สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 541 สาวใช้ตัวแสบ 445

ตอนที่ 541 สาวใช้ตัวแสบ 445
“ได้”
เย่เชินหลินพูดอย่างเชื่อมั่น
“ขอเพียงลูกของคุณเกิดก่อนความรักระหว่างเราทั้งสอง ไม่ใช่ว่าคุณลับหลังผมแล้วไปเกิดกับคนอื่น ผมก็จะรับได้ ก็เหมือนกับที่เสนาธิการหลี่สามารถยอมรับคุณนั่นแหละ หากเป็นผม ผมก็ยอมรับเหมือนกัน”
“เอาล่ะ งั้นก็คิดเสียว่าฉันเห็นแก่ตัว ฉันยอมรับไม่ได้ เย่เชินหลิน ในเมื่อฉันไม่ได้รักคุณแล้ว คุณเป็นถึงเจ้าชาย น่าภูมิใจขนาดนั้น มันคงไม่เหลือทนเกินกว่าที่จะบังคับผู้หญิงคนหนึ่งใช่ไหม?”
เย่เชินหลินไม่ได้บอกเธอ เขาคาดการณ์แต่แรกแล้วว่าเธอต้องรู้สึกอึดอัด เขาคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีที่สุดในโลกใบนี้ ไร้เดียงสาและถือเอาส่วนรวมเป็นหลัก เขาคิดเสมอว่าเธอรักเขารักถึงขั้นสามารถยอมรับทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาทั้งหมด เขาคิดว่าเธอจะอยู่กับเขาต่อไปโดยไม่ลังเล แม้แต่ที่จะยินยอมเป็นแม่เลี้ยงให้กับลูก
เธอไม่หลงเสน่ห์อย่างที่เขาคิดเอาไว้ เป็นที่เสน่ห์เขาไม่แรง หรือความรู้สึกรักใคร่ของพวกเขาไม่เพียงพอ?
หัวใจเขาเจ็บแล้วเจ็บอีก ท่าทีอ่อนโยนที่จะขอให้เธอยกโทษให้นั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว
ที่มุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มอันเยือกเย็น แล้วเอื้อมมือไปจับที่ปลายคางของเธอ จ้องมองไปที่ดวงตาของเธอแล้วพูด “หากคุณรักผม ผมเคยพูดว่าจะไม่ปล่อยคุณไป ยิ่งคุณไม่รักผม ผมก็จะให้คุณอยู่ข้างกายผม ผมเคยพูด ว่าคุณเป็นผู้หญิงของผม ชาตินี้ต้องตกอยู่ในความครอบครองของผมแต่เพียงผู้เดียว ส่วนคนอื่นอย่าคิดแม้แต่จะมองคุณในกะพริบตาเดียว”
เขาพูดอย่างเย็นชาจนจบ แล้วลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน พูดอย่างเย็นชาอีกคำว่า “คุณนอนเถอะ คืนนี้คุณได้รับความปรารถนาที่เฝ้ารอ ไม่จำเป็นต้องนอนกับผม แต่ก็อย่าปิดประตูปล่อยให้ผมอยู่ข้างนอกเพียงคนเดียว เมื่อไหร่ที่ผมต้องการคุณ ผมจะสามารถเข้าห้องนอนนี้ได้ตลอดเวลา”
ก่อนเดินออกไป เขาโทรศัพท์หาคุณหมอห่าวต่อหน้าเธอ กำชับเขาให้เตรียมยาสำหรับเซี่ยชีหรั่นไว้ให้ดี เดี๋ยวให้ส่งมาพร้อมกับจิ่วจิ่ว
หลังจากเย่เชินหลินเดินจากไป เซี่ยชีหรั่นก็มองไปรอบๆห้องนอนที่แสนจะกว้างใหญ่และเคว้งคว้างด้วยความรู้สึกหดหู่และขวัญหาย ในใจรู้สึกเศร้าเกินคำบรรยาย
เธอกำลังครุ่นคิด เธอไม่ใช่รักเขาหรือ? ความรักของเธอช่างตื้นเขินและบอบบางจริงๆ ไม่สามารถยอมรับเขารวมไปถึงลูกของคนอื่นหรือ?
ไม่ใช่ว่า ความรักคือการให้อย่างไม่มีเงื่อนไข ความรักคือการอดทนอย่างไม่มีเงื่อนไขไม่ใช่หรือ?
เขาบอกเขาว่าอย่างไรเสียเขาก็จะไม่ออกจากห้องนอนนี้ เขาก็เดินออกไปแล้ว ปล่อยให้เธออยู่กับห้องที่แสงกว้างและเงียบสงบ
ในห้องนอนนั้นยังหลงเหลือกลิ่นอายความอบอุ่นของพวกเขา เสมือนกับความสนิทสนมของวันวาน ยังคงตรึงตา มันได้สิ้นสุดแล้วหรือ?
เมื่อจิ่วจิ่วและหมอห่าวมาถึง เซี่ยชีหรั่นยังคงอยู่ในอาการงุนงง
เซี่ยชีหรั่น กลับมาสีหน้าไม่ค่อยดีนัก จิ่วจิ่ว รู้สึกกังวลเป็นเวลานาน ได้เวลาทานอาหารเย็นเธอดูออกว่าเซี่ยชีหรั่นแสร้งทำเป็นยิ้มแย้ม ดังนั้นเมื่อเห็นเธอยิ้ม จิ่วจิ่วไม่เพียงแต่ไม่วางใจ กลับกันยิ่งเป็นห่วงเธอมากขึ้น

เซี่ยชีหรั่น กล่าวคำว่าขอบคุณ เอายาจีนที่ไม่น่าดื่มนั้นดื่มลงไป รู้สึกว่ามันจะขมเฝื่อนมากกว่าปกติหลายเท่าไม่ทราบได้

หลังจากหมอห่าวกลับไป จิ่วจิ่ว ถึงจะถามเธอ “ชีหรั่น เป็นอะไรกันแน่ สามารถบอกฉันได้ไหม? ท่าทีของเธอแบบนี้ มันช่างทำให้คนอื่นเขาวางใจไม่ได้จริงๆ”

เมื่อจิ่วจิ่วกำลังเรียกชีหรั่น นั่นเป็นคำพูดในฐานะเพื่อนอย่างแท้จริง เซี่ยชีหรั่น รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย

“จิ่วจิ่ว เธอว่า รักใครสักคนควรที่จะอดทนทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาใช่ไหม? หรือแม้ว่าเขาจะมีลูกกับผู้หญิงคนอื่นแล้วก็ตาม เขารักเด็กคนนั้นมาก เขาจะไปเยี่ยมเด็กคนนั้นบ่อย? และแม่ของเด็กด้วย ผู้หญิงที่รักเขาก็ไม่ควรยอมแพ้ ใช่ไหม?” ในคำพูดของเซี่ยชีหรั่นมีคำพูดซ่อนอยู่ แต่จิ่วจิ่วก็ฟังเข้าใจ

“เธอพูดอะไรนะ? เด็กอะไรนะ? มีผู้หญิงคนอื่นท้องลูกในไส้ของคุณเย่หรือ?” จิ่วจิ่วถามด้วยสายตาทั้งคู่ที่จ้องมองไปอย่างไม่น่าเชื่อ

เซี่ยชีหรั่นพยักหน้าอย่างขมขื่น “ใช่ มีคนท้องลูกในไส้ของเขา ท้องได้หกเจ็ดเดือนแล้ว คือส้งหลิงหลิง

“ส้งหลิงหลิง เขาทำไมไม่ไปตายซะ เลวจริงๆ” จิ่วจิ่วโกรธจนกัดฟันตัวเอง หากส้งหลิงหลิงอยู่ต่อหน้าเธอ เธอจะไม่สนว่าเขาจะท้องโตหรือไม่ เธออยากจะชกใบหน้าเขาอย่างรุนแรงเพื่อบรรเทา

ความเกลียดชัง

เมื่อทั้งสองคุยกันอยู่ในห้อง เย่เชินหลินปิดประตูขังตัวเองไว้ในห้องหนังสือ ด้านหนึ่งกำลังสูบบุหรี่อย่างจัด อีกด้านหนึ่งกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้

ครั้งที่แล้วเขาคิดว่ารองประธานส้งเป็นคนอยู่เบื้องหลัง เอาภาพถ่ายส่งให้กับเซี่ยชีหรั่น วันนี้เขาได้กำชับหลินต้าฮุยแผลงฤทธิ์ให้รองประธานส้งดู ตามที่เขาได้รู้จักกับรองประธานส้ง ตอนนี้เขากำลังยุ่งอยู่กับเรื่องการเมือง ไม่มีเวลามาจัดการเรื่องของวันนี้

จงหวีฉวนก็ไม่ทำ

อย่างนั้น ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้

ส้งหลิงหลิงสมควรตาย

เย่เชินหลินลุกขึ้นอย่างกะทันหัน บีบปากของเขาอย่างแน่นแล้วกระแทกประตูออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว……

ส้งหลิงหลิงและหลินต้าฮุยยื่นข้อเสนอ เธออยากได้คอมพิวเตอร์สักเครื่อง เพื่อจะเปิดเพลงเบาๆให้กับเด็กในท้องเป็นการเรียนรู้ตั้งแต่ในครรภ์

เซี่ยชีหรั่นทราบถึงการดำรงอยู่ของลูกของเขา เขาได้เข้าใกล้ระยะชัยชนะแล้ว

เธอคิดว่าสิ่งที่เธอสามารถทำได้ก็ได้ทำหมดแล้ว ที่เหลือก็ต้องมาดูว่าเซี่ยชีหรั่นจะเลือกอย่างไร

ก่อนที่เด็กคนนี้จะคลอด เธอไม่อยากจะดิ้นรนอีกแล้ว อย่างไรก็ตามสุขภาพความแข็งแรงของเด็กก็สำคัญมาก หากดิ้นรนจะเด็กแท้ง หรือดิ้นรนจนปัญหาอะไรขึ้น นั่นมันไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ

เย่เชินหลินในตอนนี้ก็เหมือนกับคนที่จะเป็นบ้าแล้ว เกลียดคนที่เอาเรื่องเธอตั้งครรภ์ไปบอกให้กับเซี่ยชีหรั่นทราบ เธอไม่กล้าทำจนเกินเหตุ เกรงว่าเย่เชินหลินด้วยความโกรธจะไม่สนอะไรทั้งสิ้น จะต้องทำแท้งลูกของเธอให้ได้

เธอรู้จักเย่เชินหลินเป็นอย่างดี รู้ว่าความอดทนถึงขีดสุดของเขาอยู่ตรงไหน นั้นเป็นเหตุให้เธอกล้าเสี่ยงที่จะทำให้เขาโกรธครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อจะได้รับชัยชนะ

หลินต้าฮุยโทรศัพท์ไปหาเย่เชินหลินเพื่อขอคำแนะนำ “คุณเย่ คุณส้งบอกว่าอยากได้คอมพิวเตอร์เพื่อฟังเพลง คุณคิดว่าผมจะต้องตอบรับคำขอของเธอไหม?”

“รอผมไปหานะ”

เย่เชินหลินกดวางสายโทรศัพท์ ท่าทีที่อยู่บนรถเย็นชาสงบเงียบ

ส้งหลิงหลิง อย่าให้ผมได้ตรวจสอบพบว่าเธอตั้งใจให้เซี่ยชีหรั่นทราบถึงหลักฐานที่เธอตั้งครรภ์ ไม่เช่นนั้นผมไม่ปล่อยคุณไปแน่

เซี่ยชีหรั่นกับจิ่วจิ่วสนทนากันด้วยเสียงเบาในห้อง คำถามของเซี่ยชีหรั่น จิ่วจิ่วจะตอบอย่างไร “ยอมรับก้นอะไร ช่างน่าโมโหนัก หัวสมองของเจ้าชายถูกประตูบีบอัดแล้วใช่ไหม? ลูกของคนแบบส้งหลิงหลิง เขายังจะเอา เธอฟังฉันนะ พวกเราไม่อยู่กับพวกเขาละ ฉันว่านะยังคุณไห่ดีกว่า รักเดียวใจเดียวกว่าเขา น่าหลงใหลมากกว่าเขา เธอหาทางออกจากที่นี่ ฉันไปหาคุณไห่ ฉันก็ไม่อยู่ที่นี่แล้ว เธอไปถึงไหนฉันก็จะตามเธอไปถึงที่นั่น เพื่อดูแลเธอ เขาทำเกินไปจริงๆ เพื่ออะไรเธอต้องอดทนเพื่อเขาทำไม เขาคือพระเจ้าหรือ? เขาเป็นดวงอาทิตย์หรือ โลกใบนี้จึงต้องหมุนรอบตัวเขาหรือ? น่าโมโหจริงๆ”

ในที่สุดก็มีคนช่วยเธอด่าสารเลวนั่น ถึงแม้ได้ยินคนอื่นพูดไม่ดีกับเย่เชินหลิน เซี่ยชีหรั่นมากน้อยก็รู้สึกอึดอัดใจอยู่บ้าง แต่เธอก็รู้สึกเมื่อจิ่วจิ่วพูดแบบนี้ เธอก็โล่งใจเล็กน้อย

ใช่สิ เพื่ออะไร เรื่องแบบนี้ใครๆก็คิดได้ ก็มีเพียงแต่เขาเท่านั้นที่คิดไม่ได้

หรือว่าเขาไม่ใช่คิดไม่ได้ เขาเพียงแค่รู้สึกว่าไม่ว่าเขาทำอย่างไร เธอก็จะยืนอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

เขาต้องการความเป็นมนุษย์ ก็ทนไม่ได้ที่จะลงมือกับเด็กที่ใกล้จะคลอด เธอเข้าใจดี หากเป็นเธอเอง เธอก็ไม่คิดว่าจะลงมือโหดร้ายแบบนี้ เธอสูบลมหายใจเข้าลึกๆ นี่อาจจะเป็นปัญหาที่ไร้ทางแก้ก็เป็นได้ เย่เชินหลินเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ต้องรู้สึกลำบากใจไม่น้อย จะทำอย่างไรก็ทำไม่ถูก

ลืมตัว จนเธอคิดจะหาคำแก้ตัวให้กับเย่เชินหลิน แสดงว่าเขาไม่ใช่ไม่รักเธอ ทั้งหมดนั้นเพียงแค่เขาไม่รู้จะทำอย่างไร

จิ่วจิ่วเห็นเซี่ยชีหรั่นเริ่มใจอ่อนเล็กน้อย ใช้มือคว้าไหล่เธออย่างตื่นเต้น และตะโกนใส่เธอ “เธออย่าโง่อีกเลย ชีหรั่น ฟังฉันพูดนะ ไปจากที่นี่ อย่าอยู่ร่วมกับเขาโดยไม่มีความชัดเจนอะไรเลย ถ้าเธอยังทำตัวแบบนี้อีก เธอต้องเป็นแม่เลี้ยงให้กับลูกเขาอย่างแน่นอน เธอปกติเห็นจิ่วจิ่วฉันไร้เดียงสา ที่จริงแล้วฉันมีสติตลอดเวลา เธอก็ต้องมีสติ ส้งหลิงหลิงคนนั้นเป็นผู้หญิงที่สุดยอดแห่งคนเลวแล้ว ฉันกล้าพูดได้เลยว่าหากลูกเขาเกิดออกมา ชาตินี้เขาคงไม่ยอมแพ้แน่ ก็จะเหมือนผีที่คอยหลอกหลอนทั้งชาติ”

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เซี่ยชีหรั่นกำลังกังวลอยู่หรือ? เซี่ยชีหรั่นสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ บีบรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วพูดกับจิ่วจิ่วว่า “รู้แล้ว ฉันไม่ทำเรื่องโง่ๆอีก ฉันก็อยากจะไป อยากไปคืนนี้เลย แต่ว่าฉันก็ไม่ใช่ว่าอยากจะออกไปก็สามารถออกไปได้เลย เย่เชินหลินต้องแจ้งให้ผู้คนคอยจำกัดเสรีภาพของฉันแล้ว”

“นั่นมันก็ใช่อยู่ ชีหรั่น เธออย่าพึ่งกังวล ฉันช่วยเธอ ฉันจะไปดูว่าคุณเย่เขากำลังทำอะไรอยู่”

เซี่ยชีหรั่นพยักหน้า

ไม่นานนักจิ่วจิ่วก็กลับขึ้นมาจากชั้นล่าง พูดว่าเจ้าชายไม่อยู่บ้านออกไปข้างนอกแล้ว นี่ถือเป็นโอกาสดีในการหลบหนี

หลบหนี……เซี่ยชีหรั่นไม่คิดว่าตัวเองต้องมีสักวันที่เธอจะต้องจากที่นี่อย่างหลบหลบซ่อนซ่อน

ตั้งแต่เธอเดินเข้าบ้านตระกูลเย่ไม่เคยคิดที่จะออกไปอีกเลย ตอนนั้นก็เพื่อความแค้นของเสี่ยวจุน เธอจึงไปไม่ได้ ต่อมาความแค้นของเธอก็ไม่ต้องชำระแล้ว เธอรู้สึกประทับใจกับความรักที่เย่เชินหลินมีให้ คิดว่าจะอยู่เคียงข้างเธอไปตลอดชีวิต

“อย่างงงวยอยู่เลย ไปกันเถอะ โอ้ย ฉันยังอยากจะเก็บข้าวของสักครู่ ช่างมันเถอะ ฉันไม่เอาอะไรแล้ว ไปกับเธอก่อนแล้วค่อยว่ากัน” จิ่วจิ่วเร่งทำให้เซี่ยชีหรั่นฟื้นคืนสติมา

เธอนึกถึงความทรงจำที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะในห้องนี้อีกครั้ง ไม่ได้ลังเลอะไร เดินตามจิ่วจิ่วออกจากประตู

ออกจากห้องนอนเพียงไม่กี่ก้าว เซี่ยชีหรั่นคิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็หยุดลง

“จิ่วจิ่ว พวกเราไปกันแบบนี้ออกไปไม่ได้หรอก ดึกขนาดนี้แล้ว พวกเราต้องใช้รถในบ้านพักถึงจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้ ฉันขับรถไม่เป็น เธอก็ไม่เป็น อย่างไรเสียพวกเราก็เข้าไปในโรงรถไม่ได้ หากให้พ่อบ้านเตรียมรถให้ คุณเย่คงจะกำชับพ่อบ้านไม่ให้พวกเราใช้รถอย่างแน่นอน ช่างมันเถอะ ให้ฉันค่อยๆคิดดูว่ามีหนทางอะไรบ้าง”

“โอ้ย ไม่ลองจะรู้หรือ? บางทีเจ้าชายอาจจะยังไม่ได้กำชับก็ได้ คราวที่แล้วพ่อบ้านบอกฉันแล้วว่า ต่อไปฉันต้องการใช้รถไม่จำเป็นต้องแจ้งเขา ฉันไปเอารถเองได้ เธอรอก่อนนะ” เมื่อจิ่วจิ่วพูดเสร็จ ก็โทรศัพท์ไปหาคนที่ดูแลรถเข้าออกโดยเฉพาะ บอกว่าเธอจะออกไปข้างนอก ให้ช่วยเธอเตรียมรถไว้หนึ่งคัน

“ต้องขอโทษด้วยคุณจิ่วจิ่ว ที่ไม่สามารถจัดรถให้คุณได้ คุณเย่เพิ่งจะกำชับคืนนี้ ต่อไปคุณนายเย่กับคุณจะออกไปข้างนอกต้องผ่านการอนุญาตเขาก่อน เขาโทรศัพท์มาหาด้วยตัวเองเลย พวกเราจึงปล่อยออกไปไม่ได้”

เซี่ยชีหรั่นเห็นท่าทีของจิ่วจิ่วก็เข้าใจ เธอคาดเดาได้ถูกต้อง

เย่เชินหลินคนนี้ละเอียดอ่อนมาก ถ้าเขาไม่ต้องการให้เธอจากไป เธอจะจากไปได้อย่างไร

ก็เช่นเดียวกันเรื่องที่ส้งหลิงหลิงตั้งครรภ์ เวลานี้เธอคิดที่จะมา ไม่รู้ว่ามีใครสักกี่คนที่ต้องการให้เธอรู้ แต่ก็มาวันเวลามาหลายวันถึงจะรู้ จะเห็นได้ว่าเย่เชินหลินทำสิ่งต่างๆมากมายอย่างเคร่งครัด

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset