปากเธอก็อมยิ้มอย่างมีความสุข

“ไปกันเถอะ!” เย่เชินหลินโอบเอวเธอไว้ ทั้งสองลงมา พ่อบ้านก็ได้เตรียมรถไว้ให้แล้ว

พอถึงบ้านของเสนาธิการหลี่ มีจ้าวเหวินอิงกับหลี่เหอไท้อยู่บ้าน ตั้งแต่กลับมาถึงบ้านจ้าวเหวินอิงก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรง ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นป่วย แต่เธอก็ไม่มีกะจิตกะใจลงมือทำอาหาร

มื้อเย็นแม่นมเป็นคนเตรียม พวกเข้าทั้งสองเข้าประตูมา จ้าวเหวินอิงก็ฝืนยิ้มต้อนรับ ถามพวกเขา: “เหนื่อยสินะ? พักกันก่อน ดื่มชากันก่อน อาหารยังไม่เสร็จเร็วๆ นี้หรอก”

เย่เชินหลินรู้ว่าแม่ยายรีบอยากจะคุยกับเขา เธอไม่ได้มีสายตาที่โกรธเกรี้ยว เป็นเพราะเธออดทนมันไว้

เขาต้องหาเหตุผลคุยกับจ้าวเหวินอิงสองคน จ้าวเหวินอิงก็คิดแบบนี้เช่นกัน เธอมองไปที่หลี่เหอไท้ แล้วพูดกับเขา: “ลูกบอกไม่ใช่เหรอว่ามีเรื่องจะคุยกับน้องสาวน่ะ? เธอมาแล้ว ไม่เห็นลูกจะถาม”

“ใช่ครับ ชีหรั่น พวกเราออกไปเดินเล่นกัน พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับเธอสองคน”

เซี่ยชีหรั่นมองไปที่เย่เชินหลิน นายคนนี้ขี้หึง เธอกับหลี่เหอไท้ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เพราะงั้นจะออกไปคุยกับเขาสองต่อสอง เธอต้องให้นายนั่นตกลงก่อน

“ไปเถอะ เดินระวังด้วยล่ะ” เย่เชินหลินพูดเสียงนุ่มนวล แล้วก็เดินไปข้างๆ หลี่เหอไท้ แล้วพูดข้างหูเขาเสียงเบา

หลังจากเซี่ยชีหรั่นกับหลี่เหอไท้ออกมา เธอจึงถามเขา: “เมื่อกี้เขาพูดอะไรกับพี่เหรอ?”

หลี่เหอไท้หัวเราะอย่างอ่อนโยน แล้วถามเธอกลับ: “เดาดูสิ”

“คงจะไม่บอกว่าให้พี่รักษาระยะห่างจากหนูนะ?”

“เขาบอกให้พี่ดูแลเธอดีๆ อย่าให้คนแปลกหน้ามาเข้าใกล้เธอ แล้วก็ให้ฉันเรียกบอดี้การ์ดมาด้วย” หลี่เหอไท้พูดตามความจริง

“เขาก็เกินไป พี่ไม่รู้อะไร ปกติหนูไปกลับที่ทำงานก็ต้องให้คนคอยตามดูตั้งหลายคน อย่างกับว่าหนูจะโดนขโมยไปอยู่ทุกเวลาอย่างงั้น” บางครั้งสำหรับเซี่ยชีหรั่นที่ไม่มีอิสระ เธอก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แต่ที่เขาพูดก็เพราะว่ารักและห่วง ใครๆ ก็ฟังออก

“ความเป็นห่วงของเขาก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ ฉันดูแล้วฉันว่าเธอระวังไว้หน่อยจะดีกว่า” หลี่เหอไท้พูดแฝงไปด้วยความหมาย จากนั้นเขาก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วก็ส่งข้อความ แล้วด้านหลังเขาก็มีคนตามมาคุ้มกันอีกหลายคน

เขาตอบรับเย่เชินหลินแล้ว ก็จะทำตามที่เขาพูด

ไม่ว่าเซี่ยชีหรั่นจะเดินไปที่ไหน ก็มักจะดึงดูดความสนใจคนอื่น เช่นเดียวกัน กับเย่เชินหลินผู้ชายของเธอ ผู้หญิงที่ชอบเขาก็มีไม่น้อย

จากจุดนี้ เซี่ยชีหรั่นอยู่ด้านนอกก็ไม่ค่อยจะปลอดภัยหรอก

“พี่เหอไท้ พี่มีอะไรจะพูดกับหนูเหรอ?” แต่ก่อนเซี่ยชีหรั่นเรียกเขาว่าพี่ชาย แต่เย่เชินหลินบอกว่ามันดูสนิทไป เธอเลยเรียกตามที่เย่เชินหลินเรียกหลี่เหอไท้ ว่าพี่เหอไท้

“ที่จริงก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรพิเศษหรอก ฉันแค่เห็นเด็กนั่นวันๆ เอาแต่จ้องเธอจนกระดุกกระดิกไม่ได้ เลยเรียกเธอออกมาเดินเล่นบ้าง” สายตาของหลี่เหอไท้ มองออกว่าเซี่ยชีหรั่นสงสัยกับเหตุผลของเขา เขาจึงหัวเราะ แล้วพูดว่า: “อีกอย่างฉันอยากจะถามเธอ รอบๆ ตัวเธอพอจะมีสาวที่เหมาะกับฉันบ้างมั้ย ฉันชอบคนนิสัยอ่อนโยนแบบเธอ”

“อ่อ ที่แท้ก็เรื่องนี้” เซี่ยชีหรั่นหัวเราะเบาๆ นึกว่าหลี่เหอไท้จะเกรงใจที่จะพูด

เซี่ยชีหรั่นคิดไปคิดมา ข้างกายเธอก็ไม่มีใครที่เหมาะจะแนะนำให้หลี่เหอไท้

นิสัยอ่อนโยน ก็คงจะเป็นผู้หญิงของเย่เชินหลินเมื่อก่อนเหอเหวิน มีแค่เธอที่เซี่ยชีหรั่นนึกออก เธอก็แนะนำไม่ได้ อีกอย่าง เหอเหวินก็ออกจากบ้านตระกูลเย่แล้ว กลับไปที่บ้านของตัวเองแล้ว ตอนนี้ทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันแล้ว

จิ่วจิ่วก็ไม่แย่ แต่แค่ไม่ค่อยเหมาะกับคำว่าอ่อนโยนสักเท่าไหร่ แถมในใจยังไม่ลืมโม่เสี่ยวจุนอีก ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีความรู้สึกต่อหลี่เหอไท้

หลี่เหอไท้ก็แค่มองออกว่าจ้าวเหวินอิงอยากจะคุยกับเย่เชินหลินตามลำพัง ไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นรู้ จึงตั้งใจพาเซี่ยชีหรั่นออกมา ตอนนี้เขาแค่พูดเรื่อยไปไม่กี่คำ ไม่คิดว่าเซี่ยชีหรั่นจะจริงจังแบบนี้

ผู้หญิงที่น่ารักแบบนี้ พบได้น้อยจริงๆ แหละ ใจของเขาก็ค่อยๆ อบอุ่น ในใจก็แอบคิด เย่เชินหลินคนนี้โชคดีจริงๆ ที่ได้เจอกับเซี่ยชีหรั่น

ชีวิตนี้ที่ใต้ฟ้าของเขา กลัวว่าจะไม่เจอผู้หญิงดีๆ แบบเธอเป็นคนที่สองแล้ว

อาจเป็นเพราะมีจ้าวเหวินอิง เขาคงจะไม่มีความรู้สึกที่แข็งแกร่งกับเซี่ยชีหรั่นแบบนี้ เป็นเพราะรู้ว่าจ้าวเหวินอิงนั้นอ่อนโยน อบอุ่น และเมตตา ทำให้สเปคผู้หญิงของเขานั้นสูงขึ้นไปอีก

ข้างนอกมีคำนินทาเขามากมาย บอกว่าเขาเปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น ที่จริงแล้วทุกๆ ความสัมพันธ์เขานั้นจริงจัง แต่แค่ยังไม่เจอผู้หญิงที่ใจเขานั้นต้องการ

ถ้าหากรักแรกของเขา สามารถเจอผู้หญิงแบบเซี่ยชีหรั่นได้ เขาคงเลิกไม่ลง เขาคงจะรู้งานยิ่งกว่าเย่เชินหลินว่าจะรักษาผู้หญิงของตนไว้ยังไง

“พี่เหอไท้ หนูนึกไม่ออกจริงๆ ว่ามีใครเหมาะกับพี่ แต่ว่าหนูจะคอยดูนะ ถ้าเจอคนที่เหมาะสมหนูจะมาบอกพี่ทันทีเลย พี่ทั้งหล่อ ทั้งเป็นคนดี ไม่ต้องรีบ ต้องมีสโนว์ไวท์รอพี่อยู่แน่ๆ เลย”

คำปลอบโยนของเซี่ยชีหรั่นแลกกับเสียงหัวเราะของหลี่เหอไท้ เสียงหัวเราะทำให้เซี่ยชีหรั่นอึดอัดเล็กน้อย แล้วพูดกับเขาเสียงเบา: “หนูพูดความจริงนะ พี่คิดว่าหนูพูดแบบนี้แล้วดูปัญญาอ่อนใช่มั้ย?”

“ฉันคิดว่าเธอน่ารักดี โอเค แล้วก็ไม่ต้องคอยจับตาดูให้ฉันเป็นพิเศษ ฉันอยากจะอยู่เรื่อยๆ ไปอีกหลายปี ไม่รีบ”

คำชมของเขา กับสายตาของเขา ทำให้เซี่ยชีหรั่นเกรงใจเล็กน้อย เธอละสายตา แล้วก็พูดขึ้น: “ผู้ชายนี่เขาชอบไปเรื่อยเหรอ? แต่ก่อนเย่เชินหลินก็มีผู้หญิงอยู่ไม่น้อยเลย ตอนนี้หนูมาคิดๆ ดู ก็หึงนิดหน่อยแฮะ ยังไม่หึงถึงขีดสุด บางทีก็รู้สึกไม่วางใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีคนที่ไม่ยอมตัดใจกลับมาหาเขาอีกหรือเปล่า”

สำหรับเซี่ยชีหรั่นแล้ว เวลาที่ได้พูดคุยกับหลี่เหอไท้ถึงแม้จะไม่นาน แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าเขาเป็นมิตร

อาจเป็นเพราะว่าเขานั้นกตัญญูกับแม่ของเธอ หรืออาจเพราะภายนอกเขาก็ทำให้รู้สึกเป็นมิตร อีกอย่างสายตาของเขา มักจะมองเธออย่างอ่อนโยนและทะนุถนอม เธอสามารถสัมผัสได้ถึงความใจดีของเขา

เธอมักจะมีความกังวลแบบนี้ แต่เธอไม่มีที่ระบาย พูดกับเย่เชินหลิน อาจจะทำให้เขารู้สึกว่าเขายังทำได้ไม่ดีพอ แถมยังจะทำให้เขารู้สึกว่าเธอไม่เชื่อใจเขา พูดกับคุณแม่ แม่ก็คงจะรู้สึกไม่วางใจเหมือนกับเธอ

วันนี้มีโอกาสแล้ว เธอจึงพูดกับหลี่เหอไท้ เธอคิดว่า เขาเป็นผู้ชาย น่าจะเข้มแข็งกว่าเธอ และอาจจะให้คำชี้แนะกับเธอได้

ตอนนี้เซี่ยชีหรั่นพูดเรื่องพวกนี้ สีหน้าก็มีความเจ็บปวดเล็กน้อย หลี่เหอไท้ก็อดไม่ได้ เห็นเธอเป็นแบบนี้ เปลี่ยนเป็นผู้ชายคนไหนมายื่นอยู่ต่อหน้าเธอ ก็คงจะอยากจะกอดเธอแน่นๆ แล้วปลอบเธออย่างอ่อนโยน

หลี่เหอไท้แค่มองเธออยู่ครู่ จากนั้นก็พูดเสียงเบา: “เธอรู้จักจิตนิยมมั้ย จิตนิยมบอกว่า สิ่งที่ฉันเห็น คือสิ่งที่มีอยู่จริง สิ่งที่มองไม่เห็นคือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ที่จริงแล้วเรื่องนี้จากมุมมองวิทยาศาสตร์ ดูเหมือนจะไม่มีเหตุผล แต่ถ้าใช้ปลอบใจแล้ว ก็ถือว่าไม่เลว เธอเข้าใจมั้ย?”

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset