บทที่ 51 ไล่ออกไปแล้ว
เย่เชินหลินหยุดนิ่งกระทันหัน แล้วจ้องมองไปที่ใบหน้าของพ่อบ้านและถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ปกติว่า”ถอนหญ้าตอนเที่ยงทุกวันนั้นมันเอื้อต่อการเติบโตของดอกไม้มั้ย”
พ่อบ้านชะงักไปครู่หนึ่งไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ถ้าบอกไปว่าไม่เอื้อ ก็เท่ากับหมายความว่าเขาตั้งใจจะกลั่นแกล้งเซี่ยชีหรั่น
ดูแล้วก็ยังพูดได้อยู่นะว่ามันมีส่วนเอื้ออยู่บ้าง
จากนั้นพ่อบ้านก็กระแอมในลำคอของเขาแล้วตอบว่า “ใช่กำจัดวัชพืชตอนเที่ยงจะทำให้หญ้าเล็ก ๆ บางส่วนยิ่งร่วงโรยได้ง่ายขึ้นจากการโดนแสงแดดเผา และพวกมันก็จะไม่งอกใหม่อีก”
เย่เชินหลินดูเหมือนจะฟังเขาพูดอย่างตั้งใจ และเมื่อพ่อบ้านพูดจบ เขาก็ชื่นชมอย่างนุ่มนวลว่า “ใช่มันฟังดูสมเหตุสมผลดี แล้วดูเหมือนว่าคุณจะรู้จักดอกไม้และใบหญ้าเป็นอย่างดี งั้นเริ่มจากวันนี้เป็นต้นไปคุณไปที่สวนและรดน้ำถอนหญ้าหลังเที่ยงทุกวัน ”
“เอ่อ” สีหน้าของพ่อบ้านดูเกร็งขึ้นมาทันที
เย่เชินหลินพูดเย้ยหยันออกมาว่า “มีอะไร ไม่เต็มใจหรือ”
“ไม่ ไม่ครับคุณเย่ ผมหมายความว่ามันเป็นความโชคดีของผมเหลือเกินครับ” พ่อบ้านตอบด้วยรอยยิ้ม
“ก็ดี! ส่วนเรื่องเวลาก็เป็นไปตามเวลาเดิมเหมือนที่คุณจัดให้กับเซี่ยชีหรั่น”
“ครับคุณเย่!”
พ่อบ้านซ่อนความเกลียดชังไว้ในใจของเขาและเขาไม่กล้าที่จะแสดงความไม่พอใจใด ๆออกมาแม้แต่เศษเสี้ยวเดียว
สมควรตายๆไปซะทีนังเซี่ยชีหรั่น ทำไมเธอถึงมักจะโชคดีและรอดพ้นทุกครั้งที่เขาต้องการจะจัดการเธอ เขาไม่เชื่อว่าหรอกว่าคนอย่างเย่เชินหลินจะสนใจเธอไปตลอด
เย่เชินหลินเหลือบมองไปที่ประตูห้องของเซี่ยชีหรั่น พ่อบ้านทำความสะอาดทันทีและสัญญาว่า: “คุณเย่วางใจได้เลยเดี๋ยวกระผมจะให้จิ่วจิ่วและหลิวเสี่ยวเจียวมาดูแลเธอในทันที”
“ฉันพูดแล้วหรือว่ารู้สึกไม่วางใจ!! ” เขาถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“เปล่าครับ! ”
ใช่คุณไม่ได้พูด แต่ใครบ้างจะไม่รู้ความหมายของคุณ ถ้าฉันรู้แต่แรกว่าคุณจะโกรธมากขนาดนี้ และแคร์นังขี้ข้าคนนี้มากเหลือเกินอย่างนี้ ฉันจะคงจะไม่ลงมือวันนี้หรอก พ่อบ้านพึมพำอยู่ในใจ
“ ให้จิ่วจิ่วและหลิวเสี่ยวเจียวดูแลเซี่ยชีหรั่นให้ดี ๆ และอย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายไปข้างนอก คนอื่นจะพูดเอาได้ว่าบ้านตระกูลเย่นั้นเข้มงวดกับคนรับใช้มากเกินไปและเรื่องอื่น ๆก็ดูแลกันตามเดิม” เย่เชินหลินพูดจบโดยไร้อารมณ์ใด ๆ แล้วเดินกลับไปบ้านใหญ่
เขาให้คำสั่งที่ชัดเจนออกมาเช่นนี้ และยังระบุอีกด้วยว่าใครเป็นผู้ดูแล พ่อบ้านไม่มีช่องว่างที่จะทำอะไรได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงต้องตามคำรับสั่งของเขาแค่นั้น
บทสนทนาระหว่างเย่เชินหลินกับพ่อบ้านข้างนอกนั้นเซี่ยชีหรั่นได้ยินทุกอย่าง
นี่อาจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ที่บ้านตระกูลเย่แห่งนี้ ที่เย่เชินหลินได้ลงโทษผู้ที่ทำร้ายเธออย่างชัดเจนเช่นนี้
มุมปากของเธอยกขึ้นอย่างขมขื่น ขณะที่ยิ้มนั้นดวงตาของเธอก็เปียกชื้นขึ้นมา
เย่เชินหลิน แท้จริงแล้วคุณเป็นคนแบบไหนกันแน่ ถ้าหากไม่ใช่เพราะความต้องการของคุณแล้วพวกเขาคงจะไม่ทำกับฉันตลอดทั้งวันอย่างนี้
ในเมื่อคุณยินยอมให้พวกเขาเล่นงานฉัน แล้วทำไมต้องมาลงโทษพวกเขาลับหลัง คุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ในขณะที่เธอกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จิ่วจิ่วและหลิวเสี่ยวเจียวก็ผลักและเข้ามาพอดี
จิ่วจิ่วมองดูเซี่ยชีหรั่นถึงไข้จะลดแล้วแต่ก็ยังดูอ่อนแรงอยู่ แต่ดูไม่น่ากลัวเหมือนเมื่อคืน แล้วคำพูดมากมายก็ดังขึ้นมา
“ฉันขอพูดไรหน่อยนะชีหรั่น ตกลงเธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ ฉันบอกเธอเลยว่าคุณชายเย่นี่คือโคตรหล่อเลย เขาอ่อนโยนต่อเธอมากเลยนะ คือแบบนี้ เขานั่งซับน้ำตาให้เธอแบบนี้เลย” เธอนั่งลงข้างๆเตียงของเซี่ยชีหรั่น แล้วอธิบายอย่างสมจริงสมจัง เพื่อแสดงให้เห็นความจริง เธอค่อยๆเช็ดใบหน้าของเซี่ยชีหรั่นด้วยมือของเธอ
“ไม่จริงใช่มั้ย” เซี่ยชีหรั่นถามเธอ น้ำเสียงยังคงมีความแหบอยู่เล็กน้อย
“จริง!! ” หลิวเสี่ยวเจียวอมยิ้มแล้วนำน้ำมาให้กับเซี่ยชีหรั่น
“ ฉันจะบอกเธอไว้เลยนะว่า ตอนที่เขาเช็ดน้ำตาให้เธอนั้นก็ทำให้พวกเราเองก็รู้สึกตกใจมากแล้ว แต่ก็กลับมีสิ่งที่คาดไม่ถึงหลังจากนั้นอีกนะสิ ก็คือเมื่อคืนเธอไข้ขึ้นสูงมากจนถึงกับเพ้อออกมา และเธอได้เผลอพูดออกมาว่าจะฆ่าคุณชายเย่ แล้วเธอยังจับข้อมือของเขามากัดเต็มแรงอีก จนเลือดไหลหยดจากแขนของเขาเลย พ่อบ้านจะเข้ามาห้ามแต่คุณเย่โบกมือห้ามเขาเข้ามายุ่ง ”
ถ้าบอกว่าโม่เสี่ยวจุนทำเพื่อเธออย่างมากอย่างนี้ เธอคงจะเชื่ออย่างแน่นอน แต่บุคคลที่พวกเขาพูดถึงอยู่นั้นคือเย่เชินหลิน จะให้เธอเชื่อได้อย่างไร
เขาคือเย่เชินหลินผู้ที่พูดอย่างจองหองเสมอต้นเสมอปลาย เธอจะยอมปล่อยให้เธอทำเรื่องบังอาจเช่นนั้นได้อย่างไร
เธอพยายามจะหาเหตุผลทุกอย่างที่จะปฏิเสธสิ่งที่พวกหล่อนพูด แต่เธอก็ค่อยๆตระหนักได้ว่ามันเป็นการพยายามหลอกลวงตนเอง ตอนเช้าเห็นได้ชัดว่าเธอเห็นเย่เชินหลิน นั่งอยู่ข้างเตียงของเธอ และมองหน้าเธอเหมือนมองหน้าผู้หญิงที่เขารัก ซึ่งเธอก็เห็นด้วยตาของตัวเธอเอง
นอกเหนือจากผู้ชายคนนึงรักผู้หญิงคนนึง ยังจะมีเหตุผลอะไรอีกจะอธิบายได้อย่างไรว่าทำไมเย่เชินหลินถึงทำเช่นนี้
เกิดความรู้สึกที่แสนหวานและแสนสวยงาม เหมือนน้ำพุใส ๆ ที่หลั่งไหลเข้ามาในหัวใจของเธอ จากนั้นก็กลายเป็นรสเปรี้ยวอย่างฉับพลัน แล้วก็กลายเป็นรสขม จากนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นรสชาติหนึ่งที่ซับซ้อน
เธอรู้สึกเหมือนจะอยากร้องไห้ อีกทั้งเธอต้องการใช้แรงทั้งหมดที่มียิ้มออกมาเหลือเกิน
ความรู้สึกโกรธแค้นในเมื่อวานนี้ที่มีกับผู้ชายเย็นชาคนนั้น ไม่รู้ว่าโดนปลอบประโลมจากอารมณ์ที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างไร
ฉากที่เขาจูบเธอในครัวก็ได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเธอและฉากที่เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วเขายังกัดใบหูของเธอ ความทรงจำเหล่านั้นดูเหมือนจะทำให้นึกรสสัมผัสของเขาขึ้นมา เธอเพียงแค่คิดถึงมัน ก็ทำให้รู้สึกว่าหัวใจเธอเต้นแรงอย่างจะหยุดออกมาจากอก
ครู่หนึ่งเธอกลับมีความรู้สึกปรารถนาอยากพบหน้าเขาขึ้นมาอย่างกะทันหัน อยากกอดเขา อยากจะจูบเขาเหลือเกิน
ไม่!! เซี่ยชีหรั่น เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ!
เสี่ยวจุนดูแลและปกป้องเธอเป็นเวลาหลายปี คนที่เธอควรรักก็คือเขา
เธอจะแปลเปลี่ยนใจตกหลุมรักผู้อื่นเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้ได้อย่างไร
ยิ่งกว่านั้นศพของเขาต้องทนเหน็บหนาวและตายตาไม่หลับ ถ้าในเวลานี้เธอยังมัวแต่จะคิดถึงเรื่องกะหนุงกะหนิงเกี่ยวกับเขา เท่าว่าเธอนั้นเป็นผู้หญิงที่ไร้ซึ่งหัวใจและโหดเหี้ยมที่สุดในโลก
“ชีหรั่นทำไมเธอถึงไม่พูดไรเลย นี่เธอได้ยินสิ่งที่เราพูดหรือเปล่า พอได้รู้ว่าคุณชายเย่รักเธอ พวกเรามีความสุขจะแย่ละเนี่ย ” จิ่วจิ่วแกว่งมือไปมาข้างหน้าเธอ เซี่ยชีหรั่นถึงจะรู้สึกตัวและพูดว่า “ใช่สิเมื่อคืนนี้พวกเธอสองคนได้ตามคุณเย่ให้มาช่วยฉันใช่มั้ย ฉันขอโทษนะที่ยังไม่ได้กล่าวขอบคุณพวกเธอเลย”
“ก็มันต้องเป็นพวกเราสองคนน่ะสิ หรือเธอจะคิดว่าเป็นยัยขี้ข้าจ้าวเทียนอั้ยกับฟางลี่น่าสองคนนั่นหรือไง?”
“ พอเหอะ! ถึงพวกเขาจะนิสัยไม่ดี แต่พวกเราก็อย่าไปด่าพวกเขาลับหลังเลยนะ”
ทันทีที่เซี่ยชีหรั่นพูดห้ามจบ ทำให้จิ่วจิ่วยิ่งนึกถึงความโหดร้ายไร้ซึ่งความเมตตาที่จ้าวเทียนอ้ายที่ทำไว้ เธอถึงกับปี๊ดแตกแล้วพูดว่า “มันก็มีแค่เธอนี่แหละที่คอยออกตัวแทนพวกมัน เธอไม่รู้หรอกว่ายัยนั่นมันชั่วร้ายแค่ไหน รู้มั้ยยัยนั่นพูดแช่งเธอให้ไข้ตายไปซะได้ก็ดี และไม่มีใครจะสนใจหรอก ฉันนี่โกรธจนจะทนไม่ไหวละ แต่โชคดีที่ฟ้าประทานคุณเย่ลงมา ทำเอาความเย่อหยิ่งของยัยนั่นถูกระงับลงแทบจะไม่ทัน หากเธอได้เห็นหน้าของยัยนั่นตอนนั้นนะซีหรั่น เธอต้องตลกมากแน่ ๆเลย หน้าเหมือนกินรังแตนเข้าไปทั้งรังเลย ฮ่าฮ่า! เห้อ!! มันคงจะดีถ้าคุณเย่สามารถไล่พวกเธอออก ยัยนี่กับฟางลี่น่าและซุนเหมิงเหมิงเพราะพวกหล่อนนี่ช่างชั่วเกินมนุษย์มนาจริง ๆ ”
ตอนเมื่อเธอพูดนั้น เย่เชินหลินกำลังออกกำลังกายอยู่ในห้องออกกำลังกาย และพ่อบ้านก็พาทั้งสามคนนั้นมารอรับใช้อยู่ข้างๆเขาพอดี
ดวงตาของเย่เฉินหลินมองนิ่งมาที่จ้าวเทียนอั้ย และพูดกับพ่อบ้านอย่างเยือกเย็นว่า “คนๆนี้ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ไม่รู้ถูกรู้ผิด ไม่มีความเคารพผู้คนไม่รู้ที่ต่ำที่สูงและไม่คู่ควรที่จะอยู่ที่บ้านตระกูลเย่นี้อีกต่อ เอาพวกเธอไปทิ้งนอกประตู และให้หาทางกลับไปที่เมืองด้วยตัวเอง! ”
จ้าวเทียนอั้ย ยังพอจะมีความหวังอยู่บ้างและภาวนาว่าอย่าให้คุณเย่ผ่านมาได้ยินเรื่องเมื่อวานอีกเลย
และในเช้านี้ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติ เธอคิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ได้อย่างปลอดภัยแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าจะหนีไม่พ้นโดนกำจัดออกไปในที่สุด
เธอไม่อยากโดนไล่ออก เธอต้องการตะกายขึ้นไปหาเย่เชินหลิน และต้องการที่จะใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองร่ำรวยไปตลอดชีวิต เธอดูดีมากขนาดนี้ จนเธอไม่สามารถเสียโอกาสนี้ไปได้เพียงเพราะความโชคร้ายนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังไปสัญญาอย่างภาคภูมิต่อหน้าเพื่อนคนอื่น ๆในบ้านอีกว่าเธอจะคว้าเอาคุณชายเย่มาเป็นของตัวเองให้ได้ ให้กลับไปแบบนี้ ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เธอลืมสิ้นถึงศักดิ์ศรีทั้งหมดที่ผ่านมาของเธอ แล้วกระแทกคุกเข่าลงไปกับพื้นพร้อมทั้งอ้อนวอนเสียงเบาว่า “คุณเย่ค่ะได้โปรดให้โอกาสดิฉันอีกครั้งนะค่ะ ฉันจะแก้ไขปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นค่ะ”
เย่เชินหลินหน้านิ่งเฉย และวิ่งต่อไปไม่แม้แต่จะมองเธออีก
เธอต้องหมุนตัวทั้งคุกเข่าหันมาถามพ่อบ้าน: “คุณพ่อบ้านค่ะ คุณเคยพูดไว้ ว่าจะทำให้ฉันได้อยู่ที่บ้านตระกูลเย่นี้”
พ่อบ้านถามเธอด้วยความโกรธ “ฉันเคยบอกกับเธอเมื่อไหร่!! เธออย่ามาพูดมั่วๆ และไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”
จ้าวเทียนอั้ยมองย้อนกลับไปหาฟางลี่น่าและซุนเหมิงเหมิง ใครจะคิดว่าเธอไม่ทันได้รอให้เธอได้พูด ฟางลี่น่าก็พูดอย่างแปลกมีท่าทีที่แปลกไปว่า “นี่!! ทำไมเธอถึงยังไม่รีบออกไปอีก หรือจะรอให้พ่อบ้านเรียกให้คนมากลากเธอออกไป เกิดเป็นคนต้องมีเมตตา ผู้หญิงเลวทรามต่ำช้าอย่างเธอ ไม่คู่ควรที่จะ … ”
“พอกันได้แล้ว! เธอจำเป็นต้องพูดมากขนาดนี้มั้ย อย่ารบกวนคุณเย่” พ่อบ้านตะคอก
พ่อบ้านคิดในใจยังจะมาทำเป็นปากดีอีก คิวต่อไปก็คือเธอละ ช่างโตแต่ตัวแต่ไม่มีสมองจริงๆ
ไม่มีใครสนใจจ้าวเทียนอั้ยอีกต่อไป เธออ้อนวอนขอความช่วยเหลือแต่ไร้ประโยชน์ และไม่มีทางเลือกนอกจากยืนขึ้นและเดินออกไปด้วยตัวเอง พ่อบ้านตามเธอมาและมอบข้าวของส่วนตัวของเธอให้เธอไป
จ้าวเทียนอั้ยก็เพิ่งจะคิดขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ตอนเองตอนอยู่ในห้องออกกําลังกายนั้นรีบร้อนมากเกินไป และได้ทำให้พ่อบ้านนั้นขุ่นเคือง ด้วยความหวังสุดท้ายของเธอ เธอจึงขอโทษเขาและขอให้เขาให้โอกาสเธออีกครั้ง
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ช่วยเธอนะเทียนอั้ย ในวันเกิดของฉันได้จัดให้เธอสองสามคนนั้นเต้นรำ และจัดให้พวกเธออยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุด แต่ลองคิดดูคุณเย่ไม่แม้แต่จะมองพวกเธอเลยสักนิดเดียว นอกจากนี้ เมื่อคืนนี้เธอไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ดีเลยพูดมั่วๆออกไปต่อให้ฉันอยากจะช่วยแต่ก็ช่วยไรเธอไม่ได้แล้ว รีบออกไปซะ! ”
“พ่อบ้าน ขอร้องท่านละค่ะ”
“ฉันไม่สามารถช่วยอะไรได้ ที่นี่ตระกูลเย่ และฉันทำได้เพียงต้องทำตามรับคำสั่ง ถ้าเธอต้องการที่จะโทษใครก็ให้โทษนังนามสกุลเซี่ยนั่น รีบออกไปเถอะ!”
แม่บ้านยืนมองจ้าวเทียนอั้ยก้าวออกจากประตูด้วยสายตาของเขาเองแล้วจึงหันหลังกลับ
“จัดการไล่ออกไปเรียบร้อยแล้วครับคุณเย่”
“อืม”
“คุณเย่คุณผู้หญิงน่าจะตื่นแล้ว และคุณส้งก็ต้องการความดูแล กระผมขอตัวไปที่บ้านหลังใหญ่ก่อน”
“อืม”
พ่อบ้านไปที่ห้องของคุณผู้หญิง คุณผู้หญิงถามเขาว่า “เย่เชินหลินนอนค้างที่ไหนเมื่อคืนนี้”
พ่อบ้านกังวลว่าจะไม่มีใครทำอะไรกับเซี่ยชีหรั่นได้ ในเมื่อคุณผู้หญิงเป็นผ่านถามเองเช่นนี้ นับว่าเป็นโอกาสที่ดี เขาเดินไปหาคุณผู้หญิงของบ้านทันทีและรายงานด้วยเสียงที่แผ่วเบา “คุณเย่ใช้เวลาทั้งคืนอยู่ในห้องนอนของสาวใช้คนหนึ่งครับ และเมื่อคืนนี้เซี่ยชีหรั่นใช้ข้ออ้างที่ว่าเธอป่วยทำเรื่องวุ่นวายขึ้น หล่อนดึงมือของคุณเย่มากัด แต่คุณเย่ไม่เพียงจะไม่โกรธ และยังลงโทษให้กระผมไปดูแลสวนหลังบ้านทุกวันเพื่อเอาใจให้เซี่ยชีหรั่นหายโกรธ ”
คุณผู้หญิงขมวดคิ้วถาม
“มีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเหรอ… ”
“ ใช่แล้วคุณผู้หญิงไม่เพียงเท่านั้น สาเหตุเพราะมีสาวใช้คนหนึ่งซึ่งเป็นสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดตอนที่เต้นรำคนนั้น เธอได้ต่อว่ากับเซี่ยชีหรั่นเพียงสองสามคำเท่านั้น และเธอได้ถูกคุณเย่ไล่ออกไปแล้วเมื่อเช้านี้”
สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 51 ไล่ออกไปแล้ว
Posted by ? Views, Released on September 29, 2021
, สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน
สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด
Recommended Series
Comment
Facebook Comment