สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่537 สาวใช้ตัวแสบ 441

ตอนที่537 สาวใช้ตัวแสบ 441
ทั้งสองเดินลงตึกช้าๆ เดินไปถึงหน้าประตูหลัก รถของหลี่เหอไท้และจงหยุนซางก็มาถึงพอดี
แม่บ้านและจิ่วจิ่วจัดเตรียมสาวรับใช้และยามไว้ให้แล้ว เข้าที่หมดแล้ว พอรถจอด ยามของบ้านตระกูลเย่ก็เดินเข้าไปเปิดประตูรถของพวกเขา
จงหยุนซางก็ใส่ชุดกระโปรงสีเขียวเหมือนกัน แต่สีเข้มกว่าของเซี่ยชีหรั่นไปหน่อย ยิ่งทำให้ดูสง่างามและมีน้ำใจ เหมาะกับบุคลิกของเธอมาก
เพื่อเป็นให้เกียรติการแนะนำของเย่เชินหลิน เธอก็แต่งหน้าอ่อนๆ รูปลักษณ์ดูเรียบหรูทำให้ตาของหลี่เหอไท้เปล่งประกายจริงๆ รู้สึกระหว่างท่าทีของเธอไม่รู้ทำไมถึงคล้ายกับเซี่ยชีหรั่น
“ผมขอแนะนำพวกคุณนะครับ หลี่เหอไท้ พี่ชายผมเอง จงหยุนซางคุณจง”เซี่ยชีหรั่นก้าวขึ้นมา พูดกับทั้งสอง
จงหยุนซางคิดว่าเธอจะพูดประโยคว่าตัวเองเป็นพี่สาวของเธอ จริงๆแล้วเธอหวังให้เธอพูดแบบนั้น แต่เธอไม่ได้พูด แน่นอนเธอก็รู้สาเหตุอยู่แล้ว
“สวัสดี!”ทั้งสองพูดออกมาพร้อมกัน หลี่เหอไท้ยื่นมือออกมา จับปลายนิ้วของจงหยุนซางอย่างมีมารยาท
หลี่เหอไท้ให้ความรู้สึกคนว่าอบอุ่น ราวกับหยก ดูแล้วไม่สะดุดตา ไม่เย่อหยิ่ง แต่ก็ยากที่จะให้คนมองข้าม จงหยุนซางรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ชายที่เก่งจริงๆ ถ้าไม่ใช่ว่าเธอมีความรู้สึกต่อเย่เชินหลินในใจแล้ว ไม่แน่เธออาจจะชอบผู้ชายแบบนี้ได้
“คุณหลี่ คุณจง เชิญข้างในเลยครับ!”แม่บ้านพูดอย่างเคารพ พวกเขาพยักหน้าให้กับพ่อบ้านพร้อมกัน ก้าวข้ามประตูหลัก สาวรับใช้และยามที่อยู่ทั้งสองฝั่งก็ทักทายเสียงพร้อมเพรียงกัน
สายตาของหลี่เหอไท้มองผ่านหน้าของเซี่ยชีหรั่นอย่างละเอียด เธอไม่ได้ร้องไห้ตั้งนานแล้ว และยังยิ้มอยู่ด้วย แต่เขาก็ยังคงรู้สึกว่าเธอไม่ค่อยสบายใจ ต่างจากปกติ
เซี่ยชีหรั่นมองเขาไปทีหนึ่ง สายตาดูซับซ้อนเล็กน้อย รู้สึกว่าเหมือนเธอต้องการความช่วยเหลือจากเขาขึ้นมา ในขณะที่เธอรู้ตัวว่าเธอเผลอปล่อยแสดงอาการมากเกินไป ก็รีบเก็บสายตา
ไม่เพียงแต่หลี่เหอไท้ที่รู้สึกแปลกๆระหว่างเซี่ยชีหรั่นกับเย่เชินหลิน จงหยุนซางก็ดูออกเหมือนกัน
เธอคิด คงไม่ใช่ว่าเธอรู้เรื่องที่ส้งหลิงหลิงเป็นน้องสาวเธอเข้าแล้วมั้ง?
“ชีหรั่น”จงหยุนซางเรียกไปเสียงหนึ่ง อมยิ้มเล็กน้อย เข้าไปควงแขนเธอก่อน
เซี่ยชีหรั่นก็อยากทำแบบนี้ แต่กลัวว่าคนอื่นจะคิดว่าเพราะเธอเป็นลูกสาวคนโตของประธานคณะกรรมการส่วนจังหวัด เธอสนิทไปไม่ดี
จงหยุนซางควงแขนแบบนี้ เซี่ยชีหรั่นรู้สึกถึงความเป็นห่วงจากคนใกล้ชิดโดยไม่ต้องพูด ในใจเกิดรู้สึกอุ่นขึ้นมา
เมื่อมาถึงหน้าโต๊ะอาหาร หลี่เหอไท้ก็ดึงเก้าอี้ให้จงหยุนซางอย่างสุภาพ เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน ตอบขอบคุณ ทุกคนต่างนั่งลง เย่เชินหลินก็สั่งให้อาหารขึ้นมา
ตั้งแต่ที่เห็นสายตาแปลกๆแบบนั้นของเซี่ยชีหรั่น หลี่เหอไท้รู้สึกใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว อยากรู้ว่าเธอเป็นอะไรกันแน่ แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการออกมา
เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นก็ปล่อยความไม่สบายใจระหว่างทั้งสองลงก่อน พยายามจับคู่ทั้งสอง แปลกที่ทั้งสองต่างมีเรื่องในใจ ต่างคอยเป็นห่วง แม้แต่การเจอครั้งแรกจะรู้สึกดี แต่กลับไม่มีอารมณ์มารู้จักกันมากขึ้น
ไม่อยากให้เย่เชินหลินและเซี่ยชีหรั่นผิดหวัง พวกเขาก็ยังคงพยายามให้ความร่วมมือกัน
“คุณจงมีเวลาว่างเมื่อไหร่ครับพวกผมออกไปเดินเล่นสักหน่อยไหม?”หลี่เหอไท้พูดขึ้นอย่างอบอุ่น จงหยุนซางพยักหน้า ตอบมาแค่คำเดียว “ค่ะ”
“วิธีติดต่อหากันก็ยังไม่มี จะเดินเล่นยังไง?”เซี่ยชีหรั่นยิ้มอย่างแสบ หลี่เหอไท้พูดขึ้นว่า “นี่ก็จะถามไง?”
จงหยุนซางใจกว้าง เอามือถือของตัวเองออกมาถามเบอร์กับหลี่เหอไท้แล้วโทรออกไป ทั้งสองก็ได้เริ่มต้นการติดต่อกันก้าวแรกแล้ว
หลังอาหาร เย่เชินหลินเสนอให้ไปนั่งที่ห้องรับแขกสักพัก แต่ละคนก็เลยไปที่ห้องรับแขก
“ชีหรั่น ฉันนึกขึ้นได้ว่าอาหารกินเล่นที่คุณสอนผมครั้งก่อนอร่อยดี พวกผมไปที่ห้องครัวสักหน่อยไหม?”เย่เชินหลินลุกขึ้น มาโอบเอวของเซี่ยชีหรั่น เธอพยักหน้า จงหยุนซางยิ้มอ่อนๆพูดว่า “ไม่ต้องสร้างโอกาสให้พวกฉันคุยกันเองเร็วขนาดนั้นก็ได้มั้ง?ไม่ใช่ว่านัดกันแล้วเหรอ?”
“หยุนซางพูดถูก จะว่าแล้วที่ก็เป็นบ้านของพวกนาย ก็อาจเกรงๆนิด ไม่รีบ เดี๋ยวผมจะให้หยุนซางตรวจสอบผมดู ถ้าหยุนซางอยาก”หลี่เหอไท้เจ้าชู้แต่มีสุภาพ ดังนั้นผู้หญิงต่างหลงใหลเขา
แม้ว่าเขายังไม่ถึงขั้นรักจงหยุนซาง แต่ก็ต้องให้คนเขารู้สึกว่าเป็นเขาที่ชอบเธอ ให้เกียรติผู้หญิงอย่างเต็มที่ แบบนี้จงหยุนซางรู้สึกซึ้งจริงๆ และขอบคุณมากด้วย
เธอแอบชอบเย่เชินหลินนานไป แต่ยังไงก็ไม่สะดุดตาเขา นี้เลยทำให้เธอรู้สึกน้อยใจบ้างเล็กน้อย
เย่เชินหลินกับเซี่ยชีหรั่นก็เลยนั่งลง นั่งคุยกับทั้งสอง เวลาค่อยๆผ่านไปช้าๆระหว่างที่พวกเขาคุยกัน จงหยุนซางเห็นว่าเริ่มดึกแล้ว ก็ลุกขึ้นบอกจะกลับ
“พวกผมกลับด้วยกันเถอะครับ เดี๋ยวผมขับรถให้”หลี่เหอไท้พูดเสร็จ ก็พูดต่ออีกว่า “รอผมกี่นาทีได้ไหมคะ?แม่ผมมีคำพูดให้ผมคุยลำพังกับชีหรั่น”
“เชินหลิน ผมจะคุยกับน้องสาวผม ไม่มีปัญหาหรอกมั้ง?”
เย่เชินหลินไม่อยากเห็นด้วยมาก แต่เขาคิดว่าหลี่เหอไท้เป็นคนรู้หนักรู้เบา ไม่ทำอะไรไปเรื่อยหรอก
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ที่รัก ไปเถอะ!”เย่เชินหลินพูดเสียงเบา เซี่ยชีหรั่นกลับอมยิ้มไปทีหนึ่ง มองหลี่เหอไท้ พูดเสียงเบาว่า “พี่เหอไท้ ไม่เป็นไรแล้วค่ะ หนูอยากกลับไปเยี่ยมแม่กับพี่ มีเรื่องอะไรเราสามารถคุยกันต่อหน้าได้”
สีหน้าของเย่เชินหลินขรึมขึ้นทันที ในใจของหลี่เหอไท้และจงหยุนซางก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน ทั้งสองคนนี้ต้องทะเลาะกันแน่เลย
หลี่เหอไท้มองไปทางเย่เชินหลิน รู้ว่าเย่เชินหลินต้องทำเรื่องอะไรรุนแรงให้เซี่ยชีหรั่นไม่สบายใจ เขาอยากจะเป็นเกราะกำบังให้เซี่ยชีหรั่น แต่พวกเขาเป็นว่าทีสามีภรรยา ไม่มีเหตุผลที่เหมาะสม เขาก้าวก่ายมากไปไม่ดี แต่ไม่มีเหตุผลที่จะพาเซี่ยชีหรั่นกลับไปอย่างดื้อด้าน
“โม่ ฉันกลับกับพี่เหอไท้นะ”เซี่ยชีหรั่นพูดแล้วยิ้มไปด้วย เย่เชินหลินยื่นมือมาโอบเอวเธอเข้าหาตัวเองทันที แต่น้ำเสียงกลับอ่อนโยน “ยัยเด็กน้อย ดึกขนาดนี้คุณกลับไปคนเดียว แม่น่าจะคิดว่าพวกเราทะเลาะกันอีก จะสบายใจไหม?จะกลับไปก็ได้ แต่ก็คงไม่ขาดคืนหนึ่งหรอก พรุ่งนี้ผมไปกับคุณ”
ไอ่สารเลวที่ร้ายกาจ!เซี่ยชีหรั่นกัดฟันคิดในใจ เขาต้องรู้ทันแน่เลยว่าเธอมีแผนการอะไร ดังนั้นเขาพูดออกมาอย่างง่ายดาย เธอจะยอมปล่อยความคิดนี้ไป
เย่เชินหลินพูดได้อย่างถูกสถานการณ์ แม้ว่าหลี่เหอไท้อยากจะช่วยเซี่ยชีหรั่นแค่ไหน สำหรับน้ำใจแล้ว เขาก้าวก่ายมากไปก็ไม่ดี
“ก็จริง ดึกขนาดนี้แล้ว ถ้าอยากกลับไปกลับพรุ่งนี้ก็ได้ ถ้าเชินหลินไม่มีเวลาพาเธอกลับ เธอก็โทรหาพี่นะ เดี๋ยวพี่มารับ”หลี่เหอไท้พูดอย่างไม่ทิ้งร่องรอย กล่าวความในใจกับเซี่ยชีหรั่นด้วยคำพูดแล้ว ให้เธอและเย่เชินหลินเข้าใจว่า แค่เธอต้องการ เขาก็จะมาช่วยเธอเสมอ
เซี่ยชีหรั่นรู้สึกซาบซึ้งมาก รู้สึกดีที่มีพี่ชายจริงๆ
ถ้าหากเธอไม่มีหลี่เหอไท้ ไม่มีโม่เสี่ยวจุน ไม่มีคุณแม่ ความโกรธที่เธอรับมาจากเย่เชินหลิน เธอคงต้องหาวิธีจัดการเอง
ตอนนี้เธอ มีที่พึ่งแล้ว ไม่รู้ว่าเธอจะขอความช่วยเหลือจากที่พึ่งเหล่านี้หรือเปล่า คนที่เป็นห่วงเธอเหล่านี้ ตัวตนของพวกเขาให้กำลังใจเธอได้มากพอแล้ว
เพื่อคนที่รักเธอ เธอต้องอยู่อย่างมีความสุข เธอจะไม่เหมือนเมื่อก่อนที่อ่อนแอซึมเศร้าอีก
“ขอบคุณนะคะพี่เหอไท้”เซี่ยชีหรั่นยิ้มอ่อนพูดไปด้วย รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเชื่อใจและพึ่งพาทำให้เย่เชินหลินขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
โธ่เอ้ย เธอไม่รู้เหรอว่าเธอเป็นผู้หญิงของใคร?ทำไมถึงไปยิ้มกับผู้ชายที่ไม่มีไรเกี่ยวข้องแบบนั้นได้?
“ไปเถอะ ยังไงพี่ก็ต้องบอกคำที่แม่ฝากมาให้เธอ”หลี่เหอไท้พูดจบ ก็เดินออกจากห้องรับแขกไปก่อน เซี่ยชีหรั่นดิ้นรนจากเย่เชินหลินก็ตามออกไป
เย่เชินหลินอยากจะจับเซี่ยชีหรั่นไว้มาก ไม่ให้เธอไป แต่ทำไงได้เขารับปากกับเขาไปแล้ว จะมาไม่ให้ที่หลังก็ไม่ดี
สีหน้าเขาเคร่งขรึม มองทั้งสองเดินออกจากห้อง ใจราวกับถูกบีบรัด เหมือนกับว่าพวกเขาออกไปแบบนี้ เซี่ยชีหรั่นก็ไปจากเขตควบคุมของเขาไปแล้ว
ไม่ เขาไม่อนุญาตให้เกิดเรื่องแบบนั้น
จงหยุนซางมองเย่เชินหลินอย่างเฉยเมยไปทีหนึ่ง เห็นว่าทั้งสองที่เดินออกไปไกลแล้ว เธอถึงเดินเข้ามาหาเย่เชินหลินไม่กี่ก้าว ถามเสียงเบาว่า “น้องสาวฉันรู้เรื่องของส้งหลิงหลิงแล้วเหรอ?”
“อืม”เย่เชินหลินตอบกลับเสียงหนึ่ง
“แล้วนายว่าจะทำไงต่อ?ยังคงให้ส้งหลิงหลิงคลอดลูกออกมา?”จงหยุนซางรู้ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องพวกนี้ แต่เธอเป็นห่วงพวกเขา ไม่เพียงแต่เป็นเพราะเย่เชินหลินเป็นคนที่เธอรัก เธออยากให้เขามีความสุข และเป็นเพราะเซี่ยชีหรั่นเป็นน้องสาวเธอด้วย เธอไม่อยากเห็นน้องสาวไม่มีความสุขไปทั้งชีวิต
เย่เชินหลินไม่ได้พูดอะไร ทำไมจงหยุนซางจะไม่เข้าใจเขาล่ะ เธอรู้ว่าเรื่องที่เขาจะทำ ยากที่จะเปลี่ยนแปลง
ยิ่งเขายากที่เปลี่ยนแปลงแบบนี้ไปแค่ไหน ก็ยิ่งทำให้ผู้หญิงเสียใจ
สามีของตัวเองยืนกรานที่จะให้ผู้หญิงคนอื่นคลอดลูกให้เขา เรื่องแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนก็ไม่สามารถเข้าใจและให้อภัยได้ แม้ว่าจะเป็นคนใจดีใจกว้างแค่ไหน แต่ความรักล้วนเป็นการเห็นตัว อยากจะครอบครองแค่ตนเอง
“คำพูดนี้ฉันอาจจะไม่ควรพูด แต่ฉันรู้สึกว่าเด็กคนนั้นถ้าคลอดออกมาไม่ดีต่อฝ่ายไหนเลย ส้งหลิงหลิงเป็นคนยังไง นายน่าจะรู้ดีกว่าคนอื่น เด็กมียีนของเธอ นั่นเป็นสิ่งหนึ่งที่นายไม่อาจดูแลสั่งสอนได้สำเร็จ ฉันก็คิดได้ว่านายคงไม่ให้เด็กติดต่อกับคุณแม่ของเขา แต่นายคิดดู เด็กจะไม่ถามเหรอว่าแม่เขาเป็นใคร?เด็กจะไม่ถามหาแม่เหรอ?ตระกูลจะพอใจได้ยังไงล่ะ ผลประโยชน์ที่ดีแบบนี้ไม่ใช้?ดังนั้นถ้าเด็กคนนี้อยู่หนึ่งวัน ก็จะเหมือนในตอนนี้ เป็นได้แค่เครื่องมือที่ถูกหลอกใช้ไปตลอด ฉันก็รู้ว่าฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเกลี้ยกล่อมนาย แต่ว่าฉันหวังว่านายจะทำเพื่อความสุขขอครอบครัวนายและเด็ก คิดดีๆอีกสักครั้ง”
หลี่เหอไท้และเซี่ยชีหรั่นเดินมาถึงจุดพักผ่อนตรงห้องรับแขกหลัก ตรงนั้นมีโซฟาสองตัว แต่ทั้งสองกลับไม่ไปนั่ง
“พวกเธอสองคนทะเลาะกันเหรอ สะดวกที่จะบอกพี่ไหม?”หลี่เหอไท้ก้มมองเซี่ยชีหรั่น เขาพบว่าไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาเริ่มมีความรู้สึกพิเศษอย่างอื่นต่อเธอ
อาจเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว เขาเริ่มเลื่อมใสศรัทธาต่อจ้าวเหวินอิง ดังนั้นหลังจากที่เจอเซี่ยชีหรั่น ความรู้สึกแบบนี้ก็ย้ายมาอยู่บนตัวเธอ
พูดได้เลยว่าจ้าวเหวินอิงเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบที่เขาชอบ แต่เธอเป็นแม่เลี้ยงของเขา ยิ่งสมบูรณ์แบบมากเท่าไหร่ ก็เป็นแค่รูปแบบของผู้หญิง แต่เซี่ยชีหรั่นกลับไม่เหมือนกัน เขาและเธอไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันเลย อีกอย่างในตัวเธอมีแบบอย่างของจ้าวเหวินอิง และเธอยังมีของดีอย่างอื่นมากกว่าด้วย  

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset