สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน – ตอนที่ 544 สาวใช้ตัวแสบ 448

ตอนที่ 544 สาวใช้ตัวแสบ 448
ทั้งหมดก็เหมือนกับเทพนิยาย สวยงามขนาดนั้น และก็ไม่เป็นจริงขนาดนั้น
มาวันนี้ฝันของเธอใกล้จะตื่นแล้วหรือ? มีเพียงระยะห่างระหว่างประตูเท่านั้น เธอกับเขาจะไม่มีวันก้าวข้ามพ้นมันได้ จริงหรือชั่วชีวิตนี้เธอจะไม่ให้อภัยเขาแล้วหรือ?
ไม่รู้ว่าเมื่อไร บางทีอาจเป็นเพราะว่าในห้องนอนเงียบสงัดเกิน น้ำตาของเซี่ยชีหรั่นกลั้นไม่อยู่ก็ค่อยๆไหลออกมา เปียกชื้นไปทั่วหมอน
เย่เชินหลินหยิบบุหรี่จากกระเป๋ากางเกงออกมา พิงรั้วตรงข้ามประตูแล้วจุดบุหรี่ จากนั้นก็ค่อยๆสูบ
เสียงไฟแช็คดังขึ้น เซี่ยชีหรั่นได้ยินแล้ว
เธอไม่ชอบเขาสูบบุหรี่ สูบบุหรี่ทำลายสุขภาพ เธออยากจะเปิดประตูมากเหลือเกิน จะแย่งบุหรี่จากมือเขามา แล้วเหยียบให้ดับอย่างแรง ก็เหมือนกับคราวที่เธอเคยหยุดยั้งเขากินเหล้าแบบนั้น
เธอลุกขึ้นนั่ง เขย่งเท้าลงจากเตียงแล้วเดินไปหลายก้าว เมื่อจะถึงประตู ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเดินกลับมานอนลงบนเตียง
ในที่สุดเธอก็ไม่ได้ยินเสียงเย่เชินหลินเดินจากไป แต่เธอก็บังคับตัวเองไม่ให้สนใจเขาที่ยังคงอยู่ที่นั่น
อย่างไรเสียก็ต้องจากไป คลุกคลีกันเวลานานขนาดนั้น หลังจากที่จากไปก็ต้องใช้เวลาในการทำใจ เขาใช่ เธอก็ใช่ ดังนั้นเซี่ยชีหรั่น เธออย่าใจอ่อน
บางทีเธอกัดฟันอดทนสักแป๊บ เขาก็จะเข้าใจการตัดสินใจของเธอแล้ว
เซี่ยชีหรั่นหยิบหูฟังโทรศัพท์จากตู้หัวเตียงออกมา แล้วเปิดเพลงในโทรศัพท์มือถือ เธอจะใช้วิธีนี้มาลบล้างความสนในจากเสียงด้านนอกประตู
ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีเสียงเท้าเดิน เธอก็ไม่สนใจแล้ว
เย่เชินหลินอย่างไรเสียก็ยังยืนอยู่ที่นั่น ไม่รู้ว่าที่สุดแล้วเขาสูบบุหรี่ไปแล้วกี่มวน จนกระทั่งเขาเห็นว่าซองบุหรี่ว่างเปล่าแล้ว ส่วนไหนๆของระเบียงก็เต็มไปด้วยควันบุหรี่ มุมปากเขาถึงจะยิ้มด้วยความขมขื่น
เขายังคงไม่จากไป ในสมองของเขากำลังคิดถึงความหลังที่เขาและเธอเริ่มรู้จักกันมาจนถึงเวลานี้
ขอเพียงให้เขาอดทน ไม่มีส้งหลิงหลิงและเด็กคนนั้นแล้ว พวกเขาจะต้องกลับมาเหมือนเดิม แน่นอนที่สุด เขาคิดอย่างเงียบๆ
เซี่ยชีหรั่น ครั้งนี้ผมผิดไปแล้ว ต่อไปผมจะรักคุณมากกว่านี้
เธอยังคงไม่เปิดประตู เขารู้ ว่าเธอยังไม่ยอมให้อภัย แต่ก็ไม่โทษเธอ มาถึงเวลานี้เธอยังไม่รู้ว่าเขาทำเพื่อเธอจนตัดสินใจทำแท้งเด็กคนนั้นแล้ว
ปกติแล้วเซี่ยชีหรั่นจะหลับสนิทหลังเที่ยงคืน ความเคยชินของเธอแบบนี้ เขาเข้าใจมากกว่าบุคคลอื่น
เขามองดูโทรศัพท์มือถือ ถึงเวลาที่มืดสนิทที่สุดของค่ำคืนแล้ว ตีสี่
เขาล้วงกุญแจออกมา เปิดประตูออกเบาๆ ย่องเบาเข้าไปในห้องนอน เหมือนกับหลายๆคืนแบบนั้น ค่อยๆนั่งลงข้างเตียง
เธอเลิกฟังเพลงตั้งนานแล้ว ไฟดวงใหญ่ในห้องก็ถูกเธอปิดไปแล้ว มีเพียงหลอดไฟสีส้มดวงหนึ่งที่หัวเตียงยังสว่างอยู่ ความอ่อนโยนที่อยู่ภายใต้แสงไฟ เธอหลับตาทั้งสองอย่างสนิท

ขนตาที่แสนยาวของเธอดูเหมือนว่ามีคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้งติดอยู่ เจ้าตัวเล็กนี้ คงจะเสียใจมากเลย

เย่เชินหลินถอนหายใจอย่างแรง แล้วก็ถอดรองเท้าปีนขึ้นบนเตียงอย่างอ่อนโยน แล้วกอดเธอไว้ในอ้อมกอด

เซี่ยชีหรั่นไม่ได้หลับ เธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้จากไป ดังนั้นเธอจึงไม่ได้หลับทั้งคืน เมื่อตอนเขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด ท่าทีที่ดึงเธออย่างอ่อนโยนแบบนั้น ใจเธอเหมือนกับจะสลายแล้ว

เย่เชินหลินไม่รู้ว่าเธอยังไม่หลับ ปกติทุกครั้งที่ผ่านมาเขาเข้าห้องนอนในเวลานี้ เธอหลับลึกมาก ไม่เคยรู้เลยว่าเขาเคยเข้ามา

เขารู้เพียงว่าคืนนี้เธอก็เหมือนกับเมื่อก่อน

ดึกดื่นเงียบสงัด ตอนที่เธอหลับอยู่ ในที่สุดเขาก็ได้กระซิบบอกอะไรเธอบางอย่างได้แล้ว

เขากอดเธอไว้อย่างแน่นหนามาแนบกับอกข้างหน้าเขาไว้ ปกติแล้วเสียงกระซิบจะเบา “เต็มใจที่จะจากไปจริงๆหรือ?”

เพียงประโยคเดียว ใจของเซี่ยชีหรั่นก็เจ็บปวดอีกที จมูกรู้สึกปวดแสบแรงขึ้นมาทันที มีความรู้สึกแบบว่าอยากจะหลั่งน้ำตาด้วยแรงกระตุ้น

เธอไม่รู้ว่าจะบังคับตัวเองอย่างไร ยับยั้งตัวเองถึงจะรักษาการหายใจที่ปกติได้

ยังดีที่เขาไม่ได้พูดอะไรมาก แท้จริงแล้วเขาเองก็ไม่อยากให้เธอได้ยินเสียงเขาอยู่แล้ว

มือที่ใหญ่ของเขาค่อยๆวางบนผมของเธอ ก็เหมือนกับหลายคืนแบบนั้น คลำด้วยความอ่อนโยนไปสักครู่ ร่างกายเล็กๆอันอบอุ่นของเธอ ฟุ้งกระจายไปด้วยกลิ่นหอมที่ทำให้เขาหลงใหล นั่นมันเป็นกลิ่นที่เขาชอบที่สุด

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยความโลภ ราวกับว่าทำเช่นนี้ เหมือนจะทำให้เขารู้สึกสบายใจ

เซี่ยชีหรั่น ที่รัก อยากจะปลุกคุณให้ตื่นมาแล้วบอกกับคุณว่า เด็กคนนั้นไม่มีแล้วนะ แต่ผมรู้ ผู้หญิงอย่างคุณไม่อยากรับรู้ข้อมูลของเด็กที่ถูกทำแท้ง สำหรับคุณแล้ว จะต้องรู้สึกว่ามีเด็กอยู่ คุณไม่สามารถทนอยู่ได้ เด็กไม่อยู่แล้ว คุณก็รู้สึกว่ามันโหดร้ายเกินไป

บางทีอีกสองวันผมอาจจะบอกข้อมูลนี้กับคุณ แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้ผ่าตัด ก็ไม่สามารถถือได้ว่าเป็นเรื่องที่แน่นอน รอยืนยันแล้ว ค่อยพูด

เย่เชินหลินรับปากเธอ ว่าตอนกลางคืนเธอสามารถได้สิ่งที่ต้องการคือนอนคนเดียว ดังนั้นเขาแค่กอดเธอเพียงครู่เดียว ได้ยินเสียงหายใจของเธอเท่ากันมาก เขาก็ลุกขึ้นแล้วจากไป

เขาเพียงแค่ไม่รู้ว่า ช่วงเวลาที่ปิดประตูนั้น น้ำตาของเซี่ยชีหรั่นก็กลั้นไม่อยู่แล้ว……

เช้าวันที่สอง เซี่ยชีหรั่นไม่ได้ออกไปทานอาหารเช้า เธอใช้ท่าทีบอกกับเย่เชินหลินว่าเธอตัดสินใจที่จะจากไป

แม้ว่าเขาจะบังคับให้เธออยู่ที่บ้านพักก็ตาม เธอก็จะไม่พบหน้าเขา แม้ว่าเขาจะบังคับเธอให้พบหน้า เธอก็จะไม่ยิ้มแย้มให้เขา

ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เธอก็ไม่ประทับใจ ไม่ยอมแพ้ ไม่ใจอ่อน ไม่ให้อภัย

สุดท้ายแล้วเย่เชินหลินมานั่งที่ห้องหนังสือจนสว่าง พ่อบ้านเคาะประตูเรียกเขาไปทานอาหารเช้า ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นมา

เขาอยากจะพบกับผู้หญิงคนนั้น แม้เพียงแค่ได้รับประทานอาหารร่วมกับเธอ เขาก็มีความสุขมากแล้ว

ในห้องอาหาร กลับว่างเปล่า คนรับใช้หญิงยืนอยู่ทางโน้นตั้งมากมาย เขายังรู้สึกถึงความว่างเปล่า

“คุณนายล่ะ?” เขานั่งลงบนที่นั่งของเขา ถามพ่อบ้าน คนตอบกลับเป็นจิ่วจิ่ว

“อาหารเช้าของคุณนายฉันได้จัดส่งไปที่ห้องนอนของเธอเรียบร้อยแล้วค่ะ” สีหน้าของจิ่วจิ่วซีดเซียว หากไม่ใช่เซี่ยชีหรั่นขอร้องให้เธอห้ามพูดคำที่รุนแรงเกินไปกับเย่เชินหลินล่ะ เธอคิดที่จะถามเย่เชินหลินต่อหน้าผู้คนว่า สมองของเขาถูกประตูหนีบแล้วใช่หรือไม่

คิ้วของเย่เชินหลินขยับเล็กน้อย คิดในใจว่า ผู้หญิงคนนี้สร้างความอึดอัดกับเขาแล้ว

หมายความว่าอย่างไร ไม่อยากเจอหน้าเขาตลอดไปใช่ไหม?

เขาไม่มีลูกคนนั้นแล้ว เขามีสิทธิ์ที่จะอยู่กินกับเธอ เขาสามารถบอกรักกับเธอได้แล้ว

แม้ว่าเด็กคนนั้นยังอยู่ เขาก็ไม่ปล่อยเธอไป ชีวิตนี้ไม่ว่าใคร อย่าคิดที่จะพรากเธอไปจากเขา

เขาลุกขึ้นยืนอย่างสง่างาม กำชับไปคำหนึ่ง “ช่วยจัดอาหารเช้าของผมไปส่งที่ห้องนอน ผมก็จะไปทานที่ห้องนอน”

จิ่วจิ่วมองไปที่ด้านหลังของเขา กัดฟันแยกเคี้ยวง้างกำปั้นขึ้น ด้วยทาทีที่กล้าหาญของเธอ พ่อบ้านส่งสายตาไปเตือนเธอ

“จิ่วจิ่ว?” เย่เชินหลินหันหน้ากลับมา ถามข้อสงสัยด้วยอารมณ์ที่ไม่มีความสุข

“ขอโทษค่ะคุณเย่ มือฉันบาดเจ็บ ยกจานอาหารไม่ไหวค่ะ” จิ่วจิ่วเขย่งคอขึ้น แล้วพูดอย่างหยิ่งยโส

พวกสาวใช้ทั้งหลายถูกความกล้าหาญของจิ่วจิ่วทำให้ตะลึงกันหมด คิดว่าต่อจากนั้น เย่เชินหลินจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แล้วไล่เธอออกจากบ้านพักไป

ใครจะไปรู้เย่เชินหลินกลับยิ้มไปครู่หนึ่ง รอยยิ้มนั้นบอกไม่ถูกว่าเห็นด้วยหรือประชด อย่างไรก็ตามเห็นได้ว่าพวกสาวใช้ทันใดนั้นทำอะไรไม่ถูก

“ยังมีใครที่มือไม้ปกติไหม? ถ้ามีก็ช่วยผมยกจานอาหารขึ้นไปบนห้องนอนชั้นสองด้วย” เย่เชินหลินบอกลักษณะเสร็จ แล้วมองดูจิ่วจิ่วเหมือนอารมณ์เร้าใจไปกะพริบตาหนึ่ง สายตานั้นก็ดูจืดชืดมาก

ฟางลี่น่าก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าว ไม่ได้พูดอะไร มือไม้ที่รวดเร็วหยิบจานอาหารแล้วตามหลังเย่เชินหลินไป

จิ่วจิ่วยิ่งกัดฟันแยกเคี้ยว คิดในใจว่า คนแซ่ฟาง หากว่าฉันไม่ไปกับเซี่ยชีหรั่น ต้องมีสักวันฉันจะหาวิธีไล่เธอออกไป

พอถึงชั้นสอง ฟางลี่น่าก็ได้บิดลูกบิดประตูเปิดเข้าไป เย่เชินหลินถามอย่างไม่แยแสว่า “เธอไม่รู้ว่าคุณนายเย่อยู่ด้านใน ก่อนเข้าไปต้องเคาะประตูก่อนหรือ?”

“ขอโทษค่ะ คุณเย่ ฉันลืมไป” ฟางลี่น่ารีบขอโทษ จากนั้นเคาะประตูเบาๆ

จริงแล้วเซี่ยชีหรั่นกินอาหารเช้าไม่ลง เวลานี้ยังนั่งอยู่ข้างเตียงจ้องมองอาหารเช้าด้วยอารมณ์เหม่อลอย

ได้ยินเสียงของเย่เชินหลิน ใจของเธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

คุณนี่โง่มาก เซี่ยชีหรั่น คุณจะตื่นเต้นทำไม? ตกลงกันแล้วนี่ไม่ว่าเขาจะทำอะไร คุณก็จะไม่ใจอ่อนไม่หวั่นไหว

หลีกเลี่ยงไม่ใช่วิธีแก้ไขปัญหา เย่เชินหลินมีกุญแจห้องนอน เขาสามารถเข้ามาได้ทุกเมื่อ ดังนั้นเซี่ยชีหรั่นเลือกที่จะเผชิญหน้า

“เชิญเข้า” เสียงของเธอเหมือนจะเยือกเย็นเล็กน้อย คิดของเย่เชินหลินขมวดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ฟางลี่น่าบิดลูกบิดประตูเป็นออก ก่อนอื่นโค้งคำนับแล้วพูดว่า “คุณเย่เชิญค่ะ”

เย่เชินหลินสาวเท้าที่มั่นคงค่อยๆก้าวเข้าประตู สายตาจ้องมองไปที่ใบหน้าเล็กๆอันซีดเซียวของเซี่ยชีหรั่น

เธอดูเหมือนยังไม่แยแส ปิดบังคราบน้ำตาบนใบหน้าของเธอยังไม่หมด ดวงตาทั้งสองของเธอแดงเล็กน้อย เห็นแล้วทำให้ผู้คนเป็นห่วง เขาอยากจะเดินเข้าไปใกล้เธอมาก กอดเธอไว้ในอ้อมกอด จูบเธอเพื่อให้กำลังใจสักครั้ง

แต่สีหน้าเธอเป็นแบบนั้น……เขาเป็นผู้ชายที่ไม่ง่ายนักที่จะเสียศักดิ์ศรี

ฟางลี่น่าแน่นอนว่าดูออกว่าเซี่ยชีหรั่นร้องไห้มาก่อน เธอร้องไห้ ในใจเธอรู้สึกดีใจ สายตาของเธอมีความรู้สึกบางอย่างที่ย่ามใจ เย่เชินหลินคิ้วขมวด พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ออกไป”

สีหน้าของฟางลี่น่ารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มเบาๆ พูดไปประโยคหนึ่งว่า “คุณเย่คุณนายเย่ ค่อยๆรับประทานนะคะ”

หลังจากพูดเสร็จ เธอยกจานอาหารเช้าของเย่เชินหลินไปวางไว้บนตู้อีกด้านหนึ่งของตัวเตียง แล้วก็เดินออกไป

เซี่ยชีหรั่นไม่มองเย่เชินหลิน หยิบมีดและส้อมขึ้นมา ตัดขนมปังปิ้งเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมทานอาหารเช้า เธอไม่อยากให้เขามองออกว่าเพื่อเขาแล้วเธอไม่กินไม่นอน เธอไม่อยากให้เขารู้สึกว่าเธอยังมีโอกาสกลับใจ

“จะเอาอย่างไร ยังคิดที่จะไม่คุยกับฉันตลอดไปหรือ?” น้ำเสียงของเย่เชินหลินเยือกเย็นเล็กน้อย เหมือนกับว่าก้มหัวให้กับผู้หญิงเป็นเรื่องที่เสียศักดิ์ศรีมาก

“ฉันจะไปจากที่นี่” เซี่ยชีหรั่นเงยหน้า พูดอย่างเงียบสงบ

“ไม่อนุญาต” เขาพูดเพียงแค่สองคำ แล้วก็ไปลากเก้าอี้มาด้วยตัวเอง ยกอาหารเช้ามา มองไปที่เธอ กินอย่างช้าๆ

เซี่ยชีหรั่นไม่พูดคุยกับเขาอีก เธอกินอาหารเช้าอย่างเงียบๆไปเล็กน้อย จากนั้นลุกขึ้นไปยิบเสื้อทำงานจากตู้เสื้อผ้า อยากจะเอาไปเปลี่ยนหลังจากออกไป

เธอรู้ว่า เย่เชินหลินไม่ยอมให้เธอไปทำงาน เธอยังต้องทำท่าทีที่จะไปทำงานออกมา

“เมื่อคืนผมให้หลินหลิงช่วยคุณลางานแล้ว คุณหยุดงานได้จนกว่าไม่อยากไปจากผม” เย่เชินหลินพูดจบไปอย่างไม่แยแส จากนั้นก็กินอาหารเช้าของเขาต่อ

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวของนายซาตาน

สาวใช้ส่วนตัวจะทำอะไร? เมื่อกินข้าวต้องมาเสิร์ฟ เมื่ออาบน้ำต้องมาเสิร์ฟ และเมื่อนอนยังต้องมาเสิร์ฟหรอ?เธอไม่อยากทำ แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ สิ่งที่เขาอยากครอบครอง เขาจะเอาทั้งหมด ไม่ว่าร่างกายหรือจิตใจ เขาจะเอามันทั้งหมด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset