สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่518 สาวใช้ตัวแสบ 422

ตอนที่518 สาวใช้ตัวแสบ 422
หากเธอตกอยู่ในเงื้อมมือของไห่ฉิงฉิงกับโม่เสี่ยวจุนคงจะไม่ปลอดภัย แต่พอมาอยู่กับจงหวีฉวนแล้วทุกอย่างดูดีไปหมด
เขาไม่จำเป็นต้องรีบไปแย่งตัวเธอมาภายในคืนนี้ ถ้าคืนนี้เกิดการต่อสู้ขึ้นอีกรอบคงทำให้ส้งหลิงหลิงไม่ไหวเป็นแน่ ขณะเดียวกันก็จะมีผลต่อเด็กในท้องพลอยรับความเครียดไปด้วย
อีกอย่างตอนที่เขาออกมาท่าทางเคร่งเครียด เซี่ยชีหรั่นจะต้องเป็นห่วง เขาอยากรีบกลับไปหาผู้หญิงของตัวเองให้เร็วที่สุด
เย่เชินหลินโทรหาหมายเลขห้าอีกครั้ง สั่งให้เขาและคนที่เหลือกลับไปรอคำสั่งที่วิลล่า
หลังกลับไปถึงที่วิลล่า รถของเย่เชินหลินจอดอยู่หน้าประตู เขารีบลงจากรถแล้วขึ้นไปชั้นสอง เปิดประตูเข้าห้องนอนแล้วพบว่าเซี่ยชีหรั่นลุกขึ้นอย่างรีบร้อน
“โม่ คุณกลับมาสักที!” เซี่ยชีหรั่นสำรวจเย่เชินหลิน เห็นว่าเขาปลอดภัยดีก็วางใจลง
“เด็กโง่ ไม่ต้องเป็นห่วงผมขนาดนั้นหรอก เชื่อมือผู้ชายของคุณสิว่าไม่ว่าเรื่องอะไรจะจัดการได้เรียบร้อย คุณอยู่ที่นี่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็พอแล้ว เรื่องอื่นไม่ต้องไปสนใจ” เย่เชินหลินกอดผู้หญิงตรงหน้าแล้วปลอบเธออย่าอ่อนโยน
“สรุปว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอคะ? ตอนที่คุณออกไปดูไม่ดีเลย ดังนั้นฉันเลยไม่ถาม” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถาม
บางครั้งเธอก็รู้ว่าตัวเองคิดมากไป เหมือนเมื่อครู่ที่เธอคิดไม่หยุดเรื่องที่เขาอาจออกไปต่อสู้กับใครข้างนอกนั่น
เธอกลัวจริงๆ กลัวว่าจะสูญเสียเขาไป
เธอไม่รู้ว่าถ้าชีวิตของเธอไม่มีเย่เชินหลินจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยังไง
ถ้าเย่เชินหลินเกิดเรื่องขึ้น เธอคงเสียใจจนไม่รู้จะทำยังไงดี
เธอกังวลมากไป กลัวว่าเขาจะไม่อยู่ข้างกายเธอ เธอนึกกังวลอย่างประหลาด
“ไห่ลี่หมินโทรหาผมบอกว่าติดต่อฉิงฉิงไม่ได้ แม้แต่โม่เสี่ยวจุนก็หาเธอไม่พบ ดังนั้นก็เลยเข้าใจว่าเธอถูกลักพาตัว ผมกลัวว่าคุณจะกลัวก็เลยไม่ได้บอก”
“แล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ? หาตัวเธอเจอรึยัง?” เซี่ยชีหรั่นเอ่ยถาม ใบหน้าเล็กเต็มไปด้วยความกังวล
“คุณคิดว่าไงล่ะ? จริงๆเลย ถ้าหาตัวเธอไม่พบ ผมจะกลับมาได้ยังไง? เธอแค่มีเรื่องธุรกิจนิดหน่อยเลยรีบร้อนออกไปไม่ได้พกมือถือไปด้วย ลุงไห่ให้กำเนิดผู้หญิงคนนี้ เธอน่ะยังสูงส่งกว่าไห่ลี่หมินอีก แค่โทรไม่ติดคุณแม่ไห่ก็ร้องไห้แล้ว ดีที่คราวนี้เธอกลับมาแล้ว”

เย่เชินหลินแอบมองสีหน้าของเซี่ยชีหรั่นว่าเธอสงสัยอะไรหรือไม่

“งั้นก็ดีแล้วค่ะ! ฉันก็ตกใจหมดเลย! นึกว่าคุณออกไปมีเรื่องกับใครข้างนอกอีก” เซี่ยชีหรั่นเงยหน้ามองเย่เชินหลินแล้วยื่นมองออกไปจับหน้าดขาคล้ายว่าทำแบบนี้แล้วจะเชื่อว่าเขากลับมาจริงๆ เขายังอยู่ข้างเธอจริงๆ

“ทะเลาะอะไรกับใครกัน? ในสายตาคุณผมเป็นอันธพาลหรือไง? คุณไม่เห็นหรือไงว่าข้างนอกนั่นผมมีคนชุดดำเยอะแค่ไหน? ถ้าจะมีเรื่องจริงๆคิดว่าต้องให้ผมออกแรงหรือไง? วางใจเถอะ ผมไม่ใช่คนมักง่าย ต่อให้ผมไม่ชอบโม่เสี่ยวจุนแต่ก็ไม่เคยทำอะไรเขานี่? จะว่ายังไงพ่อผมก็คือประธานเย่ ผมทำอะไรก็มักจะคิดเขาเสมอ อะไรที่ผิดกฎหมายหรือเรื่องที่คนจับได้ง่ายผมไม่มีวันทำอยู่แล้ว ผมสนใจแค่ธุรกิจของตัวเอง คุณไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของผม ผมไม่เป็นไร”

ปกติเย่เชินหลินไม่ชอบอธิบายอะไรให้ใครฟังแต่ตอนนี้เขากลับแคร์ความรู้สึกของผู้หญิงคนนี้ รู้ว่าบางเรื่องเขาเองก็พูดไม่เคลียร์ เธอจึงเป็นกังวลไม่น้อย

“จริงเหรอะคะ? คุณพูดแบบนี้ฉันก็สบายใจ งั้นเราเข้านอนกันเถอะค่ะ ดึกแล้ว!”

“ยังหัวค่ำอยู่เลยนะ? เรายังมีเวลาออกกำลังได้สักสองรอบ…” เย่เชินหลินยิ้มร้ายๆ เซี่ยชีหรั่นหน้าแดงก่ำแล้วผลักเขาออก เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงเตียง

เขาแค่ปลอบเธอเท่านั้น ไม่ได้มีกะจิตกะใจจะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอ

ส้งหลิงหลิงพักอยู่ที่ที่พักของประธานจง หลังจากคว้าตัวเธอกลับมาเขาก็กลัวว่าส้งหลิงหลิงกับลูกจะตกใจกลัว อีกอย่างเขาไม่ยอมให้ประธานจงเป็นฝ่ายจู่โจม

เขาไม่อยากให้ประธานจงรู้ว่าเขามีคนอยู่เท่าไหร่ แล้วคนของเขาอยู่ที่ไหนบ้าง

คนชุดดำเหล่านั้นถ้าไม่ใช่เวลาจำเป็นจริงๆเขาก็ไม่อยากใช้

ไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาโดยใช้กำลังจากนั้นมันจะเป็นการต่อสู้ทางสติปัญญาเท่านั้น เขาสามารถใช้หลักฐานจากประธานจงที่เขารวบรวมครั้งล่าสุดได้ แน่นอนว่าเขารู้ ด้วยตัวเขาเองและหลักฐานในมืออาจไม่เพียงพอต่อการข่มขู่

ยังไงประธานจงและตระกูลเยว่มีอำนาจมาก มีแบ็คทางการเมือง เขารู้ดีว่าตัวเองทำอะไรได้ไม่ได้บ้าง ถ้าไม่ใช่เรื่องอาชญากรรมร้ายแรงหรือรุกรานผู้นำ จงหวีฉวนก็มีโอกาสที่จะล้มได้

แต่ตอนหน้าสิวหน้าขวานนี้ กำลังเป็นยุคเปลี่ยนผู้นำ เวลานี้ถ้าเขามีข่าวไม่ดีออกไป แน่นอนว่าต้องไม่เป็นผลดีต่องานด้านการเมืองของเขาในอนาคตแน่ๆ

เย่เชินหลินใช้โอกาสนี้ลงมือ เชื่อว่าจงหวีฉวนจะเลือกล้มเลิกการแต่งงานของลูก

หลังเซี่ยชีหรั่นหลับสนิท เย่เชินหลินนั่งพิงเตียง ครุ่นคิดถึงเรื่องการต่อสู้กับจงหวีฉวน

เขาขมวดคิ้วจนปวดขมับ สำหรับคนอย่างวัยเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร

เวลาลงสนามแล้ว เขาเองก็มีความเสี่ยง จงหวีฉวนเป็นถึงประธานหอการค้าจังหวัด เขาเองก็มีอำนาจพลิกทุกอย่าง บางครั้งเขาก็ช้าไปก้าวนึง จงหวีฉวนเดินนำไปอีกก้าว ทุกอย่างของเขาก็อาจได้รับผลพวงไปด้วย รวมถึงพ่อและธุรกิจของเขา

เขาต้องคว้าโอกาสและจังหวะที่จะทำให้จงหวีฉวนลำบากแต่คงไม่ถึงขั้นทำให้ถึงแก่ชีวิต

เขาอยากออกไปสูบบุหรี่แต่เซี่ยชีหรั่นที่หลับไปแล้วกลับขยับ เขาจึงรีบถดตัวลงแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอด

เด็กน้อย หลับไม่สนับแบบนี้เพราะเป็นห่วงเขาใช่ไหม?

ถ้าไม่มีส้งหลิงหลิง เวลานี้เขาคงมีความสุขมากกว่านี้ไปแล้วมั้ง?

ระหว่างสามีภรรยาก็คงไม่มีเรื่องปกปิด ผมเองก็อยากบอกเรื่องส้งหลิงหลิงกับคุณ นอกจากไม่ต้องคอยปกป้องคุณแล้ว คุณเองก็จะได้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้

แต่ทันทีที่คุณรู้ คุณจะเสียใจแค่ไหนนะ? ผมรู้ว่าคุณใจอ่อน คิดแทนคนอื่น สุดท้ายคุณก็จะเข้าใจผม

แต่เรื่องนี้จะเป็นเหมือนหนามตำใจคุณ แค่คิดว่าผู้หญิงคนอื่นท้องลูกผู้ชายของคุณ คุณก็จะไม่มีวันลืมเรื่องที่ส้งหลิงหลิงเคยขึ้นเตียงกับผม

ผมอยากให้คุณลืมเรื่องผมนั้นไป ดังนั้นต่อให้เสี่ยงผมจะจัดการกับตาเฒ่าจงนั่นให้ได้ ผมจะทำให้แน่ใจว่าชีวิตนี้คุณจะไม่มีความเสี่ยง หรือเรื่องอะไรมารบกวนใจ

…..

ส้งหลิงหลิงถูกคนพวกนั้นพาตัวไปในที่ลับแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่ไร้หน้าต่าง

“ใครเป็นคนส่งพวกแกมา?” เธอถามคนที่พาตัวเธอมา แต่อีกฝ่ายตอบเพียงว่า “คุณพักผ่อนเถอะครับ จะมีคนมาส่งอาหารให้คุณตรงเวลาแล้วก็จะมีคนเอาข้าวของเครื่องใช้มาให้ เรื่องอื่นคุณไม่จำเป็นต้องรู้ ผมตอบไม่ได้”

“ก็ได้ ขอบคุณมาก ลำบากพวกคุณแล้ว!” ส้งหลิงหลิงไม่ว่าจะเดินทางไหนก็มักติดนิสัยซื้อใจคน ที่นี่ก็ไร้ข้อยกเว้น

ผ่านไปชั่วครู่เธอก็ใจสงบลง

เธอล้มตัวนอนลงบนเตียง พูดกับเด็กในท้องว่า “ไม่เป็นไรนะลูก ตอนนี้เราปลอดภัยแล้ว แม่ว่าคนพวกนั้นแข็งแกร่งดี ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ใช้ประโยชน์จากเราหรือไม่หรือไม่ใช้ก็ตาม มันไม่เป็นไร อย่างน้อยแม่ก็ไม่ได้อยู่ในกำมือพ่อแล้ว คงไม่ต้องไปต่างประเทศแล้ว ขอแค่อยู่ในประเทศ เราก็ยังมีโอกาสแย่งพ่อกลับมา”

จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมาจนทำให้ส้งหลิงหลิงตกใจ เมื่อก่อนเธอไม่ได้ขี้ตกใจขนาดนี้ แต่เหตุการณ์คืนนี้ทำให้เธอตกใจง่าย

เธอลุกขึ้นจากเตียง ถามด้วยใจที่สั่นรัวว่า “ใคร?”

“เราต้องเข้าไป แต่งตัวให้เรียบร้อย!” เสียงด้วยนอกนั้นเคร่งขรึม เธอตั้งใจฟังแล้วก็พบว่าเป็นเสียงของจงหวีฉวน

ประธานจงนั้นเธอคุ้นเคยดี ระหว่างพ่อของเธอกับประธานจงนั้นก็สนิทสนมกันดี

บางเรื่องเวลาที่ประธานจงมาที่บ้านเธอเอ่ยอธิบายกับพ่อเธออย่างอ้อมค้อม แน่นอนว่าพ่อเธอย่อมเข้าข้างเขา

เธอไม่มีเวลาคิดให้ละเอียดว่าทำไมประธานจงต้องมาช่วยเธอ เธอห่อผ้าปูที่นอนให้แน่นก่อนจะยื่นมือออกและบิดล็อกประตู เอ่ยกับประธานจงว่า “ลุงจง เชิญค่ะ!”

คนของจงหวีฉวนผายมือให้จงหวีฉวนที่มีสีหน้าเคร่งเครียด

แสงไฟภายในห้องนอกไม่สว่างนัก เขากวาดสายตามองส้งหลิงหลิงด้วยสายตาน่าอึดอัดใจ เพราะเธอแต่งตัวไม่เรียบร้อยนัก เนื่องจากมารยาทเขาจึงไม่มองเธอนัก แต่เดินตรงไปที่ที่นั่งถัดจากเตียง

ลูกน้องเขาจัดการปิดประตู ใบหน้าส้งหลิงหลิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เอ่ยกับจงหวีฉวนว่า “ลุงจงเชิญนั่งค่ะ”

“เธอท้องโตขนาดนี้คงไม่สะดวกนัก นั่งคุยกับฉันบนเตียงก็ได้” ท่าทางของจงหวีฉวนเหมือนคนที่เหนือกว่า เขามักจะมีทัศนคติเช่นนี้เมื่อต้องคุยกับใคร

“ได้ค่ะ ลุงจง”

ส้งหลิงหลิงก็ไม่ได้เกรงใจนัก เดินขึ้นเตียงเลิกผ้าปูออกนั่งลงแล้วเอาผ้าคลุมตัวไว้ แบบนี้เธอเองก็ไม่ขัดเขิน

“ขอบคุณที่ลุงจงไปช่วยฉันไว้!” ส้งหลิงหลิงยิ้มขอบคุณ แล้วเอ่ยต่ออย่างสบายใจว่า “เพียงแต่ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ลุงจงอยากให้ฉันช่วยมั้ย ยังไงฉันส้งหลิงหลิงจะช่วยเต็มที่ แน่นอนว่าสถานะอย่างลุงจง ความสามารถเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องให้ฉันช่วย เพียงแต่บางเรื่องนั้นถ้าลุงทำเองก็คงจะยุ่งยาก ฉันยินดีทำให้ค่ะ ฉันยังอายุน้อย ไม่กลัวความยุ่งยาก”

ส้งหลิงหลิงรู้ดีว่าประธานจงยื่นมือออกมาช่วยไม่ใช่เพราะชอบเธอ ที่อยากช่วยเธอนั่นก็เป็นเพราะอยากให้เธอช่วยบางอย่าง เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset