สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่520 สาวใช้ตัวแสบ 424

ตอนที่520 สาวใช้ตัวแสบ 424
เย่เชินหลินเอ่ยคำพูดพวกนี้อย่างไร้เยื่อใย โม่เสี่ยวหนงพยายามเก็บสีหน้ากระดากอายไว้ ไม่รู้ว่าควรวางสีหน้าอย่างไรพักใหญ่
เธอนึกไม่ถึงว่าเย่เชินหลินจะพามาพบหลิวชวนชวนแล้วยังมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง นั่นก็คือการเตือนเธอ
ไม่เตือนที่บ้านเพราะเขาไม่อยากให้เซี่ยชีหรั่นรู้แล้วเสียใจ หากทำที่บ้าน โม่เสี่ยวหนงคงแสดงกลบเกลื่อน นั่นอาจทำให้เซี่ยชีหรั่นรู้สึกว่าเย่เชินหลินคิดมากไป ไม่แน่ว่าเธออาจโกรธเขาด้วย
“พี่เขย ฉันผิดไปแล้วค่ะ!” โม่เสี่ยวหนงเห็นเย่เชินหลินไม่แยแสสักนิด เธอต้องการแสดงต่อหน้าเขา โกหกไม่ยอมรับว่าเธอชอบเขาแต่นั่นก็ไม่ได้ดังนั้นเธอจึงต้องยอมรับ
“พี่เขย พูดตามตรง ครั้งแรกที่ฉันเจอพี่ก็ชอบพี่อยู่ลึกๆ ต่อมาฉันก็ไปหาไอ้เลวนั่นเพราะสายตาของเขาคล้ายกับพี่ ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ฉันคงไม่มีวันมอบร่างกายให้เขาง่ายๆ พี่เขยคะ พี่รู้มั้ยว่าทุกครั้งที่ฉันเรียกพี่ว่าพี่เขย ใจฉันเจ็บปวดแค่ไหน ฉันอยากให้พี่เห็นฉันมีตัวตน ยอมรับความรักของฉันที่มีต่อพี่ ฉันรู้ว่าฉันไม่บริสุทธิ์ ไม่คู่ควรกับพี่ แต่ฉันยอมเป็นผู้หญิงของพี่ ต่อให้ต้องเป็นผู้หญิงที่ซ่อนอยู่ในเงามืด ฉันก็ยอมค่ะ…”
“พอกันที!” เย่เชินหลินเอ่ยคำรามเสียงต่ำ ขมวดคิ้วเป็นปม
“ฉันเคยพูดแล้ว ว่าผู้หญิงขี้อ่อยแบบเธอฉันไม่คิดจะชายตามอง แผนการของเธอ การแสดงของเธอใช้กับผู้ชายที่ไหนก็ได้ แต่ถ้ายังเสแสร้งต่อหน้าฉันอีก ทำเรื่องเสียหายต่อพี่สาวเธอ ฉันจะไม่ยอมให้เธอเข้ามาเหยียบบ้านฉันอีก”
โม่เสี่ยวหนงยังคิดแสดงต่อไป ยังมีคำพูดที่อยากพูด แต่สีหน้าของเย่เชินหลินกลับเคร่งขรึมกว่าเดิม เธอจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก ทำได้เพียงรับปากว่า “ที่พี่พูดฉันจะจำไว้ค่ะ ฉันจะไม่คิดแบบนั้นกับพี่อีก พี่เขยคะ พี่อย่าไล่ฉันเลย ให้ฉันได้อยู่ที่บ้านด้วยนะคะ? ถ้าจู่ๆฉันพี่สาวฉันคงเสียใจ”
“เธอยังรู้ด้วยเหรอว่าพี่เธอจะเสียใจ! จิตสำนึกเธอนี่มันไม่มีเลยสักนิด!” เย่เชินหลินเกือบจะกัดฟันพูดกับเธอ
เขาแทบจะต้องยอมรับบางครั้งโม่เสี่ยวหนงก็ฉลาด เธอรู้จังหวะ รู้ว่าเวลาไหนควรดึงพี่สาวเข้ามาเกี่ยว เขาไม่อยากให้พี่สาวเธอเสียใจจึงยอมให้เธออยู่ต่อ
โม่เสี่ยวหนงรู้สึกว่าตอนที่เย่เชินหลินเอ่ยประโยคนี้ ช่างสมกับที่เป็นคุณชาย เธอรู้สึกว่ารักที่เธอมีต่อเขาลึกซึ้งขึ้นอีกขั้น
เธอไร้ยางอายแค่ไหนก็ต้องอยู่ต่อที่วิลล่านั่นต่อไปให้ได้
สักวันหนึ่ง เขาจะต้องเสียใจที่พูดเช่นนี้ออกมา เธอโม่เสี่ยวหนงอะไรที่อยากได้ต้องได้ เธอจะไม่มีวันแพ้เซี่ยชีหรั่น เธอมีสิทธิ์อะไรเป็นแค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยง ที่ได้แต่งงานกับคนที่ดีกว่าลูกแท้ๆอย่างเธอ?
“ฉัน… เฮ้อ! อันที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดแบบนั้น ฉันแค่ควบคุมตัวเองไม่ได้ หลังจากนี้ฉันสัญญาว่าจะไม่คิดกับพี่แบบนั้นอีก”
โม่เสี่ยวหนงสัญญา แต่คำสัญญาของเธอเย่เชินหลินนั้นไม่เชื่อสักนิด

เพียงแต่โม่เสี่ยวหนงตอนนี้ไม่ได้ทำอะไร เขาจึงไม่ทำอะไร ทำเพียงสังเกตไปก่อน แต่ถ้าเธอยังทำตัวแบบเดิมเขาก็ฉีกหน้ากากเธอออกมาให้ได้

เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ จะทำให้เซี่ยชีหรั่นเห็นธาตุแท้

ไม่นานหลิวชวนชวนก็มาถึง พอเห็นว่าเขามาถึงแล้วเย่เชินหลินก็หันไปทางเขา เรียกโม่เสี่ยวหนงมานั่ง

โม่เสี่ยวหนงนั้นคลายความหงุดหงิดลง หันไปพยักหน้ายิ้มให้หลิวชวนชวนแล้วนั่งลงข้างเย่เชินหลิน

หลิวชวนชวนเดินเข้ามา เห้นเย่เชินหลินก่อน พยักหน้าทำความเคารพ “สวัสดีครับคุณเย่!”

“สวัสดี! ชวนชวนนี่โม่เสี่ยวหนงน้องสาวภรรยาผม แนะนำให้คุณรู้จัก คุณลองดูหน่อยว่าละครเรื่องใหม่มีบทอะไรบ้าง ลองให้เธอไปแคสดู”

“หน้าตาดีเลยนะครับ รู้เลยว่าภรรยาของคุณคงจะสวยมากเช่นเดียวกัน” หลิวชวนชวนพูดอย่างเหมาะสม

เย่เชินหลินหัวเราะ เอ่ยว่า “ภรรยาผมสวยแน่นอน แต่ว่าวันนี้เราจะไม่พูดถึงเธอนะ”

“ครับๆๆ วันนี้เราจะพูดถึงคุณโม่แทน คุณพาคุณโม่ที่ยอดเยี่ยมให้แนะนำให้ผมรู้จักเช่นนี้ ถือว่าผมหลิวชวนชวนโชคดีมาก วางใจได้ครับ ส่งเธอมาให้ผม ผมจะทำให้เธอถูกเลือกแน่นอน”

หลิวชวนชวนรับปากแล้วก็หันสายตาไปหาโม่เสี่ยวหนง แล้วถามว่าเธออายุเท่าไหร่ เรียนอยู่ที่ไหน แล้วยังถามว่าเธอเคยไปแสดงที่ไหนมาก่อนหรือไม่

เย่เชินหลินฟังพวกเขาคุยกันเงียบๆ ไม่ได้เอ่ยแทรก

รอให้หลิวชวนชวนสอบถามข้อมูลพื้นฐานของโม่เสี่ยวหนงเสร็จแล้ว เย่เชินหลินจึงเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เอ่ยขึ้นว่า “ได้ข่าวว่าคุณกำลังหาผู้ลงทุน คราวหลังก็เอาแผนงานไปให้ผู้ช่วยผมหลินหลิงดู คณะกรรมการของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปจะศึกษาอย่างรอบคอบ”

หลิวชวนชวนตื่นเต้นอย่างไม่คาดคิด รู้ว่าเย่เชินหลินให้ความสำคัญกับน้องสาวภรรยา เนื่องจากต้องการช่วยผลักดันให้เธอดัง

“ขอบคุณครับ! ขอบคุณมากคุณเย่! ผมว่าคุณโม่หน้าตาดีไม่น้อย แถมยังเรียนการแสดงมาอีก ผมไม่กล้าพูดว่าเหมาะกับเป็นนางเอกเบอร์หนึ่ง แต่เบอร์สองนี่ไม่มีปัญหาเลยครับ”

เย่เชินหลินรู้ดีว่าคนพวกนี้ถ้าไม่พูดถึงเรื่องผลประโยชน์ก็คงไร้ทาง เพราะพวกเขาก็มีความคิดของตัวเอง

การพาโม่เสี่ยวหนงออกมา ทำให้ภายหลังเวลาที่เธอติดต่อกับผู้ชายจะมีชั้นเชิงมากขึ้น เธอจะค่อยๆยุ่งขึ้นจนกลับวิลล่าน้อยลง จากนั้นไม่นาน เซี่ยชีหรั่นจะค่อยๆรู้สึกว่าเธอเป็นอิสระ ไม่ต้องกังวลเหมือนในตอนนี้

จัดการปัญหาของโม่เสี่ยวหนงได้ ก็เหมือนขจัดอุปสรรคระหว่างเขากับเซี่ยชีหรั่นได้

“เรื่องนี้จัดการได้เต็มที่เลย! วันนี้ผมส่งเธอให้คุณแล้ว คุณก็ลองพาเธอไปแนะนำกับในกองดูแล้วกัน จะได้คุ้นชินกับบรรยากาศภายในกอง หรือคุณมีครูฝึกสอนการแสดงชั้นสูงบ้างไหมจะได้พาเธอไปเรียนด้วย เธอสนใจมากๆเลยนะ”

หลิวชวนชวนไม่รู้ว่าเย่เชินหลินกำลังคิดอะไรอยู่ เขารู้เพียงว่าเขาอยากให้น้องสาวภรรยารีบออกไปจากตรงนี้

โอกาสนั้นหายาก โม่เสี่ยวหนงควรรีบคว้ามันไว้ เย่เชินหลินกล่าวไว้เช่นนั้น เธอเองก็รีบรับคำ แสดงออกว่าเธออยากตามหลิวชวนชวนไปด้วย

“ได้ครับ ผมกำลังมีละครเรื่องใหม่ที่ถ่ายทำพอดี มีบทนึงที่ยังไม่ได้กำหนดลงตัว คุณก็ไปกับผมละกัน บทนี้เป็นตัวประกอบ บทไม่หนัก แต่ว่าคุณสามารถเรียนรู้ทั้งหมดได้”

โม่เสี่ยวหนงรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง เพื่อแสดงออกว่าเธอสนิทกับพี่สาวจึงแลกเบอร์กันไว้ เมื่อนัดกันเสร็จเรียบร้อย ตอนบ่ายก็ไปกองกับเขา บอกว่าวันนี้ต้องกินข้าวอำลากับพี่สาวแล้ว

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ ลูกน้องของจงหวีฉวนก็โทรเข้ามา บอกว่าประธานกรรมการเมืองฮุ่ยเจียงพาครอบครัวไปแล้ว

จงหวีฉวนได้ฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว ถามลูกน้องว่าข่าวนี้เชื่อถือได้หรือไม่ ลูกน้องตอบว่า “วันนี้คนของเราพบว่า มีคนแอบตรวจสอบท่านอย่างลับๆ เป็นเรื่องนั้นเมื่อห้าปีก่อน”

เย่เชินหลินในสมควรตาย!

มันกล้าดีลงมือในเวลาสำคัญเช่นนี้ กล้าส่งคนไปเปิดโปงเขา ไอ้เด็กขี้ขลาด เบื่อชีวิตเวลาใช่มั้ย!

เห็นทีเรื่องนี้เขาต้องวางแผนให้รอบคอบ ข้อมูลในมือของเย่เชินหลินกลับมาเล่นงานเข้าได้เป็นไปได้น้อยมาก

แต่ต่อให้เล่นงานเขาไม่ได้ แต่ชื่อเสียงเขาก็เสียหาย ไม่เป็นผลดีต่อเขาอยู่ดี

“ตามเรื่องไปเงียบๆ ดูว่าคนพวกนั้นได้อะไรไปบ้าง แต่ห้ามทิ้งร่องรอยไว้ เข้าใจมั้ย?” เขาเอ่ยสั่งเสียงเคร่ง ลูกน้องเขาทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ก็รีบรับปากว่าจะไม่ทำงานพลาด

หลังวางสาย จงหวีฉวนยังขมวดคิ้วไม่คลาย กลับขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น

มือของเขาสั่นเล็กน้อย แล้วหยิบบุหรี่ในกล่องออกมา จุดไฟหลังจากที่ไม่ได้สูบมานาน

เขากลบรอยมาได้หลายปี ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้สักอย่าง แล้วก็แก้ไขครั้งแล้วครั้งเล่า ประสบการณ์ที่น่าตกใจเขาพบเจอมาไม่น้อย คงมีแต่เขาเองที่รู้

วันนี้อายุไม่น้อยแล้ว โอกาสครั้งสุดท้ายของเขา เวลานี้…

ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเกลียดเย่เชินหลิน พูดถึงชั้นเชิงแล้ว เขาจะแพ้เย่เชินหลินเชียวหรือ?

ความสามารถเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าไอ้หนุ่มนั้น เพียงแต่ให้ความสำคัญไม่เท่ากัน

เขาอยากจัดการเขาจริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แน่นอนว่า เขาจะยังคงต้องเลือกเวลาที่เหมาะสม

แต่เวลาที่เหมาะสมไม่ใช่ตอนนี้ เขาจะค่อยๆคิดพิจารณา ส้งหลิงหลิงถือเป็นหมากที่ดี จะใช้งานยังไง ใช้วิธีไหนจนไปเจอเซี่ยชีหรั่นได้ เขาต้องใช้เวลาครุ่นคิด เพราะคู่แข่งของเขานับวันยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น…

หลิวชวนชวนอยากเชิญเย่เชินหลินไปเลี้ยงข้าว เขากลับบอกว่าไม่รีบร้อน ตอนเที่ยงเขานัดคนรักไปทานข้าวด้วยกัน ส่วนตอนบ่ายค่อยคุยกันเรื่องการลงทุน หลิวชวนชวนจึงไม่กล้าบังคับ

หลังแยกกับหลิวชวนชวน โม่เสี่ยวหนงยังคงตื่นเต้นดีใจ

“พี่เขยคะ ต้องขอบคุณพี่มากๆๆเลย! ตอนเที่ยงฉันอยากเลี้ยงข้าวพี่กับพี่เขย ได้ไหมคะ? ถ้าพี่ได้ยินว่าฉันจะได้ไปกองกับผู้กำกับหลิวชวนชวน คงจะต้องดีใจมากแน่ๆ พี่ให้โอกาสฉันนะคะ หลังจากนี้ฉันคงยุ่งกับการถ่ายละคร คงมีโอกาสไปที่วิลล่าน้อยลง โอกาสที่จะได้เจอพี่สาวตัวเองคงน้อยลงไปอีก…”

“ไปกินด้วยกันนี่แหละ” เย่เชินหลินเอ่ยขัดโม่เสี่ยวหนง แต่ท่าทียังคงเย็นชา ใบหน้าไร้รอยยิ้ม

โม่เสี่ยวหนงไม่ได้สนใจท่าทีของเขา ยังคงยิ้มเช่นเดิม แต่กลับไม่กล้าส่งสายตาให้เขาอีกแล้ว

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset