สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 506 สาวใช้ตัวแสบ 410

ตอนที่ 506 สาวใช้ตัวแสบ 410
เธอฉลาดแบบนั้น เขาคิดว่า เธอจะต้องเข้าใจแน่ๆ
สิ่งที่มองเห็นคือสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่มองไม่เห็นก็คือสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เซี่ยชีหรั่นท่องในใจอยู่หลายรอบ จากนั้นก็คิดตก
“ขอบคุณค่ะ พี่เหอไท้ พี่นี่ฉลาดจริงๆ หนูรู้สึกดีขึ้นเยอะ จากนี้ขอแค่ไม่มีผู้หญิงคนไหนมายื่นต่อหน้าหนูก็จะไม่คิดมากแล้ว คิดเองเออเอง ไม่ดีจริงๆ ด้วย”
คำชมเชยของเซี่ยชีหรั่นทำให้หลี่เหอไท้นั้นดีใจมาก เขายกยิ้ม
“โอเคแล้ว ตอนนี้อย่าไปคิดอะไรเลย ไปเดินดูที่ร้านค้าด้านหน้ากับฉันกัน ขอดูหน่อยว่าผู้หญิงอ่อนโยนอย่างเธอเขาสนใจอะไรกัน”
หลี่เหอไท้ยิ้มราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกดีขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“ของที่หนูสนใจก็เป็นของทั่วๆ ไป ของกินของใช้ ของพวกนั้นราคาเท่าไหร่ แพงมั้ย ร้านไหนถูกกว่า ถูกกว่าเท่าไหร่ พี่คงผิดคาด เหอะๆ”
บรรยากาศการพูดคุยของทั้งสองคนเป็นกันเองมากขึ้น กลับมาที่ห้องหนังสือของบ้านเสนาธิการหลี่ บรรยากาศนั้นอึดอัดมาก ตั้งแต่เซี่ยชีหรั่นกับหลี่เหอไท้ออกไป จ้าวเหวินอิงก็ขมวดคิ้วอยู่ตลอด ไม่ได้คลายออกเลย
“ส้งหลิงหลิงท้อง เด็กนั่นเป็นลูกของนาย นี่เป็นเรื่องจริงรึเปล่า? ” จ้าวเหวินอิงถามเย่เชินหลิน
“คุณแม่ ขอโทษด้วยครับ นี่เป็นเรื่องจริง”
“งั้นนายเตรียมจะแก้ปัญหายังไง? ” จ้าวเหวินอิงสุดท้ายแล้วก็ยังคิดไม่ออกว่าจะให้เรียกให้เขาเอาเด็กออก หรือว่ากล่อมให้เขาเก็บเด็กไว้
เพราะงั้น เธอถามไปอย่างไม่มีจุดหมาย
เย่เชินหลินรู้ว่าถ้าเขาบอกว่าจะเก็บเด็กไว้ สำหรับจ้าวเหวินอิง มันเป็นเรื่องที่ยากจะรับได้และยากที่จะให้อภัยแน่ๆ
แต่ที่เขาปิดบังเซี่ยชีหรั่นไว้เพราะเธอไม่รู้ แต่ตอนนี้จ้าวเหวินอิงรู้แล้ว เขาก็จะไม่โกหกเธอ
“เด็กมีอายุครรภ์หกเดือนกว่าแล้ว นับว่าเป็นหนึ่งชีวิต เพราะงั้นผมขอโทษด้วย ผมอยากจะเก็บเด็กไว้ แต่ว่าคุณแม่วางใจ ผมจะไม่ให้เด็กคนนั้นมามีผลกระทบต่อชีวิตของเซี่ยชีหรั่น ผมวางแผนไว้อย่างดีแล้ว ยื่นข้อเสนอให้ส้งหลิงหลิง พรุ่งนี้เธอจะออกจากประเทศ เด็กก็จะคลอดที่ต่างประเทศ หลังจากเด็กคลอด ส้งหลิงหลิงรับผิดชอบดูแลครึ่งปี จากนั้นพวกเขาจะตัดความสัมพันธ์แม่ลูก ผมจะส่งเด็กไปให้ไกลจากส้งหลิงหลิง ให้เขาเติบโตด้วยตัวเอง เขานอกจากจะรู้ว่าผมเป็นพ่อ ก็จะไม่รู้ว่าใครที่เป็นแม่ การเติบโตของเด็ก การศึกษา ทั้งหมดผมรับผิดชอบเองคนเดียว ผมจะไม่มีวันให้เซี่ยชีหรั่นรู้ว่าผมมีลูกอยู่อีกคน”
จ้าวเหวินอิงฟังอย่างเงียบๆ ที่จริงแล้วไม่ว่าเย่เชินหลินจะแก้ปัญหายังไง เธอก็คงจะไม่พอใจอยู่ดี

แค่เด็กยังอยู่ เซี่ยชีหรั่นก็มีโอกาสรับรู้ได้ทุกเวลา สำหรับผู้หญิงแล้ว สามีมีลูกกับคนอื่น นี่คงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดี

“คุณแม่ ผมรู้ ถ้าเด็กยังอยู่ มันจะไม่ยุติธรรมกับเซี่ยชีหรั่น เป็นผมที่ผิด เป็นผมที่พลาด ผมคิดไม่ถึงว่าส้งหลิงหลิงจะท้อง เป็นเพราะผมประมาทไป แต่ว่าเด็กอายุครรภ์เยอะแล้ว ถ้าจะทำแท้ง แล้วถ้าหากมีผลกระทบกับตลอดไปกับร่างกายเธอ นั่นก็ไร้มนุษยธรรมเกินไป ชีหรั่นก็เหมือนกับคุณแม่เธอเป็นคนใจดี เธอไม่รู้เรื่องนี้ ถ้าหากเธอรู้ กลัวว่าเธอจะทำมันไม่ลง คุณแม่ ผมอยากจะขอร้องคุณแม่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกเธอเลยนะครับ คุณแม่ก็รู้ว่าแต่ก่อนชีวิตเธอนั้นลำบากมาก มันไม่มีง่ายเลยที่จะอยู่ได้อย่างไร้กังวลแบบนี้ ผมไม่อยากให้เธอมีอารมณ์ในด้านลบแล้ว”

จ้าวเหวินอิงถอนหายใจยาวๆ ก่อนที่จะคุยกันเธอก็รู้ว่าผลมันจะเป็นแบบนี้

เธอทำเหมือนผู้หญิงปกติที่ยืนอยู่ข้างลูกสาวแล้วบังคับให้เขาให้ทำแท้งไม่ได้ เธอคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น แต่แบบนี้ เธอก็รู้สึกผิดต่อลูกสาว ในใจรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก

“คุณแม่ ท่านไม่ต้องคิดมากครับ ทำเหมือนกับว่าเรื่องไม่ได้เกิดขึ้น ผมจะไม่ให้เรื่องนี้มามีผลกระทบต่อจิตใจของเซี่ยชีหรั่นครับ”

“บอกว่าไม่มีผลกระทบ โลกนี้กำแพงมีหูประตูมีช่อง ถ้าหากชีหรั่นรู้ล่ะ นายจะให้เธอไปเป็นแม่เลี้ยงของลูกนายเหรอ? ”

เย่เชินหลินส่ายหน้า “ถ้าหากเป็นแบบนั้น ชีหรั่นรู้ ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะให้เธอเจอกับเด็กคนนั้น เป็นแม่เลี้ยงนั้นไม่โอเค ผมจะไม่ให้เธอต้องมาทนทุกข์”

คำตอบของเย่เชินหลินทำให้จ้าวเหวินอิงใจชื้นขึ้นมาบ้าง หลี่เหอไท้เคารพเธอคนนี้ที่เป็นแม่เลี้ยง แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าเธอจะหวังให้ลูกสาวไปเป็นแม่เลี้ยง

เธอผ่านมันมายังไง ความทุกข์นี้เธอรู้ดี

มันไม่ใช่ปีสองปี แต่เป็นเวลาที่ยาวนาน ตอนนั้น การกระทำของเธอไม่ถูกหลี่เหอไท้ยอมรับ

ไม่ว่าเธอจะทำยังไง เธอก็ผิดอยู่ดี รวมไปถึงอาหารที่เธอทำ ก็ถูกหลี่เหอไท้เททิ้ง

ตอนที่หลี่เหอไท้อยู่ในวัยต่อต้าน เธอฟังคำเสียดสีมาไม่น้อย เสนาธิการหลี่ไม่อยู่บ้าน เธอน้อยใจก็ทำได้แค่อดทนมันไว้เอง เธอคิดตลอดว่าความรักมันจะทำให้เขาดีขึ้น ผลลัพธ์มันก็ดีจริง แต่ที่ผ่านมานั้นทุกข์ใจมาก เธอยอมให้ลูกสาวเธอต้องมาเจอประสบการณ์แบบเดียวกับเธอไม่ได้จริงๆ

“เอาแบบนั้นก่อนแล้วกัน ฉันจะไม่บอกเธอ ก็ขอให้เธอไม่รู้มันไปตลอดแล้วกัน” หรือว่ารอเวลาที่รู้ เธอกับเย่เชินหลินก็มีลูกมีเต้าแล้ว อายุมากแล้ว อาจจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว จ้าวเหวินอิงทำได้แค่คิดแบบนี้

สำหรับที่ทำให้แม่ยายต้องเป็นกังวล เย่เชินหลินก็ขอโทษไปอีกครั้ง พร้อมกับสัญญาว่าจะไม่ให้เซี่ยชีหรั่นรู้

หลี่เหอไท้พาเซี่ยชีหรั่นเดินในร้านค้าตั้งหลายรอบ ทั้งของซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันกลับมานิดหน่อย ดูแล้วเหมือนซื้อเข้าบ้าน ถ้วยชามตะเกียบ ถุงขยะ ฟิล์มถนอมอาหารอะไรพวกนี้ สำหรับหลี่เหอไท้ซื้ออะไรก็ไม่สำคัญ เขาแค่ดูเซี่ยชีหรั่นเลือกซื้อของ ดูแล้วตั้งใจน่าดูมาก เดินอยู่หลายรอบ ก็เพื่อให้เวลาจ้าวเหวินอิงกับเย่เชินหลินได้คุยกัน

ออกมาจากร้านค้า หลี่เหอไท้เหมือนจะคิดอะไรได้ เลยพูดกับเซี่ยชีหรั่น: “พาฉันไปปั๊มกุญแจหน่อยได้มั้ย? ”

“ได้สิ” เซี่ยชีหรั่นพูดไปยิ้มไป หลี่เหอไท้ถือของ แล้วเซี่ยชีหรั่นก็เดินตามเขา เข้าไปในซอยเล็กๆ ปั๊มกุญแจเสร็จจากนั้นพวกเขาก็กลับบ้าน

ตอนที่เซี่ยชีหรั่นกับหลี่เหอไท้กลับมา จ้าวเหวินอิงก็นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก เย่เชินหลินก็ใส่ผ้ากันเปื้อนช่วยทำอาหารอยู่ในห้องครัว

ตอนมื้อเย็น ทุกคนคุยไปยิ้มไป เย่เชินหลินก็พูดมากกว่าปกติ ทำให้บรรยากาศดีขึ้น

“คุณแม่ ทำไมคุณพ่อไม่อยู่ล่ะครับ? ” เย่เชินหลินถาม จ้าวเหวินอิงยิ้มจางๆ :” กลับปักกิ่งไปแล้ว มีภารกิจน่ะ”

ขณะที่เย่เชินหลินจะพูดอะไรต่อ โทรศัพท์เขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง เขาเปิดขึ้นดู เป็นหลินต้าฮุยที่ส่งข้อความมา:คุณเย่ ส้งหลิงหลิงไม่สบาย มีไข้ครับ

จ้าวเหวินอิงมองการกระทำของเย่เชินหลินอยู่ตลอด หลังจากเขาอ่านข้อความ ก็แค่ตอบกลับไปสั้น:พาเธอไปโรงพยาบาลทันที เพิ่มบอดี้การ์ดคุ้มกันด้วย

ตอบเสร็จ เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วพูดคุยกับทุกคนต่อ

ตอนที่เย่เชินหลินอยู่กับเซี่ยชีหรั่น ก็มักจะมีข้อความเข้า ส่วนมากจะเป็นเรื่องงาน บางครั้งก็โทรกลับ บางครั้งก็ตอบข้อความแบบนี้ เพราะงั้นการกระทำของเขา เลยไม่ทำให้เซี่ยชีหรั่นผิดสังเกต

“ชีหรั่น คุณพ่อไม่อยู่บ้าน งั้นคืนนี้เธออยู่นอนเป็นเพื่อนคุณแม่เถอะ พอดีฉันมีเรื่องต้องไปทำ ถ้าเสร็จไวจะกลับมานอนที่นี่ แต่ถ้าช้า ฉันคงจะกลับไปนอนที่บ้านแม่”

“โอเค ฉันก็กำลังคิดว่าจะอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่พอดีเลย” เซี่ยชีหรั่นตอบรับอย่างเชื่อฟัง เย่เชินหลินจับมือเล็กของเธอ ในใจคิด:ที่รัก ที่จริงพรุ่งนี้ก็ส่งส้งหลิงหลิงออกนอกประเทศได้แล้ว ฉันก็ไม่ต้องเป็นห่วงเธอมากแล้ว ใครจะรู้ว่าเธอจะไม่สบาย ไม่รู้ว่าไม่สบายจริง หรือว่าแกล้งป่วย อีกอย่าง คืนนี้ฉันยังต้องไปเจอไห่ลี่หมิน ทำได้แค่แยกกับเธอคืนนึง แต่ว่าเธอวางใจ สามีของเธอจะต้องแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ จะไม่ให้เธอเป็นกังวล

“แม่ หนูจะนอนที่นี่แม่ดีใจมั้ย? ” เซี่ยชีหรั่นถามจ้าวเหวินอิงอย่างซนๆ

เธอแค่อยากจะเห็นคนเป็นแม่ยิ้ม แค่แม่ยิ้ม เธอก็รู้สึกเหมือนว่าชีวิตนี้มีแต่แสงสว่าง

“แน่นอนสิ ลูกสาวที่รัก” จ้าวเหวินอิงตอบอย่างอ่อนโยน หลี่เหอไท้จงใจชักสีหน้า แล้วพูดงอนๆ :” แม่มีลูกสาวแล้วลืมลูกชายไปหมดแล้วสิ ช่วงนี้ผมก็พักที่นี่ตลอด ไม่เห็นแม่จะดีใจแบบนี้เลย”

“แม่รักทั้งลูกสาว รักทั้งลูกชาย พวกหนูทั้งหมดเป็นลูกของแม่” จ้าวเหวินอิงพูดไปยิ้มไป

หลี่เหอไท้หยิบกุญแจที่เพิ่งปั๊มมาสองดอกออกจากกระเป๋า แล้วพูดเสียงเบา: “นี่เป็นกุญแจของบ้านหลังนี้ กลัวว่าถ้าน้องสาวกับน้องเขยมาแล้วพวกเราไม่อยู่ มีกุญแจไว้จะดีกว่า”

พูดจบ เขาก็แบ่งกุญแจให้เซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลิน คนละดอก

เซี่ยชีหรั่นกำกุญแจดอกเล็กๆ นั่น ดวงตาก็ซึ้งใจจนเริ่มชื้น

จ้าวเหวินอิงก็ปลื้มมาก หลายปีที่ผ่านมา ถึงแม้เธอจะได้รับการยอมรับจากหลี่เหอไท้ แต่ยังไงเธอก็เป็นแม่เลี้ยง บางอย่างก็ทำได้ไม่สะดวกนัก

เขาคิดรอบคอบขนาดนี้ เธอภูมิใจมาก

เย่เชินหลินก็ปลื้มกับการกระทำของหลี่เหอไท้ แต่ว่าผู้ชายก็ไม่ค่อยชอบพูดความรู้สึกออกมา เขาแค่พยักหน้านิ่งๆ แสดงถึงคำขอบคุณ

“พี่เหอไท้ ขอบคุณค่ะ!แบบนี้ยิ่งทำให้หนูรู้สึกเหมือนเป็นคนในบ้านเลย ขอบคุณพี่มากจริงๆ นะคะ! “เซี่ยชีหรั่นปลื้มมาก และพูดขอบคุณไปอย่างจริงใจ หลี่เหอไท้แค่ยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วพูด:” ยัยเด็กนี่ ที่จริงก็เป็นบ้านของตัวเอง ยังจะมาขอบคุณอะไรกัน ห่างเหินไปแล้ว”

กินข้าวเสร็จ เย่เชินหลินก็ได้รับข้อความจากหลินต้าฮุยอีกครั้ง:ส้งหลิงหลิงอยู่ที่โรงพยาบาลสูติแล้ว หมอวินิจฉัยว่าเป็นหวัดหนาว ตอนนี้ฉีดยาลดไข้แล้ว

เขาไม่ได้ตอบ แค่เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋านิ่งๆ

“งานฉันต้องรออีกหน่อยถึงจะออก ที่รัก ฉันไปคุยเป็นเพื่อนเธอที่ห้องนะ” เย่เชินหลินโอบเอวเซี่ยชีหรั่นแล้วพูด เธอพยักหน้า แล้วก็ตามเขาไป

หลี่เหอไท้มองทั้งสองคนแนบชิดแล้วเดินผ่านหน้าเขาไป ริมฝีปากยิ้มเบาๆ คนข้างๆ อาจจะมองไม่ออก ว่าอาจจะมีความอิจฉาและหึงเล็กน้อย

เข้ามาในห้องนอนของเซี่ยชีหรั่น เย่เชินหลินก็จับหน้าเล็กของเธอไว้ แล้วประกบจูบลงไปแรงๆ อยู่ครู่

เขามองออกสายตาที่หลี่เหอไท้มองเซี่ยชีหรั่นในคืนนี้มันไม่เหมือนกัน นั่นเป็นสายตาที่ผู้ชายมองผู้หญิง ไม่ใช่ที่ชายมองน้องสาว เขามองออก

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset